“จัดไป รอเตยแป๊ป” ฉันว่าก่อนจะแว้บไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วจัดการเปลี่ยนชุดให้น่ารักสดใส ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เสื้อเปิดไหล่สีฟ้าขับผิวที่ดูขาวจนหลอกตา พร้อมกระโปรงยีนส์สวยๆ ตัวนึง บวกกับจัดทรงผมอีกเล็กๆ พอเซ็กซี่ ทาทินท์ที่ปากสักหน่อยพอให้ใจเต้นเล็กน้อย
โอ๊ย ดีมาก หมอต้องรักฉันแน่
“แม่ สวยยัง” ฉันว่าพลางหมุนตัวแล้วส่งวิ้งค์ให้นางครั้งนึง แม่ฉันยิ้มแก้มแทบปลิ้นแล้วยกนิ้วโป้ง
“สวยแล้วลูกเตย สวยกว่านี้ก็ญาญ่า อุรัสยาแล้ว ไปหาคุณหมอเร็ว”
แม่ว่าแล้วรีบผลักฉันไปหน้าบ้าน คุณหมอนั่งที่โต๊ะพร้อมกับอาหารหลายอย่าง เขาปราดสายตามามองฉันนิดหน่อยแล้วย่นคิ้วเล็กน้อยเพราะก่อนหน้านี้เขาเจอฉันในสภาพเหมือนคนจรจัดไม่อาบน้ำมาสามวันแต่ในตอนนี้ฉันมาเหมือนนางแบบบนรันเวย์ที่ย่างเข้าหาเขาด้วยการสลับเท้าซ้ายขวาซ้าย มือหมุนผมประหนึ่งตัวเองน่ารักโคตร
คุณหมอยังไม่ทันจะเอ่ยอะไร ฉันก็ไถลตัวเข้าไปนั่งด้วยท่าทีอ่อนช้อยเหมือนสาวน้อยแรกแย้ม
“สวัสดีค่ะ คุณหมอ” ฉันยิ้มหวาน
“สวัสดีค่ะ” หมอหัวเราะเมื่อเห็นหน้าฉัน “เปลี่ยนชุดมาเหรอ ชุดน่ารักดีนะคะ” คุณหมอว่าก่อนจะกวาดสายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ยิ่งคุณหมอชม ฉันก็ยิ่งเชิดหน้าสี่สิบห้าองศาและอวดชุดให้มีพื้นที่ในสายตานางมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“น่ารักจริงเหรอคะ”
“จริงสิคะ หมอจะโกหกทำไม” ฉันยิ้มตอนที่หมอตอบก่อนจะเท้าคางและมองเขาด้วยสายตายั่วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ชุดน่ารักแล้วคนน่ารักด้วยมั้ยคะ?”
...เงียบ
หมอมองหน้าฉันด้วยความทึ่งนิดๆ ก่อนจะอมยิ้มที่มุมปากแต่ไม่ตอบอะไรกลับมาปล่อยให้ฉันนั่งม้วนผมด้วยมือข้างนึงแล้วทำตัวไม่ถูก
แหม! ถ้าหมอเขินหรือหัวเราะให้ฉันสักนิด ฉันก็ยังจะเนียนต่อไปได้ แต่นี่อะไร เขาเล่นยิ้มกรุ้มกริ่มเหมือนคิดอะไรอยู่ในใจ ฉันก็เลยอายตัวเองแทนน่ะสิ!
ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็คือเตยผู้เนียนยิ่งกว่าแป้งแมตซ์ ฉันจะแถและแถไปเรื่อยๆ จนกว่าคุณหมอจะยอมแพ้
“แหม คุณหมออย่าทำให้เตยเก้อสิคะ”
“หมอทำให้เตยเก้อยังไงเหรอคะ?” หมอถามฉันทีจริงทีเล่นแล้วหัวเราะในขณะที่มือข้างนึงตักข้าวเข้าปาก
“ก็เตยถามแล้วหมอไม่ตอบนี่คะ”
“แล้วเตยอยากให้หมอตอบอะไรล่ะคะ”
“ตอบว่ารักอะค่ะ”
ว้ายยยยย ฉันยกมือขึ้นมาปิดหน้าทันทีที่เสล่อเล่นมุขบาทสองบาทใส่คุณหมอ แต่ก็ปิดอยู่แค่วินาทีเดียวเท่านั้น ฉันก็ลดมือลง เพราะอยากจะเห็นปฏิกิริยาคุณหมอ
เขินมะ นางเขินฉันมะ!!
ฉันแอบลนลานเล็กๆ และปลายหางตาเห็นหัวของแม่โผล่มาจากมุมเสาพร้อมกับส่งเสียงคิกคักที่ดังจนมาถึงนี่
“เตยนี่พูดเก่งเนอะ” คุณหมอหัวเราะกับท่าทีของฉัน เหมือนนางกำลังเข้าใจว่าฉันแซวนางเล่นๆ แต่ที่จริงฉันไม่ได้ตลก ฉันเต๊าะหวังได้ หยอดหวังแต่งนะยะ!
ฉันถอนหายใจเล็กน้อยที่หมอไม่ค่อยเล่นไปตามมุขของฉัน และหันไปขอความช่วยเหลือจากแม่ แค่ฉันสบตาเธอเท่านั้น คนตัวอวบก็พุ่งออกจากมุมเสาพร้อมกับจริตแม่ค้าและแม่เขย รอยยิ้มกระตุกจนเกือบถึงหู ตาหยีจนเห็นรอยตีนกาสามขีด
“ว้ายยยย คุณหมอขา สวัสดีค่ะ กับข้าวอร่อยมั้ยคะ” แม่ฉันไม่ว่าเปล่าพลางขยับมานั่งข้างคุณหมอในทันที ฉันยักคิ้วให้แม่ทีนึงพร้อมกับขยิบตาหนึ่งรอบเป็นสัญญาณให้แม่ชงฉันกับคุณหมอ
เพราะเราเป็นแม่ลูกกันมายี่สิบกว่าปี แค่มองตาก็รู้ถึงไส้ติ่ง แม่ฉันกวาดมือช้าๆ แล้วยกขึ้นมาปิดปากพร้อมหัวเราะโฮะๆ
“แหม ตอนแรกไม่เห็นว่าเป็นลูกเตยนะนี่ แม่มองไกลๆ นึกว่าคุณหมอพาแฟนมาด้วยเลยค่ะ”
ดอกที่หนึ่ง!
“แต่นั่งด้วยกันก็ดูเข้ากันดีนะคะเนี่ย ถ้าคนไม่รู้จักต้องคิดว่าเป็นแฟนกันแน่ๆ เลยเนาะ”
ดอกที่สอง!
“แหม แม่ก็พูดไปเรื่อย ฟงแฟนอาไร๊” ฉันหัวเราะโฮะๆ ตามแม่ก่อนจะปัดมือเอียงอายแล้วสบตาคุณหมอพอเป็นพิธี หมอไม่ได้ตอบรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เขาเอาแต่อมยิ้มและหัวเราะ “ว่าแต่ไหนๆ คนอื่นเขาก็มองเราเป็นแฟนกันแล้ว คุณหมอไม่สนใจเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของคุณแม่ให้เป็นจริงหน่อยเหรอคะ”
“วิสัยทัศน์เลยเหรอคะ?” หมอหัวเราะ
“ว่าแต่ว่า คุณหมอหล่อๆ อย่างนี้ ต้องมีผู้หญิงมาจีบเยอะแน่เลยเนอะ ปกติคุณหมอชอบผู้หญิงแบบไหนคะเนี่ย” แม่ฉันยิ้มหวานก่อนจะเข้าประเด็น นางทำท่าเหมือนนางก็แค่ถามไปงั้น แต่พอสบตาฉันนางก็ยักคิ้วจึ๋งๆ
“ก็… ไม่รู้สิครับ” หมอว่าก่อนจะค่อยๆ หุบรอยยิ้มลงเล็กน้อยแต่ก็ยังคงทีท่าน่ารักสไตล์นางอยู่
“ต้องตัวเล็กๆ น่ารักแน่เลยใช่มั้ยคะ” แม่ฉันว่าก่อนจะมองมาทางฉันแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม “ผมสีน้ำตาล ผิวก็ขาวเหลืองไม่ขาวมากอะไรแบบนี้”
“หมอก็ไม่รู้เหมือนกัน ปกติไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่อ่ะค่ะ” หมอว่าพลางเลื่อนสายตามามองฉัน “แบบที่คุณแม่บอกมาก็ชอบนะ”
ฉันชะงักนิดๆ ตอนที่ฉันสบตากับหมอ ไม่รู้ว่านางจะสื่ออะไร ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองว่านางหมายถึงฉันเท่าไหร่ กลัวเข้าใจผิดแล้วหน้าแตก
แต่แหม ฟังดูดีๆ ก็เหมือนหมอกำลังอ่อยฉันอยู่เหมือนกันนะ หรือว่านางจะมีตื้นลึกหนาบางและเคลิ้มกับความหน้าด้านของฉันวะ…
“แบบที่แม่บอกมา ก็เตยเลยนะคะหมอ” ฉันเสนอตัวทันทีที่เห็นช่องโหว่พลางกะพริบตาปริบๆ ให้คุณหมอ
“ว้าย จริงด้วย แม่ไม่รู้เลยนะนี่ ปากมันไปเองงงงง” แม่ฉันแกล้งเนียนแล้วยกมือขึ้นปิดปาก “แต่ถ้าได้คุณหมอมาเป็นลูกเขย แม่ก็คงจะตายตาหลับเลยล่ะค่ะ นี่ไม่ได้อวยอะไรนะคะ แค่พูดให้ฟัง”
“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ” หมอหัวเราะ
“ว่าแต่หน้าตาดีๆ แบบนี้ คุณหมอต้องเคยมีแฟนมาแล้วหลายคนแน่เลยใช่มั้ยคะเนี่ย” แม่ฉันลอบถามแล้วหัวเราะโฮะๆ ไปด้วย
“ก็ไม่นะคะ หมอเคยมีแฟนคนเดียวเองค่ะ” หมอว่าก่อนจะตักข้าวเข้าปาก หน้าเขาเปลี่ยนสีเล็กน้อยแต่ก็ยังคงรอยยิ้มบางๆ อยู่
“ว้าย จริงเหรอคะ อย่างคุณหมอเนี่ยเหรอ”
“ค่ะ เคยมีคนเดียว” หมอยิ้มนิดๆ แล้วมองหน้าฉันนิดนึง ไม่รู้มีความนัยอะไรรึเปล่า แต่สิ่งที่หมอบอกทำให้รอยยิ้มฉันหุบลงพร้อมความรู้สึกแปล๊บแปลกๆ “คบตั้งแต่มอต้นจนจบมหาลัยเลยแหละ”