Episode-๑๓ เรื่องบังเอิญ

1230 Words
ผมมองคนในอ้อมกอดที่ตอนนี้เธอหลับไปแล้วครับแต่กลายเป็นผมซะเองที่นอนไม่หลับแทน ปันหยาทำให้ความรู้สึกของผมหลากหลายมากไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร ความรักเหรอ? ไม่ใช่หรอก... เช้าวันใหม่ “ไหนว่ามีธุระด่วนไงคะ?” น้ำเสียงหาเรื่องเอ่ยเมื่อถูกปลุกขึ้นมาแต่เช้าแล้วรู้ว่าผมไม่ได้มีธุระอะไร “ก็ธุระไง ไม่ได้บอกนี่ว่าที่ไหน” “หยาเพิ่งรู้ว่าพี่ก็มีมุมแบบนี้กับเขาด้วย” “ทำไม?” “เปล๊า!” ผมไม่ได้กวนอารมณ์สักหน่อยแค่บอกไม่หมดเท่านั้นเอง ที่ให้ตื่นแต่เช้าเพราะว่าจะพามาใส่บาตรครับ “แล้วไม่บอกว่าจะพามาใส่บาตร” ยังครับ ยังคงพูดมากต่อ “พูดมาก!” “พูดมากอะไร” บ่นอุบอิบเบา ๆ แต่ผมหูดีไงเลยได้ยิน หลังจากใส่บาตรเสร็จก็ปล่อยให้เจ้าตัวเดินเล่นไปตามประสาครับ ส่วนผมแยกตัวออกมาคุยโทรศัพท์กับแม่ (สุขสันต์วันเกิดนะลูก แม่ขอให้ภามมีความสุขมาก ๆ) “แค่เลิกบังคับผมก็มีความสุขแล้ว” (เจ้านี่!) “ผมก็ไม่ได้พูดอะไรผิดนี่” (แล้วน้องล่ะ) “อยู่ตรง...” เบือนหน้าไปมองไม่มีแล้วครับ (ภาม) “แป๊บนะครับเดี๋ยวผมโทรกลับ” (มีอะไรหรือเปล่า) “ไม่มีครับ” แล้วก็กดวางสายเลย กวาดสายตาไปรอบบริเวณอีกครั้งก็ไม่เจอครับ มั่นใจว่าไม่ได้อยู่ไกลกันแต่ทำไมปันหยาถึงหายตัวเร็วแบบนี้แถมยังไม่บอกอีกว่าจะไปไหน “พี่!! ทางนี้ค่ะ” เสียงตะโกนดังมาไกล ๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะโบกไม้โบกมือใส่ผมเธอกำลังซื้อของกินอยู่ครับ “บอกว่าไง?” “ห้ามดุนะคะ วันนี้วันเดียว” เหมือนจะรู้ตัวนะครับว่าผิดอะไร “หยาเห็นพี่คุยโทรศัพท์อยู่ก็เลยไม่ได้บอก” “แล้วซื้ออะไรเยอะแยะกินหมดหรือไง” เธอกำลังซื้อไอศกรีมอยู่ครับ “ของพี่หนึ่งถ้วยไง อ๊ะ! ถ้วยนี้ไม่ใส่นมนะคะ” ประโยคหลังเธอหันไปพูดกับแม่ค้าครับ หลังจากนั้นก็จ่ายเงินและยื่นไอศกรีมให้ผม “นี่ของพี่ค่ะ” “...” นอกจากแม่แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าผมชอบหรือไม่ชอบอะไร “แม่พี่บอกหยามาคร่าว ๆ ค่ะว่าพี่ไม่ชอบอะไรหยาเลยจำมา” “แสดงว่าก่อนหน้านี้เจอแม่ประจำเลยสินะ” “เจอค่ะ ก่อนที่พี่จะมาเจอหยาซะอีก แต่สาบานได้ไม่ได้ละลาบละล้วงอะไรมากกว่านี้เลยนะคะแค่ถามพอเป็นพิธีเท่านั้นเอง” ยังมีหน้ามาฉีกยิ้มให้อีกครับ “รู้ดี!” “หลอกด่าเก่ง” ตลอดทั้งวันก็เถียงกันอยู่แบบนี้แหละครับจนกระทั่งถึงช่วงเย็นเธอขอออกไปเดินเล่นด้านนอกซึ่งผมก็โอเคให้ไปแต่แค่ไม่นานเจ้าตัวก็เดินคอตกกลับมา “เป็นอะไร?” “...” ไม่ตอบครับแต่ส่ายหน้าให้แทน “โกหกไม่เนียน” “หรือว่าความจริงแล้วหยาไม่ควรมาที่นี่เหมือนที่พี่บอกแต่แรกนะ” “ใครว่าอะไรมาอีกล่ะ” เดาไม่ยากเลยครับว่าปันหยาเจออะไรมา “อยากกินหมูกระทะ” “ปันหยา!!” แทนที่จะตอบคำถามผมกลับเลี่ยงคำตอบไปโน่นเฉยเลย “คิกคิก ช่างมันเถอะค่ะหยาไม่เป็นอะไรแล้ว” “กับคนอื่นเธอไม่สู้นะ แต่กับฉันทำไมเธอถึงกวนประสาทขนาดนี้” รู้สึกได้เลยครับว่าย้อนแย้ง เหมือนจะกลัวผมนะแต่ก็นั่นแหละก็แค่เหมือน กับคนอื่นสู้ไม่ได้เถียงไม่ได้ทำหน้าหงอยคอตกใส่แต่ถ้ากับผมนี่ต่างกันเห็น ๆ เลยหรือว่าผมควรจะมองปันหยาใหม่ทั้งหมด? “นะคะ... ข้างนอกอุทยานมีร้านหมูกระทะหยาไปสำรวจมาแล้ว เดี๋ยวมื้อนี้หยาเลี้ยงพี่เองก็ได้” “...” ถามว่าปฏิเสธอะไรได้ไหม? ไม่ครับ ผมถูกปันหยาลากมาจนสำเร็จจากนั้นเจ้าตัวก็สั่งนั่นสั่งนี่และถ่ายรูปลงโซเชียลเสมือนว่าตัวเองมาคนเดียว “เอ่อ... มีรูปหนึ่งติดพี่มาด้วยหยาเอาลงได้ไหมคะ?” “ติดหรือตั้งใจถ่าย?” “ตั้งใจถ่ายให้ติดค่ะ” นอกจากจะไม่แก้ตัวแล้วยังสารภาพแบบตาใสอีกด้วย “อย่าให้มันเกินพอดีแล้วกัน” ไม่รู้หรอกว่าปันหยาลงอะไรแต่ด้วยอุปนิสัยของเธอคงไม่ทำอะไรห่าม ๆ หรอกครับ ระหว่างมื้อปันหยามองออกไปนอกร้านเป็นระยะ ๆ เห็นแบบนั้นผมจึงหันมองตามบ้าง... “มีอะไรหรือเปล่า” “...” ไม่ตอบครับแต่กลับแสดงสีหน้ากังวลออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน “ว่ายังไง?” “คุณน้าคนนั้น แม่ของออมน่ะค่ะ” น้ำเสียงแผ่วเบาเชียวครับ “แล้ว?” “...” “ต่างคนต่างอยู่สิ เขาไม่ทำอะไรเธอหรอก กลัวหรือไง” “เปล่าค่ะ หยาแค่ไม่อยากเจอพวกเขา” ผมเข้าใจความรู้สึกของปันหยานะ แต่ก็นั่นแหละจะเรียกว่าโลกกลมก็คงได้มั้งครับ “ไอ้ภาม!” ใครคนหนึ่งเอ่ยเรียกชื่อผม “...” “พี่รู้จักเขาด้วยเหรอคะ?” ปันหยาเอ่ยถามแทบจะทันที “อืม” บุคคลที่มาใหม่คือไอ้อาร์ม อดีตเพื่อนของผมนั่นเอง เป็นการเจอกันในรอบสองปีก็ว่าได้ “หายหน้าหายตาเลยนะมึง เป็นเหี้ยไรประชดชีวิตเหรอ?” น้ำเสียงคุ้นเคยเอ่ยทักทายเมื่อเห็นหน้าผมและฟังดูเหมือนมันจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่ผ่านมาเลยด้วยซ้ำ เป็นแบบนี้ก็ดีครับ มันดีกับตัวผมมากเลย “มึงลืมเหรอว่ากูรักความสันโดษ” “มึงนี่ยังเหมือนเดิมเลยเนอะ” มันว่ายิ้ม ๆ ก่อนจะมองไปที่ปันหยาซึ่งเธอเองก็กำลังมองอยู่เหมือนกันครับ เป็นใบหน้าเรียบเฉยที่ผมไม่ค่อยได้เห็นสักเท่าไหร่ “แฟนมึงเหรอ?” “น้อง” “อ่อ... ไม่เจอกันนานเลย สบายดีนะ” ประโยคหลังอาร์มมันหันไปพูดกับปันหยาครับ ผมหวังนะอย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย “ค่ะ แล้วพี่ล่ะคะสบายดีไหม?” “ดีมั่งไม่ดีมั่งแล้วแต่อารมณ์” บทสนทนาตรงหน้าถูกเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงปกติก็จริงแต่กลับแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง... “นี่เบอร์กู ว่าง ๆ เจอกันหน่อยนะกูขอไปหาแม่กับน้องก่อน” อาร์มมันว่าพร้อมกับจดเบอร์มือถือวางลงตรงหน้าผม “เออ” “เออ เจอกัน” คล้อยหลังมันทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ คนหนึ่งคือคนที่ผมจำเป็นต้องอยู่ด้วยและอีกคนก็เป็นคนที่ผมเคยอยู่ด้วย ... ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไรทำไมอยู่ ๆ ถึงมีความคิดเปรียบเทียบแบบนี้ทั้งที่ความจริงพวกเราทุกคนไม่ได้เป็นอะไรกันเลยด้วยซ้ำ “ดูพวกพี่สนิทกันดีนะคะ” ปันหยาพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ “ฉันมากกว่าที่ต้องพูดคำนี้ เธอไปรู้จักมันตอนไหน?” “เขาเป็นลูกชายของพ่อไงคะ เป็นพี่ชายของออม” ผมไม่เคยเชื่อเรื่องความบังเอิญเลย ไม่เคยเชื่อว่ามันจะมีอยู่จริง แต่ตอนนี้คงต้องเปลี่ยนความคิดแล้วครับ “แล้วพี่ล่ะคะ เป็นอะไรกับเขา” “...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD