Episode-๐๐ เกริ่นนำ

647 Words
“เวลาเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน” ... ประโยคนี้มันโคตรจะจริง ไม่มีใครเหมือนเดิมไปตลอดแม้กระทั่งตัวเราเอง รวมไปถึงความชอบก็ด้วย นานมาแล้วที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ชอบผู้หญิง มันเฉย ๆ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเวลาใกล้กัน ผมไม่มั่นใจว่าไอ้ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกันแน่ เลยเลือกที่จะใช้วิธีโง่ ๆ เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองชอบอะไร โดยการพาตัวเองเข้าไปในสังคมที่มีผู้ชายเยอะ ๆ และอีกทางเลือกคือเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์นั่นเอง อย่างที่ทุกคนรู้ว่าส่วนมากจะเป็นผู้ชายซะมากกว่า ผู้หญิงก็มีนะครับแต่ส่วนน้อย ความใกล้ชิดมันทำให้ตัวเองมั่นใจอะไรมากขึ้นจนผมเจอคำตอบที่ตามหา “เป็นไรของมึงวะ ไม่สบายเหรอ” น้ำเสียงคุ้นหูเอ่ยก่อนจะอังมือลงบนหน้าผากผม “ตัวก็ไม่ร้อนนี่หว่า เป็นไรมึงหงอยเชียว” “ไม่รู้ดิ บอกไม่ถูก” “เวร! แล้วกูจะช่วยอะไรได้” ไอ้อาร์มตอบกลับอย่างจนปัญญา ยอมรับครับว่าอยู่กับมันแล้วสบายใจ มีความสุขและรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน ผมไม่รู้ว่าไอ้ความรู้สึกแบบนี้มันมีมาตั้งแต่ตอนไหน รู้แต่ว่าเป็นเฉพาะกับมันแค่คนเดียว... “ไอ้ภาม” “...” “มึงชอบกูเหรอ?” “ใครบอกมึง” “ความรู้สึกของมึงไงมันบอกกู” ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างพวกเรา รู้นะครับว่ามันยากเกินจะรับได้ ไม่ง่ายเลยที่ใครสักคนจะใจตรงกับเราโดยเฉพาะมันที่เป็นเพื่อน “กูเป็นผู้ชาย...กูชอบผู้หญิง” “กูรู้ กูไม่เคยคาดหวังให้มึงมารู้สึกกับกูมากกว่าเพื่อนหรอก” “...” หลังจากวันนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เราห่างกันมากขึ้น พูดกันน้อยลง อะไรหลาย ๆ อย่างมันทำให้รู้สึกว่ามีเส้นตรงกลางกั้นอยู่ จนในที่สุดผมก็เป็นฝ่ายถอยออกมา ไม่ได้เลิกชอบหรือเกลียดมันนะครับ แค่อยากรักษาความสัมพันธ์ของความเป็นเพื่อนเอาไว้เท่านั้นเอง การได้เจอเพื่อนใหม่ เจอสังคมใหม่ ๆ มันทำให้ผมลืมความรู้สึกพวกนั้นไปชั่วขณะ แต่ก็ต้องกลับมาเรียนปีหนึ่งอีกครั้งครับ เนื่องจากวิศวมันไม่อยู่ในหัวใจจริง ๆ คิดว่าตัวเองทำไม่ได้หรอก แต่ช่างเถอะ! เรื่องเรียนมันไม่เท่าไหร่ แต่หัวใจนี่สิแย่หน่อย “พ่อจะให้ผมหมั้นกับใครนะ?” ทวนคำถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “หนูปันหยา ลูกสาวของเพื่อนพ่อเอง” “แต่พ่อครับ...” “ไม่มีแต่! ถ้าแกบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ชอบผู้ชายจริง ๆ ก็หมั้นสิทำไมต้องอิดออดด้วย” “หมั้นเลยนะครับพ่อ มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ” “คำพูดฉันถือเป็นคำขาด” “...” และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของทุกเรื่องราวในชีวิตผม ... “พี่คะ” “เลิกเรียกสักทีเหอะ น่ารำคาญว่ะ” “ขอโทษ หยาแค่จะถามว่าพี่กินมื้อเช้าไหม หยาจะเตรียมให้” “ขอบใจ แต่ไม่ต้อง เป็นไปได้ก็ช่วยไปให้พ้น ๆ หน้าด้วยโคตรรำคาญ” “...” ผมพูดออกไปอย่างไม่ใส่ใจมากนัก และไม่สนด้วยว่าปันหยาจะรู้สึกยังไง มันกลายเป็นคำพูดที่เธอฟังจนคุ้นหูไปแล้วครับ แต่ก็ยังยืนยันที่จะอยู่ “ที่พี่ไม่เคยพูดดี ๆ กับหยาเลย เป็นเพราะแบบนี้ใช่ไหมคะ?” “...” “หยาไม่น่าหลวมตัวมาหมั้นกับพี่เลย ... ไม่น่าเลยจริง ๆ ” “ก็ไสหัวไปสิ! ฉันไม่เคยขอร้องให้เธอต้องอยู่” แล้วเธอก็จากไปพร้อมกับใจพัง ๆ ของผม ผิดก็รู้ตัวครับ คิดเหรอว่าจะปล่อยไปง่าย ๆ น่ะ มาทำให้รักแล้วก็ควรรับผิดชอบความรู้สึกของผมด้วย ส่วนความรู้สึกของเธอ ผมจะชดเชยมันเอง...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD