เมนูมัดใจ100%

1354 Words
วันนั้นจำได้ว่า ก่อนจะปลุกเธอแอบถ่ายรูปไว้ด้วยชุดใหญ่ คิดเอาไว้แล้วว่าต้องได้ใช้ประโยชน์แน่ๆ นอกจากแอบเอามานั่งมองให้หายคิดถึงตอนสามีไม่อยู่บ้าน เธอจะใช้เป็นตัวประกัน เอาไว้ต่อรองกับพี่ภีม ถ้าโดนดุขึ้นมาอีกเมื่อไร คอยดูนะ เธอจะปริ้นแล้วเอาไปติดไว้ให้ทั่วโรงพยาบาลเลย!! ภรรยาตัวแสบคิดอย่างหมายมาด รู้หรอกว่าถ้าโดนดุจริง คงไม่มีปัญญาวิ่งไปให้ถึงเครื่องปริ้นหรอก นั่งน้ำตาคลอกลัวหัวหดอยู่ตรงหน้าเขานี่ล่ะ ก็แหงล่ะ รสไม้เรียวของพี่ภีม แค่คิดถึงเธอก็ยังขยาดไม่หาย ความใจดีบนความเด็ดขาดน่ากลัวเสมอ ในความใจดีของเขา พี่ภีมเด็ดขาดพอที่จะลงไม้เรียวบนก้นนิ่มๆ ผิวบางๆ ของเธอได้ถ้าพูดแล้วไม่ฟังกับความผิดที่สมควรที่จะโดนทำโทษ แต่ก็นะ เอาล่ะ ขอพักทุกอย่างไว้ก่อน พูดเรื่องนี้ไป พูดเรื่องนี้ทีไรมีแต่จะ sad เปลี่ยนเรื่อง!! เพราะเธอคิดไว้แล้วว่าพี่ภีมจะแอบหลับวันไหนก็ได้ แต่จะมาหลับวันนี้ไม่ได้!! ไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะเธอมีเมนูพิเศษที่ตั้งใจทำแบบสุดตัวสุดหัวใจรอเขาอยู่ ดังนั้นวันนี้เพื่อป้องกันการหลับ ตอนเขาคุยโทรศัพท์ เธอเลยแอบเข้าไปเทสบู่เหลวฆ่าเชื้อเพิ่มเข้าไปในอ่างจากที่แม่บ้านเตรียมไว้ ด้วยความหวังอย่างยิ่งว่ากลิ่นคละคลุ้งคล้ายอยู่ในโรงพยาบาลตลอดเวลาของมันจะทำให้คุณชายไม่เผลอหลับไปแบบที่ชอบทำบ้าง แต่เปล่าเลย!! ง่วนกับการเตรียมจัดจานใส่เมนูมัดใจสามีอยู่ในครัว นริศรามารู้ตัวอีกที คุณชายหมอของเธอหายเข้าไปในห้องน้ำแล้วชั่วโมงครึ่ง!! หรือว่าเมากลิ่นแอลกอฮอล์จนตกอ่างไปแล้ว!! ภรรยาแสนดีละมือจากสารพัดสิ่งที่กำลังทำทั้งหมดรีบวิ่งขึ้นไปตาม แต่ตอนกำลังจะเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป เขากลับเปิดประตูออกมายิ้มให้เธอด้วยสีหน้าแช่มชื่นเหมือนคนได้นอนเต็มอิ่ม นี่เขาคงด้านชา ไม่เมากลิ่นแอลกอฮอล์อะไรก็เอาไม่อยู่อย่างที่เธอคิดไว้สินะ แต่ทั้งหมดทั้งมวลเธอก็รู้ว่าพี่ภีมเหนื่อยไม่น้อย นอกจากเป็นหมอ การที่เขาเข้ามารับช่วงต่อดูแลธุรกิจโรงพยาบาลก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารสูงสุด ต้องทั้งพัฒนาและรักษาชื่อเสียงความเชื่อถือที่มีมานานหลายสิบปี เธอรู้มันหนักไม่น้อยที่จะทำให้ออกมาดีทั้งสองอย่าง แต่พี่ภีมก็ทำได้ ความจริงเธอชื่นชมเขาเสียด้วยซ้ำ ที่ถึงทำงานเยอะ แต่เขาก็ยังแบ่งเวลาให้ครอบครัวอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เธอไม่เคยรู้สึกว่าขาด ในตรงกันข้ามกับรู้สึกยิ่งกว่าเติมเต็มเสียด้วยซ้ำกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ สปาเก็ตตี้ซอสเห็ดหอมหมดเกลี้ยงจาน พร้อมกับความหน้าบานของภรรยาที่สามีชมว่าอร่อยแบบไม่เคยกินเมนูนี้ที่ไหนแล้วอร่อยขนาดนี้มาก่อน จะพูดจริงพูดเล่นก็เถอะ แต่เธอสรุปแล้วว่าเขาพูดจริง ต่อให้ไม่จริงก็ขอเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน หลังมื้ออาหารเย็น เขาขอตัวขึ้นไปข้างบน ในขณะที่เธอยังเอกเขนกนอนดูซีรีย์อยู่ข้างล่าง จนเกือบสี่ทุ่มจึงตามขึ้นไป ตอนแรกเธอคิดว่าเขายังอยู่ที่ห้องทำงาน แต่พอเห็นสามีอาบน้ำเรียบร้อยเหมือนเตรียมพร้อมจะนอนแต่ยังกึ่งนั่งกึ่งนอนกางคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คทำงานอยู่บนเตียง จึงรีบไปอาบน้ำบ้าง อาบน้ำทาครีม สำรวจตัวเองเรียบร้อยก็เดินออกมา เสียงเปิดประตูและร่างบอบบางในชุดกระโปรงนอนสีหวานที่เห็นจากหางตา แขนข้างหนึ่งของชายหนุ่มกางกว้างออกเป็นเชิงเรียกคนตัวเล็กให้เข้ามาหา “ดึกแล้ว ทำไมยังไม่นอนอีกเหรอคะ เกดนึกว่าพี่ภีมหลับไปแล้วซะอีก” นริศราถาม ปีนขึ้นเตียงได้ก็คลานเข้าไปอยู่ในวงแขนสามี ภีมภัทรรวบวงแขนโอบร่างหอมกรุ่นเข้ามาหา กดจูบลงบนขมับหนึ่งฟอด ตอบทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าความจริงที่ถามเพราะภรรยาตัวน้อยของเขาคงอยากอ้อนอยากหาเรื่องชวนคุยมากกว่า “มีงานค้างอีกนิดหน่อยค่ะ ถ้าเกดง่วงนอนไปก่อนได้เลยนะคะ เดี๋ยวพี่ปิดไฟให้” …ที่บอกอย่างนั้นเพราะเธอไม่ชอบนอนตามไฟไม่ชอบให้แสงไฟแยงตา แต่ก็นั่นล่ะ เรื่องอะไรเธอจะยอมนอนก่อนเขาล่ะ ถึงนอนไปยังไงก็หลับไม่สบายอยู่ดี เพราะตั้งแต่แต่งงานกันเธอติดความอบอุ่นในอ้อมกอด มือของเขาที่ลูบแขนเธอเบาๆ กล่อมจนกว่าจะหลับ วันไหนเขาไม่อยู่ไปทำงานก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าวันไหนรู้ว่าเขาอยู่ แต่ไม่ทำแบบนี้ เธอมักจะฝันร้าย สะดุ้งตื่น นอนหลับไม่สนิททุกทีเลย มีแฟนแก่กว่าก็อย่างนี้ พี่ภีมสปอยเกินไปทำให้เธอเสียนิสัยไปหมดแล้ว “ไม่ต้องปิดหรอกค่ะ เกดยังไม่ง่วงเลย” เสียงใสว่า ยื่นหน้าไปจุ๊บแก้มสาก และคงเพราะเขาเพิ่งโกนหนวด เธอถึงได้กลิ่นหอมจางๆ ของอาฟเตอร์เชพ กลิ่นประจำตัวของพี่ภีมที่ชอบทำให้วูบๆ โหวงๆ ในท้องแบบแปลกๆ ตอนแรกเธอไม่เข้าใจอาการอย่างนี้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่หลังๆ มานี้เริ่มชักเข้าใจมากขึ้นแล้ว แก้มใสแดงระเรื่อ แต่เพราะไม่อยากให้เขาจับได้ว่าเธอกำลังแอบคิดอะไร เลยเบี่ยงประเด็นทำเป็นชวนคุยเรื่องอื่น “พรุ่งนี้เราไปเดินซื้อของเข้าบ้านกันไหมคะ พวกของใช้ เกดอยากได้เทียนอโรมา อ่านในอินเตอร์เน็ตมาเขาบอกว่าจะช่วยคลายเครียด ทำให้ผ่อนคลายได้มากกว่าพวกสเปร์ปรับอากาศ” “ถ้าอย่างนั้นออกไปพร้อมพี่เลยไหมคะ หรือจะให้มารับตอนบ่าย” “ออกไปพร้อมพี่ภีมเลยดีกว่าค่ะ” “อืม เอาอย่างนั้นเหรอคะ ความจริงพี่มารับอีกทีก็ได้นะ เผื่อมีบางคนอยากนอนตื่นสาย ไม่ต้องเกรงใจพี่นะคะ” แหม… “เกดไม่ได้เกรงใจสักหน่อย แค่ไม่อยากให้พี่ภีมต้องขับรถกลับไปกลับมา… เดี๋ยวเหนื่อยค่ะ” …และเขาจะไม่อะไรเลย ถ้าประโยคนั้นไม่ได้มีเสียงหัวเราะคิกตามมาเหมือนกึ่งๆ ล้อเลียน แล้วพอหันไปหาก็ยังเจอแววตาวิบวับเป็นประกายของเด็กแสบ “กำลังจะบอกว่าอะไรคะ พูดมาให้หมด” คุณหมอหนุ่มคาดคั้นเสียงนุ่ม แต่ภรรยาตัวน้อยของเขาก็ยังเอาแต่ส่ายหน้า จนเขาอดไม่ได้ต้องเอื้อมมือไปบีบจมูกเจ้าเด็กขี้แกล้งจนคนตัวเล็กร้องโอด “อือ ไม่ได้อะไรสักหน่อย เกดไม่ได้ว่าพี่ภีมแก่นะคะ คิกๆๆ” คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของชายหนุ่มถูกปิดลง เอาไปวางไว้ด้านข้าง ก่อนเขาจะหันมาจัดการกับเธอ “ดื้อใหญ่แล้ว มายอมให้คนแก่ทำโทษซะดีๆ มานี่มา” แต่เรื่องอะไรจะยอมแพ้ง่ายๆ มันก็ใช่หนูเกดของพี่ภีมซะที่ไหน “ไม่อาว…” คนตัวเล็กหัวเราะคิกลากเสียงยานคางตอบ และสงครามย่อยๆ ก็เลยเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงหัวเราะ ก็พี่ภีมนั่นล่ะรู้ว่าเธอบ้าจี้ก็ยังเอาจุดอ่อนมาแกล้งอยู่ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า โอ้ย ขำไม่ไหวแล้ว ยอมแล้วยอม ยอมให้จับก็ได้ นี่เธอหัวเราะน้ำตาไหลจนจะหายใจไม่ออกแล้วนะ “ฮ่าๆ ยอมแล้วค่ะยอมไม่หนีแล้ว แล้วพี่ภีมไม่ทำงานเหรอคะ” “ไม่ทำแล้วค่ะ อยากทำอย่างอื่นมากกว่า” แล้วคงไม่ต้องบอกนะว่าอย่างอื่นที่เขาว่ามันหมายความว่าอะไร กรี๊ดดดด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD