“ นี่พี่วินวี่คนสวยคิดอะไรอยู่เนี่ย ผมแค่จะบอกว่าเวลาผมซักผ้า ถูบ้าน รีดผ้า ผมเสร็จโคตรช้าเลย เพราะไม่ค่อยถนัด ”
“ ไม่เป็นไรนะคะผัวขา ต่อไปนี้เมียจะปรนนิบัติพัดวีผัวทุกอย่าง ไม่ให้ผัวต้องลำบากลำบนอีกเลย ” ทั้งสองพูดจาหยอกล้อกันไปมาอย่างสนุกสนาน มิวายที่เมษาจะพยายามดึงแขนเพื่อนออกมาให้ห่างจากชายหนุ่ม เพราะยังปักใจเชื่อเสียสนิทกับคำบอกเล่าของเจ๊ดอกไม้ ใจก็นึกอยากจะด่าเพื่อนเหลือเกินว่าเห็นผู้ชายหล่อล่ำทีไรเป็นไม่ได้ ตายเป็นตาย วินวี่ยอมทุกอย่าง
“ วินวี่ ออกมาเดี๋ยวนี้ ! ”
“ แหม เจ๊เมษานี่ท่าทางจะหวงเพื่อนจังเลยนะครับ เอ๊ะ หรือว่าหวงผมนะ ” ไอ้เด็กบ้านั่นมันแหย่หางเสือ แถมยังทำหน้าทะเล้นทะลึ่ง เมษาถลึงตาแล้วแหวใส่ทันที
“ ทะลึ่ง ไอ้เด็กโรคจิต ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นแกนะ ”
“ อ้าว อุตส่าห์พูดด้วยดี ๆ แหย่เล่นให้สนุกสนาน ทำไมป้าพูดจากับผมแบบนี้ล่ะครับ ” เมษาตาเหลือก
“ ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้ ใคร ใครป้าแก ไม่มีมารยาท ”
“ ผมไม่เรียกยายก็ดีแค่ไหนแล้ว ก็อยากมาด่าผมโรคจิตก่อนนี่นา ” วินวี่รีบเอาตัวไปคั่นกลางระหว่างทั้งสอง
“ ว้าย พอ ๆๆๆ สงบศึก แกก็นะนังเมษ์ ไปว่าน้องเขาก่อนทำไม น้องเขาก็มาคุยด้วยดี ๆ เนี่ย ”
“ นังวินวี่ นี่แกเข้าข้างผู้ชายมากกว่าเพื่อนเหรอ ”
“ มันไม่ใช่อย่างนั้น ” วินวี่ตอบไปอ้อมแอ้ม
“ ถ้ามันปกติ ถ้ามันมีมารยาท มันจะกล้าข้ามมาเปิดประตูบ้านเราแบบนี้เหรอ ”
“ ทำไมล่ะ ทีเมื่อคืนป้ายังไปแอบดูผมได้เลย แล้วที่ผมมาเนี่ย ผมก็มาด้วยความหวังดี มาเพื่อจะถามว่าจะติดรถมอเตอร์ไซค์พวกเราไปด้วยไหม แล้วนี่อะไร มาด่ากันปาว ๆ ทำคุณบูชาโทษแท้ ๆ ” ชายหนุ่มบ่นอุบ หากแต่ดวงตามีแววซุกซนกรุ้มกริ่ม คล้ายจะสนุกกับการปะทะคาคมครั้งนี้เหลือเกิน
“ ไม่ไปโว้ย ไปเองได้ ” เมษาสวนกลับทันควัน แต่เพื่อนสาวแย้งขึ้น
“ ไม่ไปกับน้องแล้วเราจะไปยังไงนังเมษ์ รถพวกเราก็ไม่มีนะ ”
“ ก็โทรหาลุงตุ๊กตุ๊กเมื่อวานสิวะ ทำไมจะต้องไปอาศัยคนอื่นด้วย โดยเฉพาะคนอื่นที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าเป็นยังไง ” ท้ายประโยคเมษาปรายตาไปยังร่างสูงที่ยืนยั่วโมโหอยู่ตรงนั้น เขาทำเพียงยักไหล่และเดินหันหลังกลับไป แต่ก่อนจะไปยังอุตส่าห์ยั่วให้คนข้างหลังปรี๊ดแตกเล่น ๆ
“ อยากลำบากก็แล้วแต่นะครับป้า แล้วแต่ป้าเล้ย ”
“ ไอ้เด็กปากดี ! ”
“ ไม่ใช่แค่ปากนะที่ดี อย่างอื่นก็ดีด้วย จะลองมั้ยล่ะป้า ”
อีกฝ่ายตะโกนตอบโต้อย่างทันกัน เป็นวินวี่ที่รีบตะครุบปากเพื่อนสาวไว้ก่อน
“ พอแล้วนังเมษ์ แกเป็นบ้าอะไรของแก แกรู้ไหมว่าไปด่าน้องเขาก่อนโดยที่ไม่มีเหตุผลอะไรเลย ทั้งที่น้องเขาหวังดีกับเราแท้ ๆ เมนส์จะมาหรือไง เลิกบ้าได้แล้ว ไหน เอาเบอร์ลุงตุ๊กตุ๊ก มาซิ ฉันจะโทรหา ” เมษาเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือในห้องแล้วยื่นให้เพื่อนสาวโดยไม่พูดอะไร เพราะยังโกรธที่เพื่อนเข้าข้างคนอื่นมากกว่าตัวเอง วินวี่รับโทรศัพท์มาแล้วกดหาชื่อที่ต้องการ เมื่อพบแล้วจึงกดโทรออกทันที ดังไม่นานปลายสายก็กดรับ
“ ลุงตุ๊กตุ๊กใช่ไหมคะ...
นี่หนูเอง วินวี่ ที่ให้มาส่งที่ห้องเช่าเจ๊ลำไยเมื่อวานน่ะค่ะ เช้านี้จะให้ลุงมารับหนูกับเพื่อนไปส่งได้ไหมคะ...
อ้าว เป็นมากเลยเหรอคะ...
แล้วลุงพอจะแนะนำเพื่อนคนอื่นให้ได้ไหมคะ หนูไม่รู้จะออกไปทำงานยังไงเลยเนี่ย...
ไม่เป็นไรค่ะ ขอให้ป้าหายไว ๆ ขอบคุณมากนะคะ... ”
แล้ววินวี่ก็เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนด้วยสายตากังวล
“ เมียลุงตุ๊กตุ๊กแกป่วยว่ะ นี่แกพาไปโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน ปวดท้อง สงสัยจะเป็นไส้ติ่ง ฉันขอเบอร์เพื่อนตุ๊กตุ๊ก คนอื่น แกก็ว่าเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์ใหม่ ยังไม่ได้บันทึกเบอร์ใครสักคนเพราะทำไม่เป็น ต้องรอให้ลูกที่ไปเรียนในกรุงเทพฯ กลับมาทำให้ ปกติก็จดใส่สมุดไว้ แต่วันนี้ก็ไม่ได้เอาสมุดไปด้วยอีกนั่นแหละ ”
“ กรรมเวร ไม่งั้นเราก็พากันเดินออกไปปากซอยละกัน น่าจะหารถได้จากตรงนั้น ” ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวไปไหน เตวิทย์ ผู้หล่อล่ำ นักมวยประจำมหาวิทยาลัยก็ขับมอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าห้องสองสาวทันที
“ ไปกับผมไหมครับ พี่วินวี่คนสวย ” ไม่ต้องคิดให้มากความ เมื่อมีผู้ชายล่ำเบอร์นั้นขันอาสา วินวี่มีหรือจะปฏิเสธ นางเดินเข้าห้องหยิบกระเป๋าถือก่อนจะเดินนวยนาดขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายเตวิทย์และกอดรอบเอวสอบทันที
“ ยินดีมากค่ะน้องเตวิทย์ ขอพี่กอดแน่น ๆ หน่อยนะคะ ไม่ค่อยได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์ กลัวตกน่ะค่ะ ” เตวิทย์ยิ้ม ๆ ไม่พูดอะไร ก่อนจะขับรถออกไปในทันที ทิ้งไว้เพียงเมษาที่แหกปากตะโกนตามหลังเพื่อนรักอยู่ปาว ๆ
“ เฮ้ย นังวินวี่ เห็นผู้ชายไม่ได้ เล่นทิ้งกันง่าย ๆ อย่างนี้เลยเหรอวะ ไอ้เพื่อนบ้าเอ๊ย ! ”
ร่างสูงใหญ่ที่อยู่ข้างบ้าน สวมเสื้อนักศึกษาแล้วติดกระดุมอย่างใจเย็นพลางผิวปากไปด้วยอย่างอารมณ์ดีสุดขีด เมษาเห็นดังนั้นก็ยิ่งอารมณ์เสีย เธอเดินกลับเข้าบ้านไปหยิบข้าวของแล้วปิดประตูดังปังก่อนจะไขล็อคพร้อมคล้องตัวยู อีกรอบเรียบร้อย
รถมอเตอร์ไซค์ Ducati monster 821 สีดำดุขับมาจอดที่หน้าบ้าน พร้อมกับที่เจ้าของมันที่ไม่ได้สวมหมวกกันน็อคหันมายิ้มให้ ซึ่งเมษามองว่ามันเป็นการยิ้มเยาะมากกว่า
“ ไป เดี๋ยวผมไปส่ง ” หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งทะนง
“ ไม่ต้อง ฉันไปของฉันเองได้ ” ธันวาหัวเราะเบา ๆ
“ เหรอ ไปได้ แล้วจะไปยังไงรู้ยัง ”
“ ก็เดินไปปากซอย เดี๋ยวก็ต้องมีรถประจำทางโน่นนี่ ไม่งั้นก็วินมอเตอร์ไซค์แหละ ”
“ วินมอเตอร์ไซค์น่ะมี แต่ต้องเดินถัดไปอีกสองซอยร่วมกิโลโน่นแหละ ส่วนรถประจำทางก็ไม่ค่อยจะมีหรอก นี่มันนอกเมือง บางทีมีมาก็เบียดกันทั้งห้อยโหนทั้งนั่งหลังคา ”
“ งั้น ฉันไปกับนายแว่นก็ได้ ” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว
“ เรื่องมากทำไมเนี่ย ไอ้แว่นมันยังไม่ไปตอนนี้ มันมีเรียนสิบเอ็ดโมงโน่น ”
“ มีเรียนสิบเอ็ดโมงแล้วจะตื่นเช้ามาแต่งชุดนักศึกษาทำไม แกอย่าคิดว่าฉันโง่นะ แกคิดจะเอาฉันไปทำมิดีมิร้ายใช่ไหมล่ะ ” ธันวาหัวเราะร่วนก่อนส่ายศีรษะไปมาอย่างระอา
“ เห็นผมหื่นแบบเนี้ย แต่ผมก็เลือกนะครับ ”