บทที่8

1534 Words
“ขอบคุณนะคะ แต่แพรอยากทำงานให้เสร็จก่อนค่ะ ประเดี๋ยวเจ้านายของพี่โชคจะว่าเอาได้ว่าแพรแอบอู้งาน” พิชญาหันมาส่งยิ้มหวานพร้อมเอ่ยตอบชายหนุ่มเบื้องหน้าพร้อมๆ กับจังหวะที่แก้วน้ำตัวการถูกปัดออกไปไกลด้วยฝีมือผู้มาเยือนใหม่ที่ได้ยินทุกๆ บทสนทนาของคนทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี “ดีนี่ที่รู้ตัวเองว่าไม่สมควรแตะข้าวหรือแม่แต่น้ำสักหยดถ้ายังทำงานที่ฉันสั่งไม่เสร็จ! แล้วแกไม่มีงานมีการทำหรือยังไงไอ้โชค! หรืออยากจะย้ายกลับเข้าไปทำงานที่ฝั่งเหมือนเดิม” สีหน้าและคำพูดที่เอาจริงเอาจังอย่างหนักทำเอาโชคถึงกลับหน้าเสียก่อนจะรีบถอยกรูออกมาให้ห่างจากหญิงสาวในทันที “ไปเดี๋ยวนี้แล้วครับนายไปแล้ว สู้ๆ นะครับน้องแพร” พูดจบก็รีบสาวเท้าหนักๆ เดินหนีพราะไม่กล้าที่จะมีปัญหากับคนตรงหน้าแม้แต่คิดก็ยังไม่มีใครกล้าเพราะรู้ดีว่าหากทำให้คนอย่างชรัสโกรธขึ้นมาแล้วล่ะก็ชะตาถึงคาดเป็นแน่ๆ พิชญาค่อยๆ ลุกขึ้นพร้อมตะกร้าผ้าใบใหญ่ที่ถูกบิดเตรียมตากเอาไว้แล้วซึ่งทำให้หญิงสาวต้องจำใจเผชิญหน้ากับคนใจร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วินาทีแรกที่ได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่ซีตเสียจนน่ากลัวความโกรธก่อนหน้าก็พลันมหายหายวับไปจนหมดสิ้นร่างสูงสาวเท้าตรงเข้าหาก่อนจะกระชากต้นแขนเรียวมากำเอาไว้แน่นพร้อมกับคำถามดุดัน... “ไม่สบายทำไมไม่บอก หน้าซีตเสียขนาดนี้ยังบ้านั่งทำงานอยู่ได้ตั้งครึ่งคร่อนวัน เธออยากตายนักรึไง” คำถามที่ดังขึ้นราวกับจะลืมตัวว่าเป็นเขานั่นเองที่สั่งให้หญิงสาวนั่งทำงานให้เสร็จส่งผลให้พิชญาต้องรีบสะบัดตัวหนีเกลียดจับใจเสียจนไม่อยากจะเงยหน้าสบตาด้วย “ปล่อยฉันนะ ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน! ฉันเกลียดคุณ!” เสียงหวานสบถด่าขึ้นอย่างเหลืออดแต่แทนที่ชายหนุ่มจะปล่อยให้ตามคำขอร้องเขากลับฉวยเอาจังหวะที่แม่ตัวดีตรงหน้าออกแรงดิ้นรนจนหลุดพ้นจากการจับกุมพุ่งตัวเข้าหาช้อนร่างเล็กขึ้นแนบอกเอาไว้แน่นท่ามกลางสายตาตกใจแก่ผู้คนรอบข้างที่ได้แต่เฝ้ามองดูเหตุการณ์อย่างเงียบเชียบ “คุณจะทำอะไรของคุณ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคุณชรัส!”ปากจิ้มลิ้มร้องบอก แม้ว่ามือจะตวัดเกี่ยวรอบคอของคนใจร้ายเอาไว้แน่เพราะกลัวจะตกลงไปก็ตามที “หุบปากให้สนิทก่อนที่เสียงเธอจะทำให้ฉันหงุดหงิดไปมากกว่านี้แพรไหม จัดการที่เหลือให้เสร็จแล้วสั่งป้าเพ็ญทำข้าวต้มไปให้ฉันที่บ้านด้วยไอ้มิ่ง” หันไปสั่งลูกน้องคนสนิทเสร็จสรรพร่างสูงก็เดินอุ้มแม่ตัวดีผ่านเลยสายตาตกตะลึงของเหล่าคนงานไปโดยไม่พูดอะไรออกมาอีกไม่มากความต่างจากหญิงสาวที่ทั้งดิ้นรนขัดขืนแต่เพราะเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่น้อยนิดและพร้อมที่จะดับวูบไปได้ทุกชั่วขณะจึงทำให้ทำอะไรไม่ได้มากนักจนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทางซึ่งก็คือห้องนอนใหญ่ร่างเล็กถึงได้ถูกเหวี่ยงจนล้มลงไปบนเตียงหนาอย่างแรง “คุณมันบ้าไปแล้ว! จู่ๆ พาฉันมาที่นี่ทำไมคะ ฉันยังมีงานที่ต้องทำให้เสร็จ” พิชญาพูดสวนขึ้นก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงและเตรียมจะเดินหนีแต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวออกไปให้พ้นห้องเสียงเข้มดุดันของคนเอาแต่ใจกลับดังไล่ตามหลังขึ้นมาซะก่อน... “ถ้าก้าวขาออกไปจากห้องนี้แม้แต่ก้าวเดียวล่ะก็แพรไหมรับรองได้ว่าเธอได้ตกเป็นเมียของฉันสมใจคุณย่าแน่ๆ อยากลองดีนักก็เชิญ!” คำขู่ของชายหนุ่มได้ผลชะงักรวดเร็วทันใจก่อนที่หญิงสาวจะทำใจกล้าหมุนตัวหันกลับไปเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้งอย่างเอาเรื่อง “คุณคิดๆ จริงหรือคิดเหรอคะว่าฉันจะกลัวคำขู่ของคุณ..” “ฉันไม่ได้แค่คิดนะ แต่มั่นใจเลยว่าฉันทำให้เธอกลัวได้จริงๆ หรืออยากจะลอง...” เสียงเข้มนั้นดังแผ่วขึ้นก่อนที่ร่างกำยำหนักแน่นจะเดินตรงเข้าหาตวัดแขนโอบกระชับเอวคอดเข้าหาตัวอย่างแรงเพื่อจงใจปั่นหัวอีกฝ่ายให้เล่นไปตามเกมส์ “คนบ้า! ใครกันจะไปอยากลอง ต่อให้คุณแก้ผ้าลงตรงหน้าฉันก็ไม่สนใจเลยสักนิด ปล่อยฉันนะ” พิชญาหวีดเสียงร้องบอกขึ้นก่อนจะออกแรงดิ้นไปมาอย่างไม่คิดที่จะยอมแพ้ ไม่ชอบ ใจเลยที่เขาพูดจากำกวมใส่เหมือนที่กำลังทำอยู่แต่อีกฝ่ายกลับยิ่งรู้สึกดึมากขึ้นเรื่อยๆ แทนที่เขาจะปล่อยตามคำขอกลับรั้งเอวคอดเข้าหาตัวอย่างแนบแน่นมากขึ้นเข้าไปอีก “ถ้าฉันไม่ปล่อยตัวเท่าลูกแมวอย่างเธอจะทำอะไรฉันได้ ว่าไง!” อีกฝ่ายย้อนถามขึ้นเมื่อสำนึกได้ว่าตนเองนั้นถือไพ่เหนือกว่า ดวงตาวาวโรจน์จ้องมองเรือนร่างสาวเบื้องหน้าอย่างจริงจังรอคอยคำตอบที่ได้รับจากเธออย่างใจเย็น “ฉันก็จะร้องให้คนช่วยน่ะสิ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” “เอาสิ! ต่อให้เธอแหกปากร้องจนเส้นเอ็นเสียงขาดก็ไม่มีใครหน้าไหนกล้าเข้ามาทั้งนั้นจนกว่าฉันจะเป็นฝ่ายเรียกเสียเอง และเชื่อไหมว่าฉันจะปิดเสียงที่น่าหนวกหูของเธอด้วยวิธีแบบไหน...” “คุณต้องการอะไรจากฉันกันแน่!! ให้ฉันทำงานฉันก็ทำให้แล้วยังไม่สาแก่ใจคุณอีกหรือยังไงกันคะ แต่ถ้าที่คุณกำลังทำไปทั้งหมดก็เพื่อจะทำให้ฉันรู้สึกกลัวและยอมแพ้ล่ะก็คุณชรัส...ฉันจะขอบอกคุณเอาไว้ตรงนี้เลยว่าคุณคิดผิดถนัด เพราะฉันไม่รู้สึกกลัวคนอย่างคุณเลยแม้แต่นิดเดียว!” หญิงสาวยืนกรานเสียงแข็งบ่งบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้และเข้าใจจุดยืนของตนเองอย่างชัดถ้อยชัดคำแม้สิ่งนี้จะตรงข้ามกับหัวใจก็ตามที “ฉันไม่หวังน้อยขนาดนั้นหรอกแพรไหม!! แต่สิ่งที่ฉันต้องการคือไล่ผู้หญิงที่แสนจะน่ารังเกียจอย่างเธอไปจากที่นี่ซะ เท่านั้นที่ฉันต้องการ!” สิ้นคำประกาศิตชรัสก็จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากเพราะแทนที่เธอจะหวาดกลัวต่อสิ่งที่เขาเพิ่งจะเอ่ยบอกออกไปนั้นยังทำท่าทีอวดดีใส่ก่อนจะเชิดใบหน้ารั้นๆ ขึ้นพร้อมกับเสียงหวานที่ดังโต้ตอบกลับมาทันควัน... “คำก็น่ารังเกียจสองคำก็น่ารังเกียจ ถ้าฉันมันน่ารังเกียจนักแล้วตัวคุณมันดีเริศสูงส่งกว่าคนอื่นๆ เขานักหรือยังไงกันคะ ถ้าคุณดีจริงคงไม่ถูกคนรักของคุณทิ้ง...” คำพูดทั้งหมดทั้งมวลถึงกลับชะงักค้างไปชั่วครู่เมื่อสติทั้งหมดถูกความโกรธเข้าครอบงำจนทำให้ปากเจ้ากรรมพรั้งเผลอเอ่ยบางสิ่งที่เพิ่งจะได้รับรู้มาจากป้าศรีเพ็ญเกี่ยวกับอดีตเลวร้ายของผู้ชายตรงหน้านี้ออกไป...แม้ภายในใจนึกอยากจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขแต่คงทำได้เพียงฉุดคิดในใจเท่านั้น!! “เธอว่าอะไรนะ!” น้ำเสียงทรงพลังที่แอบแฝงไปด้วยอารมณ์ที่ยากต่อการคาดเดาเอ่ยขึ้น ดวงตาคู่สวยที่บัดนี้แข็งกร้าวน่ากลัวเสียจนพิชญาเผลอก้าวถอยหลังหนีโดยไม่รู้ตัวแต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวไปไหนได้ไกลอย่างที่ใจคิดต้นแขนเรียวกลับถูกกระชากให้เซไปด้านหน้าอย่างแรงด้วยน้ำมือของซาตานร้ายที่บัดนี้ใบหน้าโหดเหี้ยมราวกับเขาพร้อมที่จะฆ่าหล่อนให้แหลกสลายไปให้ทุกเมื่อ “ฉันถามว่าเมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร!” “ฉัน...” “เธอกล้าดียังไงพูดจาแบบนั้นกับฉัน! เธอคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์พูดแบบนั้นกับฉันที่เป็นถึงหลานชายเจ้าของเศษเงินที่จ้างเธอมาหรือยังไงกัน!! เธอมันก็แค่ผู้หญิงแพศยาที่พร้อมจะอ้าขารับแขกได้ทุกเมื่อหากใครสักคนยื่นเงินไปให้เท่านั้น เธอไม่สิทธิ์!” สิ้นคำดูถูกดูแคลนที่แสนเลือดเย็นความอดทนอดกลั้นของหญิงสาวก็แทบจะขาดสะบั้นตามไปด้วยก่อนจะมารู้ตัวอีกทีเธอก็ฟาดมือลงไปบนใบหน้าของเขาอย่างเต็มแรงพาลทำเอาทั่วทั้งห้องกลับมาเงียบสนิทลงอีกครั้ง... ท่ามกลางความเงียบที่น่าอึดอัด แต่พิชญากลับสังเกตเห็นความโศกเศร้าที่กำลังปรากฏอยู่ในดวงตาของคนตรงหน้าได้อย่างชัดเจน หญิงสาวพยายามก้าวเข้าไปหาเพื่อปรับความเข้าใจแต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยสิ่งใดออกไป เสียงเข้มของชรัสก็ดังขัดขึ้นซะก่อน... “ไสหัวออกไป!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD