มือบางยกชี้ไปที่ประตู ที่นี่มันเป็นบ้านของเธอ พวกมันไม่มีสิทธิ์เข้ามา ห้องที่อยู่ในตอนนี้ คือห้องหอของเธอ
“ไสหัวออกไปทั้งคู่เลย ออกไป!”
“อร... แล้วผมจะทำยังไง ผม..” โยธินพูดไม่ออก บริษัทตนพึ่งพาคนรักไว้มาก ทั้งเงินทุน หรือการร่วมหุ้น แล้วแบบนี้เขาจะดำเนินการต่อไปอย่างไร “บริษัทที่เราสร้างด้วยกันล่ะอร คุณจะทิ้งมันเหรอ”
คนสวยเชิดหน้าขึ้น ลิลลี่รีบจับมือเพื่อนไว้ให้กำลังใจ
“ใครว่าฉันจะทิ้ง ฉันจะเอามันคืนจากคุณต่างหาก!”
“อะไรนะ!” เขาร้องลั่น
“คุณมาแต่ตัว ก็ไปแต่ตัว บริษัทนี่ฉันสร้างมา ไม่ใช่คุณ คุณมันก็แค่อาศัยชื่อเท่านั้น!”
พีรดาหันไปจ้องมองสามี ราวกับไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน คิดมาตลอดว่าอย่างน้อยเขาก็เป็นประธานบริษัท แต่ทุกอย่างกลับถูกสร้างมาจากพี่สาวต่างสายเลือดงั้นเหรอ
“บริษัทไม่ใช่ของพี่เหรอคะ” พีรดาถามเสียงสั่น
เขาตวัดสายตามอง “มันเป็นของฉัน แล้วก็ของอรด้วย เราสองคนสร้างมาด้วยกัน ถ้าเธอไม่วางยาฉัน ทุกอย่างมันคงไม่มาถึงจุดนี้ เธอทำลายชีวิตฉันพีรดา!”
อรปรียาจ้องมองทั้งคู่ที่เอาแต่ทะเลาะกัน
“อย่ามากัดกันในบ้านฉัน ออกไปได้แล้ว!”
“อร! พี่ขอโอกาส”
“ไม่มี ไสหัวไป!”
“ดุสิตมาลากตัวพวกมันออกไปให้พ้นบ้านหลังนี้!” อำพันธ์ตะโกนสั่งลูกน้อง
ชายรูปร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาพร้อมคนอื่น แล้วนำตัวสองคนออกไปข้างนอก อรปรียาตวัดสายตามองแม่เลี้ยง
“ส่วนคุณก็ไปอยู่ที่ครัวได้แล้ว พ่อต้องทานข้าวทานยา!”
พรรณนิภารีบลุกยืน “ได้จ้ะหนูอร” เธอรับคำแล้วเดินออกจากห้องไป
อรปรียาเม้มริมฝีปาก น้ำตาเริ่มไหลรินออกมา อำพันธ์ดึงลูกสาวมาโอบกอดไว้เพื่อปลอบประโลม รู้สึกผิดมากเหลือเกิน ที่ไม่ได้ใส่ใจลูกมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นเรื่องเลวร้ายแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น
ร่างบางยืนมองตนเองในกระจก น้ำตาไหลรินอาบแก้ม ชุดเจ้าสาวแสนสวยถูกกระชากออกจากเรือนร่าง ราวกับไม่ต้องการเห็นมันอีก จัดการชำระร่างกายแล้วออกมาด้านนอก เห็นเพื่อนสนิทกำลังนั่งอยู่บนเตียง ลิลลี่เดินเข้ามาหาแล้วยิ้มให้
“เป็นยังไง สบายตัวไหม”
เธอพยักหน้า “สบายขึ้นมากแล้วล่ะ”
“ฉันก็ไม่รู้จะปลอบแกยังไงน่ะ แค่อยากให้รู้ว่ายังมีฉันเสมอน่ะยัยอร” ลิลลี่บอก แล้วดึงมือเพื่อนมากุมไว้
“ฉันรู้ลิลลี่”
“แกนอนพักผ่อนเถอะ คืนนี้ฉันจะค้างที่นี่เป็นเพื่อนแกด้วย”
“ขอบใจมากนะแก”
“อือ”
อรปรียาทรุดกายลงบนเตียง หยิบมือถือออกมา เห็นเบอร์นับสิบที่โทรหา พร้อมข้อความขอโทษมากมายนับไม่ถ้วน เธอเปิดอ่าน แล้วตัดสินใจกดลบ แล้วบล็อกทุกช่องทางการติดต่อจากคนรักเก่า ความรักที่มีมันคงไม่มีค่าพอให้กับผู้ชายไม่รู้จักพออย่างเขาอีกแล้ว
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดัง เจ้าของห้องหยุดมือแล้วเงยหน้า ก่อนตัดสินใจเดินไปหน้าห้อง เปิดประตูเห็นบิดายืนยิ้มอยู่ อรปรียานิ่งงัน
“มีอะไรหรือเปล่าคะพ่อ” เธอถามเสียงเบา
“พ่อมีเรื่องอยากคุยกับอร พอมีเวลาให้พ่อสักหน่อยไหม” อำพันธ์เหลือบมองเห็นเพื่อนลูกสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ได้ค่ะพ่อ ไปคุยกันข้างล่างนะคะ”
“ได้ลูก”
อรปรียาหันมองเพื่อนในห้อง “ลิลลี่เดี๋ยวฉันลงไปคุยธุระกับพ่อก่อนนะ”
“จ้ะอร”
ประตูห้องทำงานเปิดออก อำพันธ์ก้าวเข้าด้านในแล้วหย่อนกายลงตรงโซฟา อรปรียานั่งลงตรงข้าม แววตาหม่นเศร้า คนเป็นพ่อเข้าใจความรู้สึกของลูก ถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาดแล้ว วันนี้ลูกสาวต้องมีความสุขที่สุด
“พ่อขอโทษนะลูก” เขาบอกบุตรสาวเสียงสั่น
เธอเงยหน้าสบตาบิดา “ขอโทษอรทำไมคะ ไม่ใช่ความผิดของพ่อเลยค่ะ”
“เพราะพ่อ ให้สองแม่ลูกนั้นเข้ามา ถึงสร้างปัญหาให้ลูกไม่จบไม่สิ้น”
หญิงสาวยิ้มบางๆ “แต่พ่อก็รักน้าภาไม่ใช่เหรอคะ”
คนเป็นพ่อชะงักเมื่อได้ยินลูกถามเช่นนั้น ก่อนยิ้มอ่อนโยน
“พ่อไม่เคยรักใครไปมากกว่าแม่ของลูกหรอกนะ”
“อรรู้ค่ะพ่อ” แววตาคนพูดหม่นลง “อรถึงยอมให้พวกนั้นเข้ามาในบ้าน เพราะอรไม่อยากให้พ่อเหงา”
เธอทำงาน ไม่มีเวลามากพอที่จะคอยดูแลบิดา เมื่อพ่อได้พบกับผู้หญิงคนใหม่ จึงจำยอมให้เข้ามาอาศัยชายคาเดียวกัน เพราะอย่างน้อยพ่อคงไม่ต้องเหงาเพียงคนเดียว
อำพันธ์ลุกยืนแล้วนั่งเคียงบุตรสาว โอบไหล่ลูกไว้
“พ่ออยากให้อรเข้าใจ พ่อรักอรมาก และไม่ต้องการให้อรต้องเป็นทุกข์ พีรดาเป็นคนผิด และคนที่ผิดที่สุดคือโยธิน พ่อดีใจที่อย่างน้อยอรก็รู้ความจริงก่อนสายเกินไป ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ โยธินจะสวมเขาให้เราอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้”
“เพราะแบบนี้ อรถึงยังให้น้าภาอยู่ในบ้านของเราค่ะพ่อ อย่างน้อยพีรดาก็เอาผู้ชายเลวๆ ออกไปจากชีวิตอร” อรปรียาบอกน้ำเสียงเจือไปด้วยความร้าวราน
“พ่อขอให้อรทำใจกับเรื่องนี้ได้โดยไว พ่อไม่อยากเห็นอรเป็นทุกข์รู้ไหม”
หญิงสาวกัดฟันแน่น “ไม่ต้องห่วงอรหรอกนะคะพ่อ อรเจ็บไม่นานหรอกค่ะ”
มือยกลูบศีรษะลูกแผ่วเบา แล้วระบายลมหายใจ เขาไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย แต่สองแม่ลูกนั้น ดันเลี้ยงไม่เชื่องเสียได้