CHECKMATE :: CHAPTER 3 [70%]

1840 Words
มองแผ่นหลังกว้างที่เดินจากไป รู้อะไรหรือเปล่า ฉันทำได้เพียงแค่มองแผ่นหลังของโยอยู่แบบนี้เสมอ ไม่สามารถยืนเคียงข้างกันได้ ไม่มีวันนั้นเลยด้วยซ้ำ ฉันคิดอยู่เสมอว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับมัน ใช่ ฉันน่ะชอบมัน ชอบโยมาได้สักพักแล้ว เหตุผลที่ชอบฉันไม่อาจรู้ได้หรอกนะ รู้แค่ว่าฉันเผลอใจเต้นเวลาได้ใกล้ชิดกัน ความรู้สึกของฉันที่มีต่อมันเริ่มแรงขึ้นตอนปีสามลามมาถึงปี่สี่และถึงตอนนี้ ตอนนั้นฉันยังไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองรู้สึกยังไง กระทั่งปีสี่ เป็นปีที่ฉันฮอตมากที่สุดก็ว่าได้ รุ่นน้องและรุ่นเดียวกันต่างพากันจีบไม่เว้นวัน และโยเป็นคนเดียวที่สามารถทำให้คนพวกนั้นหายไป คือการที่ฉันอยู่ใกล้ชิดมันตลอด คนในนี้ไม่มีใครคิดอะไรหรอกเพราะว่าเราเป็นเพื่อนกัน แต่สำหรับฉัน... คิดมาตลอด จนกระทั่งความรู้สึกเริ่มชัดเจนมากขึ้น และจะยิ่งทวีขึ้นไปอีก “ดาว อีกประมาณสองวันมั้งจะมีงานมหาลัย คณะเราจะขายน้ำกันเธอว่าโอหรือเปล่า?” “ก็ดีนะ หรือไงจะทำแพนเค้กกินคู่กับน้ำปั่นดีล่ะ” “อืมเข้าท่านะ งั้นฉันให้เธอจัดการเรื่องนี้ได้เปล่า ส่วนไอ้โยมึงก็จัดหาอุปกรณ์ทุกอย่าง โฟมเป็นคนกระจายข่าว คนจะได้มากินน้ำร้านเราเยอะๆ จะได้มีกองทุนเก็บไว้ทำกิจกรรมด้วย” เถื่อนอธิบายถึงงานมหาลัยที่จะจัดขึ้นทุกปี และทุกคณะจะต้องมีการขายของกัน และปีนี้เถื่อนเลือกให้ขายน้ำปั่น แน่นอนว่าระดับเถื่อนไม่มีเหล้ามาผสมแน่นอน “ได้ ว่าแต่จะเอารุ่นน้องมาช่วยด้วยเปล่า แบบมาเสิร์ฟงี้ น้องๆ น่ารักนะ” “อืม เห็นด้วย งั้นฉันยกหน้าที่นี้ให้ดาวแล้วกัน เดี๋ยวไปหาอาจารย์ก่อนจะได้แจ้งเรื่องนี้” ฉันจดรายละเอียดลงในสมุดจดและมองเถื่อนกับโฟมที่เดินออกไปพร้อมกัน “ดาว” “อะไร?” “ใส่ชื่อน้องน้ำใสไปด้วยสิ น้องน่ารักมาช่วยงานแบบนี้คนเข้าร้านคณะเราแน่นแน่ๆ” “ทำไม มีฉันทั้งคนทำไมจะต้องใช้น้องด้วย” “โห อย่างแกอะทุกคนเห็นกันหมดแล้ว แถมยังกลัวอีกต่างหาก แต่น้องน้ำใสอะ ยังเว้ย ใส่ไปๆ” โยหยิบสมุดที่ฉันกำลังจดรายชื่อน้องๆ ใส่ลงไปเติมชื่อน้ำใส รอยยิ้มผุดขึ้นจนฉันได้แต่จับจ้องใบหน้ามันอยู่แบบนั้น “ธีมแฟนซีเหรอ? น่าสนุกแหะ” “เอามา” น้ำเสียงนิ่งเรียบจนโยคืนสมุดให้ และฉันก็นั่งจดรายชื่อรุ่นน้อง ร้านที่จะไปเช่าชุดแฟนซี เพราะมีเวลาเตรียมตัวแค่สองวันเท่านั้น “เย็นนี้พาฉัน...” “ไปเตรียมงานก่อนดีกว่า เผื่อจะเจอน้องน้ำใส” โยเดินผิวปากออกจากห้องไป ส่วนฉันก็นั่งพิงโซฟามองประตูที่ปิดลงไล่สายตาไปมองชื่อของน้ำใส ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ? ก็แค่เพื่อนนี่นา หวง หึงก็ทำไม่ได้ด้วยซ้ำ เหอะ ฉันเรียกรุ่นน้องที่มีรายชื่อมาประชุมกัน ทุกคนต่างเห็นด้วยกับสิ่งที่ฉันเสนอ และพรุ่งนี้ฉันก็จะแบ่งหน้าที่ให้แต่ละคน ตอนนี้เป็นเวลาหัวค่ำที่ฉันจะต้องไปจัดการเรื่องชุดแฟนซี หากแต่ว่าก็ไม่มีใครว่างเลยสักคน และคนที่พอจะว่างก็ไปยืนเคียงข้างน้ำใสที่กำลังช่วยกันจัดสถานที่ “โย พาไปร้านชุดแฟนซีหน่อย” “ไม่ว่าง เห็นมะว่าทำไรอยู่” “โย เรื่องชุดสำคัญ สถานที่จัดพรุ่งนี้ยังได้เลยนะ” “ไม่เอา จะอยู่ช่วยน้องน้ำใส” มันแยกเขี้ยวใส่ จนฉันอยากจะจับมันซ้อมตรงนี้ให้อายรุ่นน้องเลย แต่ช่างเหอะ ขี้เกียจจะสนใจล่ะ ไม่ได้เรื่องสักคนเลย ฉันไปเองก็ได้วะ! เมื่อเดินจากคณะก็ใช้เวลาพอดู แต่ก็ต้องผ่านคณะต่างๆ และตอนนี้ฉันก็มาหยุดที่คณะนิเทศศาสตร์ ที่หยุดไม่ใช่เพราะอะไร หยุดเพราะคนตรงหน้ากำลังเตรียมงานมหาลัยเช่นกัน เขากำลังถ่ายรูปหน้าคณะ เด็กคนนั้นดูดีมากเวลาจับกล้องขนาดใหญ่ ฉันจะไม่มองเขาหรอกนะถ้าหากเพื่อนของเขาไม่สะกิดให้ใบหน้าหล่อผละจากเลนท์กล้อง “คุณดาวเหนือ” เหตุที่ไม่อยากเจอหน้าก็เพราะเรื่องที่เขาจูบฉันน่ะสิ ไม่อยากจะโมโหไปมากกว่านี้หรอก แต่จะทำยังไงได้เล่า มันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว “เดี๋ยวสิครับ จะไปไหน?” “ยุ่งอะไรด้วย” “ยังโกรธผมอยู่เหรอ” “เออน่ะสิ ไม่โกรธก็บ้าแล้ว!” ฉันตะคอกเขาจนเพื่อนของเขาที่ชื่อบอลมองอย่างมึนงง สงสัยนัมคงจะไปอยู่ที่คณะฉันแน่ถึงได้ไม่เห็นแบบนี้ อาร์ยังคงเดินตามฉันแถมยังถือวิสาสะคว้าต้นแขนฉันไว้ “ปล่อย” “จะไปไหนครับ ให้ผมไปส่งแล้วกัน” “ไม่ต้อง” “นะครับ ผมอยากให้คุณหายโกรธผมเรื่องจูบ” “นะ นี่! จะพูดทำซากไร” มือยกขึ้นปิดปากเขา มองนักศึกษาที่เดินผ่านไปมา จะได้ยินหรือเปล่าเนี่ย? เสียชื่อฉันหมดเลย “ก็ถ้าไม่ให้ผมไปส่ง ผมก็จะพูดว่าผมจูบคุณ และคุณก็... อั่ก!” “จะไปส่งก็ไป จะรอ!” กำปั้นของฉันชกเข้าไปที่หน้าท้องแกร่งจนอาร์แทบจะทรุดตัวลง เขายิ้มกว้างแต่สีหน้ากลับบิดเบี้ยวไปมา และบอกฉันด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ว่าให้รออยู่ตรงนี้ ไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองหัวเราะออกมาได้ยังไงเวลาเห็นเขาโดนฉันทำร้าย คนแรกเลยนะ... คนแรกที่ยังยืนได้ ยังยิ้มได้เวลาโดนฉันซ้อมอะ โรคจิตชอบความรุนแรง น่าขยะแขยงสิ้นดี! รถหรูของอาร์มาจอดที่หน้าร้านชุดแฟนซีที่ฉันนัดไว้ ร้านนี้ฉันรู้จักกับเจ้าของที่เป็นสาวประเภทสองร่างใหญ่ใจเป็นหญิง เขาชื่อพี่หนูนาเมื่อก้าวเข้ามาในร้านพี่หนูนาและเพื่อนอีกสามสี่คนต่างพากันมองฉันที่ยกมือไหว้ “สวัสดีค่ะพี่หนูนา” “ตายแล้ว! น้องดาวเหนือพาผู้มาให้พวกเราเหรอคะเนี่ย” “ห๊า... เออ” “หล่อจังเลยอ่า อุ๊ยตาย ฉันก็ลืมแต่งหน้าด้วยอะดูสิๆ” หันไปมองร่างสูงที่ยืนเกาศีรษะตัวเอง ก่อนจะส่งยิ้มให้กับทุกคนที่พร้อมจะใจละลายไปกับรอยยิ้มของเขา และฉันก็ไม่เคยรู้หรอกนะว่ารอยยิ้มของเด็กคนนี้มันมีประกายอะไรบางอย่างที่ทำให้คนเห็นสามารถตายแทบเท้าได้ ยกเว้นแค่ฉันที่ไม่ได้รู้สึกละลายเลยสักนิด “แฟนเหรอจ๊ะน้องดาวเหนือ งานดีนะเนี่ย ตาถึงมาก” “ไม่ใช่ค่ะ หมอนี่แค่...” “แค่ตามจีบน่ะครับ แต่คุณดาวเหนือไม่เล่นด้วย” “งือ มาตามเจ๊สิรูปหล่อ เจ๊เล่นด้วยแน่นอน” “พี่หนูนาคะ หนูมาเพราะต้องการชุดนะคะ” “จิ๊ ดุจริงแม่ก็อตซิล่า” “อุ๊บ!” “หัวเราะอะไร?” อาร์ส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินไปนั่งรอฉันที่โซฟา และหวังว่าพอฉันออกมา เด็กคนนั้นจะอยู่ครบสามสิบสองนะ ฉันเดินตามพี่หนูนาไปชั้นบนของร้าน มองชุดแฟนซีแม่มดสาวที่พี่หนูนาเลือกไว้ให้ “เป็นไงเหมาะหรือเปล่า พี่ว่าพวกเธอโตแล้วก็น่าจะใส่ได้นะ อาจารย์มาตรวจหรือเปล่าล่ะ?” “ก็คงจะมีบ้างค่ะ แต่เป็นงานประจำปีมหาลัยก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” “เธอโอเคหรือเปล่าล่ะ ถ้าไม่พี่จะได้เตรียมให้ใหม่” “ไม่ค่ะ เหลือเวลาไม่มาก หนูเชื่อใจพี่หนูนาค่ะ” ชุดแม่มดที่พี่หนูนาจัดให้มันไม่ได้โป๊อะไรมากขนาดนั้นหรอกนะ ถ้ามองเป็นแบบชุดแฟนซีแนวชุดแม่มด สวยลึกลับ เซ็กซี่ ชุดนี้ไม่โป๊แต่ดูเซ็กซี่มากๆ ด้วยสีโทนหรูน้ำเงินเข้ม กระโปรงข้างในเป็นกระโปรงสีดำทรงตรง ตัวนอกออกเป็นแนวคอเซ็ทตั้งแต่ใต้อกลงมา ด้านหลังยาว ด้านหน้าแหวกเพื่อให้เห็นกระโปรงสีดำข้างใน เสื้อเหมือนจะเป็นเกาะอก และมีหมวกแม่มดด้วย แต่ฉันว่าจะไม่เอาหรอก เพราะถ้าเสิร์ฟของไปด้วยมันคงจะเกะกะน่าดู “ตกลงหนุ่มคนนั้นไม่ใช่แฟนเหรอ?” “ไม่ใช่คะ เด็กคนนั้นพูดแบบไหนก็แบบนั้นล่ะ” “จ้าๆ แม่คนสวยเลือกได้ ไม่เห็นจะเอาใครสักคน เป็นเลสเบี้ยนเปล่ายะหล่อน” ฉันส่ายหน้าไปมา จะเป็นได้ไงคะพี่หนูนาก็คนที่หนูชอบน่ะคือเพื่อนสนิทชายที่ไม่สามารถบอกความในใจออกไปให้มันฟังได้ ฉันชะโงกหน้าลงไปมองอาร์ที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อนพี่หนูนา ใบหน้าหล่อยิ้มแย้มและดูอ่อนน้อมถ่อมตนมากๆ โดยไม่ได้นึกรังเกียจพี่ที่เป็นสาวประเภทสองเลยสักนิด ถ้าเป็นคนอื่นคงจะไม่ชอบหรอกที่ตัวเองถูกล้อมแบบนี้ “อาร์” “ครับ?” “มาช่วยขนชุดหน่อยสิ” เขาเงยหน้ามองฉันพลางพยักหน้าและลุกเดินขึ้นบันไดมาหอบเอาชุดแฟนซีมาไว้ในอก ก่อนจะเดินลงไปด้านล่าง “ถ้าไงหนูกลับก่อนนะคะ เดี๋ยวเลิกงานแล้วจะเอาชุดมาคืน” “ย่ะ โชคดีนะคะน้องอาร์ ว่างๆ มานั่งคุยกับพวกนี้ก็ได้นะ” “ยินดีเลยครับ” ฉันมองอาร์ที่ยิ้มและโค้งศีรษะให้กับพวกพี่ๆ เราสองคนมาถึงคณะในเวลาต่อมา ซึ่งตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วย แต่ทุกคนในมหาลัยยังคงตั้งหน้าตั้งตาจัดบูธในคณะของตัวเองอย่างขยัน “เอาไว้ตรงนั้นเลย” อาร์พยักหน้ารับเมื่อมาถึงห้องของเถื่อน ฉันให้เขาเอาชุดไปวางไว้บนโต๊ะยาว ก่อนที่เขาจะเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ดึงเสื้อเชิ้ตนักศึกษาไล่ความร้อนจากด้านในออกมา มือหนึ่งเสยผมขึ้นไปอย่างเหนื่อยหอบ ฉันเห็นแบบนั้นเลยหยิบกระป๋องน้ำอัดลมในตู้เย็นมาส่งให้เขาและนั่งลงเคียงข้างกัน “เหนื่อยล่ะสิ” “นิดหน่อยครับ บันไดคณะคุณชันมาก” “โทษทีนะ พอดีลิฟต์ที่ใช้อยู่มันปรับปรุงน่ะ เลยต้องเดินเอา” ฉันกระดกน้ำอัดลมเข้าปากบ้าง เหนื่อยจริงๆ นั่นแหละ เราสองคนต่างเงียบกันไปพักใหญ่จนฉันยกนาฬิกาที่ข้อมือดู
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD