“ไอ้นัมล่ะครับ”
“พาโฟมไปกินข้าวข้างนอกมั้ง ช่วงนี้มหาลัยวุ่นๆ เรื่องรับน้อง เลยแทบจะไม่มีเรียน”
“ใช่ครับ คณะผมก็เหมือนกัน ว่าแต่ทำอะไรอยู่เหรอ ให้ผมช่วยนะ”
“ไม่ต้อง มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยไป”
“มาทางนี้ครับ” นิ้วมือของผมชี้ไปยังตำแหน่งอกซ้ายของดาวเหนือ เธอก้มหน้าลงมองตามมือผมและทำหน้าโกรธจนผมมึน
“ทะลึ่ง! มาทางนมฉันหรือไง”
“เปล่าครับ ผมหมายถึงมาทางใจ”
“แล้วไป... ห๊ะ!”
“ครับ มาทางใจ และกลับทางใจได้หรือเปล่า” ผมอมยิ้มยามจับจ้องใบหน้าสวย หากแต่คำพูดของผมไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวเลยสักนิด เธอกลับนั่งตัดกระดาษในมือราวกับคำพูดของผมเป็นเพียงลมผ่านหู หรือไม่ผ่านเลยด้วยซ้ำ
“ผมช่วยนะครับ ว่างๆ”
“ว่างนักก็ไปหาผู้หญิงของตัวเองสิ”
“ไม่มีหรอกครับ”
“แถตลอด แล้วไอ้ที่ควงเมื่อวานไม่ใช่?”
“อย่าเพิ่งหึงนะครับ นั่นแค่หมากฝรั่งเวลาอยากเคี้ยวก็เท่านั้น”
“ใครหึง พูดดีๆ ดิ” เธอเอากรรไกรมาชี้หน้าผม แต่ส่งให้ซะมากกว่า ผมยิ้มและก้มลงตัดกระดาษที่ดูเหมือนเธอจะเอาไปแปะงานหรืออะไรสักอย่าง
“ตัดไปไหนครับเนี่ย?”
“คณะฉันจะมีรับน้องไง เถื่อนสั่งให้ทำอะ”
“เขาเป็นเดือนคณะ”
“ใช่ สั่งไรก็ต้องทำ อีกอย่างฉันไม่มีไรทำด้วยก็เลยช่วยๆ เพื่อนและคณะไป” ผมพยักหน้ารับ มองดาวเหนือที่กำลังใช้คัตเตอร์กรีดไปตามกระดาษที่เป็นรูปภาพคล้ายๆ กับไม้บรรทัดแต่เป็นสามเหลี่ยม คงจะเป็นป้ายชื่อสินะ เพราะสัญลักษณ์ของคณะสถาปัตยกรรมคือไม้บรรทัดอะไรสักอย่าง ซึ่งผมจำไม่ได้แล้วล่ะ
“ระวังมือด้วยนะครับ”
“รู้หรอกน่า ฉันไม่ใช่เด็กนะ” เธอหันมาแหวใส่ผมตาเขียว ก่อนจะค่อยๆ กรีดคัตเตอร์ลงอย่างเชื่องช้า ผมก็จับจ้องมองอย่างไม่วางตา เพราะกลัวว่าจะโดนเนื้อจนเลือดตกยางออกสิ หรือจะกังวลมากไป คนอย่างดาวเหนือไม่เคยพลาดกับของเล็กน้อยแบบนี้หรอกนะ ผมตั้งใจตัดงานของตัวเองก่อนจะหันไปมองที่หน้าคณะก็เห็นโยเพื่อนในกลุ่มของเธอที่เดินมากับใครบางคนที่สวยพอใช้ได้ แต่คงจะอายุมากแล้วล่ะเพราะเธอไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษาแถมยังควงแขนกันด้วย
“เออคุณดาวเหนือครับ เพื่อนคุณมาน่ะ”
“ไหนอะ...!”
ชึบ!
“อ๊ะ”
“คุณดาว เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ผมตกใจไม่น้อยที่เห็นเธอร้องอุทานออกมาและมองไปยังนิ้วมือซึ่งมีเลือดสดๆ สีแดงฉาดไหลเลอะกระดาษขาวๆ จนมองเห็นชัด
“ดาว แม่ง! เป็นไรวะ” โยเดินมาแทรกกลางผมทันที ก่อนจะจับมือเธอไปดูและเอาปลายเสื้อเชิ้ตนักศึกษาของตัวเองกดไปที่นิ้วมือดาวเหนือ แต่เธอก็ชักมือออกสบตากับโยและผู้หญิงคนนั้น
“ไม่ต้อง ฉันไม่เป็นไร”
“ไม่เป็นไรได้ไง เลือดออกขนาดนี้!”
“ช่างเหอะ แล้ว...”
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อริสาค่ะ เป็นคนที่คุยกับโยตอนนี้” เท่านี้ผมก็รู้เลยว่าสองคนนี้เป็นอะไรกัน ผมไม่ได้สนใจเท่ากับคนตัวเล็กที่เดินก้มหน้าจากไป
“ไปไหนวะดาว!”
“ห้องน้ำน่ะสิ แกจะให้ฉันเลือดออกจนหมดตัวหรือไง”
“งั้นไป...”
“ไม่ต้อง อยู่กับแฟนแกไปเหอะ” ผมมองแผ่นหลังของดาวเหนือที่วิ่งเข้าไปในคณะ อดเป็นห่วงไม่ได้จำต้องขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ออกไปที่มินิมาร์ทหน้ามหาลัยและซื้อพลาสเตอร์ยาซึ่งเหลืออยู่แค่แพคเดียวคือลายรูปหัวใจ ไม่รอช้าขับรถตรงไปยังคณะของเธอแต่ก็ไม่เห็นวี่แววว่าเธอจะออกมาจากคณะ ผมเดินตรงเข้าไปซึ่งออกจะมึนงงมากเพราะคณะสถาปัตยกรรมช่างซับซ้อนมากจริงๆ สายตาของผมกวาดมองไปยังหน้าห้องน้ำก็เห็นดาวเหนือเดินออกมา เธอมีสีหน้าที่ไม่ดีจนผมคิดว่าเธออาจจะเจ็บหนัก
“คุณดาวเหนือ”
“นาย... ยังไม่กลับไปอีกเหรอ?”
“ยังครับ แล้วแผลล่ะล้างสะอาดหรือยัง”
“อือ” เธอพยักหน้ารับและเดินสวนผมไป หากแต่ผมคว้าข้อมือเธอไว้และลากออกไปจากคณะเพื่อไปนั่งที่เดิมซึ่งไม่มีใครนั่งอยู่แล้ว
“ปล่อยนะ อยากโดนหรือไง!”
“นั่งครับ” ผมกดไหล่เธอให้นั่งลงก่อนจะคว้ามือซ้ายที่โดนมีดคัตเตอร์บาดมาวางบนหน้าตัก
“จะทำอะไร?”
“ผมไม่เอามือคุณมาช่วยน้องชายผมหรอกน่า”
“นะ นี่! เด็กบ้านี้ทะลึ่งชะมัด” เธอผลักศีรษะผม แต่ก็ต้องนิ่งไปเมื่อผมติดพลาสเตอร์ยาลงบนนิ้วเรียว รอยยิ้มผุดขึ้นเมื่อลายพลาสเตอร์ยาทำเอาผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“เรียบร้อยครับ ถ้าไม่ปิดไว้เชื้อโรคอาจจะเข้าได้”
“เออ...”
“อะไรครับ?” ผมสบตากับดาวเหนือ เธอนิ่งไปเบือนหน้าหนีหันไปทำงานต่อแต่ผมก็คว้าคัตเตอร์ไว้และเลือกที่จะเอางานส่วนตัวเองให้เธอทำ
“ผมทำเองครับ เดี๋ยวโดนอีก”
“ขอบใจ”
“ครับ?”
“ขอบใจ...” ใบหน้าของดาวเหนือเรียบเฉย ยามมองลงไปยังงานของตัวเอง จู่ๆ หัวใจของผมก็เต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ ขยับตัวเข้าไปใกล้เธอโน้มใบหน้าเข้าไปชิดกับใบหูที่มีต่างหูไม่ต่างจากผม กลิ่นหอมจากกายเธอทำให้ผมตื่นตัวจนแทบจะบ้าตาย! ยามสายตาเลื่อนมายังริมฝีปากแดงน่าจูบมันก็ยิ่งกระตุ้นความต้องการภายในใจมากขึ้นไปอีก
ให้ตายสิ อยากจูบเป็นบ้าเลย