ตอนที่ 10

1279 Words
“ถ้ากัลย์ทำอย่างนั้นก็เท่ากับว่ากัลย์เป็นคนที่แย่มากสิครับ และเนรคุณพี่สาวของตัวเองลงอย่างนั้น พี่อรเพราะพี่อรนั้นเป็นยิ่งกว่าแม่ของกัลย์เสียอีกแบบนี้กัลย์จะมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อแม่คนที่สองของตัวเองได้อย่างไรมันบาปครับ” กัลย์บอกพี่สาวทำให้หล่อนเข้าใจและยิ้มด้วยความตื้นตันปีติที่น้องสุดที่รักเคารพหล่อนถึงเพียงนั้น นับได้ว่าเท่าที่หล่อนนั้นอุตสาหะพากเพียรทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อจุนเจือเลี้ยงดูน้องชายคนนี้ตั้งแต่วัยเยาว์ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย ที่หล่อนยอมทนทุกอย่างยอมเหนื่อยมาทุกอย่างนั้นเพื่อน้องชายและสมหวังแล้วหล่อนขอแค่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่สาวคนนี้ทำมาเพื่อน้องชายและขอให้กัลย์เป็นคนดีของสังคมก็พอใจแล้วค่าที่หล่อนเลี้ยงดูน้องด้วยความรักเอาใจใส่และหล่อนไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนจากเขานั้น “ก็กัลย์หมายถึงพี่ภุมมินทร์มากกว่าต่างหากล่ะครับพี่ภุมมินทร์เขาสนใจพี่อรถ้าเป็นอย่างนี้ พี่อรอย่าปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปนะครับ” น้องชายเอ่ยเชียร์ “แหม เล่นไปเชียร์คนอื่นมากกว่าพี่ของตัวเองเชียวนะกัลย์” หล่อนค้อนใส่น้องชายเบาๆกัลย์เอาแต่ยิ้ม “อ้าว เพราะผมมีเหตุผลไงครับ ผมอยากได้คนที่ปกป้องพี่สาวของผมได้ตลอดชีวิตและผมก็เห็นแล้วเขาเข้ามาใกล้พี่อรมากและโอกาสแบบนี้หายากนะครับคนที่เรารู้จักสนิทสนมดีกว่าคนที่เราต้องไปเสาะแสวงหาจากที่อื่นซึ่งไม่รู้ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ ” น้องชายกำลังจะพูดให้หล่อนได้คิด และหล่อนจะทำตามที่น้องชายบอกและขอร้องตามไหมอร จะว่าไปภุมมินทร์ หล่อนก็รู้สึกรักเขาเหมือนกันรักตรงที่ความดีของเขา ทำให้หล่อนเห็นเสมอต้นเสมอปลายและหล่อนกำลังตอบตกลงกับเขา ว่าหล่อนจะแต่งงานกับเขาด้วย และจำได้ว่าภุมมินทร์ได้เอ่ยขอกับเธออีกครั้ง ตอนที่ขับรถมาส่งที่บ้านและหล่อนจะขอรอให้คำตอบของเขาในวันพรุ่งนี้และที่แน่นอนนั้น หล่อนจะตอบตกลงอย่างแน่นอน เขานั่งมองดูซุ้มไม้เลื้อยอย่างสายน้ำผึ้งเถาพวงครามที่เลื้อยลอดพาดพันอยู่บนโครงเหล็กนอกหน้าต่าง อีกครั้งหลังจากผละจากพี่สาว มันส่งกลิ่นหอมอ่อนๆลอยมาปะทะจมูก ขณะที่กัลย์ณพเริ่มที่จะตรวจงานของเด็กใหม่อีกครั้งเพราะค่อนข้างเยอะทีเดียวจนบางครั้งสมองเบลอไปสลับด้วยการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมแผนการสอนในวันรุ่งขึ้น ดังนั้นช่วงนี้เขามักจะนอนดึกทุกวันอีกอย่างคิดถึงเรื่องพี่สาว ถ้าพี่สาวแต่งงานออกเรือนไปนั้น เขาสุดแสนจะดีใจมากที่สุดไม่ใช่เป็นอารมณ์ผลักไส เขาต้องการให้พี่สาวมีความสุขเหมือนมนุษย์ทั่วไปที่มีครบครันไม่ใช่อยู่ตัวคนเดียวอย่างน้อยน้องชายอย่างเขาคิดว่า พี่สาวของเขานั้นควรจะมีสามีดูแลเพราะจะเป็นความสุขที่แท้จริงและเท่าที่ดูแล้วพี่ภุมมินทร์คนนี้นั้นรักพี่สาวของเขาเป็นอย่างมาก มองไม่เห็นสิ่งที่ไม่ดีหรือบกพร่องแต่ถ้ามีก็ทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก เช่นเจ้าชู้เป็นเรื่องที่กัลย์จะให้พี่สาวของเขาหลงรักคนเจ้าชู้เลย เพราะกัลย์เองไม่ใช่คนเจ้าชู้ ไม่ถึงกับเกลียด แต่ว่าไม่ชอบเท่านั้น ที่บ้านพักหลังหรูงดงามสมเป็นคฤหาสน์ราคาประมาณพันล้านของครอบครัวนี้ สรัยภาหญิงสาวกำลังจะออกจากบ้าน หลังจากกลับจากที่ทำงานก่อนที่จะออกไป ก็ได้จ้ำจี้จ้ำไชให้บรรดาหลานๆทำการบ้านให้เสร็จ กำชับไว้ด้วยถ้าไม่เสร็จกลับมาจะถูกทำโทษ หลานทั้งสองกลัวจะตัวหงอกับคำขู่ของน้าสาวรีบตั้งหน้าตั้งตาทำการบ้านพอหล่อนรู้สึกวางใจแต่การบ้านนี่สิ นึกตำหนิครูเด็กตัวกะเปี๊ยกเท่านี้ ทำไมให้การบ้านเยอะจังยังกะเด็กมัธยมเลย เพราะมีนัดไว้กับจิรัชย์หล่อนแต่งกายในชุดที่เด่นเช่นเคยในค่ำของวันนี้เสื้อแขนกุดสีม่วงกระโปรงยาวคลุมเข่าสีน้ำตาลตัดกับผิวที่ขาวราวกับหยวกกล้วยก้าวลงจากบ้านด้วยท่วงท่าที่มีเสน่ห์เพราะหล่อนทั้งสวย เริดเชิดหยิ่งสวยราวกับนางพญา เมื่อไปถึงแล้วปรากฏว่าจิรัชย์ เป็นคนคอยหล่อน หล่อนเอ่ยถาม และขอโทษเพื่อน และอ้างว่าเป็นเพราะการจราจร “ฉันขอโทษนะจิ เธอมาคอยฉันนานแล้วหรือยังรถติด” คนที่นั่งรอคอยเพื่อนมานานแล้วถึงกับทำหน้าเซ็งเอ่ยตอบบ่น ในการมาช้าครั้งนี้ “แหม..มาถามได้เล่นมาซะป่านนี้ นี่มันปาเข้าเกือบยี่สิบนาทีแล้วนะยายภาเธอนี่” “ก็ขอโทษแล้วนี่นานะจ๊ะหายโกรธหายงอนฉันเถอะจิ” พยายามเอ่ยเอาใจเพื่อน สีหน้าของจิรัชย์นั้นมีแววหงุดหงิดเล็กน้อยแต่ในที่สุดก็อ่อนลง เพราะสรัยภานั้นมีคำพูดที่ทำให้เพื่อนหนุ่มหายงอนและโกรธลงได้ จากนั้นทั้งคู่ก็ก้าวเข้าไปข้างในผับแห่งนี้ที่ดูค่อนข้างเงียบ เพราะจิรัชย์มายืนคอยหล่อนอยู่ข้างนอกอาจจะเป็นเพราะแขกยังไม่ทยอยมากันเหมือนช่วงตอนดึกแต่สรัยภาก็ชอบบรรยากาศแบบนี้ เพราะเงียบสงบดีโดยเฉพาะมีแพลงฟังสบายเป็นเพลงสากลทำนองหวานและโรแมนติกฟังแล้วชวนเคลิบเคลิ้มให้อารมณ์ยิ่งนักกับค่ำคืนเวลานี้สลับกับเพลงแจ๊สเป็นระยะ จิรัชย์จ้องมองหน้าของสรัยภาและดูเหมือนว่าสรัยภาเพื่อนรักนั้นมีเรื่องครุ่นคิด ทำให้ต้องเอ่ยถาม “เธอเป็นอะไรไปหรือภาฉันดูแล้ว ท่าทางของเธอไม่ค่อยจะแฮปปี้เลยกับการมาเที่ยวครั้งนี้ นี่มีอะไรซีเรียสหรือเปล่าบอกฉันมาก็ได้” เมื่อเพื่อนถามอย่างนี้ สรัยภาเองสะดุ้งเล็กน้อยเพราะจิรัชย์ช่างสังเกตดูตัวหล่อนเหลือเกิน แต่ก็ตอบเพื่อนไปว่า “ก็ไม่มีอะไรหรอกน่า ” “จริงหรือเปล่าที่ไม่มีอะไร” ถามเพื่อนรักเหมือนไม่เชื่อ “นี่เธอบอกฉันได้นะภาแต่ฟังไม่ขึ้นหรอก ฮึไม่มีอะไรได้ยังไงก็ดูทำหน้าเข้าสิยังกะแบกโลกไว้นี้ทั้งใบเลย” หล่อนคิดในใจ ถึงขนาดนี้เชียวหรือ “นี่ฉันเครียดก็จริงแต่ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกจิรัชย์” หล่อนดุใส่เพื่อนทำสีหน้าเคืองใส่ จนทำให้จิรัชย์ยิ้มให้ “ก็แหย่ภานั่นล่ะ ถ้าไม่นึกแหย่ภาฉันก็ไม่รู้จะแหย่ใครดีทำให้หัวเราะออกมาบ้าง เคืองบ้างจะได้อารมณ์ดี ดีกว่านั่งหน้าหงิกอยู่เฉย” “อ๋อนี่แกล้ง ใช่ไหมอีตาจิรัชย์ นึกว่าจะห่วงเราด้วยใจจริง” สรัยภางอนตอบ พูดพร้อมกับนิ่งเงียบไม่พอใจเหมือนกัน “ไม่ใช่อย่างนั้นนะก็จิน่ะหวังดีหรอกและเข้าใจตามใจภาทุกอย่างเลยนะ และอยากให้ภาสบายใจสุขใจเท่านั้นเอง” “ไม่ชอบให้ทำหน้าเศร้าถ้ามีปัญหาก็บอกมาเถอะยัยภา” แต่สรัยภายังเงียบ คล้ายครุ่นคิดไปถึงเรื่องอื่น

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD