ตอนที่ 2 ชื่อตอน วันไหว้พระจันทร์ 18+

1502 Words
ในเช้านี้นางร้องไห้งอแง นางกอดร่งฉีที่มีกายอุ่นร้อน และมีร่างกายที่แข็งแรงร้อนรุ่มไปหมด ที่ผ่านมานางนั้นได้อยู่ในอ้อมแขนของร่งฉี ในยามที่หลบหนีไปเจอความโหดร้ายของลมหนาว และในยามสุดท้ายแห่งความตาย ความอุ่นร้อนนี้ทำให้นางเขินอายขึ้นมาในครานี้ เพราะนางมิได้หนาวและมิได้ถูกฝนธนูทิ่มแทงอยู่ จนมิรู้ถึงท่อนแขนกำยำและความอุ่นร้อนของลมหายใจของร่งฉีเฉกเช่นในยามนี้อีก จากที่นางนั้นกำลังร่ำไห้ นางกลับเริ่มซุกซนแสร้งส่งเสียงร่ำไห้ออกมา แต่ทว่านางนั้นแอบกอดรัดร่งฉี จนคนนั้นกายเกร็งไปทั้งกาย ร่งฉีหายใจติดขัดแล้วก็กำลังมีความตื่นตัวเช่นบุรุษเพศขึ้นมาแล้ว นางกอดและลอบมองลงไปที่บางส่วนที่ใต้เนื้อผ้าของร่งฉี ก่อนที่นางนั้นจะพบว่า ร่งฉีนั้นเป็นบุรุษเต็มกายแล้ว และร่งฉีนั้นกำลังตื่นตัวเช่นบุรุษเพศกับนางแล้ว หลันเสวี่ยเพิ่งคิดสิ่งมิสมควรและลามกขึ้นมาได้ นางที่มิเคยมองร่งฉีมาก่อนเลยในชีวิต กลับคิดยั่วยวนร่งฉีขึ้นมาในทันที “ร่งฉีเจ้าสัญญากับข้านะ ว่าจะมิทิ้งข้าไปที่ใด เจ้าจะปกป้องข้า เจ้าสัญญากับข้าเถิดร่งฉี “ “อึ่ก คุณหนู คุณหนู ท่าน อึ่ก อร่า “ ร่งฉีเบ้หน้าทำเสียงอึ่กอักขึ้นมาในลำคอ ในยามที่นางนั้นลูบไล้ไปบนอกแกร่งอย่างชั่วร้าย นางป่ายปัดยอดอกตึงแน่นของร่งฉี แล้วยังลูบลงไปที่กลางกายของบุรุษเพศนั้น จนร่งฉีเอนกายลงกับเก้าอี้อย่างหมดเรี่ยวแรง แล้วร้องครวญครางดังขึ้นมา หลันเสวี่ยจดจำได้ว่า ในวันนี้นั้นนางจะได้พบกับฉูหวางเป็นคราแรก ฉูหวางจะมาล่องเรือชมแสงจันทร์ ก่อนที่นางนั้นจะได้พบบุรุษผู้นั้น แล้วสะดุดล้มลงไปในอ้อมแขนนั้นแล้วเขินอายหน้าแดง หัวใจเต้นสั่นเหมือนกลองศึก หากว่าในชาติก่อน นางนั้นอ่อนไหวต่อบุรุษเฉกเช่นนั้น เช่นนี้ในชาตินี้ นางก็ขอทดลองสัมผัสไออุ่นร้อนของกายบุรุษจากร่งฉีไปเสียก่อนเลยเถิด มิเช่นนั้นแล้วเมื่อนางได้พบฉูหวางในราตรีนี้ นางคงจะคิดฝันถึงความร้อนของบุรุษไปตลอดยาม ในเมื่อนางนั้นจะติดใจเรื่องราวโง่เขลาเช่นนี้ เช่นนั้นนางก็จะทดสอบความรู้สึกนี้กับร่งฉีไปก่อนเสียเลยล่ะ ฮึ่ม ร่งฉีที่มิคิดว่าคุณหนูของตนที่เคยเย็นชามาตลอด จะทำเรื่องน่าอับอายลวนลามตนเองเช่นนี้ได้ ยามนี้ร่งฉีทั้งตกใจทั้งตื่นตัวจากฝ่ามือนุ่มๆแล้ว ร่งฉีคว้าฝ่ามือของนางที่บีบลงไปที่แก่นกายอุ่นร้อนที่กลางกาย แล้วเร่งขืนกายจะลุกหนีออกไปอย่างทรมานตน “คุณหนูท่านทำเรื่องน่าอายแล้ว หยุดนะ อึ้ก โอ้ว ซี้ด อุ๊ คุณหนู “ ร่งฉีนั้นหลงรักคุณหนูของตนเองมานานแล้ว ในยามนี้ได้ใกล้ชิดนางในยามเช้ายังมิพอ ยังได้พบว่านางร่ำไห้จับมือของตนลงไปซบกับแก้มนุ่ม ร่งฉีจึงตื่นตัวขึ้นมา คิดอกุศลในยามที่กำลังปลุกปลอบนางอยู่แล้ว แต่ทว่ามิคิดว่าคุณหนูของตนจะเปลี่ยนอารมณ์ของตนเอง จากสตรีที่น่าปกป้องมาเป็นปีศาจน้อยจอมซุกซนขึ้นมาได้เฉกเช่นนี้ ร่งฉีแอ่นกายขึ้นมาจนมิติดพื้น สัมผัสแรกจากคุณหนูนั้นช่างทรมานนัก นางทั้งหอมทั้งนุ่ม แม้ฝ่ามือที่บีบลงมาแรงๆที่กลางกายนั้นก็ยังนุ่ม ร่งฉีที่เคยใช้ฝ่ามือหยาบกระด้างของตนเองนั้น ช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานอยู่ในทุกราตรี ก็ทานทนมิได้อีก น้ำหวานทะลักพุ่งออกมาใส่ใบหน้าของคุณหนูจนเปรอะเลอะไปทั้งตัว ใบหน้าหวานดูตกใจขึ้นมาน้อยๆ และส่งสายตาชั่วร้ายยั่วยวนออกมา พร้อมๆกับยกฝ่ามือนุ่มที่เปรอะเปื้อนคาวราคีขึ้นมา แล้วแลบลิ้นน้อยๆตวัดลงมาเลียน้ำขุ่นคาวนั้นอย่างยั่วราคะ จนร่งฉีนั้นทรุดกายไหลลงในพนักพิงเก้าอี้ อย่างยอมแพ้ขึ้นมาในทันที “ท่านทำเกินไปแล้วคุณหนู นี่เป็นคราแรกของข้าที่ได้สัมผัสสตรี ท่านมันมิมีความเป็นสตรีเอาเสียเลย ท่านรังแกบุรุษ ท่านมันน่ามิอายเลยคุณหนู “ ร่งฉีทำหน้าจะร่ำไห้ ร้องประท้วงนางขึ้นมาอย่างอับจนหนทางสู้ ร่างบางทำดวงตาเจ้าชู้ใส่ และขยับกายไปดึงเสื้อของร่งฉี จนคนนั้นโน้มกายลงมาตามแรงดึงของนาง “เร่งไปนำอ่างน้ำมาชำระกายให้ข้าเสีย ก่อนที่เพ่ยเพ่ยจะมาถึงแล้วความแตกขึ้นมา เจ้าจะต้องแย่แน่ๆเลยล่ะนะร่งฉี “ หลันเสวี่ยเอ่ยออกมาอย่างชั่วร้าย นางขมขู่คนขึ้นมา ร่งฉีอับอายจนหน้าแดงก่ำ เร่งไปนำน้ำมาเช็ดไปตามใบหน้าขาวแล้วหนีออกไปที่ภายนอก มิกลับเข้ามาหานางอีกเลย หลันเสวี่ยหัวเราะขึ้นมา นางคล้ายสตรีมากวัยที่กลั่นแกล้งบุรุษน้อยๆได้เช่นนั้นเอง ร่งฉีในยามนี้นั้นน่ารักน่ารังแกยิ่งนัก ทั้งใบหน้าที่อ่อนเยาว์ไร้รอบแผลและร่างกายที่กำยำนี้ของร่งฉี มันน่าลูบน่าไล้มากกว่าอกตึงๆของฉูหวางจอมโฉดชั่วนั้นเสียอีกนะ หลันเสวี่ยคิดขึ้นมาเหมือนสตรีหม้ายที่ขาดแคลนบุรุษมานาน นางคิดแล้วก็เศร้าใจขึ้นมาน้อยๆ ยามที่เพ่ยเพ่ยไปนำยาแก้พิษเกสรของดอกอิงสุ่ยมาให้แล้ว ไข้เกสรดอกไม้ของนางก็หายไป นางที่เคยเลือกแต่งกายในสีที่ฉูดฉาด ก็เลือกผืนผ้าสีอ่อนหวานและยั่วยวนน้อยๆ ถือพัดกลมปิดใบหน้าออกไปอย่างยั่วยวนทุกย่างก้าวเลยทีเดียว ร่งฉีที่ยืนอยู่หน้าประตูห้อง มองตามนางไปอย่างกับคนละเมอเลยทีเดียว หลันเสวี่ยหัวเราะคิกๆ นางจะกลั่นแกล้งเจ้าคนทึ่มร่งฉี ให้หัวหมุนไปเลยทีเดียว “กลับมาได้ในครานี้ เจ้ามิมีทางรอดมือของข้าไปได้หรอกร่งฉี เจ้าตายแน่ๆ “ หลันเสวี่ยเข้าร่วมงานไหว้พระจันทร์ แล้วช่วยบิดามารดานั้นรับแขก ในยามปกตินั้น นางมิใคร่อยากจะสนทนากับผู้คนในสกุลเซี่ยผู้ใดนัก เพราะนางนั้นเป็นสตรีที่พองขน ยามนี้นางสำนึกแล้ว พี่น้องผู้ใดส่งผลไม้จากบ้านนอกหรือสิ่งของไร้ราคาใดๆมาให้นาง นางก็เร่งรับไว้แล้วให้อาเพ่ยไปนำสิ่งของในเรือนของนาง มามอบกลับไปในทันที เด็กสาวน้อยๆยามที่ได้ตุ๊กตาผ้าเลอค่าหรือพัดกลมแสนงดงามกลับไป ก็พากันมามุงดูโอ้อวดกัน หลันเสวี่ยหัวเราะขึ้นมาเบาๆ ท่านแม่ของนางถึงกลับน้ำตารื้น ดึงนางขึ้นไปกอดรัดในอกของนางทันที “บุตรสาวของแม่เติบโตแล้ว เจ้ารู้จักรักพี่น้องและแบ่งปันแล้ว “ หลันเสวี่ยที่มิค่อยใส่ใจท่านแม่ของนาง โผไปกอดรัดท่านแม่ของนางจนแน่น และเอ่ยวาจาออดอ้อนคนขึ้นมา “ท่านแม่ข้านั้นให้ของเล่นน้องๆไปหมดแล้ว เช่นนี้ท่านแม่ต้องพาข้าไปซื้อหาสิ่งของสวยงาม ที่ย่านการค้าอีกนะเจ้าคะ “ “อร่า เจ้าเด็กผู้นี้นี่ เจ้ามันร้ายนัก ที่แท้ก็เติบโตแล้วนั่นเอง เอาเถิด เอาเถิด เจ้าเป็นสาวแล้วแม่จะพาเจ้าไปซื้อหาสิ่งของสวยงามเอง เจ้าแต่งกายเช่นนี้ก็งดงามนัก แต่ทว่ายั่วยวนไปก็มิดี บุรุษทั้งเมืองนี้จะแย่งชิงกันมาสู่ขอบุตรสาวงดงามของเจ้าเมืองหวยเหอกันได้นะ เจ้าเด็กโง่ “ “โถ่ท่านแม่ ข้านั้นจะแต่งงานกับร่งฉี ให้ร่งฉีปกป้องข้า ติดตามข้าไปตลอดทั้งชีวิตนี้เลยทีเดียว “ “ตายแล้ว ดูเถิด เจ้านี่หน้าทนนัก ร่งฉีเติบโตแล้วเจ้าจะไปหยอกล้อเอ่ยวาจาเช่นนี้มิได้นะ มิเช่นนั้นหากร่งฉีตกหลุมพรางของเจ้าขึ้นมา ล้วนจะต้องมาคุกเข่าขออภัยจากท่านพ่อเจ้าแล้วนะ “ “ท่านแม่ก็ยกข้าให้ร่งฉีไปเลยซิเจ้าคะ หากข้าแต่งบุรุษอื่นใดที่มีราคา ก็ย่อมต้องไปจากเมืองหวยเหอมิได้พบท่านแม่อีก หากข้าแต่งงานกับร่งฉี ทุกวันๆข้าจะได้พบท่านแม่ ได้อยู่ในเมืองหวยเหอ มิต้องปะทะกับสตรีมียศศักดิ์ใดๆในเมืองหลวง สตรีอื่นอยากไปจากดินแดนนี้ แต่หลันเอ๋อร์นั้นอยากอยู่ที่นี่นะเจ้าคะ “
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD