อย่าเห็นแก่ตัว

2537 Words
สนามบินเคียฟประเทศยูเครน เถื่อนเดินจูงมือของรีโมตเดินลงมาจากเครื่องบินส่วนตัว เขามองรถที่ไนเจอร์ได้เช่ามาแล้วยิ้ม เพราะมันสวยและทันสมัยมากๆ และอีกห้าคนที่มารับเขานั้นคือคนพื้นที่ ทั้งห้าคนมากเพื่อพาเข้าไปที่พัก " เถื่อน! นี้นายมาที่นี่ทำไม?" รีโมตถามด้วยความสงสัย เพราะที่นี่คือยูเครน เมืองหลวงคือเคียฟ เถื่อนปลายตามองเธอเล็กน้อย " มาช่วยเขารบ หึหึ" เถื่อนตอบเล่นๆ รีโมตอ้าปากค้าง ตาโต เธอหยุดเดินและรีบยื้อยุดเขาเอาไว้ " ไม่ ! นายจะบ้าเหรอ" รีโมตเค้นเสียงรอดไรฟันออก พลางทำตาดุสั่งให้เขา เถื่อนแสยะยิ้มที่มุมปาก เขาอยากหัวเราะเสียงดังเพื่อเยาะเย้ยคนขี้ขาด รีโมตพยายามใช้เท้ายื้อพื้นซีเมนต์เอาไว้ " มาสิ เดี๋ยวเลือกอาวุธร้ายเเรงไม่ทันนะ " เถื่อนยังแกล้งอำต่อ รีโมตเริ่มมีเหงื่อไหลซึมออกมาที่หน้าผากและเสื้อของเธอ " ไม่ ฉันไม่รบบ้าอะไรทั้งนั้น " รีโมตพูดปฏิเสธสวนออกไป ตุบ! เถื่อนกระตุกมือของเขาแรง เพื่อดึงร่างของเธอมาซบอกแกร่งของเขา มือของเขากอดเอวคอดแน่นๆ " มาแล้วนี้ ต้องรบสิ" เขาแกล้งพูดเล่นๆขำๆเพื่อดูว่าเธอจะทำยังไง เถื่อนเดินกอดรีโมตไปที่รถทันที " สวัสดีครับ ดร. เถื่อน " เบนจามินกล่าวทักทายเถื่อนพลางมองหน้าของรีโมตที่โดนกอดรัดอยู่ รีโมตทำหน้าไม่ถูก " อืม " เถื่อนตอบทักทายสั้นๆ " คราวนี้ ดร. มากับแฟนเลยนะครับเนี่ย" เบนจามินเอ่ยถามเหมือนแซวๆ เถื่อนหรี่ตามองรีโมตๆเงยหน้าของสบตากันกับเขา " ......." ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรปฏิเสธ ไนเจอร์มองคนทั้งคู่แล้วยิ้ม เถื่อนขบกรามแน่นๆพลางหันไปมองหน้าเบนจามิน " ไปกันเถอะ" เขาเอ่ยชวนเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา รีโรตมองหน้าของเขานิ่งๆด้วยความสับสนและหัวใจเต้นแรงโครมคราม เถื่อนกอดเธอและพาเดินไปขึ้นรถที่ไนเจอร์เปิดประตูรถรอแล้ว เขาหรี่ตาลงมองรีโมตเล็กน้อย ก่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากจากผุดขึ้นมาเล็กน้อย " หนูรีมองอะไร" เถื่อนหรี่ตาลงมองและถามด้วยความสงสัย รีโมตดึงสติกลับมาได้ ตุบ ! ร่างของเธอโดนดึงเข้าไปนั่งพร้อมๆกันกับร่างของเขาทันทีในรถ ไนเจอร์ปิดประตูรถลง " บ้าจริง!" รีโมตสบทออกมาด้วยความหงุดหงิด " ถึงที่พักก่อนใจเย็นๆ!" เถื่อนก้มลงไปกระซิบบอกเธอน้ำเยือกเย็น รีโมตเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา แววตาของเขามันเคยว่างเปล่าแต่มันกับมีอะไรผุดขึ้นมา รีโมตถึงกับหน้าแดง " เถื่อน! ไอ้คนเถื่อน!" รีโมตกัดฟันเรียกชื่อของเขา เพราะเธอเหมือนหายใจไม่ออกเลย " หึหึ ก็ไอ้เถื่อนนี้แหละที่มันสามารถกระแทกเธอได้สุดใจ " เขาก้มลงไปกระซิบบอกเธอเสียงเหี้ยมๆ พลางเป่าลมเข้าหูของเธอเบาๆ รีโมตถึงกับขนลุกขนชัน ปั่นป่วนที่หน้าท้อง เธอหน้าแดง รีโมตรีบดึงสติกับมาทันที พรืด! เธอใช้มือผลักอกแกร่งของเขาแรงๆ เพื่อให้ร่างขอเธอออกห่างอ้อมกอดที่ร้อนๆของเขา เถื่อนปล่อยอย่างง่ายๆไม่อ้อยอิ่ง เขาหันหน้าไปมองด้านนอกทันที รีโมตมองแผ่นหลังของเขานิ่งๆ ก่อนจะหันหน้าไปมองด้านนอกฝั่งคนตัวเอง โรงแรมหรูกลางเมืองเคียฟ เถื่อนเดินออกมาจากห้องน้ำ เขามองไปที่ร่างของรีโมตที่ยืนมองด้านอนกนิ่งๆ เถื่อนถอนหายใจแรงๆเขาเดินตรงไปหาเธอทันที " คิดถึงบ้านเหรอ" เขาถามด้วยความสงสัย รีโมตปลายตามองหน้าของเขา " ใช่ ฉันคิดถึงบ้าน !" เธอตอบเขาตรงๆ แต่เถื่อนกับทำหน้าเมินเฉยไม่สนใจ เขามองออกไปด้านอกเพื่อดูเรือสำราญลำใหญ่ยักษ์กลางทะเล " อ่อนน่า !" เขาพูดออกมาลอยๆ รีโมตก้มหน้าลงมองมือของตัวเอง " ฉันต้องทำยังไงเถื่อน" รีโมตกลั้นใจถามเขาเสียงเศร้า ตาเริ่มแดง เถื่อนปลายตามองเธอนิ่งๆด้วยสายตาว่างเปล่า " ฉันต้องทำยังไงเพื่อให้นายเลิกยุ่งกับฉันบอกฉันที" รีโมตถามเขาด้วยความอยากรู้ เพราะเรื่องของแมร์เฟอร์และซีคริสนั้น ทั้งสองคนก็ให้อภัยเธอแล้วเหมือนกัน แต่คนที่ยังไม่จบก็เป็นเถื่อนคนเดียวเท่านั้นที่พยายามยัดเยียดความความให้เธอคนเดียว เถื่อนแสยะยิ้มที่มุมปาก " อย่าเอาน้ำตามาดึงดราม่าน่าๆๆๆ รีโมตคนนั้นหายไปไหนแล้วเนี่ย หึหึ" เถื่อนพูดออกมาเหมือนแซวๆเธอแบบขำๆ แต่แววตาของเขากับดุดันน่ากลัว รีโมตเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา " นายนี้ยังเป็นผู้ชายอยู่ไหมเถื่อน นายกล้าโทษฉันคนเดียวแบบนี้ได้ยังไง " รีโมตถามคนที่หน้าด้านหน้าทน คนที่โยนความผิดให้เธอคนเดียว เถื่อนหมุนตัวมาประจันหน้ากับเธอเต็มๆ เขาใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้ม " ที่กระแทกหนักๆจนสลบทุกครั้งเนี่ย มันยังไม่แสดงให้เห็นเหรอไงว่ะ" เขาพูดออกมาเหมือนประชด พลางก้าวเท้าเข้ามาหาเพื่อประชิดตัวของเธอ รีโมตกัดริมฝีปากล่างแน่นๆ พลางใช้มือดันอกแกร่งเอาไว้ " เลิกโยนความผิดให้ฉันสักที เรื่องมันเกิดจากพวกเห็นแก่ตัวแบบนายนั้นแหละที่กีดกันความรักของน้องสาว" รีโมตพูดออกมาเสียงเข้ม พลางกระพริบตาถี่ๆ เถื่อนก้าวเท้าเดินมาเบียดร่างของเธอมากขึ้นกว่าเดิมจนรีโมตยอมก้าวเท้าถอยหลัง เขาก้มหน้าลงมาหาหน้าของเธอจนหน้าผากกว้างชนกันหน้าผากมนของเธอ จมูกโด่งชนจมูกที่เชิดรั้งของเธอ มือของเขากอดเอวของเธอเอาไว้ " หึหึ ไอ้เถื่อนคนนี้มันทำเพราะมีเหตุผลของมันนะ" เถื่อนบอกรีโมตแต่รีโมตกับปากคว่ำส่งให้ แววตาเย้ยหยัน " เหตุผลของคนเห็นแก่ตัวไง นายคือคนเห็นแก่ตัว" รีโมตตอบกลับไม่กลัว ทั้งสองคนสบตากันอย่างท้าทายไม่มีใครยอมใคร " ใช่! เห็นแก่ตัวแล้วไงว่ะ !" เถื่อนตอบอย่างไม่อาย ก่อนนัยต์ตาแดงสีอิฐจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นเรื่อยๆเหมือนไฟ รีโมตถึงกับตกใจ เพราะเธอไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน เธอถึงกับดึงสติและรีบหลบสายตาของเขา รีโมตรีบผลักอกของเขาออกเพื่อให้ร่างของเธอออกห่างเขา เถื่อนแสยะยิ้มร้ายพลางค่อยๆปล่อยมืออแกจากเอวของเธอ " หึหึ " เถื่อนหัวเราะสะใจ รีโมตเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที ปัง! รีโมตปิดประตูห้องน้ำพร้อมกับล็อคกลอนประตูเอาไว้ เธอเดินตรงไปที่กระจกอ่างล้างหน้าพร้อมกับมองตัวเองในกระจก เธอใช้ความคิด และเกิดคำถามขึ้นมาในหัว ' ทำไมนัยต์ตาของเถื่อนถึงเปลี่ยนสีได้ล่ะ ?' เธอเกิดคำถามแรกขึ้นมาในหัว รีโมตเริ่มนึกย้อนกลับไปเรื่อยๆกับเรื่องราวต่างๆ เธอสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิของความร้อนของร่างกายของเขา พลังมหาศาลที่หยุดรถของเธอวันนั้น แววตาดุดัน การเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว รีโมตนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาของเถื่อน สีผมที่เป็นสีแดงอิฐที่เหมือนมีอะไรซ่อนอยู่ " ปีศาจร้ายเหรอ" รีโมตพูดพึมพำออกมา แต่เธอการย้อนกับไปคิดถึงเรื่องในอดีตของศาสตราจารย์เควินและผู้ช่วยอย่างมัมราเม็ง ที่มีข้อความและบทสัมภาษณ์ของพวกท่านครั้งหนึ่ง แถมเป็นข่าวอึกทึกครึกโครมในครั้งนั้น เรื่องผลงานวิจัยของท่านเพื่อช่วยชีวิตภรรยาของท่าน รีโมตคิดถึงใบหน้าของเถื่อนและวิจัย ทั้งสองคนที่มีความแตกต่างกัน แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้ผิดแปลกอะไรนี้ ' วิทยาศาสตร์อาจมีอะไรเหนือความคาดหมายเสมอ' คำพูดของศาสตราจารย์เควินมักพูดเอาไว้ท้ายหนังสือเรียนเคมีของท่าน ' แดงเหมือนไฟ' คำพูดในหัวของรีโมตผุดขึ้นมา เถื่อนเดินออกมาจากลิฟต์ เขาเดินผ่านประชาสัมพันธ์อย่างไม่ได้สนใจว่าใครจะมองเขาเลย เพราะคำพูดของรีโมตยังติดอยู่ในหัวของเขา ' เลิกโยนความผิดให้ฉันเสียที เรื่องมันเกิดขึ้นก็เพราะความเห็นแก่ตัวของนายต่างหากล่ะที่กีดกั้นความรักของทั้งสองคน' ' เห็นแก่ตัวบ้าอะไรล่ะ ' เถื่อนแย่งคำพูดของรีโมต เขาก้าวขึ้นไปนั่งบนทันที ' คนเห็นแก่ตัว' คำพูดของรีโมตที่เถื่อนคิดว่ามันไม่ใช่ ' ป้องกันน้องสาวต่างหากล่ะ' เถื่อนแย่งคำพูดของเธอ ' เลิกยุ่งกับฉันสักที' คำขอร้องของเธอ แต่เถื่อนกับแสยะยิ้มร้าย ' ฝันกลางวันสิน่ะ' เขาพูดขึ้นมา ก่อนจะหยิบแม็คบุ๊กขึ้นมาวางที่ตัก เขาเปิดดูสินค้าที่คริสโตเฟอร์ส่งมาให้เขาดู เถื่อนยิ้มอย่างอารมณ์ดี พลางใช้นิ้วเขี่ยแป้นพิมพ์เพื่อกดเลื่อนดูไปเรื่อยๆ " โอเบิลให้เราไปที่ใหม่ครับนาย" ไนเจอร์บอกเถื่อนๆเงยหน้าขึ้นมาสบตากับลูกน้องผ่านกระจก " ที่ไหนว่ะ" เขาถามด้วยความอยากรู้ เพราะเขาได้นัดคุยที่ค่ายทหารแล้ว " ร้านอาหารครับนาย" ไนเจอร์ตอบเถื่อนพลางมองถนนด้านหน้าที่มีรถติดมากมาย เถื่อนยักไหล่ให้เล็กน้อย " เปลี่ยนทำไมว่ะ" เขาถามขึ้นมาลอยๆด้วยความสงสัย ไนเจอร์เงียบไม่ได้ตอบ เพราะทางนั้นโทรมาบอกเขาโดยไม่ได้บอกเหตุผลอะไรเลย รถของเถื่อนจอดที่หน้าร้านอาหารหรูของเมืองหลวงเคียฟ เถื่อนมองออกไปด้านนอกเขาทำหน้านิ่งๆ เพราะถึงแม้เขาจะมาที่นี่บ่อยๆ แต่อาหารที่เขาพกมาด้วยคือ ' มาม่า ' หรืออาหาร เกาหลีที่มีรสชาติจัดจ้าน อาหารของคนยูเครนมันไม่ค่อยถูกกับลิ้นของเขาเท่าไร " ถึงแล้วครับนาย" ไนเจอร์บอกเจ้านายที่มองออกไปนอกรถ ไนเจอร์มองตามสายตาของเจ้านาย เขาเห็นผู้ชายชาวตะวันตกคนหนึ่งที่หน้าคุ้นๆ. เถื่อนมองนิ่งๆแต่แววตาดุดัน เพราะนั้นคือ ' อัสเตอร์' เพื่อนเก่าในมหาลัยของเขา ' มึงมาที่นี่ทำไม'เถื่อนถามคำถามนี้ขึ้นมา เถื่อนมองตามหลังอัสเตอร์จนลับตาไป ไนเจอร์เปิดประตูรถให้เถื่อนทันที " ห้องวีไอพีครับนาย" ไนเจอร์บอกเถื่อนๆปลายตามองไนเจอร์เล็กน้อย ก่อนจะยื่นกระเป๋าแม็คบุ๊กให้ไนเจอร์ถือ ไนเจอร์รับกระเป๋าแม็กบุ๊คมาถือเอาไว้ " อืม" เขาตอบสั้นๆในลำคอ เถื่อนเดินนำหน้าไปทันที เขาเดินเข้าไปในร้านอาหารดัง พนักงานเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับรอยยิ้ม " ดร. เถื่อนใช่ไหมครับ" พนักงานถามเพื่อความแน่ใจ ถึงแม้ว่าเขาได้รับรูปของเถื่อนมาแล้ว เถื่อนมองหน้าพนักงานนิ่งๆ " อืม" เขาตอบสั้นๆ พนักงานก้มหน้าลงมองพื้น " เชิญทางนี้ครับ" พนักงานผายมือให้เถื่อน พร้อมกับเดินนำหน้าเขาไป เถื่อนเดินตามหลังพนักงานงานไป เขาสอดส่ายสายตามองหา ' อัสเตอร์' ในร้านให้ทั่วๆแต่เขาไม่เจอเลย ' หรือกูจะตาฟาดว่ะ' เถื่อนคิดใจ ก๊อกๆๆ พนักงานเคาะเปิดเป็นสัญญาณให้คนด้านในรับรู้ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป " หึหึ!" เสียงหัวเราะของคนในห้องวีไอพีดังลั่นห้อง เถื่อนมองด้านในทันที สายตาของเขาหยุดที่ ' อัสเตอร์' ที่มองหน้าของเขาก่อนแล้ว อัสเตอร์ทำหน้ากวนๆและรอยยิ้มเย้ยหยันส่งมาให้เขา เถื่อนถอนหายใจแรง ' เวรเอ้ย!' เขาสบทในใจด้วยความหงุดหงิด เถื่อนก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับไนเจอร์ " สวัสดีครับ ดร. " โอเบิลกล่าวทักทายเถื่อนอย่างสนิทสนม เถื่อนหันมามองหน้าโอเบิล เขาทำหน้านิ่งเฉย " เชิญนั่งครับ" โอเบิลเอ่ยชวนเถื่อนพร้อมกับผายมือให้เถื่อนนั่งเก้าอี้ตรงข้ามอัสเตอร์ๆมองหน้าเถื่อนนิ่งๆ เขากำลังพิจารณาใบหน้า สีผม นัยต์ตาและอะไรอีกมากมายของเถื่อน " ถ้าไม่ได้คุยเรื่องของเรา ผมคงต้องกลับ" เถื่อนบอกโอเบิลอย่างไม่มีเยื่อใย เพราะงานคืองาน เข้ามาเพื่อคุยงานและเสนอขายสินค้าอย่างเดียว โอเบิลยิ้มที่มุมปาก อัสเตอร์เหยียดยิ้มเพราะเถื่อนก็คือเถื่อนๆคือคนตรงๆ ไม่อ้อมค้อมเสียเวลา " ดร. ครับ ผมเปลี่ยนสถานที่เพราะผมอยากให้บรรยากาศคุยกันมันสบายๆนะครับ" โอเบิลบอกเถื่อน พลางมองหน้าอัสเตอร์ " อาวุธของ ดร. ผมก็ชอบ อาวุธของคุณอัสเตอร์ที่เป็นชีวภาพที่มีอนุภาครุนแรงผมก็ชอบเหมือนๆกันนะครับ" โอเบิลพูดเพื่อดึงความสนใจเถื่อนๆหันไปมองหน้าอัสเตอร์ทันที อัสเตอร์แสยะยิ้มร้ายส่งให้ เถื่อนกำมือเข้าหากันแน่นๆ เพราะสำหรับเขานั้นมันคืออาวุธของคนชั่วหรือคนเห็นแก่ตัวเท่านั้นที่จะทำแบบนั้นกับคนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร " ผมสนใจทั้งสองอย่าง " โอเบิลพูดดึงสติเถื่อนและอัสเตอร์ที่จ้องมองกันเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อกันอยู่ อัสเตอร์หันหน้าไปมองหน้าโอเบิลอย่างถูกใจคำพูดของเขา เถื่อนหมุนตัวหันหลังให้โอเบิล " ผมไม่ขายให้คุณแล้ว" เถื่อนบอกโอเบิลอย่างไม่มีเยื่อใย แถมเขาไม่ได้สนใจว่าเขาจะขาดทุนมากเท่าไรกับการที่ต้องเสียลูกค้าอย่างโอเบิลไป แต่ถ้าซื้อของเขาแล้วจะต้องไม่ซื้อของโอเบิล สำหรับเขาคือเขาต้อวเป็นที่หนึ่ง " ดร. ครับ" โอเบิลเรียกเถื่อนๆไม่ได้สนใจ เขาเดินตรงไปที่ประตูทันที ไนเจอร์เดินตามหลังเจ้านาย " ผมต้องที่หนึ่ง " เถื่อนบอกโอเบิลเพื่อเน้นย้ำให้เข้าใจจุดประสงค์ของเขา โอเบิลขบกรามแน่นๆมองตามหลังเถื่อนที่กำลังจะเดินออกจากประตู " หึหึ อย่าเสียดายอาวุธกระจอกพันธุ์นั้นเลยครับ" อัสเตอร์พูดขึ้นมา โอเบิลหันมามองหน้า เถื่อนหยุดเดินพลางแสยะยิ้มที่มุมปาก อัสเตอร์มองแผ่นหลังของเถื่อน เขายิ้มเหี้ยมๆ " ถ้า ดร. เถื่อนกลัวการเสนอขายแข่งกับผมก็เชิญนะครับ" อัสเตอร์พูดเย้ยหยันให้เถื่อนอยู่ต่อ เถื่อนปลายตามองหน้าอัสเตอร์ " การเสนอขายสินค้าอาจจะยากสำหรับ ดร. แต่การแก่งแย่งแข่งขันสำหรับผมๆชอบครับ" อัสเตอร์พูดเสียงดัง เพื่อกระตุ้นให้เถื่อนนั่งในห้องอาหารเพื่อฟังเขา เถื่อนหันหน้ามามองหน้าของอัสเตอร์ชัดๆ " หึ! " เขาทำเสียงออกมาทางจมูก ก่อนจะเดินกลับมาในห้องและนั่งลงเก้าอี้ตรงข้ามอัสเตอร์ๆมองหน้าของเถื่อนพลางแสยะยิ้มร้าย " คนอย่าง ' เถื่อน' ไม่เคยกลัวใคร" เขาพูดขึ้นมาเสียงเรียบ พลางหันไปมองไนเจอร์เพื่อให้ไนเจอร์ส่งกระเป๋าแม็คบุ๊กมาให้เขา อัสเตอร์ยิ้มอย่างผู้ชนะ " หึหึ" เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี โอเบิลมองทั้งสองคนแล้วยิ้ม พี่เถื่อนค่ะ สติค่ะ พวกพี่ก็ผิดที่กีดกันความรักของน้อง รีโมตพูดถูกค่ะ ????
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD