Episode-๐๙ ความรู้สึกที่ว่างเปล่า

1328 Words
“ไกด์ชอบแนนเหรอ?” “อะไรทำให้คิดแบบนั้น” “แววตาของไกด์ไง หลอกคนอื่นได้นะแต่หลอกตัวเองไม่ได้หรอก กับเรายิ่งแล้วเลย” “หึ... คงงั้นมั้ง” “ดีใจด้วย ในที่สุดความรู้สึกที่ว่างเปล่าก็กลับมามีสีสันอีกครั้ง ขอให้ครั้งนี้เป็นความรักที่ดีที่สุดของไกด์เลยนะ” “...” นานมาแล้วที่เคยรู้สึกอยากดูแลใครสักคน... ผมเองในตอนนั้นยอมรับว่าไม่ได้มีดีอะไรหรอก ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง แต่ทุกครั้งที่มีความรักผมซื่อสัตย์เสมอนะ แต่ช่างเถอะ! มันจบไปนานมากแล้ว... นานมากพอที่ตัวผมเองควรก้าวออกมาจากจุดนั้นสักที “แนนมาทำงานกับม่านได้ยังไงเหรอ” “ก็... ตอบเรามาก่อนว่าไกด์รู้จักแนนได้ยังไง?” “เคยเจอกันตอนไปเที่ยวทะเลน่ะ แนนเป็นเพื่อนของแฟนไอ้ทิว” “แล้วไงต่อ? เจอหน้าก็ตกหลุมรักเลยว่างั้น” “ไม่รู้สิ ถูกชะตามั้ง เด็กอะไรโคตรแก่น” พลางนึกถึงครั้งแรกที่เราเจอกัน เธอเป็นคนสดใสนะครับ ช่างพูดช่างเจรจาแถมยังกวนประสาทผมอยู่ตลอด “ถ้าไกด์อยากรักเพราะอยากรักจริง ๆ เราไม่ห้ามนะ แต่ถ้าไกด์ทำลงไปเพียงเพราะอยากมีใครสักคนอันนี้เราไม่เห็นด้วย ชีวิตแนนไม่ได้สดใสอย่างที่พวกเราเห็นเสมอไปหรอกนะ” “ม่านก็รู้ว่าเราไม่ใช่คนแบบนั้น” “พูดเผื่อไว้ก่อนไง ... วันข้างหน้าอะไร ๆ มันก็เกิดขึ้นได้ แล้วจงรู้ไว้ทำแนนร้องไห้เมื่อไหร่เราสองคนก็ไม่ต้องเป็นเพื่อนกันอีก” “ฟังดูน่ากลัวแปลก ๆ แฮะ” ผมไม่เคยเข้าใจประโยคที่ม่านพูดจนกระทั่งได้สัมผัสมันด้วยตัวเอง ชีวิตของเธอก็ไม่ต่างจากผมเท่าไหร่หรอก ดิ้นรนด้วยตัวเองเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ผมต้องอยู่ให้ได้ในวันที่ไม่อยากอยู่เท่านั้นเอง ตรงข้ามกับเธอที่อยากมีชีวิตอยู่และต้องอยู่ให้ได้เช่นกัน “แล้วให้น้องมันทำที่ร้านน่ะ ทำอะไรบ้างแล้วน้องจะทำได้หรือเปล่า” “ยิ่งกว่าได้ซะอีก แถมยังสนิทกับเขาไปทั่วโดยเฉพาะไอ้ฟลุ๊ค” “ฮ่า ๆ นี่กำลังหึงหรือเปล่าเนี่ย” “เพ้อเจ้อ! ยังไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” “ก็รีบเป็นซะสิ จะแตะเลขสามอยู่แล้วคิดว่าตัวเองเพิ่งสิบแปดหรือไง ชักช้าหมาคาบไปแดกไม่รู้ด้วยนะ” “ไปไกล ๆ เลย ข้อหาพูดจาไม่เข้าหู” “ฮ่า ๆ ” เลิกสนใจม่านแล้วขับรถกลับร้านทันที แต่ระหว่างทางดันเห็นใครบางคนกำลังซื้อก๋วยเตี๋ยวอยู่ครับมันเป็นทางผ่านไง ผมจึงชะลอรถและหาที่จอดเพื่อลงไปกวนประสาท! ไม่ใช่ครับ ลงไปทักทายเฉย ๆ ^_^ “ดึกดื่นป่านนี้ยังหาของกินอยู่อีก” “เฮีย... ตามหนูมาทำไมคะ? ถ้าบอกว่าบังเอิญก็ดูตอแหลไปหน่อย” ดักคอกันซะงั้น “ไม่ได้ตาม แค่แวะมากวนประสาทเฉย ๆ ” “เฮียไกด์คนที่เงียบ ๆ เขาหายไปไหนแล้วนะ” เธอว่าพลางทำท่าทีรำคาญใส่ผม ให้ตายเหอะ คนแรกเลยนะที่กล้าทำแบบนี้ “ไม่มีนะ มึงคิดไปเองหรือเปล่า” “ป้าคะ ขอแบบนี้อีกชามหนึ่งค่ะ” แทนที่จะสนใจผมกลับหันไปสั่งก๋วยเตี๋ยวซะงั้น “กินด้วยกันค่ะเฮีย จะได้ไม่ต้องพูดมากอีก” เธอว่าพร้อมกับเลื่อนชามก๋วยเตี๋ยวมาตรงหน้าผม ส่วนของตัวเองรอชามใหม่ที่กำลังทำอยู่ “ใส่อะไรให้กินหรือเปล่าเนี่ย” “ยาเสน่ห์” ดูคำพูดคำจาสิครับ “หึ! เสพติดการนอนน้อยสินะ ดึกดื่นป่านนี้ยังเดินออกมาหาของกินอีก ไม่กลัวบ้างหรือไง” “ไม่อ่ะ มันชินแล้วมั้ง ว่าแต่เฮียเถอะทำไมมาคนเดียว พี่คิวกับพี่นายไปไหนเหรอคะ” “แยกกันแล้ว” “อ๋อ...แล้ว...” “ได้แล้วลูก แหม! วันนี้มีคนรู้ใจมาด้วย ปกติเห็นมาคนเดียวตลอด” เหมือนเจ้าตัวจะพูดอะไรแต่ถูกขัดซะก่อน “ค่ะ” ถึงกับเงยหน้าไปมองครับเมื่อได้ยินคำตอบแบบนั้น “กูไม่ได้หูฝาดใช่ไหม?” “โต๊ะนั้นน่ะ” เธอว่าพลางเบนสายตาไปยันด้านหลังของตัวเองที่มีผู้ชายสองคนนั่งอยู่ “แซวหนูทุกวันแหละ แต่หลังจากนี้คงเลิกแซวแล้วมั้ง” “กลัวว่างั้น?” “อือ” “หึ... เข้าใจระวังตัวนะเราน่ะ” ผมว่าพลางยื่นมือข้างหนึ่งไปลูบศีรษะเธอด้วยความเอ็นดู ไม่ได้ตั้งใจครับมือมันไปเอง “เฮีย! ผมหนูยุ่งหมด” ระหว่างมื้อไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำครับ ผมน่ะอยากชวนคุยแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงเพราะก่อนหน้านี้ติดกวนประสาทไว้เยอะ “เฮีย เรื่องเงินหนึ่งแสนบาท ต้องทำหนังสือสัญญาด้วยไหม?” “สัญญาอะไร” “อ้าว... ก็สัญญากู้ยืมไง เฮียไม่กลัวหนูหนีเหรอ? เผื่อหนูเบื่อขี้หน้าเฮียแล้วพาแม่ไปอยู่ที่อื่นไง” ดูฝีปากเถอะครับ เดี๋ยวจะว่าผมกล่าวหาลอย ๆ “หนีดิ หนีเลย จับได้เมื่อไหร่กูจะไม่ปล่อยไปไหนเลยคอยดู!” “ทำไม? จะขังหนูไว้ในร้านเหรอ” “เปล่า กักขังไว้ในชีวิตกูนี่แหละ” “...” “กับไอ้ฟลุ๊คสนิทกับมันมากเลยเหรอ?” รู้ครับว่าไม่สมควรที่จะตั้งคำถามแต่ปากมันก็พูดออกไปแล้ว “เพื่อนกันนี่คะ” “สนิทกันเร็วเนอะ” “ไม่เห็นแปลกเลย คนเรามันต้องมีมิตรสัมพันธ์กันบ้าง ที่มหาวิทยาลัยหนูยังคบเพื่อนผู้ชายเลย” “ไม่มีเพื่อนผู้หญิงบ้างเหรอ” “ก็น้ำตาลไง หนูเพื่อนน้อยไม่ค่อยมีใครคบหรอก” เธอว่ายิ้ม ๆ เหมือนไม่ใส่ใจมากนัก แต่ในแววตากลับมีอะไรซ่อนอยู่ “แล้วเฮียจะกลับเลยหรือเปล่า” “แล้วเราจะเข้าบ้านหรือยังล่ะ” “เข้าเซเว่นก่อนค่ะ เฮียไปเถอะหนูกลับเองได้” ผมไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่เดินไปจ่ายเงินและจูงแขนเดินนำมายันร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ ๆ “เฮียจะซื้ออะไร” “ถุงยาง” “เขาไม่ใช้กันหรอก เขาปล่อยนอกกัน” “ทะลึ่งและ” “ฮ่า ๆ ” ถึงกับส่ายหน้าให้ ดูความทะเล้นเถอะ หลังจากนั้นเธอก็หยิบตะกร้าแล้วเดินแยกไปทางโซนของกิน ผมเองก็เช่นกันได้เครื่องดื่มติดมือมานิดหน่อย แต่คนข้าง ๆ เนี่ยเหมือนยังเลือกไม่ถูกครับ “หาอะไร” “ยานอนหลับ” “ต้องใช้ด้วยเหรอ” “อืม หนูมันพวกสมองทำงานหนักไม่มีอะไรกระตุ้นคือนอนไม่ได้เลย” “...” มันเกิดคำถามนะ แต่เก็บเอาไว้ก่อนดีกว่า “วิตามินที่มีส่วนช่วยในการนอนหลับไง มันน่าจะดีกว่ายานะ” ผมเสนอไปตามความคิด “จริงด้วย... ตั้งแต่เจอเฮียหนูได้คำตอบในชีวิตเยอะเลย ขอบคุณค่ะ” เธอว่าก่อนจะเดินไปยันโซนอาหารเสริมและมองหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่ใช่แค่เธอหรอกนะที่เจออะไรใหม่ ๆ ผมเองก็เหมือนกัน รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ว่างเปล่าขนาดนั้น ที่ผ่านมาเป็นเพราะผมที่ยึดติดอยู่กับอดีต ถามว่าตอนนี้ลืมไหม? ไม่หรอกครับแต่มันไม่ได้อยู่ในหัวใจแล้วเท่านั้นเอง ไม่ใช่เพราะมีใครมาแทนที่ แต่มันเป็นเพราะเวลาต่างหาก เวลามันเยียวยาทุกอย่างจริง ๆ เมื่อได้ของที่ต้องการครบแล้วก็ไปจ่ายเงิน “วางดิ” “หนูจ่ายเอง” “กลัวถูกคิดดอกเบี้ยหรือไง” “อือ เฮียยิ่งผีเข้าผีออกอยู่” “ตรงไหนไม่ทราบ?” “ทุกตรง! เดี๋ยวพี่ เดี๋ยวกู เดี๋ยวพูดมากเดี๋ยวพูดน้อย เดาใจไม่ถูกเลย” “แล้วแต่สถานการณ์และความเป็นไป” “พิลึกคน” เห็นไหมหลอกด่าอีกแล้วครับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD