อัครวัฒน์เดินทางมายังร้านตัดผมร้านประจำที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ขณะเดินก็เกาศีรษะมาตลอดทาง ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ดูแลสุขภาพเส้นผมหรือหนังศีรษะจนเป็นรังแค แต่เป็นเพราะแชมเปญที่เปิดฉลองในวันแต่งงานของมังกรเพื่อนสนิท ถูกราดใส่หัวเขาจนเปียกชุ่มจนถึงเสื้อผ้า เขาทนความคันศีรษะไม่ไหว จึงขอตัวเพื่อนกลับบ้านก่อน และแวะสระผมที่ร้านแห่งนี้
“สวัสดีค่ะคุณโรมวันนี้จะมาตัดผมใช่ไหมคะ เชิญเลยค่ะ” ลูซี่รีบเข้ามาต้อนรับแขกประจำ
“ไม่ล่ะ วันนี้ฉันจะสระผมและเซ็ทผมก็พอ” เขาตอบ
“ได้เลยค่ะ งั้นไปที่ห้องสระผมเลยนะคะ” ลูซี่เดินนำลูกค้าพิเศษไปยังห้องสระผมที่มีลูกค้าสองคนนอนให้ช่างสระผมของร้านทำความสะอาดผมให้ “คุณโรมนอนเลยนะคะ เดี๋ยวลูซี่จะให้เตยสระผมให้”
“แล้วป้านุชไปไหน ทำไมไม่มาสระผมให้ฉัน”
อัครวัฒน์ถามถึงป้านุชช่างสระผมอาวุโสประจำร้านที่มักจะมาสระผมให้เขาเป็นประจำ เขาชอบวิธีการสระผมของป้านุชมาก เพราะป้านุชไม่เพียงแต่สระผมให้เขาเพียงอย่างเดียว ป้านุชยังนวดศีรษะให้เขารู้สึกโล่งและคลายจากความเครียดด้วย
“ป้านุชยืนสระผมไม่ไหวแล้วค่ะ อายุแกก็ปาเข้าไปห้าสิบเจ็ดแล้ว ป้านุชก็เลยขอลาออกไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เองค่ะ” ลูซี่อธิบายให้ชายหน้าหล่อเข้าใจ
“แล้วเตยที่ว่าเนี่ย สระผมดีหรือเปล่า ถ้ามือใหม่ฉันไม่สระนะ กลัวหัวระบม”
“ใหม่ที่นี่แต่เก่ามาจากที่อื่นค่ะ รับรองเลยว่าคุณโรมต้องติดใจเหมือนใครหลายๆ คนแน่นอนค่ะ”
ลู่ซี่พูดอย่างมั่นใจในฝีมือของลูกจ้างสาวคนนี้ อัครวัฒน์ไม่เชื่อคำเยินยอของเจ้าของร้านมากนัก กลัวว่าจะเป็นราคาคุยเสียมากกว่า ทว่าเวลานี้อาการคันและเหนอะหนะศีรษะมันรุกเร้าเขาเหลือเกิน ทำให้ชายหนุ่มต้องจำใจให้คนที่มีชื่อเล่นว่าเตยมาสระผมให้ตน
“ก็ได้ ให้คนที่ชื่อเตยมาสระผมให้ก็ได้ เร็วๆ หน่อยนะ คันหัวจะแย่แล้ว” ลูกค้าวีไอพีเร่ง ลูซี่จึงออกไปเรียกศิรินทิพย์ที่กำลังไดร์ผมให้ลูกค้าท่านหนึ่งอยู่
“เตย ไปสระผมให้คุณโรม เขารออยู่ในห้องสระผมแล้ว ส่วนทางนี้เดี๋ยวฉันจะให้คนอื่นมาทำแทนเธอเอง” ลูซี่ไม่พูดเปล่า จับไดร์เป่าผมที่อยู่ในมือของศิรินทิพย์มาปิดเครื่องแล้ววางลงบนโต๊ะหน้ากระจก ก่อนจะกึ่งลากกึ่งจูงสาวน้อยหน้าหวานไปยังห้องสระผม
“มาแล้วค่ะคุณโรม ช่างสระผมที่ลูซี่ขอแนะนำ”
เสียงของลูซี่ทำให้คนที่นั่งเกาศีรษะอยู่บนเตียงสระผมหันมามองช่างสระผมคนใหม่ แล้วพอเขาเห็นเจ้าของดวงตากลมโตของช่างสระผมเท่านั้น มือที่กำลังเกาหนังศีรษะถึงกับค้างเติ่ง ดวงตาสีนิลมองไปยังใบหน้าหวานน่ารักของสาวตรงหน้าตาไม่กระพริบ
ช่างสระผมคนนี้ในความคิดของอัครวัฒน์ไม่ใช่คนสวย ทว่าเธอเป็นคนที่จัดว่าน่ารักอย่างเยี่ยมยอด ดวงตากลมโตออกแนวใสซื่อคู่นั้นมีเสน่ห์อย่างล้นเหลือ จมูกโด่งรับกับริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูระเรื่อ เขาไล่สำรวจเรื่อยมาจนถึงลำคอ และต่ำลงไปยังทรวงอก พลันอารมณ์ของเขาสะดุดหายลงทันทีเมื่อเห็นความแบนราบของเนินอกที่มันน่าจะพุ่งชูชันดันเสื้อยืดของเธอ...
เห็นแล้วเซ็ง
เนื่องจากเสป็คผู้หญิงของเขานั้น สวยน้อยหน่อยไม่ว่า แต่ขอให้ขาว สูงยาวเข่าดี อกสะบึ้มเป็นพอ แต่หญิงสาวตรงหน้านี้ มีแต่ความน่ารักและความขาวนวลของผิวพรรณเท่านั้นที่ดึงดูดใจ นอกนั้นไม่ใช่เสป็คของเขาเลย อยู่ๆ ความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในสมอง ความคิดนั้นก็คือ หากจะลองนอนกับผู้หญิงอกไข่ดาวมันก็ไม่เสียหายอะไรไม่ใช่หรือ
ศิรินทิพย์เองก็อึ้งไปชั่วนาทีที่ได้เห็นชายหนุ่มรูปงามตรงหน้า เขามีรูปหน้าที่หล่อเหลามากคนหนึ่ง อาจจะพูดได้ว่าหล่อกว่านักแสดงที่โด่งดังในปัจจุบันนี้เสียอีก ดวงตาของเขามันเหมือนมีพลังบางอย่างให้สตรีที่สบตาหลงใหลและเคลิ้มฝันอย่างเช่นเธอเป็นต้น
“จะสระได้หรือยัง คันหัวจะแย่อยู่แล้ว” เสียงของอัครวัฒน์ดังขึ้นทำให้สาวน้อยถึงกับสะดุ้งสุดตัว สติหวนคืนกลับมา
“ค่ะ สระค่ะ คุณนอนลงได้เลยค่ะ”
อัครวัฒน์ล้มตัวลงนอนบนเตียงสระผม จากนั้นเธอก็ทำหน้าที่สระผมให้กับชายหนุ่มแสนดุอย่างชำนิชำนาญ เพราะมันเป็นอาชีพที่ศิรินทิพย์ทำตั้งแต่อายุสิบเจ็ดปี
ระหว่างที่ศิรินทิพย์ทำหน้าที่สระผมอยู่นั้น อาการประหม่าและหัวใจเต้นแรงก็เกิดขึ้นกับสาวน้อย เมื่อเขาเหลือบตามองใบหน้าของเธอตลอดเวลา ซึ่งศิรินทิพย์ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะประสานตากับดวงตาคู่นั้น เป็นเพราะเธอต้องก้มหน้าลงมองศีรษะของคนที่กำลังสระผมให้ หญิงสาวจึงเพ่งสายตามองไปยังศีรษะของอัครวัฒน์เท่านั้น
แรกเริ่มอัครวัฒน์คิดว่าการสระผมในครั้งนี้ของเขาจะไม่สบายเหมือนกับที่ป้านุชทำ แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด ปลายเล็บเกาไปรอบๆ หนังศีรษะของเขาที่มีแชมพูชโลมชุ่มจนเกิดเป็นฟองสีขาว บรรเทาอาการคันได้ดีทีเดียว มือนุ่มๆ ก็ยังนวดคลึงไปบนศีรษะ สร้างความเพลิดเพลินให้กับเขาไม่น้อย
พอล้างแชมพูที่สระในครั้งแรกหมดไป ศิรินทิพย์ก็เทแชมพูลงบนฝ่ามือแล้วละเลงไปบนเส้นผมของเขาอีกรอบหนึ่ง ทำในลักษณะเดียวกันกับครั้งแรกคือเกาและนวด แล้วนำน้ำมาล้างแชมพูออกก่อนจะตบท้ายด้วยครีมนวดผม
“คุณคะ คุณคะเสร็จแล้วค่ะ”
เสียงของศิรินทิพย์ปลุกร่างหนาที่นอนหลับ เขาคงจะเพลิดเพลินกับการสระผมในครั้งนี้มากไปหน่อย จนทำให้เขาเคลิ้มหลับ
“คุณคะ คุณ สระผมเสร็จแล้วค่ะ”
คราวนี้ไม่เพียงแต่ใช้เสียงปลุก เธอยังใช้มือเขย่าตรงลำแขนหนา เพื่อปลุกเขาให้ตื่นจากนิทรา อัครวัฒน์สะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงและแรงเขย่าตรงช่วงแขน เขารีบดีดตัวลุกขึ้นนั่งมองหน้าศิรินทิพย์นิ่ง ไม่คิดว่าตนเองจะเผลอหลับไปขณะสระปม ขนาดป้านุชที่ว่าสระผมดีเขายังไม่เผลอหลับเลยแม้แต่ครั้งเดียว
...นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา
“เสร็จแล้วก็ไปเป่าผมต่อสิ ยืนบื้ออยู่นั่นแหละ”
เขาทำเป็นดุเธอแก้เก้อ ก่อนจะเดินออกไปด้านนอกเพื่อทำการเป่าผมและจัดทรงในลำดับต่อไป และขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้น อัครวัฒน์เจาะจงให้เธอทำ
และระหว่างที่ศิรินทิพย์ทำการเป่าเส้นผมของเขาให้แห้งด้วยไดร์เป่าผมอยู่นั้น นัยน์ตาสีนิลก็มองใบหน้าน่ารักชวนมองของเธอผ่านทางกระจกสะท้อนเงาตรงหน้าตลอดเวลา ทำให้สาวเจ้าเกิดอาการมือสั่น ใจสั่น แทบจะทำอะไรไม่ถูก
เธอเคยเจอลูกค้าในลักษณะนี้มามาก ที่ชอบลอบมองเธอในขณะทำงาน ทว่าไม่มีสายตาคู่ไหนทำให้ศิรินทิพย์รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เกิดอาการกระสับกระส่ายได้เท่าสายตาของอัครวัฒน์เลย
คนที่มองก็รู้สึกเพลิดเพลินไม่น้อยกับการได้มองหน้าหวานๆ น่ารักๆ ของสาวเจ้าที่กำลังจัดทรงผมให้เขาอยู่ ยิ่งมองยิ่งไม่น่าเบื่อ ต่างกับสาวสวยแต่งหน้าจัดคู่ควงคนก่อนๆ ของเขา ถ้าหากล้างหน้าล้างตาขจัดเครื่องสำอางที่เคลือบอยู่บนใบหน้าออกไป บางคนถึงกับดูไม่ได้ เปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย
“นี่ทิป ฉันให้เธอ” เมื่อทุกอย่างเสร็จสรรพเขาก็ลุกขึ้นยืนล้วงธนบัตรใบละหนึ่งพันให้เธอสองใบ
“ขอบคุณค่ะ” ศิรินทิพย์พนมมือไหว้แล้วรับเงินจำนวนนั้นมาไว้ในมือ
“เอาไว้คราวหน้าเจอกันใหม่นะเตย”
เขาโน้มลำตัวลงจนใบหน้าคมเข้มใกล้ดวงหน้าหวาน ที่ผงะหนีลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดตรงปลายจมูกของเธอ พูดจบชายหนุ่มก็เดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์แล้วเดินออกไปจากร้านทำผมอย่างอารมณ์ดี และคิดว่าเขาคงต้องหมั่นมาสระผมที่นี่บ่อยๆ เพราะติดใจฝีมือการสระผมของศิรินทิพย์
ไม่เพียงแต่หายคันศีรษะเท่านั้น เขายังได้ความถูกใจอะไรบางอย่างกลับไปด้วย