รักอุ่นใจนายเย็นชา 6

2384 Words
รักอุ่นใจนายเย็นชา 6 “ทำไมไม่เคาะประตูก่อนวะ!! ออกไปก่อน!!” เวลตวาดลั่นมือก็ดึงกระโปรงฉันลงก่อนจะดึงฉันให้นั่งฝ่ามือร้อนกดฉันให้ซบกับแผงอกเขา เสียงหายใจหอบรุนแรงของเขาทำเอาฉันสั่นด้วยความกลัว “ขอโทษ...” เขาบอกเสียงนุ่มก่อนจะผละออกจากฉันเพียงเล็กน้อย ริมฝีปากร้อนจูบแนบลงบนหน้าผากฉันเนิ่นนานฉันถอยออกห่างจากเขาก่อนจะผลักเขาออกแรงๆ ได้ผลเมื่อเวลเซถอยหลังไป ฉันลงจากโต๊ะก่อนจะจัดทรงผมรวมถึงชุดให้มันดูเรียบร้อยที่สุด ไม่สนใจคนที่ยืนทำหน้าสำนึกผิดอยู่ข้างๆเลย ไม่นานผู้จัดการร้านก็เข้ามาใหม่อีกครั้งเมื่อฉันโทรบอกให้ข้ามา แววตาผู้จัดการมองมาอย่างล้อเลียนฉันได้แต่ถลึงตาใส่ด้วยความอาย ให้มันได้อย่างนี้สิเขาทำงานกับใครกันแน่ทำไมไม่มีทีท่าจะเกรงกลัวฉันเลย “ของที่ต้องซื้อเข้าร้านครับ” “เอ่อเจ๊ครับ คือมีเด็กลาออกสองคนครับ” ลาออกงั้นหรอ? ฉันเงยหน้ามองผู้จัดการร้านอย่างสงสัย “เห็นบอกว่าจะกลับไปช่วยงานที่บ้านครับ” “งั้นรับสมัครพนักงานเพิ่มด้วยแล้วกัน” “ครับ” ฉันเช็ครายการของเสร็จก็เซ็นแล้วยื่นคืนให้ผู้จัดการร้าน หลังจากผู้จัดการเดินออกไปเวลก็เข้ามายืนซ้อนหลังอยู่ข้างๆ ฉันปิดคอมแล้วเก็บของใส่กระเป๋าทันทีคนที่ดูจะพออกพอใจเห็นจะเป็นคนข้างๆนี่แหละเขาเอาแต่ยิ้มเรี่ยราดไปทั่วหรือว่าอ่อยลูกค้าสาวๆในร้านก็ไม่รู้นะ “รถอยู่ทางนี้” เวลดึงมือฉันไปที่รถก่อนจะเปิดประตูรถให้ฉันเข้าไป ระหว่างขับรถไปเขาก็เงียบแต่มุมปากเขายกยิ้มอย่างมีความสุขฉันเหนื่อยที่จะถามที่จะคุยเลยเอนตัวพิงเบาะแล้วหลับตาแต่เหมือนจะเผลอหลับไปจริงๆเพราะเวลเข้ามาเขย่าไหล่เบาๆ “ถึงแล้ว ไปนอนที่ห้องทำงานก็ได้” ฉันพยักหน้ารับก่อนจะเดินลงจากรถงงๆ มันง่วงอ่ะเวลทำสีหน้าหงุดหงิดก่อนจะดึงฉันเข้าไปชิดตัวเขา สายตาการ์ดของผับรวมถึงสายตาคนที่มองมาทำเอาฉันออกอาการร้อนๆหนาวๆ ตอนนี้คนยังไม่เยอะเท่าไหร่อยากไปนั่งดื่มจัง “นี่” “หือ? เรียกใครนี่” เขาหรี่ตามองอย่างจับผิดก่อนจะพาฉันเดินขึ้นไปข้างบนไม่สนใจแรงขัดขืนของฉันเลย “เวล อยากไปดื่มข้างล่าง” ฉันบอกเขาตอนที่เขาพาฉันเข้าไปในห้องทำงานที่มีด้านหนึ่งเป็นกระจกเห็นโซนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ “ไม่ได้ ครั้งก่อนดื่มไปเยอะแล้ว” “นั่นมันครั้งก่อน” ฉันเถียงกลับทันที “และมันก็หมายถึงครั้งนี้ด้วย นั่นคือห้ามโอเคนะ” “ไม่โอเค!!” เวลไม่สนใจฉันเพียงแต่เดินไปที่โต๊ะทำงานนั่งเช็คเอกสารอย่างสบายอารมณ์ ฉันได้แต่ทำปั้นปึ่งหน้าบึ้งเมื่อโดนขัดใจ ไม่รู้ทำไมถึงต้องยอมทำตามที่เขาบอก เกือบสี่สิบนาทีเวลถึงได้เดินมานั่งข้างๆ “ก็ห่วงไม่อยากให้ไป” “...” “เฮ้อ ก็ได้ๆไปนั่งข้างล่างก็ได้แต่...” ฉันทำหน้าดีใจร้องเยสออกมาเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น “ต้องให้ลูกน้องฉันไปด้วย” “ทำไมอ่ะ ข้างล่างเองนะ” “ไม่ได้ ห้ามก็คือห้ามหรือจะไม่ไป” “ก็ได้” ฉันบอกเขาเสียงอ่อยมือกำลังจะคว้ากระเป๋าแต่เวลยึดไปถือไว้เรียบร้อยเขายื่นมือถือเขามาตรงหน้าฉัน ฉันรับมาอย่างไม่สบอารมณ์แล้วเดินออกมาจากห้องทันทีคนของเขายืนดูฉันอยู่ห่างๆแต่ไม่ได้เข้ามายืนชิดหรือทำให้อึดอัด ฉันนั่งจิบเรื่อยๆไม่สนใจสายตาของพวกผู้ชายที่มองมา ไม่รู้สิฉันตั้งใจจะมาดื่มไม่ได้มาหาผู้ชาย “ขอโทษนะครับขอนั่งด้วยได้มั้ยครับ” ผู้ชายหน้าตาที่จัดว่าหล่อมากคนหนึ่งเดินมากระซิบข้างหูฉันเบาๆ ฉันเบี่ยงตัวหนีจากเขาแต่เหมือนเขาจะไม่สนใจท่าทีรังเกียจที่ฉันแสดงออกมาเลย เขานั่งลงเบียดๆกับฉัน ฉันถึงได้ลุกยืนแล้วก้าวไปอยู่คนละฝั่งกับเขา ผู้ชายน่ารังเกียจ “อะไรกันคนสวย มาคนเดียวแบบนี้ไม่เหงาหรอฉันอุตส่าห์มานั่งเป็นเพื่อนนะอย่าหยิ่งไปหน่อยเลยน่า” ผู้ชายตรงหน้ายังพูดถ้อยคำน่ารังเกียจออกมา ก่อนจะมองฉันด้วยสายตาหยาบคาย ผู้ชายมันเป็นเหมือนกันหมดหรือไงกัน หัวใจฉันเต้นแรงรัวและเร็วจนน่ากลัว ความกลัวที่เกิดขึ้นมาฉันไม่รู้จริงๆว่ากลัวอะไรกันแน่ ระหว่างกลัวสายตาที่ผู้ชายตรงหน้ากำลังใช้โลมเลียฉันหรือสายตาดุดันของคนที่กำลังเดินฝ่าฝูงชนมายังฉัน “ดูแต่งตัวสิตั้งใจมาอ่อยก็จะสนองให้แล้วไง” “หุบปากเน่าๆของมึงไปซะ!!” เวลตวาดลั่นพร้อมกับร่างสูงที่เข้ามาบังร่างฉันจากสายตาผู้ชายคนนั้น เขาดูน่ากลัวเป็นเท่าตัวยิ่งเวลาที่เขาตวัดสายตามองมาที่ฉัน ตอนนี้ฉันก็เริ่มมึนๆอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่ได้มึนหนักขนาดทรงตัวไม่อยู่เหมือนครั้งก่อน “พี่เวล” “เออ! กูเองทำไมมึงจะทำอะไรเมียกู” เวลถามเสียงเรียบแต่มือที่กำหมัดแน่นนั้นมันทั้งสั่นราวกับว่าพร้อมจะพุ่งไปหาคนตรงหน้าได้ตลอดเวลา “คือ คือผมไม่ได้ตั้งใจนะครับพี่ผมไม่รู้...” “งั้นมึงก็รู้ไว้ซะ นี่เมียกู” “ผมขอโทษครับพี่” เวลไม่ฟังสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นพูดแต่หันมามองฉันทั้งตัวก่อนจะดึงมือฉันให้เดินตามเขาไป เขาพาฉันกลับขึ้นมาในห้องทำงานเสียงประตูที่ปิดดังลั่นทำให้ฉันอดที่จะสะดุ้งด้วยความตกใจไม่ได้ จะอารมณ์ร้อนเกินไปแล้วนะ ฉันมองเขาอย่างไม่ชอบใจก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา เวลเดินเข้ามานั่งข้างๆไม่พูดอะไรจนฉันเริ่มจะกลัวเขาขึ้นมาจริงๆ “ไอ้เวล!!” เสียงตะโกนพร้อมๆกับประตูห้องที่ถูกเปิดโดยเพื่อนเจ้าของผับ ผู้ชายหน้าตาทะเล้นๆเดินหน้าบึ้งเข้ามาแล้วทิ้งตัวนั่งโซฟาตัวเดี่ยวอย่างไม่สบอารมณ์ เวลหยิบหมอนใบใหญ่มาวางทับตักฉันเงียบๆสายตาก็มองไปยังเพื่อนเขา “อะไรของมึงคิส” “ก็แม่น่ะสิ จะให้ยัยลูกเป็ดขี้เหล่มาอยู่กับกู” “ใครวะ ลูกเป็ดขี้เหล่” เวลถามอย่างไม่เข้าใจ “ก็ลูกเพื่อนสนิทแม่กูไง กูจำได้นะยัยนั่นน่ะแม่งดำก็ดำเตี้ยก็เตี้ยอ้วนก็อ้วนถ้ามาอยู่กับกู โอ๊ย ไม่อยากจะคิด” คิสโวยวายดีดดิ้นไปมาบนโซฟาอย่างกับเด็กที่โดนขัดใจ “คนที่มึงเคยเล่าว่าตอนเด็กๆมึงล้อเขาจนเขาย้ายโรงเรียนแล้วไปเรียนต่างประเทศอ่ะนะ” โอ้โห เขาล้อผู้หญิงคนนั้นหนักขนาดเธอต้องย้ายโรงเรียนเลยหรอ “เออนั่นแหละ” **“แล้วมึงจะโวยวายทำไมล่ะ ในเมื่อเขาคือรักแรกของมึงแล้วมึงยังรอเขากลับมาไม่ใช่หรอ”** ฉันหันไปมองหน้าเวลสลับกับคิสอยู่แบบนั้น รักแรกเลยหรอ โรแมนติกจังแต่อย่างว่าเรื่องบางเรื่องเราจะมองแค่ข้างนอกไม่ได้จริงๆ **“ก็กูตื่นเต้นนี่ เกือบ****6 ปีเลยนะที่กูรอ...”** “เอาน่า เขากลับมาก็ทำกับเขาดีๆ อย่าเลว” เวลบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนถอดแจ็คเก็ตมาคลุมร่างฉันไว้แต่มันหล่นจากไหล่ฉันเลยดึงมาคลุมขาไว้แทนก่อนจะยกหมอนมาวางทับอีกชั้น ส่วนเขาก็เดินไปกดโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วเดินกลับมานั่งข้างๆฉัน แขนของเขาพาดที่ไหล่ฉันเบาๆปลายนิ้วร้อนเขี่ยไปมาบนไหล่ฉัน ฉันไม่พูดอะไรแต่จับมือเขาออก แต่เขาไม่ยอมปล่อยมือฉันออกกลับจับไว้แน่นแฝงได้ด้วยความอบอุ่น ท่อนแขนยาวของเวลเปลี่ยนมาโอบที่เอวฉันแถมยังจับมือฉันไว้แน่น “เมื่อกี้กูสั่งเหล้าให้แล้ว ไม่ต้องยิ้มเลยทิม” ท้ายประโยคเขาหันแขวะฉัน คิ้วสวยขมวดเป็นปม ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันเอียงไปซบไหล่เขาเสียงจังหวะหัวใจเต้นของเขามันรัวแรงและเร็วเหมือนกำลังตื่นเต้นหรือกำลังตกใจ พอคิดว่าเขาคงจะตกใจหรือไม่พอใจที่ฉันซบเขาฉันเลยกลับมานั่งตรงตามเดิม ฉันนี่ก็บ้าเนอะลืมตัวตลอดเวลาอยู่ใกล้เขา มันไม่มีทางที่เจ้าชายจะลงเอยกับแม่มดอย่างฉันหรอก “เป็นอะไรไป” เวลโน้มหน้าลงมาถาม ใช้นิ้วเกี่ยวผมไปทัดหูให้อย่าเบามือ ฉันส่ายหน้าแทนคำตอบแล้วนั่งเงียบอยู่แบบนั้น ไม่นานก็มีพนักงานในร้านเอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ ฉันอยากกินขนมจังไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงอยากกินอาจเป็นเพราะฉันไม่ค่อยได้กินก็ได้ แต่อยากกินจริงๆนะก่อนกลับแวะซื้อดีกว่า แต่เดี๋ยวนะรถฉันยังจอดอยู่ที่ร้านนี่นา ต้องกลับไปเอาสินะเนี่ย “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ” เวลหันมาถามมือยังถือแก้วเครื่องดื่มอยู่ ชิ ทีตัวเองยังดื่มได้เลย ฉันไม่ได้ติดแอลกอฮอร์ขนาดนั้นหรอกแต่ถ้าได้ดื่มจะดื่มให้มันสุดๆเมาเละกันไปเลย แต่นี่ดื่มแค่ไม่กี่แก้วเองนะ “ฮ่าๆๆ งอนอะไรเราดื่มไปแล้วไง” เขาว่าอย่างอารมณ์ดีก่อนจะยิ้มละลายมาให้ แต่ไม่ล่ะฉันจะไม่มีทางละลายไปกับเขาแน่นอน เขาน่ะคงไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่นๆหรอก ไม่รู้จักพอ สนุกกับชีวิตโดยไม่คิดจะสนใจคนที่คอยอยู่ข้างหลังเลย บ้าที่สุดทำไมฉันต้องมานั่งฟุ้งซ่านกับสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นทำด้วย ตอนทำเขาไม่เห็นจะสนใจเลยว่าฉันกับแม่จะรู้สึกยังไงน่ะ “นอยด์อะไรฮึ?” เวลยกมือลูบผมฉันเบาๆก่อนจะรั้งไปซบที่ไหล่เขาเบาๆ ความอบอุ่นที่ได้รับมันยิ่งทำให้ฉันคิดถึงแม่มากกว่าเดิม “เปล่าหรอก” “ง่วงหรือเปล่า อยากกลับมั้ย”เวลถามอย่างใส่ใจฉันเลยพยักหน้าให้เขาเบาๆ “คิสกูจะกลับแล้วว่ะทิมง่วงอ่ะ มึงจะดื่มต่อก็ได้นะเดี๋ยวกูบอกเด็กในร้านให้” “ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูกลับพร้อมมึงเลย” “อือ งั้นเจอกันมึง ทิมไปเอามือถือกับกุญแจรถที่โต๊ะให้หน่อยสิ” ก่อนจะลุกเขากดจูบที่หน้าผากฉันเบาๆ ฉันเงียบแล้วเดินไปหยิบของมาให้เขา ทำไมนะทั้งที่เพิ่งเจอกันได้ไม่นานทำไมฉันถึงได้มาติดแหงกอยู่กับเขาแบบนี้ล่ะ ฉันคิดเรื่องนี้ซ้ำไปวนมาจนปวดหัวไปหมด เวลาพาฉันกลับมาที่คอนโดเขาแต่เพราะฉันขืนตัวเอาไว้ไม่ยอมลงจากรถเขาเลยทำหน้าหงุดหงิดแล้วเดินมาฝั่งฉันพร้อมกับเปิดประตูอออกแรงๆ “ทิมลงมา มันดึกแล้วนะฝนก็ตกจะกลับยังไง” เวลเริ่มหัวเสียเมื่อฉันเอาแต่นั่งไม่ยอมลงจากรถ “ฉันจะกลับบ้าน” “ฝนมันตกครับเมีย” เวลรวนกลับมามือก็ปลดสายเบลออกให้ฉัน “ใครเมีย? และที่สำคัญฉันกลับเองได้” “ยอมให้กลับเองก็บ้าแล้วโว้ย มาได้แล้วอย่างอแง” “ไม่เอา!” “เวลคะ!! นังนี่ใคร” เสียงแหลมๆดังมาจากโซนฟรอนท์คอนโดพร้อมกับร่างเอ็กเซ็กซี่ของผู้หญิงผมแดงคนหนึ่ง เธอปราดตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ถ้าสวยแล้วทำกิริยาแบบนี้มันไม่ได้ช่วยยกระดับอะไรให้เธอดูสูงส่งเลยนะ “เมียฉัน ทำไม?” เวลบอกคนตรงหน้าเสียงเรียบแขนยังโอบเอวฉันแน่น “ตลกแล้วค่ะเวล เราคบกันอยู่นะ” ฉันเบี่ยงตัวออกจากเวลทันทีเมื่อผู้หญิงคนนั้นบอก แต่เวลก็เร็วกว่าเขาคว้ามือฉันไปจับแต่ไม่แม้แต่จะชายตามองฉันเลย “ใช่หรอ? ฉันจำได้ว่าก่อนเรามีอะไรกันเราก็ตกลงกันแล้วนี่ฉันได้ปล่อยเธอได้เงิน” “เลว” ฉันเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ต่อมาเสียงกรี๊ดๆของผู้หญิงคนนั้นก็ดังลั่น นับว่าดีหน่อยที่ตอนนี้มันดึกมากแล้วคนเลยไม่ค่อยเยอะมีเพียง รปภ.กับพนักงานต้อนรับที่ยืนอยู่ แต่ว่าทำไมยังมีพนักงานต้อนรับล่ะ “ทำไม นังนี่มันมีอะไรดีเวลถึงบอกว่ามันเป็นเมีย เธออ่อยเวลงั้นเหรอยัยเมียน้อย!!” ทุกอย่างรอบตัวมันหยุดชะงักไปหมด เมียน้อยงั้นเหรอฉันเป็นเมียน้อยหรอตลกจัง ฉันเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้นก่อนจะยิ้มให้เธออย่างจริงใจ คนตรงหน้าทำหน้างงแต่สิ่งที่ฉันทำลงไปมันกลับให้เธอกรี๊ดออกมาเสียงดังลั่น ฉันตวัดฝ่ามือลงบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางของเธอ “อย่ามาใช้ถ้อยคำต่ำๆกับฉัน คนที่ว่าคนอื่นเป็นเมียน้อยโดยที่ไม่รู้สึกอะไรนั่นแปลว่าเธอมันก็ไม่ต่างจากเมียน้อย” ฉันบอกผู้หญิงตรงหน้าเสียงเรียบ เวลเดินเข้ามายืนข้างๆฉันพร้อมกับดึงฉันเข้าไปกอดจนแน่น ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังทำหน้ายังไงหรือจะทำอะไรเพราะใบหน้าฉันฝังลงกับแผ่นอกของเวล เสียงทรงอำนาจตวาดลั่นพร้อมกับวงแขนแข็งแรงที่โอบกอดฉันแน่นขึ้น “อย่าให้ยัยนี่เข้ามาอีก ใครขัดคำสั่งฉันจะไล่ออก!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD