รักอุ่นใจนายเย็นชา 6
“ทำไมไม่เคาะประตูก่อนวะ!! ออกไปก่อน!!”
เวลตวาดลั่นมือก็ดึงกระโปรงฉันลงก่อนจะดึงฉันให้นั่งฝ่ามือร้อนกดฉันให้ซบกับแผงอกเขา เสียงหายใจหอบรุนแรงของเขาทำเอาฉันสั่นด้วยความกลัว
“ขอโทษ...”
เขาบอกเสียงนุ่มก่อนจะผละออกจากฉันเพียงเล็กน้อย ริมฝีปากร้อนจูบแนบลงบนหน้าผากฉันเนิ่นนานฉันถอยออกห่างจากเขาก่อนจะผลักเขาออกแรงๆ ได้ผลเมื่อเวลเซถอยหลังไป ฉันลงจากโต๊ะก่อนจะจัดทรงผมรวมถึงชุดให้มันดูเรียบร้อยที่สุด ไม่สนใจคนที่ยืนทำหน้าสำนึกผิดอยู่ข้างๆเลย ไม่นานผู้จัดการร้านก็เข้ามาใหม่อีกครั้งเมื่อฉันโทรบอกให้ข้ามา แววตาผู้จัดการมองมาอย่างล้อเลียนฉันได้แต่ถลึงตาใส่ด้วยความอาย ให้มันได้อย่างนี้สิเขาทำงานกับใครกันแน่ทำไมไม่มีทีท่าจะเกรงกลัวฉันเลย
“ของที่ต้องซื้อเข้าร้านครับ”
“เอ่อเจ๊ครับ คือมีเด็กลาออกสองคนครับ” ลาออกงั้นหรอ? ฉันเงยหน้ามองผู้จัดการร้านอย่างสงสัย
“เห็นบอกว่าจะกลับไปช่วยงานที่บ้านครับ”
“งั้นรับสมัครพนักงานเพิ่มด้วยแล้วกัน”
“ครับ”
ฉันเช็ครายการของเสร็จก็เซ็นแล้วยื่นคืนให้ผู้จัดการร้าน หลังจากผู้จัดการเดินออกไปเวลก็เข้ามายืนซ้อนหลังอยู่ข้างๆ ฉันปิดคอมแล้วเก็บของใส่กระเป๋าทันทีคนที่ดูจะพออกพอใจเห็นจะเป็นคนข้างๆนี่แหละเขาเอาแต่ยิ้มเรี่ยราดไปทั่วหรือว่าอ่อยลูกค้าสาวๆในร้านก็ไม่รู้นะ
“รถอยู่ทางนี้”
เวลดึงมือฉันไปที่รถก่อนจะเปิดประตูรถให้ฉันเข้าไป ระหว่างขับรถไปเขาก็เงียบแต่มุมปากเขายกยิ้มอย่างมีความสุขฉันเหนื่อยที่จะถามที่จะคุยเลยเอนตัวพิงเบาะแล้วหลับตาแต่เหมือนจะเผลอหลับไปจริงๆเพราะเวลเข้ามาเขย่าไหล่เบาๆ
“ถึงแล้ว ไปนอนที่ห้องทำงานก็ได้”
ฉันพยักหน้ารับก่อนจะเดินลงจากรถงงๆ มันง่วงอ่ะเวลทำสีหน้าหงุดหงิดก่อนจะดึงฉันเข้าไปชิดตัวเขา สายตาการ์ดของผับรวมถึงสายตาคนที่มองมาทำเอาฉันออกอาการร้อนๆหนาวๆ ตอนนี้คนยังไม่เยอะเท่าไหร่อยากไปนั่งดื่มจัง
“นี่”
“หือ? เรียกใครนี่”
เขาหรี่ตามองอย่างจับผิดก่อนจะพาฉันเดินขึ้นไปข้างบนไม่สนใจแรงขัดขืนของฉันเลย
“เวล อยากไปดื่มข้างล่าง”
ฉันบอกเขาตอนที่เขาพาฉันเข้าไปในห้องทำงานที่มีด้านหนึ่งเป็นกระจกเห็นโซนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ
“ไม่ได้ ครั้งก่อนดื่มไปเยอะแล้ว”
“นั่นมันครั้งก่อน” ฉันเถียงกลับทันที
“และมันก็หมายถึงครั้งนี้ด้วย นั่นคือห้ามโอเคนะ”
“ไม่โอเค!!”
เวลไม่สนใจฉันเพียงแต่เดินไปที่โต๊ะทำงานนั่งเช็คเอกสารอย่างสบายอารมณ์ ฉันได้แต่ทำปั้นปึ่งหน้าบึ้งเมื่อโดนขัดใจ ไม่รู้ทำไมถึงต้องยอมทำตามที่เขาบอก เกือบสี่สิบนาทีเวลถึงได้เดินมานั่งข้างๆ
“ก็ห่วงไม่อยากให้ไป”
“...”
“เฮ้อ ก็ได้ๆไปนั่งข้างล่างก็ได้แต่...”
ฉันทำหน้าดีใจร้องเยสออกมาเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น
“ต้องให้ลูกน้องฉันไปด้วย”
“ทำไมอ่ะ ข้างล่างเองนะ”
“ไม่ได้ ห้ามก็คือห้ามหรือจะไม่ไป”
“ก็ได้”
ฉันบอกเขาเสียงอ่อยมือกำลังจะคว้ากระเป๋าแต่เวลยึดไปถือไว้เรียบร้อยเขายื่นมือถือเขามาตรงหน้าฉัน ฉันรับมาอย่างไม่สบอารมณ์แล้วเดินออกมาจากห้องทันทีคนของเขายืนดูฉันอยู่ห่างๆแต่ไม่ได้เข้ามายืนชิดหรือทำให้อึดอัด ฉันนั่งจิบเรื่อยๆไม่สนใจสายตาของพวกผู้ชายที่มองมา ไม่รู้สิฉันตั้งใจจะมาดื่มไม่ได้มาหาผู้ชาย
“ขอโทษนะครับขอนั่งด้วยได้มั้ยครับ”
ผู้ชายหน้าตาที่จัดว่าหล่อมากคนหนึ่งเดินมากระซิบข้างหูฉันเบาๆ ฉันเบี่ยงตัวหนีจากเขาแต่เหมือนเขาจะไม่สนใจท่าทีรังเกียจที่ฉันแสดงออกมาเลย เขานั่งลงเบียดๆกับฉัน ฉันถึงได้ลุกยืนแล้วก้าวไปอยู่คนละฝั่งกับเขา ผู้ชายน่ารังเกียจ
“อะไรกันคนสวย มาคนเดียวแบบนี้ไม่เหงาหรอฉันอุตส่าห์มานั่งเป็นเพื่อนนะอย่าหยิ่งไปหน่อยเลยน่า”
ผู้ชายตรงหน้ายังพูดถ้อยคำน่ารังเกียจออกมา ก่อนจะมองฉันด้วยสายตาหยาบคาย ผู้ชายมันเป็นเหมือนกันหมดหรือไงกัน หัวใจฉันเต้นแรงรัวและเร็วจนน่ากลัว ความกลัวที่เกิดขึ้นมาฉันไม่รู้จริงๆว่ากลัวอะไรกันแน่ ระหว่างกลัวสายตาที่ผู้ชายตรงหน้ากำลังใช้โลมเลียฉันหรือสายตาดุดันของคนที่กำลังเดินฝ่าฝูงชนมายังฉัน
“ดูแต่งตัวสิตั้งใจมาอ่อยก็จะสนองให้แล้วไง”
“หุบปากเน่าๆของมึงไปซะ!!”
เวลตวาดลั่นพร้อมกับร่างสูงที่เข้ามาบังร่างฉันจากสายตาผู้ชายคนนั้น เขาดูน่ากลัวเป็นเท่าตัวยิ่งเวลาที่เขาตวัดสายตามองมาที่ฉัน ตอนนี้ฉันก็เริ่มมึนๆอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่ได้มึนหนักขนาดทรงตัวไม่อยู่เหมือนครั้งก่อน
“พี่เวล”
“เออ! กูเองทำไมมึงจะทำอะไรเมียกู” เวลถามเสียงเรียบแต่มือที่กำหมัดแน่นนั้นมันทั้งสั่นราวกับว่าพร้อมจะพุ่งไปหาคนตรงหน้าได้ตลอดเวลา
“คือ คือผมไม่ได้ตั้งใจนะครับพี่ผมไม่รู้...”
“งั้นมึงก็รู้ไว้ซะ นี่เมียกู”
“ผมขอโทษครับพี่”
เวลไม่ฟังสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นพูดแต่หันมามองฉันทั้งตัวก่อนจะดึงมือฉันให้เดินตามเขาไป เขาพาฉันกลับขึ้นมาในห้องทำงานเสียงประตูที่ปิดดังลั่นทำให้ฉันอดที่จะสะดุ้งด้วยความตกใจไม่ได้ จะอารมณ์ร้อนเกินไปแล้วนะ ฉันมองเขาอย่างไม่ชอบใจก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา เวลเดินเข้ามานั่งข้างๆไม่พูดอะไรจนฉันเริ่มจะกลัวเขาขึ้นมาจริงๆ
“ไอ้เวล!!”
เสียงตะโกนพร้อมๆกับประตูห้องที่ถูกเปิดโดยเพื่อนเจ้าของผับ ผู้ชายหน้าตาทะเล้นๆเดินหน้าบึ้งเข้ามาแล้วทิ้งตัวนั่งโซฟาตัวเดี่ยวอย่างไม่สบอารมณ์ เวลหยิบหมอนใบใหญ่มาวางทับตักฉันเงียบๆสายตาก็มองไปยังเพื่อนเขา
“อะไรของมึงคิส”
“ก็แม่น่ะสิ จะให้ยัยลูกเป็ดขี้เหล่มาอยู่กับกู”
“ใครวะ ลูกเป็ดขี้เหล่” เวลถามอย่างไม่เข้าใจ
“ก็ลูกเพื่อนสนิทแม่กูไง กูจำได้นะยัยนั่นน่ะแม่งดำก็ดำเตี้ยก็เตี้ยอ้วนก็อ้วนถ้ามาอยู่กับกู โอ๊ย ไม่อยากจะคิด” คิสโวยวายดีดดิ้นไปมาบนโซฟาอย่างกับเด็กที่โดนขัดใจ
“คนที่มึงเคยเล่าว่าตอนเด็กๆมึงล้อเขาจนเขาย้ายโรงเรียนแล้วไปเรียนต่างประเทศอ่ะนะ”
โอ้โห เขาล้อผู้หญิงคนนั้นหนักขนาดเธอต้องย้ายโรงเรียนเลยหรอ
“เออนั่นแหละ”
**“แล้วมึงจะโวยวายทำไมล่ะ ในเมื่อเขาคือรักแรกของมึงแล้วมึงยังรอเขากลับมาไม่ใช่หรอ”**
ฉันหันไปมองหน้าเวลสลับกับคิสอยู่แบบนั้น รักแรกเลยหรอ โรแมนติกจังแต่อย่างว่าเรื่องบางเรื่องเราจะมองแค่ข้างนอกไม่ได้จริงๆ
**“ก็กูตื่นเต้นนี่ เกือบ****6 ปีเลยนะที่กูรอ...”**
“เอาน่า เขากลับมาก็ทำกับเขาดีๆ อย่าเลว” เวลบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนถอดแจ็คเก็ตมาคลุมร่างฉันไว้แต่มันหล่นจากไหล่ฉันเลยดึงมาคลุมขาไว้แทนก่อนจะยกหมอนมาวางทับอีกชั้น ส่วนเขาก็เดินไปกดโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วเดินกลับมานั่งข้างๆฉัน แขนของเขาพาดที่ไหล่ฉันเบาๆปลายนิ้วร้อนเขี่ยไปมาบนไหล่ฉัน ฉันไม่พูดอะไรแต่จับมือเขาออก แต่เขาไม่ยอมปล่อยมือฉันออกกลับจับไว้แน่นแฝงได้ด้วยความอบอุ่น ท่อนแขนยาวของเวลเปลี่ยนมาโอบที่เอวฉันแถมยังจับมือฉันไว้แน่น
“เมื่อกี้กูสั่งเหล้าให้แล้ว ไม่ต้องยิ้มเลยทิม”
ท้ายประโยคเขาหันแขวะฉัน คิ้วสวยขมวดเป็นปม ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันเอียงไปซบไหล่เขาเสียงจังหวะหัวใจเต้นของเขามันรัวแรงและเร็วเหมือนกำลังตื่นเต้นหรือกำลังตกใจ พอคิดว่าเขาคงจะตกใจหรือไม่พอใจที่ฉันซบเขาฉันเลยกลับมานั่งตรงตามเดิม ฉันนี่ก็บ้าเนอะลืมตัวตลอดเวลาอยู่ใกล้เขา มันไม่มีทางที่เจ้าชายจะลงเอยกับแม่มดอย่างฉันหรอก
“เป็นอะไรไป”
เวลโน้มหน้าลงมาถาม ใช้นิ้วเกี่ยวผมไปทัดหูให้อย่าเบามือ ฉันส่ายหน้าแทนคำตอบแล้วนั่งเงียบอยู่แบบนั้น ไม่นานก็มีพนักงานในร้านเอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ ฉันอยากกินขนมจังไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงอยากกินอาจเป็นเพราะฉันไม่ค่อยได้กินก็ได้ แต่อยากกินจริงๆนะก่อนกลับแวะซื้อดีกว่า แต่เดี๋ยวนะรถฉันยังจอดอยู่ที่ร้านนี่นา ต้องกลับไปเอาสินะเนี่ย
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ”
เวลหันมาถามมือยังถือแก้วเครื่องดื่มอยู่ ชิ ทีตัวเองยังดื่มได้เลย ฉันไม่ได้ติดแอลกอฮอร์ขนาดนั้นหรอกแต่ถ้าได้ดื่มจะดื่มให้มันสุดๆเมาเละกันไปเลย แต่นี่ดื่มแค่ไม่กี่แก้วเองนะ
“ฮ่าๆๆ งอนอะไรเราดื่มไปแล้วไง”
เขาว่าอย่างอารมณ์ดีก่อนจะยิ้มละลายมาให้ แต่ไม่ล่ะฉันจะไม่มีทางละลายไปกับเขาแน่นอน เขาน่ะคงไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่นๆหรอก ไม่รู้จักพอ สนุกกับชีวิตโดยไม่คิดจะสนใจคนที่คอยอยู่ข้างหลังเลย บ้าที่สุดทำไมฉันต้องมานั่งฟุ้งซ่านกับสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นทำด้วย ตอนทำเขาไม่เห็นจะสนใจเลยว่าฉันกับแม่จะรู้สึกยังไงน่ะ
“นอยด์อะไรฮึ?” เวลยกมือลูบผมฉันเบาๆก่อนจะรั้งไปซบที่ไหล่เขาเบาๆ ความอบอุ่นที่ได้รับมันยิ่งทำให้ฉันคิดถึงแม่มากกว่าเดิม
“เปล่าหรอก”
“ง่วงหรือเปล่า อยากกลับมั้ย”เวลถามอย่างใส่ใจฉันเลยพยักหน้าให้เขาเบาๆ
“คิสกูจะกลับแล้วว่ะทิมง่วงอ่ะ มึงจะดื่มต่อก็ได้นะเดี๋ยวกูบอกเด็กในร้านให้”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูกลับพร้อมมึงเลย”
“อือ งั้นเจอกันมึง ทิมไปเอามือถือกับกุญแจรถที่โต๊ะให้หน่อยสิ”
ก่อนจะลุกเขากดจูบที่หน้าผากฉันเบาๆ ฉันเงียบแล้วเดินไปหยิบของมาให้เขา ทำไมนะทั้งที่เพิ่งเจอกันได้ไม่นานทำไมฉันถึงได้มาติดแหงกอยู่กับเขาแบบนี้ล่ะ ฉันคิดเรื่องนี้ซ้ำไปวนมาจนปวดหัวไปหมด เวลาพาฉันกลับมาที่คอนโดเขาแต่เพราะฉันขืนตัวเอาไว้ไม่ยอมลงจากรถเขาเลยทำหน้าหงุดหงิดแล้วเดินมาฝั่งฉันพร้อมกับเปิดประตูอออกแรงๆ
“ทิมลงมา มันดึกแล้วนะฝนก็ตกจะกลับยังไง” เวลเริ่มหัวเสียเมื่อฉันเอาแต่นั่งไม่ยอมลงจากรถ
“ฉันจะกลับบ้าน”
“ฝนมันตกครับเมีย” เวลรวนกลับมามือก็ปลดสายเบลออกให้ฉัน
“ใครเมีย? และที่สำคัญฉันกลับเองได้”
“ยอมให้กลับเองก็บ้าแล้วโว้ย มาได้แล้วอย่างอแง”
“ไม่เอา!”
“เวลคะ!! นังนี่ใคร”
เสียงแหลมๆดังมาจากโซนฟรอนท์คอนโดพร้อมกับร่างเอ็กเซ็กซี่ของผู้หญิงผมแดงคนหนึ่ง เธอปราดตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ถ้าสวยแล้วทำกิริยาแบบนี้มันไม่ได้ช่วยยกระดับอะไรให้เธอดูสูงส่งเลยนะ
“เมียฉัน ทำไม?” เวลบอกคนตรงหน้าเสียงเรียบแขนยังโอบเอวฉันแน่น
“ตลกแล้วค่ะเวล เราคบกันอยู่นะ”
ฉันเบี่ยงตัวออกจากเวลทันทีเมื่อผู้หญิงคนนั้นบอก แต่เวลก็เร็วกว่าเขาคว้ามือฉันไปจับแต่ไม่แม้แต่จะชายตามองฉันเลย
“ใช่หรอ? ฉันจำได้ว่าก่อนเรามีอะไรกันเราก็ตกลงกันแล้วนี่ฉันได้ปล่อยเธอได้เงิน”
“เลว” ฉันเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ต่อมาเสียงกรี๊ดๆของผู้หญิงคนนั้นก็ดังลั่น นับว่าดีหน่อยที่ตอนนี้มันดึกมากแล้วคนเลยไม่ค่อยเยอะมีเพียง รปภ.กับพนักงานต้อนรับที่ยืนอยู่ แต่ว่าทำไมยังมีพนักงานต้อนรับล่ะ
“ทำไม นังนี่มันมีอะไรดีเวลถึงบอกว่ามันเป็นเมีย เธออ่อยเวลงั้นเหรอยัยเมียน้อย!!”
ทุกอย่างรอบตัวมันหยุดชะงักไปหมด เมียน้อยงั้นเหรอฉันเป็นเมียน้อยหรอตลกจัง ฉันเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้นก่อนจะยิ้มให้เธออย่างจริงใจ คนตรงหน้าทำหน้างงแต่สิ่งที่ฉันทำลงไปมันกลับให้เธอกรี๊ดออกมาเสียงดังลั่น ฉันตวัดฝ่ามือลงบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางของเธอ
“อย่ามาใช้ถ้อยคำต่ำๆกับฉัน คนที่ว่าคนอื่นเป็นเมียน้อยโดยที่ไม่รู้สึกอะไรนั่นแปลว่าเธอมันก็ไม่ต่างจากเมียน้อย” ฉันบอกผู้หญิงตรงหน้าเสียงเรียบ เวลเดินเข้ามายืนข้างๆฉันพร้อมกับดึงฉันเข้าไปกอดจนแน่น ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังทำหน้ายังไงหรือจะทำอะไรเพราะใบหน้าฉันฝังลงกับแผ่นอกของเวล เสียงทรงอำนาจตวาดลั่นพร้อมกับวงแขนแข็งแรงที่โอบกอดฉันแน่นขึ้น
“อย่าให้ยัยนี่เข้ามาอีก ใครขัดคำสั่งฉันจะไล่ออก!!”