ถ้าไม่อยากให้พ่อของคุณหยุดหายใจ ก็เดินออกมาจากหอเงียบๆ รถสีดำทะเบียน ตร 9999 จอดรออยู่หน้ามหาวิทยาลัย
ยาหยีขยุ้มกระดาษแผ่นเล็กๆ แน่น ใบหน้างามซีดเผือดจนลินดาที่กำลังยืนดื่มน้ำอยู่ข้างๆ ต้องเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ทำไมหน้าซีดจังเลยลูกหยี ไหนดูสิจดหมายเขียนว่าอะไร”
ยาหยีเบี่ยงตัวหลบลินดาที่พยายามจะแย่งจดหมายในมือไปอ่านอย่างสุดความสามารถ เพราะมั่นใจดีว่าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป บิดาของตัวเองอาจจะไม่ปลอดภัย
‘นี่ใช่ไหมคือสิ่งที่พ่อของหล่อนหวาดกลัว นี่ใช่ไหมคือสิ่งที่ท่านสั่งให้หล่อนหนี แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น’
“ไม่มีอะไรหรอกลินดา แค่จดหมายขอความรักเท่านั้น”
ลินดาหรี่ตามองด้วยความไม่เชื่อ เพราะเพื่อนของหล่อนคนนี้โกหกเก่งที่ไหนกันล่ะ
“ถ้างั้นขอดูหน่อยสิ อย่าหวงไปหน่อยเลยน่า”
“ฉันอายน่ะลินดา เอ่อ...เดี๋ยวเธอขึ้นไปบนหอพักก่อนนะ ฉันมีธุระนิดหน่อย”
ยาหยีตัดบท ในใจกระวนกระวายยิ่งนักด้วยนึกเป็นห่วงสวัสดิภาพของบิดา แม้จะไม่รู้ว่าเจ้าของจดหมายเป็นใคร แต่หล่อนก็ต้องเสี่ยง หล่อนยอมปล่อยให้บิดามีอันตรายไม่ได้
“ธุระ? คนอย่างเธอเนี่ยนะมีธุระ ไม่อยากจะเชื่อ ร้อยวันพันปีไม่เคยไปไหนกับเขาสักที มันแปลกๆ นะพฤติกรรมของเธอน่ะ หรือว่าแอบมีกิ๊กกันยะยายลูกหยี”
ด้วยความทุกข์ใจทำให้ยาหยีไม่มีกะจิตกะใจจะปฏิเสธหรืออธิบายใดๆ กับลินดาอีก หญิงสาวพยักพเยิดหน้าส่งเดช และนั่นก็ทำให้ลินดาถึงกับห่อปาก ตาโตเท่าไข่ห่าน
“นี่เธอแอบซุกกิ๊กไว้จริงๆ เหรอ โอ้...ไม่น่าเชื่อว่าจะรอดพ้นสายตาของฉันไปได้ เธอนี่เก็บได้เงียบเชียบจริงๆ เลยนะยายลูกหยี” ลินดาทำสุ้มเสียงเหลือเชื่อ ก่อนจะโบกไม้โบกมือให้เพื่อนรักรีบไปตามนัด
“ไปเถอะ แล้วอย่าลืมพามาแนะนำให้ฉันรู้จักบ้างล่ะ”
ยาหยีถอนใจออกมาด้วยความเครียด พยักหน้ารับส่งๆ ออกไป
“อืม...ฉันอาจจะกลับค่ำสักหน่อย แต่รับรองไม่เกินสี่ทุ่มเวลาที่หอปิดแน่นอน”
“ไม่ต้องรีบกลับก็ได้แม่คุณ บางทีกิ๊กของเธออาจจะอยากให้เธออยู่ถึงเช้าก็ได้ ว่าแต่มาเรียนให้ไหวก็แล้วกันนะ”
ลินดายิ้มกว้าง จ้องหน้ายาหยีด้วยสายตาล้อเลียน ก่อนที่แม่คุณจะเดินฮัมเพลงขึ้นบันไดหอพักไป ยาหยีเป่าลมออกจากปากหนักๆ ขณะคลี่กระดาษที่ตัวเองขยำจนยับยู่ยี่ออกมาอ่านอีกครั้ง สมองหวาดหวั่นต่อความปลอดภัยของบิดาเหลือเกิน
“พ่ออย่าพึ่งเป็นอะไรไปนะคะ ลูกหยีกำลังจะไปช่วยพ่อ”
สาวน้อยรีบจ้ำอ้าวออกไปยังหน้าหอพัก กวาดตามองหารถสีดำที่ตัวเองท่องจำทะเบียนรถมาในสมองจนขึ้นใจ และเพียงเดินพ้นออกมาจากหน้ามหาวิทยาลัย สายตาของหล่อนก็ปะทะเข้ากับรถสีดำคันยาวเฟื้อยคันหนึ่งที่จอดนิ่งอยู่ด้านซ้ายมือ สาวน้อยรีบขยับเดินเข้าไปหยุดใกล้ๆ แล้วก็ต้องยกมือขึ้นปิดปากเมื่อเห็นทะเบียนของเจ้ารถคันยาวตรงหน้าถนัดถนี่
‘ตร 9999 ทะเบียนรถสวยๆ แบบนี้คงไม่มีทางซ้ำกันแน่’
ยาหยียืนนิ่งงัน ตัวแข็ง เท้าตาย จ้องมองประตูรถที่ถูกเปิดออกด้วยสายตาตื่นตระหนก ผู้ชายที่นั่งหน้าคู่กับคนขับก้าวลงมาจากรถและเดินตรงเข้ามาหาหล่อน
“เชิญครับ คุณยาหยี โรจน์มหามงคล”
“จะพาฉันไปไหนคะ”
คำพูดของหล่อนคงตลกมาก ผู้ชายในชุดสูทสีดำทะมึนตรงหน้าถึงได้ระบายยิ้มออกมา
“ขึ้นรถเถอะครับ นายน้อยรอคุณอยู่”
“นายน้อย?” สาวน้อยทวนคำพูดของคู่สนทนาด้วยความประหลาดใจ
“คุณจะได้คำตอบทุกอย่าง ถ้าคุณได้พบกับนายน้อย เชิญครับ”
ผู้ชายตรงหน้าของหล่อนผายมือเชื้อเชิญอีกครั้ง ก่อนจะเดินนำไปที่รถคันงาม ผู้ชายคนนั้นก้มศีรษะคล้ายกับแสดงความเคารพเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูในส่วนของห้องผู้โดยสารออก และหันมาหาหล่อน
“ขึ้นรถเถอะครับ”
ยาหยีไม่มีทางเลือกใดๆ อีก หล่อนจำเป็นต้องเสี่ยง ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เรื่องราวใดๆ แน่ชัดนัก แต่ชื่อของบิดาทำให้หล่อนหมดทางเลือก
เมื่อก้าวขึ้นมานั่งบนรถคันงามหรูหรา หญิงสาวจึงได้รู้ว่าไม่ได้มีแค่หล่อนคนเดียวในห้องโดยสารนี้ ผู้ชายคนหนึ่งนั่งเอนกายพิงกับเบาะรถด้วยท่าทางผ่อนคลาย ความมืดสลัวที่เกิดจากดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าและฟิล์มสีดำสนิททำให้หล่อนมองหน้าผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างกายไม่ถนัดนัก
แต่...กลิ่นหอมจางๆ จากร่างกายของคนนั่งใกล้ๆ กลับทำให้สมองของหล่อนนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเช้าที่ผ่านมา หล่อนก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ แบบนี้จากตัวของผู้ชายนัยน์ตาสีเขียวจัดคนนั้นเช่นกัน หล่อนจำกลิ่นนี้ได้ดีทีเดียว เพราะมันไม่ใช่กลิ่นหอมธรรมดา แต่มันเป็นกลิ่นกายของนักล่าผู้เก่งฉกาจ นักล่าที่เตรียมพร้อมจะขย้ำเหยื่อผู้น่าสงสาร นักล่าที่แสนอันตรายยิ่งสำหรับหัวใจของสตรี
“คุณคือผู้ชายเมื่อเช้าใช่ไหมคะ” แม้จะพยายามบังคับเสียงให้ราบเรียบยังไง แต่มันก็ยังสั่นไหวจนอดสมเพชตัวเองไม่ได้
“เก่งนี่ ที่จำผมได้” อยู่ๆ ไฟก็สว่างไสวขึ้นมาในพริบตา และสิ่งที่เห็นตรงหน้าก็ตอกย้ำความคิดของหล่อนได้เป็นอย่างดี
‘ใช่...ผู้ชายตาดุคนนั้นจริงๆ ด้วย’
“คุณ...”
ริมฝีปากสุดเซ็กซี่ของผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ คลี่ออกน้อยๆ ดวงตาสีเขียวจัดจับจ้องมาที่ใบหน้าของหล่อนเขม็ง
“ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง ยาหยี โรจน์มหามงคล”
เขาเรียกหล่อนเต็มยศเลยทีเดียว จำได้ว่าเมื่อเช้าที่พบกันเขาก็เรียกหล่อนแบบนี้ นี่เขารู้จักหล่อนได้ยังไงกันนะ หรือว่าผู้ชายคนนี้คือเจ้าของจดหมายข่มขู่ฉบับนั้น ความคิดนี้ทำให้หญิงสาวขยับถอยห่างจนแทบจะหลุดเข้าไปอยู่ในร่องประตู
“คุณเป็นเจ้าของจดหมายนั้นใช่ไหมคะ”
คอร์เนลเหยียดยิ้มหยัน
“ถูกต้อง ผมเป็นคนสั่งให้ลูกน้องเขียนมันขึ้นมาเอง และคุณก็ใจกล้าพอที่จะก้าวขึ้นมาบนรถกับผม”
ลำคอสาวแห้งผากเมื่อได้สบกับดวงตาเหี้ยมเกรียมของบุรุษสุดหล่อข้างกาย ความหวาดหวั่นเต้นเร่าอยู่ในกระแสเลือด แม้เขาจะหล่อ แม้เขาจะมีอำนาจอย่างรุนแรงต่อร่างกายและหัวใจของหล่อน แต่เขาก็ได้ชื่อว่าเป็นคนไม่ดี...คนที่กำลังจะทำร้ายพ่อของหล่อน
“พ่อฉัน...พ่อของฉันอยู่ไหน”