EP05
แต่แปลกที่ทุกคนภายในงานต่างสำลักควันจากแก๊สพิษแต่คาวิลกลับไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาเลย ชายหนุ่มยืนจ้องมองเรือนร่างของหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังย่างกรายเข้ามาใกล้ตนเองมากขึ้นจนกระทั่ง
แกร๊ก…
เสียงชักกระบอกปืนดังขึ้นรายลอบตัวเธอ ดวงตากลมโตกวาดมองก็พบเข้ากับการ์ดจำนวนมากที่กำลังฝ่าออกจากความมืดท่ามกลางควันและเล็งปืนมาที่เธอ
"…" เกิดความแปลกใจขึ้นมาในความคิด เธอถูกตลบหลังแบบนั้นหรอ
"ถอดผ้าออกสิ คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกในละครหลังข่าวแบบนั้นรึไง" คาวิลพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ตอนนี้ภายในงานไม่เหลือใครอยู่อีกแล้ว บางคนก็นอนสำลักควันพิษ บางคนก็เอาตัวรอดออกไปได้ทันเวลา
"…" เธอเงียบอีกครั้ง มีดหล่นลงบนพื้น ก็คิดไว้แล้วยังไงก็ฆ่าเขาไม่ได้แต่ก็ยังดีที่ช่วยผู้หญิงพวกนั้นได้
"คิดว่าแก๊สพิษที่ออกฤทธิ์แค่หนึ่งนาที จะทำให้เธอฆ่าฉันได้แบบนั้นหรอ?"
"อึก…"
"ตอนนี้ฉันคิดว่าเธอกำลังฆ่าตัวเองมากกว่านะ" พูดเพียงแค่นั้นคาวิลก็เดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ มือหนาบีบเข้าที่คางมนแล้วบดขยี้ เขาส่ายหัวกับวิธีการเด็กอนุบาลของปิ่นโต "เริ่มหายใจไม่ออกแล้วล่ะสิ ผ้าที่เธอใช้ปิดปากถ้าสูดแก๊สเข้าไปในปอดมันก็ไม่ช่วยอะไรหรอกนะ"
"แค่กๆ" สิ้นเสียงพูดก็สะบัดใบหน้าสวย พร้อมกับดึงผ้าธรรมดาที่เธอใช้มัดปิดปากออก จมูกเริ่มมีของเหลวสีแดงไหลออกมา ใบหน้าหวานเริ่มมีเหงื่อผุด มือเรียวยกขึ้นปิดปากตนเองไปด้วย
"ฉันไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรโง่ๆ อยู่ แต่การเล่นงานฉันด้วยสิ่งที่ฉันรู้จักดี มันคือความคิดที่โง่เขลาเกินบรรยาย" แก๊สพิษที่ปิ่นโตแอบนำมาป่วนในงานได้มาจากห้องเก็บแก๊สบนเรือที่คาวิลสั่งคนเตรียมไว้สำหรับเหตุการณ์ถูกลอบทำร้ายหรือฉุกเฉิน
ของสิ่งนี้พวกเขาผลิตมันขึ้นมาโดยเฉพาะและคนที่รู้วิธีป้องกันดีคือคนของเขาทั้งหมด แค่กลั้นลมหายใจหรือพ่นลมหายใจออกให้ครบหกสิบวินาทีฤทธิ์ของมันก็หมดแล้ว หากสูดเข้าไปก็จะเป็นอย่างที่หลายคนเป็นอยู่ตอนนี้ คือเลือดไหลออกทางจมูก หายใจเหนื่อยหอบ ร่างกายอ่อนแรงคล้ายเป็นลม แม้จะใช้ผ้าอะไรปิดปากก็ไม่สามารถป้องกันได้
"…" ร่างกายปิ่นโตกำลังถูกแก๊สพิษเข้าครอบงำ เธอทรุดตัวนอนลงบนพื้นแทบเท้าคาวิล นอนหายใจรายริน ภายในหัวฝากขอโทษแม่และยายที่เลือกทำแบบนี้ แต่หากไม่ทำแบบนี้จะเป็นแม่กับยายของเธอที่อาจจะตายแทนไม่วันใดก็วันหนึ่ง
"กำลังจะตายใช่ไหม ลองร้องขอให้ฉันช่วยสิ"
"หนู…ไม่…" ไม่ทันที่จะพูดขาดคำ เธอก็หมดลมหายใจเสียก่อน เปลือกตาคู่สวยปิดลงพร้อมกับหยาดน้ำตาสีใสที่ไหลออกหางตา
คาวิลจ้องมองแลัวก้มหยิบมีดดวงนั้นที่ปิ่นโตคิดจะนำมาฆ่าตนเองขึ้นมาแล้วจ้องมอง
"ประเมินความเสียหายครั้งนี้หน่อย กี่ร้อยล้าน"
"ครับบอส" ธิงส์ขานรับแล้วส่งสัญญาณให้การ์ดเอาปืนลง ซึ่งคำพูดและสายตาของเขา ธิงส์ก็สามารถจะรับรู้ได้แล้วว่าบอสของตนเองต้องการอะไร
ห้องพักส่วนตัว
คาวิลกลับมาบนห้องของตนเองบนเรือสำราญที่กำลังแล่น ชายหนุ่มเดินออกมานอกระเบียงแล้วเหม่อมองออกไปยังท้องทะเลยามค่ำคืน เรือแล่นออกแล้ว พึ่งออกได้เมื่อเกือบหนึ่งชั่วโมงมานี้ สินค้าที่ถูกนำประมูลรวมถึงแขกหลายคนได้รับความเสียหาย ตอนนี้ธิงส์กำลังเรียกเรือเล็กมารับคนที่บาดเจ็บทั้งหมดเพื่อกลับไปรักษาตัว
ส่วนสินค้าที่ถูกส่งออกต้องถูกเลื่อนเอาไว้ก่อน เพราะปิ่นโตได้ช่วยพวกเธอก่อนเรือออก ถึงจะฆ่าเขาไม่ได้แต่เธอสามารถช่วยได้หลายชีวิตขนาดนั้นก็ไม่ธรรมดา คาวิลครุ่นคิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนกระทั่งเวลาผ่านไปราวยี่สิบนาที
"ขออนุญาตครับบอส ผมมาสรุปความเสียหายทั้งหมด"
"อืม"
"รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดหนึ่งร้อยยี่สิบห้าล้านครับ ส่วนแขกที่ได้รับความบาดเจ็บได้ขึ้นเรือกลับฝั่งไปแล้ว ตอนนี้ธรกำลังสั่งคนปิดข่าวและติดต่อไปยังฮ่องกงเพื่อเจรจาเรื่องสินค้าครับ"
"ยัยนั้นล่ะ"
"ผมจัดการแล้วครับบอส"
"หนึ่งร้อยสามสิบล้าน ขยันหาเรื่องใส่ตัวซะจริง" คาวิลพูดพร้อมกับพ่นหายใจออกมา สิ่งที่เขาชดใช้ความเสียหายในงานนี้มันเป็นมูลค่าหลายล้านบาทมากแต่มันก็ไม่ได้ทำเขาเดือดร้อนมากขนาดนั้น ทุกอย่างมันสามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาไม่นาน ชายหนุ่มเพียงรู้สึกถูกหยามหน้าก็แค่นั้นเอง
"บอสรู้ใช่ไหมครับว่าเธอตั้งใจพังงานนี้"
"มันมีอะไรให้สังเกตยาก"
"ผมว่าบอสไม่ควรให้เธอพังงานของเรา"
"นายคิดอะไรให้มาก รู้ดีไม่ใช่หรอ ปัญหาพวกนี้แค่กระดิกนิ้วมันก็จบ" สินค้าผู้หญิงที่ถูกปล่อยตัวออกไปเขาก็แค่ให้คนจับตัวมาแล้วส่งออกใหม่ แค่เลื่อนเวลาก็เท่านั้น พวกที่บาดเจ็บเข้าโรงพยาบาลเขาแค่เอ่ยปากบอกทั้งโรงพยาบาลที่เขาเคยบริจาคเงินก็พร้อมให้ความรักษาฟรี ส่วนข้าวของภายในงานก็ไม่ได้มีอะไรแพง ตัวเลขที่เขาคำนวณมันก็แค่ตัวเลขที่ต้องการกักขัง ผูกมัดปิ่นโตให้อยู่กับตัวเองตลอดชีวิตก็แค่นั้นแหละ เพราะยังไงเธอก็ไม่มีวันชดใช้หมด
"หรือบอสทำเพราะสนใจเด็กนั้น"
"มันไม่เกิดขึ้นหรอก ฉันไม่เคยรักผู้หญิงคนไหน คนเดียวที่มีลมหายใจอยู่และฉันจะรัก คือหนูแพร"
วันต่อมา
ปิ่นโตเปิดเปลือกตาขึ้นก็พบว่าตนเองนอนอยู่ภายในห้องของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เธอหยัดกายลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียงแล้วกวาดสายตามองรอบบริเวณก็ไม่พบใคร หญิงสาวคิดย้อนเหตุการณ์ก็นึกขึ้นได้ว่าความทรงจำสุดท้ายอยู่บนเรือสำราญท่ามกลางปืนหลายกระบอกที่กำลังจ่อมาที่ตนเอง
นึกว่าตายไปแล้ว แต่กลับยังมีชีวิตอยู่แบบนั้นหรอ…
ในสมองคิดร่างกายก็ลุกขึ้นไปยังประตูเพื่อจะเดินไปส่องดูข้างหน้าว่ามีใครอยู่รึเปล่า พอสายตาเห็นชายหนุ่มชุดดำสองคนยืนเฝ้าก็ตกใจไม่น้อยจนต้องก้าวถอยหลังแบบไม่ทันตั้งตัว
"อ่ะ…" เสียงหวานหลุดครางออกมาด้วยความตกใจเมื่อแผ่นหลังชนกับแผงอกกว้างเข้าให้ เธอหันหน้ากลับไปมองก็พบว่าเป็นคาวิลที่กำลังยืนจ้องมองตนเองอยู่
"คิดจะหนีแบบนั้นหรอ"
"คุณช่วยหนูทำไม…"
"อยากรู้ไหม" ใบหน้าหล่อเหลายื่นเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม
"เพราะอะไร"
"รู้มั้ยว่างานที่เธอพัง ค่าเสียหายเท่าไหร่?"
"…" คำถามของคาวิลทำเอาใบหน้าหวานซีดเผือดขึ้นมาในทันใด
"หนึ่งร้อยยี่สิบหาล้าน เธอต้องชดใช้มัน"
ที่ไหนได้อยากได้น้องสินะคาวิล
1 คอมเมนท์ = กำลังใจ ❤️