"เหนื่อยหน่อยนะวันนี้"
ฐานิดาพูดขึ้นหลังจากที่ทุกคนเดินออกมาจากสถานีโทรทัศน์ช่องรันในช่วงเวลาสี่โมงเย็น วันนี้เป็นการแนะนำเพื่อนร่วมงาน และลักษณะงานให้กับน้องๆ ที่มาฝึกงานได้รู้หน้าที่ของตัวเอง
"พี่กันย์ดูเท่เนอะเป็นผู้หญิงที่สวยแล้วเท่อะไรแบบนี้"
อาคินพูดเสริมวันนี้เขาจ้องมองพี่กันย์ที่ทำหน้าที่บรรณาธิการแทบจะตลอดทั้งวัน เพราะเธอดูสวยดูเปรี้ยวเลยละ เขาเป็นถึงลูกชายเจ้าของบริษัทก็ไม่เคยรู้เลยว่าพนักงานที่อยู่ในความดูแลของตัวเองจะมีผู้หญิงที่สวยเท่อะไรขนาดนี้
"ไปไหนต่อไหมมิลก์"
"ไม่มีไปไหนนะ"
"งั้นไปกินติมกันไหมพวกเรา" ธนัสพรเอ่ยชวนทุกคนที่เห็นด้วยก็มีท่าทีกระตือรือร้นรวมทั้งมารตีด้วยที่ชอบกินไอศกรีมเป็นชีวิตจิตใจเรียกง่ายๆ ว่า ไม่ว่าเธอจะอารมณ์ไม่ดีมาขนาดไหน แต่ไอศกรีมก็จะเยียวยาทุกสิ่งสำหรับเธอ
"เอาดิ พวกเธอไปรอที่ร้านก่อนเลยฉันลืมของเดี๋ยวขึ้นไปเอาแป๊บ"
มารตีหมุนตัวกลับเข้าไปในอาคารอีกครั้งเธอเดินก้มหน้าไปตามทางเดินหาแหวนวงเล็กที่เธอเผลอทำหายตอนที่ถอดมันออกมาจากนิ้วก้อยข้างซ้ายเพื่อที่จะเก็บมันลงไปในกระเป๋า
"อ่ะ! เงินใครน่ะตั้งสิบบาทแหนะ"
มารตีมองซ้ายมองขวาเมื่อไม่เห็นผู้คนบริเวณนั้นเธอก็รีบตะปบสองมือลงไปแต่ทว่าเจ้าเหรียญสิบบาทนั้นดันเคลื่อนที่ได้ มารตีไม่ยอม เดินตามเหรียญนั้นไปโดยไม่ได้ดูเลยว่าใครกันที่เป็นคนดึงเหรียญนั้นไป
"เห็นแก่เงินชะมัด" ยัยนี่ตลกดี
"นายครับ เล่นแบบนี้มันดูไม่ดีนะครับ" โตแล้วเล่นอะไรเป็นเด็กไปได้
"ช่วยไม่ได้ยัยนั่นอยากเรียกกูว่าลุงทำไม" ต้องสั่งสอนให้เข็ด
"แต่วันนี้เรามาคุยเรื่องซื้อหุ้นไม่ใช่เหรอครับนาย"
"มันใช่เรื่องสำคัญไหม มึงใช้หัวคิดหน่อยนะโอกาสจะได้เจอยัยนี่มันมีบ่อยเหมือนเดินไปซื้อหุ้นรึไง" พระเจ้า! เป็นเอามาก
เฮนรี่ไม่สนใจเสียงนกเสียงกาที่กำลังขัดขวางความสนุกของเขา จริงอยู่ที่เขาจะมาขอเจรจาซื้อหุ้นของที่นี่ก็เพราะเธอ แต่ตอนที่เดินเข้ามาเขาเห็นว่ามารตีกำลังเก็บอะไรบางอย่างลงกระเป๋าสะพายข้าง แต่มันดันไม่ลงกระเป๋าเนี่ยสิ ทำให้เขารู้ได้ทันทีว่ามารตีต้องเดินกลับมาเพื่อหาของสิ่งนั้นแน่
"มาตามแหวน ผัวให้มารึไง"
เฮนรี่ทำท่าจะปาแหวนนั้นลงพื้นแล้วเหยียบซ้ำ โชคดีที่ไฮเนสห้ามเอาไว้ทัน ทำให้มาเฟียหนุ่มเก็บแหวนเล็กวงนั้นลงกระเป๋ากางเกงของตัวเอง
"ได้แล้ววว~ สิบบาทของฉัน"
"ของฉันต่างหาก!"
"เหวอ!" มารตีผงะเมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เจอเข้ากับเฮนรี่ที่ยืนกอดอกด้วยความภาคภูมิใจที่ได้แกล้งเธอ เธอเซไปด้านหลังสองสามเก้าทำเอามือหนาคว้าเอวบางเอาไว้แทบไม่ทัน หัวใจแกร่งมันเต้นแรงถี่ๆ กลัวว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บเพราะตัวเองเล่นพิเรนทร์
"ทำไมเจอคุณอีกแล้ว" เธอถามด้วยความประหลาดใจ
"ทำไม เจอฉันแล้วมันทำไม!"
"จะจับเอวฉันอีกนานไหมคะ"
เฮนรี่กระชับเอวบางเข้าหาตัวอีกครั้ง หรือเรียกง่ายๆ ว่าร่างบางเกือบจะลอยขึ้นเพียงแค่เขาออกแรงยกเธอขึ้นเท่านั้น มารตีใช้ฝ่ามือเรียวทั้งสองข้างดันแผงอกแกร่งของมาเฟียหนุ่มให้ห่างออกไป แต่ทว่ารอยยิ้มร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อตามแบบฉบับลูกครึ่งของผู้ดีอังกฤษทำให้คนตัวเล็กที่อยู่ในกำมือของเขาต้องรีบตีอกแกร่งระรัวเพื่อให้เขาปล่อย
เธอไม่ชอบ!
แต๊ะอั๋งเธออยู่ได้!
"มาถูกตัวฉันทำไม ไหนว่าผู้ชายกับผู้หญิงไม่ควรโดนตัวกันไง" ตาลุงนี่กวนประสาท!
"คุณลุงก็ปล่อยฉันสิ!"
"ฉันไม่ได้จับเธอไว้นี่" อ่ะ! เดี๋ยวนะ นี่เขายอมรับแล้วเหรอว่าเขาแก่เหมือนลุงน่ะ
อีกตาลุงเจ้าเล่ห์! ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าเขาจับเอวเธออยู่มารตีหันไปมองหน้าของสองลูกน้องมาเฟียเพื่อขอความช่วยเหลือแต่ว่าทั้งสองคนกลับพร้อมใจกันหมุนตัวหันหลังแสร้งทำไม่รู้ไม่เห็น
"นี่เงินฉัน"
"แต่มิลก์เจอก่อน ก็ต้องเป็นของมิลก์สิ"
มารตีเผลอตอบโต้กลับไปด้วยการเรียกชื่อของตัวเอง เพราะปกติเวลาเธอคุยกับคนที่โตกว่าเธอมักจะเรียกชื่อของตัวเองอยู่แล้ว แต่นั่น! มันทำให้เฮนรี่ยิ้มอย่างลำพองใจคิดว่าตัวเองเข้าใกล้เธอได้อีกนิด
"เดี๋ยวนะ นี่ลุงแกล้งมิลก์งั้นเหรอ"
"คนอะไรเจอเงินสิบบาทเหมือนตกทองได้หนึ่งเส้น"
มารตีเผลอทำหน้าง้ำงอ เธอผลักแผงอกของเฮนรี่เต็มแรงแต่เฮนรี่กลับไม่ขยับไปไหนเลย มาเฟียหนุ่มเองก็แปลกใจกับตัวเองอยู่นิดหน่อยเมื่อก่อนหากถูกใจใครเขาก็สามารถลากคนคนนั้นไปเสพสุขได้โดยไม่เลือกสถานที่ แต่กับเธอเขาทั้งอยากทำแบบนั้น และอยากแกล้งเธอไปด้วย แม้จะขัดใจกับคำว่าลุงแต่มันก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรขนาดนั้น
"ปล่อยมิลก์ค่ะ"
"อะๆ ปล่อยก็ปล่อยโวยวายเหมือนฉันไปข่มขืนเธอ"
ทันทีที่เอวบางเป็นอิสระมารตีหมุนตัวเตรียมออกมาจากตรงนั้น แต่ทว่าเฮนรี่ที่ไวกว่าก็วิ่งมาขวางหน้าเธอเอาไว้
"ไม่หาของแล้วเหรอ"
" ... " มารตีไม่ตอบแต่เธอกลับถอนหายใจออกมาราวกับกำลังรำคาญผู้ชายตรงหน้า และนี่ก็เป็นอาการจากผู้หญิงคนแรกที่ทำกับเขา ไม่สิ ไม่ใช่ ผู้หญิงคนที่สองที่ทำกับเขาคนที่ทำให้เขาเลือกที่จะไม่หยุดอยู่ที่ใคร
"คุณลุงเห็นแหวนของฉันไหมคะ"
"ไม่แทนตัวเองว่ามิลก์แล้วเหรอ"
"ถ้าไม่เห็นก็ขอตัวนะคะ" มารตีเบี่ยงตัวออกมาแต่มาเฟียหนุ่มก็ขวางหน้าเธอราวกับกำลังกลั่งแกล้ง
"นายครับ ได้เวลานัด ... แล้วนะครับ" เสียงของมาร์คัสดังขึ้นขัดขวางเขาอีกแล้ว เฮนรี่พลาดโอกาสที่จะได้สานต่อกับมารตีเพราะมาร์คัสอีกแล้ว ดวงตาคมจ้องมองแผ่นหลังบางที่เดินผ่านหน้าเขาไป ก่อนจะหันกลับมาแล้วยืนกอดอกมองลูกน้องคนสนิทอย่างเอาเรื่อง
"เออ คือได้เวลานัดแล้วครับนาย"
"กูไม่คุยแล้ว"
"อ้าวทำไมละครับนาย?"
"มึงอยากโดนเตะอีกเหรอไอ้มาร์คัส"
มาเฟียหนุ่มเดินออกไปทันทีด้วยท่าทางอารมณ์เสียปล่อยให้มาร์คัสยืนงงอยู่ตรงนั้นอย่างไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรผิด มือขวามาเฟียหันหน้าไปหาไฮเนสเพื่อนรักโดยที่ไฮเนสเองก็ส่ายหน้าไปมาแล้วเดินตามเฮนรี่ออกไป
"เดี๋ยว! แล้วนัดละ"
"เดี๋ยว! พวกมึง เอ๊ย! ไอ้เนส นายครับ แล้วนัดละครับ"
มาร์คัสไม่รู้จะทำตัวยังไงเขาจึงเลือกที่จะโทรไปหาผู้นัดหมายที่จะคุยกันเรื่องหุ้นของสถานีโทรทัศน์ช่องรันเพื่อขอเลื่อนนัดโดยให้เหตุผลว่าเฮนรี่ติดธุระด่วนไม่สามารถมาได้
"เฮ้อ หรือกูควรจะฉุดคุณมิลก์มาให้นายดีวะจะได้จบๆ"
ระหว่างทางที่เดินกลับไปขึ้นรถมาร์คัสเองก็คิดไม่ตกเพราะปกติแล้วเฮนรี่เจ้านายของเขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย
"หรือว่าเสียอาการเพราะโดนเรียกว่าลุง"