Jaokha Say............
บางทีฉันก็คิดว่าตัวเองโง่รึเปล่า ที่ยอมให้เค้าแกล้งแบบนี้ ฉันไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้นสักหน่อย ที่จะไม่รู้ว่าถูกแกล้ง แต่เพราะอยากถูกเค้าแกล้งมากกว่า ไม่ชอบเวลาเค้าทำหน้าเศร้าๆ ตั้งแต่ที่ป๊ากับม้าของไทเกอร์ไปฮ่องกง ไม่ได้มีแค่ไทเกอร์ที่เหงา พ่อฉันก็เหงาไปกับเค้าด้วย
พ่อเที่ยวบ่อยขึ้น แม้ไม่มีลุงซันก็ยังไป จะทำยังไงดี
“ เจ้าขา วันนี้พ่อไปข้างนอกก่อนนะ แล้วพ่อจะรีบกลับ “
“ พ่อคะ วันนี้เจ้าขาไปเที่ยวกับเพื่อนนะคะ “ พอสิ้นเสียงของฉัน รถคันสีแดงแรงฤทธิ์ก็จอดเทียบที่หน้าบ้าน
ปริ๊นนนน~* เสียงบีบแตรรถบอกว่าคนที่นัดมาถึงแล้ว
“ ไอ้เสืออีกแล้วหรอ “ พ่อมองด้วยสีหน้ากังวล
ไม่เคยบอกพ่อเลย ที่ไปเรียนทำอาหารไปเรียนที่บ้านไทเกอร์ ไม่ใช่ไม่อยากบอก แต่ถ้าบอกไปฉันคงไม่มีเพื่อนแน่ บอกแค่ไปเรียนทำอาหาร แล้วก็มีผลงานจากที่เรียน กลับมาอวดพ่อทุกอาทิตย์ พ่อเลยเชื่อว่าไปเรียนจริงๆ โกหกพ่อแบบนี้บาปไหมเนี่ย
พ่อรีบเดินออกไปข้างนอกบ้านทันที มีเรื่องแน่ๆ ถ้ารู้ว่าไปกันแค่ 2 คน แต่แล้วเหมือนสวรรค์เป็นใจ กระจกที่ประตูหลังเลื่อนลงทำให้เห็นคนที่มาด้วย
“ พี่เจ้าขาาาา ไปกันยัง ปะ “ เสียงชิม่อนที่โผล่มาจากเบาะหลัง แล้วไม่นานคนที่นั่งด้านหน้าข้างคนขับ ก็เปิดประตู เพื่อลงมานั่งเบาะหลังแทน ด้วยสีหน้าหงุดหงิด
ฉันเลยหันไปหาพ่อ
“ ไปกันหลายคนค่ะ “
“ กลับกี่โมง “
“ เย็นๆค่ะ “
“ เจ้าขาเล่นกับไฟ ไฟมันร้อนนะ พ่อเคยเจ้าชู้มาก่อน ดูก็รู้ไทเกอร์มันชอบลูก อย่าเผลออยู่กับมันสองต่อสองเชียว “
“ ตอนนี้พ่อก็ยังเจ้าชู้ค่ะ แล้วหนูเป็นลูกพ่อนะ ไม่ต้องกลัวหรอก “
ฉันส่งยิ้มบางๆให้คนเป็นพ่อ เพื่อบอกว่าไม่ต้องห่วง ฉันดูแลตัวเองได้
“ หนูไปนะคะ “
ฉันเดินไปขึ้นรถสีแดงที่จอดอยู่หน้าบ้าน แล้วหันไปส่งยิ้มให้คนที่นั่งอยู่ด้านหลังเป็นการทักทาย ฉันไม่โง่พอที่จะไม่รู้ว่าไทเกอร์ชอบฉัน อย่างน้อยก็จากที่พ่อเป่าหูอยู่ทุกวัน
“ ไงชิม่อน มิลิน “
“ พวกนี้ร้องจะตามมาให้ได้ ฉันก็เลยต้องเอามาด้วย เพราะยัยมิลินดันเอาตัวมาขวางรถไว้ “ ไทเกอร์ตอบอย่างหัวเสีย อยากไปกับฉันสองคนงั้นหรอ?
“ ขอไปด้วยเถอะ ผมเบื่อบ้านอะ พ่อผมให้อ่านหนังสือตลอด เบื่อมากเลย “
“ ส่วนฉันมาตามเฝ้าพี่ไทเกอร์ของฉัน “ มิลินตอบออกมาชัดเจน
ของเธอซะที่ไหน
Tiger Say..........
เจ้าขาเสนออยากร้องคาราโอเกะ แล้วทุกคนก็เห็นดีด้วย เราเลยมาจบกันที่ร้านคาราโอเกะ เราเลือกห้อง Vip ที่เป็นห้องส่วนตัว มิดชิด ทำไมเจ้าพวกนี้ต้องตามมาด้วยนะ เสียงดังน่ารำคาญจริงๆ ผมมองดูชิม่อนกับมิลินที่แย่งกันกดเพลงแล้วต้องส่ายหัวเบาๆ
“ ไม่สนุกหรอ “ เสียงกระซิบเบาๆจากคนตัวเล็ก ทำให้ผมหันไปมองเธอ
“ หนวกหูอะ อยากมากับเธอสองคนมากกว่า “
แล้วมิลินก็พักศึกกับชิม่อนเพื่อมาแทรกกลางระหว่างเรา
“ พี่ไทเกอร์อยากร้องเพลงอะไรคะ ฉันกดให้ “ มิลินเกาะแขนผมจนทำให้รู้สึกถึงหน้าอกที่เบียดกับแขนของผม ผมไม่ได้รังเกียจหรอกนะ แต่ไม่อยากให้ความหวังเด็กอะ
นี่เป็นครั้งแรก ที่ผมเห็นแววตาที่ไม่พอใจของเจ้าขา แม้มันจะเพียงแค่เสี้ยววินาที หรือผมจะรู้สึกไปเอง ไม่นานเจ้าขาก็ลุกขึ้นไปเลือกเพลงบ้าง พอเลือกเพลงเสร็จ ต่อไปก็คงเป็นรอคิวจนกว่าเพลงของตัวเองจะมา
พอถึงคิวเพลงของมิลิน แต่ละเพลงของเธอ เธอบอกร้องให้ผมทุกเพลง ให้ตายเถอะ การเป็นคนหน้าตาดีมันลำบากใจจริงๆ ผมแอบชำเลืองคนตัวเล็กที่ตอนนี้เอาแต่กิน
“ หิวน้ำอะ “ ผมพูดขึ้นมาเสียงดัง ผมคิดว่าดังมากพอที่เจ้าขาจะได้ยิน
แต่มันก็ดังพอที่จะให้หญิงสาวอีกคนได้ยินด้วย มิลินรีบวางไมค์เพื่อเอาน้ำมาให้ผมแทน โธ่!! พลาด ผมต้องโดนยัยมิลินแนบชิดอีกนานแค่ไหน
พอเมื่อถึงเพลงของเธอ เธอก็ลุกขึ้นคว้าไมค์แล้วเดินไปหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ทันที
“ เพลงนี้ฉันก็ร้องให้ไทเกอร์เหมือนกัน “ เธอทำสายตาล้อเลียนมิลินที่นั่งอยู่ข้างผม เมื่อเพลงขึ้นเธอก็เริ่มร้องเพลงทันที
เพลง เก็บไว้ทำกับแฟน งั้นหรอ ร้องให้ผมงั้นหรอ
[ อะไรกันคะอะไร มาทำปากว่ามือถึง ไม่ทันรู้จักลึกซึ้ง ไม่ไหวนะ อ๊ะๆ อา ดึงเอวโอบหลังไม่ได้ ไม่ต้องมาพยายาม เอ่อ สะกิดนิ้วก้อยก็ห้าม หยุดเลยนะ อ๊ะๆ อา ] เธอร้องแล้วยักคิ้วให้ผม
[ ของแบบนี้ เรื่องแบบนี้ ผู้หญิงดีๆ ไม่มีใครเค้าให้ แน่ะยังจะมาขอ ให้ฉันบอกว่ารัก ให้จับมือเธออีกแน่ะ ได้ไง ]
[ เก็บเอาไว้ทำกับแฟนเท่านั้น แล้วมันก็ไม่ใช่เธอ ชอบฉวยโอกาสนักเดี๋ยวเหอะ บอกเลยไม่ชอบรู้ไหม เก็บเอาไว้ทำกับคนเป็นแฟน เธอจะมาทำแทนได้ไง ตอนนี้ฉันยังไม่อยากมีใคร ไปๆซุกซนที่อื่น ]
มาร้องเพลงนี้แล้วมองหน้ากัน หมายความว่ายังไง จะบอกไม่ให้แตะต้องใช่ไหม ถ้าไม่แตะจริงๆขึ้นมา จะมาร้องไห้อ้อนวอนให้แตะไม่ได้นะ
ผมส่งสายตาให้ชิม่อน ให้เอามิลินไปที ชิม่อนก็พยักหน้ารับทราบ แล้วมาลากมิลินออกไปทันที เฮ้ออออ
“ เก็บเอาไว้ทำกับแฟนอ่ะ เธอไม่มีวันได้ทำหรอก “ เพราะความดังของเสียงเพลง มันเลยทำให้ผมต้องพูดข้างๆหูเธอ
“ ทำไมอะ “
“ เพราะฉันไม่ให้เธอมี “
“ เรื่องอะไร มีแค่นายฉันขึ้นคานพอดี ที่ฉันยังไม่มี เพราะฉันรอคนที่ใช่อยู่เหมือนกันแหละย่ะ “ คำตอบของเธอทำเอาผมหงุดหงิด จนเผลอตะคอกใส่เธอ
“ มีฉันก็พอ “
“ แล้วนาย มีแค่ฉัน พอรึเปล่า “
คำถามที่เหมือนไม่มีอะไร แต่ทำไมผมกลับไม่รู้สึกแบบนั้นจากสายตาของเธอ เหมือนเธอตั้งใจจะบอกอะไรที่มากกว่านั้น แต่การถามคำถามเชิงซ้อนแบบนี้มันดูไม่ใช่เธอเลย มันดูฉลาดเกินไป หรือจริงๆแล้วเธอแค่ถามแบบไม่ได้คิดอะไร ลองตอบตามคำถามตามที่เธอถามก่อนแล้วกัน
“ ไม่พอ “ ผมตอบไปแบบนั้นแหละ เพื่อดูอาการของเธอ
“ ระวังเถอะ ฉันเจอคนที่ใช่ ฉันจะไปทันทีเลย ปล่อยให้นายเหงาให้เข็ด นายอะมีเพื่อนเป็นฉันคนเดียวนะ “
ทำไมวันนี้เธอถึงยั่วโมโหผมจังเลย แต่จะบอกยั่วโมโหก็ไม่ถูก เพราะถ้าคุยกันแบบเพื่อน แบบนี้คงเรียกว่าปกติ ทำไมผมรู้สึกว่าเธอไม่เหมือนเดิม ทำไมกันนะ หรือเพราะมิลิน
“ หึงรึไง “
เธอทำสีหน้าตกใจ แล้วตอบปฏิเสธออกมาทันควัน แต่ก่อนที่ผมจะได้ยินคำตอบจากเธอ มิลินก็เดินเข้ามาแทรกเราอีกครั้ง ลองปล่อยตัวให้มิลิน เพื่อดูปฏิกิริยาของเธอ
“ พี่ไทเกอร์ไม่ร้องเพลงหรอคะ ฉันอยากฟังพี่ร้องเพลง พี่ร้องเพลงเพราะนิหน่า “
“ วันนี้พี่ขอผ่านก่อนค่ะ ไว้ครั้งหน้าดีกว่า “
เด็กสาวพยายามดันอกอันมหึมาดันแขนผม ให้ตายเถอะ ช่างเป็นคนที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้ เพราะเป็นคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก จะให้ผมจิ้มเล่นๆก็ไม่ได้ ให้ความหวังก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย แต่เธอกับหยิบยื่นให้ผมเต็มที่
“ วันนี้พี่ไทเกอร์ดูดีจนฉันอยากจะ จู๊บบบบ “ ผมเอนไปด้านหลังเพื่อหนีสาวสายรุกคนนี้
“ เก็บเอาไว้ทำกับแฟนดีกว่านะ “
“ แฟนฉันก็พี่ไง “
ไอ้ชิม่อนไปไหนวะ มาเอามิลินออกไปที!!!! ผมมองหาไปรอบๆห้อง เพื่อหาตัวช่วยที่อุตส่าห์เอามาด้วย
“ มันไปเข้าห้องน้ำ พี่ไม่ต้องมองหาหรอก “
“ ถ้าพี่เอาจริงขึ้นมา มิลินจะหาว่าพี่ไม่เตือนไม่ได้นะ........ “ ยังไม่ทันจะพูดจบ เจ้าขาก็เอามือมาปิดปากของมิลินแล้วดึงออกจากตัวของผม
แล้วเธอก็ลากคว้าข้อมือผม ลากออกไปจากห้องทันที มันประจวบเหมาะกับชิม่อนออกมาจากห้องน้ำ ผมเลยใช้โอกาสอันน้อยนิดโยนกระเป๋าตังให้ชิม่อน เพื่อรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ก่อนจะยอมโดนเธอลากออกจากห้องคาราโอเกะ เธอดูหงุดหงิดเอามากๆ
“ เดี๋ยวๆ ฉันเดินเอง “ ผมยื้อดึงแขนเธอเอาไว้
ผมดึงแขนเธอเอาไว้ เธอก็พยายามดึงให้ผมเดินต่อ ผมไม่เดินอะ แต่เธอก็ไม่ยอมปล่อยมือแฮะ อาการหึงของเธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นเอาซะเลย ผมแค่อยากรู้ว่าเธอจะทำยังไงต่อ
“ กลับไปที่ห้องดีกว่า ต้องไปเอากระเป๋าตังกับชิม่อนมันด้วย “ ผมแกล้งพูด พร้อมลากเธอกลับไปทางเดิม เพียงแค่อยากรู้ว่าเธอจะทำยังไงต่อ
“ ฉันจะยอมเป็นแมว ถ้านายยอมพูดว่าฉันจะสำคัญที่สุด “ เธอก้มหน้าก้มตาพูด แต่แค่นี้มันก็เพียงพอกับสิ่งที่ผมต้องการแล้ว
“ เธอสำคัญที่สุด “ พอสิ้นเสียงของผม ผมก็ลากเธอไปที่รถทันที
จะยอมเป็นแมวให้ฉันงั้นหรอ ยอมรับออกมาแล้วสิว่าหึงจริงๆ เรานั่งเงียบๆกันมาตลอดทาง จะทำยังให้เธอคายความรู้สึกตัวเองออกมา จะต้องทำไงนะ
“ เสือ นี่มันทางไปบ้านนายนิ “
“ นี่มันแค่บ่าย ยังไม่หมดเวลาของฉันซะหน่อย “
แล้วเธอก็เงียบไปอีกครั้ง เธอทำเพียงนั่งเงียบๆ แล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง คิดอะไรอยู่นะ อยากรู้จัง
เมื่อเรามาถึงบ้าน เธอก็ยังไม่พูดกับผมอีก แค่พูดว่าฉันหึง มันจบเลยไหม ทำไมต้องทำให้มันยากด้วย คิดอะไรอยู่ได้
แล้วจู่ๆเธอก็เลือกทำลายความเงียบลงเอง
“ ฉันรู้สึกตัวเองทำตัวงี่เง่าจังเลย “
ที่แท้แค่รู้สึกผิดงั้นหรอ
“ ฉันไม่รู้ฉันเป็นอะไร แค่ไม่พอใจอะ ไม่พอใจที่นายพูดคำว่า ถ้าพี่เอาจริง กับมิลินอะ “ เธอพรั่งพรูความรู้สึก
“ หึงฉันรึไง “ ผมเดินเข้ามาใกล้เธอแล้วก้มมาพูดใกล้ๆ คนที่พอถูกถามว่าหึงรึเปล่าก็มีท่าทีต่อต้านชัดเจน
“ หึงบ้าอะไร ไม่ได้ชอบนายสักหน่อย “
“ หลงเสน่ห์ฉันอีกคนก็บอกมาเถอะ “ พอพูดจบ ผมก็เดินขึ้นบันได ขึ้นมาบนชั้นสองของบ้านช้าๆ เพราะรอเธอตามขึ้นมา
“ ใครไปหลงเสน่ห์นายไม่ทราบ “ แล้วเธอก็เดินตามขึ้นมาจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเดินขึ้นมาถึงส่วนของห้องนอน เพราะตอนที่หลบมิลินครั้งที่แล้วก็อยู่แค่ตรงบันได เธอเดินมองกรอบรูปมากมายที่ติดไว้ตามกำแพง
“ คนนี้ใครอะน่ารักจังเลย “
“ ป๊าอะ “
“ อาเติร์ดเด็กๆน่ารักจัง แล้วนายอยู่ไหนอะ “
“ รูปของฉันคงจะอยู่หน้าห้องอะ “
แล้วผมก็จูงมือเธอขึ้นมาดู รูปที่ม้าถ่ายผมไว้ตั้งแต่เด็ก มีภาพของผมตั้งแต่เกิดจนถึงเรียนจบเลย เธอก็ดูไปวิจารณ์ไป
“ เด็กๆนายน่ารักอะ “ หึหึ มุขนี้ใช้กับสาวได้ทุกคนแหละที่พามาบ้าน
“ แล้วตอนนี้ไม่น่ารักหรอ “ ผมรวบเอวเธอเข้ามา เป็นแพทเทิร์นที่ทำ ตอนที่หิ้วสาวกลับบ้าน
“ ไม่อะ ขี้เก๊ก ขี้แกล้ง เอาแต่ใจ ใจดำ แล้วก็อย่ามาทำเหมือนฉันเป็นสาวในสต๊อกนายฉันไม่ปลื้ม “ แล้วร่างเล็กๆของเธอก็ผลักผมออก
ครบเซ็ทเลย ไม่เหลืออะไรดีเลย หมดกันไม่เหลือเลย อารมณ์จะพาเธอเข้าห้อง จะจีบยังไงวะ รู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว
“ เข้าห้องฉันไหม “ ชวนมันตรงๆเลยแล้วกัน
“ จะปล้ำฉันหรอ แค่ฉันมีอารมณ์หวงเพื่อน มันไม่ได้แปลว่านายจะมาลวนลามฉันได้นะ “
แปลก วันนี้รู้ทัน
“ หวงเพื่อนงั้นหรอ ?? “ ผมถามเธอด้วยความสงสัย
“ อื้ม ก็ฉันไม่ได้ใจเต้นกับนายอะ อยู่กับพี่เตฉันใจเต้นมากกว่านี้อีก แม้เค้าจะไม่ต้องถึงเนื้อถึงตัวเลย “
ไอ้พี่เตอีกแล้วหรอ ชอบมันรึไง ถึงบอกว่าอยู่กับมันแล้วใจเต้นอะ ถ้าเธอจะพูดเพื่อยั่วให้โมโหเธอทำสำเร็จเลย
“ ชอบมันรึไง “ ผมขึ้นเสียงใส่เธออย่างคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
“ ยังบอกไม่ได้ แต่ถ้าบอกได้ฉันจะบอกนายเป็นคนที่สองเลย “ รอยยิ้มแบบเขินอายนี่มันอะไร แล้วไอ้คนที่สองมันคืออะไร
“ ไม่ได้!! จะรู้สึกอะไรก็ไม่ได้ทั้งนั้นอะ “
“ ทำไมนายหึงฉันหรอ “ แววตาใสซื่อ ถามแบบคนไม่รู้สึกอะไร มันขัดกับคำพูดที่เธอพูดออกมา
มันกำลังย้อนแย้งกันอยู่ในสมอง ว่าควรจะเชื่อความคิดที่รู้จักเธอมา 8-9 ปี หรือจะเชื่อความรู้สึก กับสิ่งที่เธอทำตอนนี้ดี ทำไมรู้สึกเหมือนกำลังถูกเธอปั่นหัว
“ ใช่ฉันหึง เธอหวงเพื่อนได้ ฉันหึงเพื่อนไม่ได้รึไง “ ผมก้มลงมาจนหน้าประชิดเธอเลย
“ บ้า มันมีที่ไหนหึงเพื่อน “ เธอผลักหน้าผมออก จนผมต้องดึงมือเธอออก
“ เยอะแยะไป กลัวเพื่อนไปมีเพื่อนใหม่ที่สนิทกว่าไง “
“ บ้า !!! “ เธอผลักผมออกแล้วรีบตรงไปที่บันไดทันที
แต่ขาสั้นๆแบบนั้นมีหรอจะหนีผมทัน ผมคว้าครั้งเดียวก็รวบเอวเธอได้แล้ว ผมกระชับร่างเล็กๆเอาไว้ในอ้อมกอด
“ ตอนนี้เธอเป็นแมวของฉันแล้ว ฉันจะไม่ยอมให้เธอมีทั้งนั้น ไม่ว่าจะเพื่อนหรือแฟน “ ผมซุกปลายจมูกบนซอกคอของเธอ แล้วสอดมือใต้เสื้อเพื่อสัมผัสผิวนวลใต้เสื้อที่เธอใส่
“ เสือ ฉันกลัว อย่าทำแบบนี้ “
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมปล่อยให้ความอยากเข้ามาอยู่เหนือเหตุผลที่ผมมี ผมเพิ่งรู้ตัวว่าทำสิ่งที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ไปซะแล้ว มันไม่ใช่เรื่องแก้ตัวว่าผมกำลังแกล้งเธอได้ เพราะสิ่งที่ผมทำคือลวนลาม และฝืนใจเธอ
“ ขอโทษที สงสัยของขาด ฉันไปส่งเธอที่บ้านดีกว่า “
“ อื้ม “
ผมขับรถไปส่งเธอทันที ผมเงียบมาตลอดทาง แม้เธอจะพยายามชวนคุย แต่เสียงของเธอกลับบางเบา จนแทบไม่ได้ยิน เพราะเสียงที่ดังที่สุดตอนนี้คือเสียงความคิดของผมเอง ผมโฟกัสเธอมากไป ผมทำอะไรลงไป เพราะแค่เธอพูดเรื่องพี่เต ผมถึงกลับขาดสติ
เมื่อรถจอดที่หน้าบ้านของเธอ ผมกลับไม่อยากไม่อยากให้เธอลงเลย
“ ขอโทษนะ อย่ากลัวเลย ฉันไม่ได้ตั้งใจ มันจะไม่มีอีก “ ผมใช้มือข้างนึงแนบแก้มเธอเอาไว้ เพื่อเป็นการขอโทษ ขอโทษจากใจจริงๆ
“ อื้ม ฉันลงรถนะ เดี๋ยวพ่อมาเห็นจะเข้าใจผิด “
ผมปล่อยให้เธอลงแต่โดยดี เฮ้ออออ ทำผิดขั้นร้ายแรงซะแล้วสิ ต้องระบายความอยากบ้างซะแล้วสิ