ร่างเพรียวบางแหวกว่ายในสระว่ายน้ำอยู่เพียงลำพัง พื้นกระเบื้องสีครามดูรับกับแดดสดใสและทำให้ติชิลาที่อยู่ในชุดว่ายน้ำสีชมพูอ่อนหวานดูราวกับนางเงือกดำผุดดำว่ายในท้องทะเล
หญิงสาวโผล่ขึ้นจากผิวน้ำว่ายมาเกาะที่ขอบสระ แม้ว่าเธอจะชอบว่ายน้ำมากแค่ไหน แต่การอยู่ในสระน้ำคนเดียวร่วมชั่วโมงก็ทำให้รู้สึกเบื่อได้เหมือนกัน ตลอดสองสัปดาห์ที่มาเยือนดินแดนบัดรีญา เธอได้แต่อยู่ในเขตของโรงแรมไดมอนเท่านั้น ห้องพักของเธอที่ลุงวิชญะจัดให้นอกจากจะหรูหราแล้วยังเห็นวิวทิวทัศน์ในเมืองหลวงของบัดรีญา ตึกรามบ้านช่องที่ผสมผสานระหว่างสมัยใหม่และดั่งเดิมดูน่าสนใจไม่น้อย ทว่าลุงวิชญะก็ยังไม่พาเธอเที่ยวชมเลย เธอเข้าใจดีว่าลุงของเธอมีธุรกิจที่ต้องดูแล แต่...แค่เที่ยวเล่นในเมืองแค่นี้ เธอไปเองก็ได้ไม่ใช่เด็กเล็กๆ ที่ดูแลตัวเองไม่ได้เสียหน่อย
ติชิลารู้สึกถึงระลอกน้ำในสระที่กระทบเธอ คงมีใครสักคนกำลังว่ายน้ำอยู่ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่สระว่ายน้ำของโรงแรมจะมีลูกค้ามาใช้บริการ เธอหันไปมองแล้วก็เห็นชายหนุ่มร่างกายกำยำกำลังว่ายน้ำอยู่ ดูเขาช่างเต็มไปด้วยพละกำลังมหาศาลและแข็งแกร่งราวกับฉลามหนุ่ม ผิดกับเธอที่ว่ายน้ำแค่เพื่อผ่อนคลายและหาความรื่นรมย์ในสายน้ำ
เอาเถอะ! หญิงสาวรู้สึกว่าสมควรแก่เวลาขึ้นจากน้ำเสียทีและปล่อยให้คนอื่นได้ใช้สระน้ำบ้าง เธอว่ายมาทางบันไดเพื่อขึ้นจากสระและในนาทีถัดมาเธอรู้สึกว่ามีใครบางคนซ้อนอยู่ด้านหลังและทำให้เธอหันไปมองด้วยสัญชาตญาณ ปลายจมูกโด่งรั้นเกือบปะทะกับแผงอกที่เปลือยเปล่า ลมหายใจชะงักค้างไปในทันทีและต้องใช้เวลาหลายวินาทีกว่าเธอจะกล้าแหงนหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม
ร่างของเขาช่างสูงใหญ่จนทำให้เธอรู้สึกกลายเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ไปในทันที ใบหน้าคมเข้มรวมทั้งแววตาที่จ้องมองก็แสนดุดัน และเธอก็มั่นใจว่าไม่เคยเป็นคู่กรณีกับชายผู้นี้มาก่อน แต่ดวงตาของเขาที่จ้องมองเธอราวกับจะสะกดเธอให้นิ่งงันไปนั้น ทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก
“ติชิลา?”
“คะ?”
“ติชิลา จิตรกัญญา...”
“ชะ...ใช่...ใช่ค่ะ” ติชิลาเอียงคอมองเขาอย่างงุนงง แต่แล้วเธอก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วร่างเมื่อเห็นรอยยิ้มที่น่าน่ากลัวของเขา ร่างบอบบางพยายามถอยห่างออกทันที
“คุณติชิลาค่ะ”
หญิงสาวหันไปตามเสียงเรียกบนสระทันที หญิงสาววัยไล่เลี่ยกับเธอแต่สวมชุดพนักงานโรงแรมยืนยิ้มอย่างเป็นมิตรอยู่บนขอบสระ เธอรีบขึ้นจากสระน้ำทันทีแล้วฉวยเสื้อคลุมสีขาวของตนมาสวมอย่างรวดเร็วแต่กระนั้นเธอก็รู้สึกว่ามันเชื่องช้าและมือเธอก็สั่นน้อยๆ เพียงเพราะรู้สึกถึงสายตาอำมหิตด้านหลัง
“คุณวิชญะเชิญที่ห้องอาหารค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอฝืนยิ้มให้เล็กน้อย “ขอเวลาสักครึ่งชั่วโมงนะคะ”
“ดิฉันจะไปเรียนคุณวิชญะให้ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ติชิลามองพนักงานหมุนตัวเดินจากไป เธอกลั้นใจหันกลับไปมองชายแปลกหน้าคนนั้นอีกครั้ง แต่เขากลับว่ายน้ำโดยไม่สนใจจะหันมามองเธอ มือเรียวกระชับสาบเสื้อเข้าหากันแน่นแล้วเร่งเดินเร็วๆ จากไป
น่าแปลก...เขาไม่ได้ทำอะไรเธอเลย แค่เพียงสายตาเท่านั้น เธอก็รู้สึกหวาดหวั่นได้มากมายถึงเพียงนี้
ติชิลารีบกลับมาที่ห้องเพื่อจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วและพยายามลืมเหตุการณ์เมื่อครู่ แต่แววตาของเขาที่จ้องมองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อทำให้เธอรู้สึกหวาดวิตกไปหมด
หญิงสาวสวมชุดเดรสเป็นกระโปรงติดกันยาวคลุมเข่าพื้นสีขาวมีลายดอกกุหลาบเล็กๆ สีชมพู ผมยาวสลวยถึงเอวของเธอเป็นลอนน้อยๆ ดูอ่อนโยนจนน่ายื่นมือไปสัมผัส เท้าของหญิงสาวชะงักไปนิดเมื่อเห็นว่าที่โต๊ะอาหารไม่ได้มีแค่ลุงของเธอที่นั่งอยู่
“มาแล้วรึหลานเพลง” วิชญะเผอิญเหลือบตามาเห็นหลานสาวพอดี เขาลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือไปหาติชิลา “มาซิ เพื่อนลุงทั้งนั้น จะแนะนำให้รู้จัก”
ติชิลาเดินเข้าไปพร้อมรอยยิ้มที่แสนหวานละลายใจบรรดาชายหนุ่ม3-4คนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วโดยทีเธอไม่รู้ตัวเลยว่านั่นคือเสน่ห์ของเธอ บริกรหนุ่มเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวนั่ง วิชญะดูจะภูมิใจที่หลานสาวเป็นที่สนใจ
“นี่หลานสาวของผม ติชิลา จิตรกัญญา” วิชญะเริ่มต้นแนะนำ “ชอบดนตรีและศิลปะมากขนาดที่พวกคุณก็คาดไม่ถึงทีเดียว”
“สวัสดีค่ะ” ติชิลาทักทายทุกคนแล้วหัวเราะน้อยๆ “อย่าเชื่อทุกสิ่งที่ลุงวิชญะพูดนะคะ”
“ผมบิลลี่ ดีนส์ครับ” ชายหนุ่มท่าทางเจ้าชู้รีบแนะนำตัว “เราน่าจะเข้ากันได้เพราะผมก็ชอบงานศิลปะแต่ของผมถ่ายทอดผ่านเลนส์”
“บิลลี่เขาเป็นช่างภาพอิสระ แต่มีคิวงานยาวที่สุดในโลก” วิชญะพูดเสริมอย่างอารมณ์ดี “นั่นโรเบิร์ต,เดวิทแล้วก็โอมาน หลานทำความรู้จักไว้เพราะเรามีเรื่องจะขอความช่วยเหลือ”
“หมายความว่ายังไงคะ” ติชิลาหันมาถามผู้เป็นลุงด้วยความสงสัย
“เราจะทำการเปิดตัวโรงแรมไดมอนอย่างเป็นทางการ มีกิจกรรมหลายอย่างแต่ที่เป็นไฮไลท์ก็คือการแสดงแฟชั่นโชว์เครื่องประดับเพื่อให้เข้ากับชื่อของโรงแรมและทำให้โรงแรมเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก” วิชญะอธิบายคราวๆ
“แล้ว...” ติชิลายังงงอยู่ว่าตนจะช่วยอะไรได้ “จะให้หลานเล่นดนตรีให้หรือคะ”
“อันนั้นก็น่าสนใจอยู่” วิชญะหัวเราะเสียงดังทำให้คนอื่นๆ หัวเราะตามไปด้วย “หลานสาวผมคนนี้เดี่ยวเปียโนได้ไพเราะจับใจนัก”
“ผมเชื่อครับ เพราะแค่น้ำเสียงของเธอก็แสนหวานละมุนแล้ว” บิลลี่ไม่เก็บอาการกรุ้มกริ่มของตัวเอง
“แต่ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่ผมพูดถึงหลานสาวคุณทำท่าไม่ค่อยเชื่อนัก” วิชญะยังคงหัวเราะสนุกอยู่