อา.. อยากรู้เหลือเกินว่าเวลาที่มันเข้ามาอยู่ในระหว่างกลางหว่างขาของฉัน มันจะรู้สึกดีแค่ไหนหนอ
“ ปริม ” ดินมันเรียกฉันอีกที เลยปลุกให้ตื่นจากภวังค์บ้า ๆ บอ ๆ ของตัวเอง ฉันเลยรีบลุกขึ้นทันที หน้าร้อนวูบวาบแดงจัดเพราะความเขินอายและอารมณ์อย่างอื่นที่มันมีขึ้นปัจจุบันทันด่วน
ให้ตายเหอะ หว่างขาฉันมันร้อบวูบ ๆ แถมมันยังเต้นตุบ ๆ
ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ไอ้ตรงนั้นมันเต้นได้ด้วย
มันเต้น.. เพราะมันได้สัมผัสความเป็นชายของดิน
มันอยาก.. อยากกลืนกินความยิ่งใหญ่ให้สุดลำ
“ ปริม เราขอโทษ ”
ดินตีความอาการที่ฉันรีบเดินหนีว่า ฉันโกรธเขา ฉันไม่รู้จะทำตัวอย่างไรเลยรีบเดินเข้าห้องน้ำ
“ ปริม ” ดินส่งเสียงเรียก
“ อย่ากวน เราจะอึ ”
“ อย่าโกรธเราเลยนะ ก็ปริมถามเราเอง เราเลยต้องอธิบาย ”
“ แล้วมันจำเป็นต้องพูดออกมาขนาดนั้นไหมล่ะ ” เสียงมันหัวเราะหึ ๆ ฉันยิ่งอาย
“ เราขอโทษนะปริม ” ฉันยังเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไร
“ งั้นเรากลับห้องก่อนก็ได้ ”
มันพูดก่อนที่ฉันจะได้ยินเสียงประตูห้องปิดลง ฉันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หัวใจที่เต้นระส่ำ เริ่มเบาลง
ฉันพึ่งจะรู้ว่า ความบ้าคลั่งของอารมณ์ทางเพศมันรุนแรงขนาดไหนก็วันนี้ วันที่ฉันต้องการดินเป็นบ้า... ไม่ควรเลย
พาร์ทของดิน
ผมเดินกลับมาจากห้องปริมด้วยใจเต้นระส่ำ รีบไขประตูแล้วเข้าไปในห้องอย่างด่วนจี๋ เพราะกลัวคนที่เขาเดินผ่านมาจะหาว่าผมเป็นโรคจิต ก็ไอ้น้องชายเจ้ากรรมของผมที่มันแข็งนูนตุงกางเกงบอลขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วนน่ะสิ
ผมทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างหงุดหงิด บ้าชิบ นี่ผมกำลังคิดอกุศลกับไอ้ปริม กับเพื่อนผู้แสนดีมาตั้งแต่เด็กอย่างนั้นเหรอ
“ เวรเอ๊ย นอนลงไป ”
ผมใช้หลังมือกดลำใหญ่ของตัวเองให้สงบ แต่คิดเหรอว่ามันจะเชื่อฟังง่าย ๆ ผมหลับตาพยายามข่มความคิดบ้า ๆ บอ ๆ แต่ภาพและความรู้สึกนั้นดันเสือกชัดเจนขึ้นมาอีก
กลิ่นแป้งเด็กบนผิวกายผิว มันติดปลายจมูกผมอยู่ หน้าอกอวบที่เบียดบดอยู่บนแผ่นอกผม โหนกนูนเบื้องล่างที่เสียดสีขึ้นลงซ้ายขวากับท่อนลำของผมมันทั้งใหญ่ทั้งนูน จังหวะที่ผมรัดเอวปริมไว้ไม่ให้ดิ้น มือผมก็อดไม่ได้ที่จะเลื่อนจากเอวคอดไปสัมผัสกับสะโพกสะบึมแน่นอันนั้น
ไอ้ตายเหอะ ทำไมปริมมันน่าฟัดแบบนั้นวะ
ผมอยากจะลองลิ้มเลียมันให้หมดทุกสัดส่วน ก่อนจะสอดเสือกความเป็นชายของผมเข้าไปในกุหลาบอูม แล้วควบขับให้มันดังตั้บ ๆ จนน้ำแตก
อาาา.. ไม่ไหวแล้ว
ข้อมือแข็งแรงเอื้อมล้วงลงไปในขอบกางเกงบอล กอบกุมความยิ่งใหญ่ของตนไว้เต็มอุ้งมือแล้วสาวขึ้นสาวลงอย่างรวดเร็ว
ปริมเดินเข้ามาผมพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนน้อยแบบเมื่อเช้า เธอวาดขาคร่อมเอวผมอย่างไม่รีรอ จับท่อนลำแข็งขึง ตั้งโด่แล้วอ้ากลีบดูดกลืนมันเข้าไปทีละนิด ๆ ผมกระชากผ้าเช็ดตัวเธอออกก่อนยื่นมือไปขยำสองเต้ามหึมาที่มันล้นมือแล้วบีบคลึง ส่วนล่างของเธอกินผมเข้าไปทั้งลำแล้วค่อย ๆ ขยับขึ้นลงช้า ๆ ความเปียกแฉะที่เกสรอูมมันเคลือบความเป็นชายของผมจนมันวาวสุดลำโคน เธอเริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้น ๆ สองเต้าก็เขย่าไปตามจังหวะ
แม่ง ทำไมปริมมันเซ็กซี่ขนาดนี้วะ
ผมทนไม่ไหวแล้ว ข้อมือจึงเร่งจังหวะกระตุกอีกไม่กี่ครั้ง สายน้ำแห่งกามาก็ทะลักทลายเต็มหว่างขา เปรอะเปื้อนไปจนถึงกางเกงบอล
ผมลืมตาขึ้นเมื่อเสร็จสมอารมณ์ทางเพศ สติเริ่มกลับคืนมา นี่ผมเป็นบ้าอะไรเนี่ย คิดอกุศลกับเพื่อนรักทั้งที่เธอดีกับผม คอยช่วยเหลือผมมาตลอด แต่ผมกลับเอาเธอมาจินตนาการ เพื่อนอนชักว่าวเนี่ยนะ
ไอ้เวรตะไลดินเอ๊ย
ความรู้สึกผิดเข้ามาแทนที่ ก่อนนึกตำหนิตัวเอง ผู้หญิงเป็นร้อยที่พร้อมจะวิ่งเข้ามาขย่มผม พร้อมที่จะให้ผมสนุกเต็มที่ ถึงไหนถึงกัน
อย่าดึงปริม ปริมที่เหมือนผ้าขาว ลงมาสู่โลกของมึงเลยดิน
ผมบอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
วันนั้นทั้งวัน ผมจึงตัดสินใจที่จะไม่อยู่ห้อง ออกไปหาอะไรกินกับเพื่อนฝูง ตบท้ายด้วยลานเบียร์ กลับเข้ามาห้องก็ราวห้าทุ่ม สายตาอดไม่ได้ที่จะตวัดไปห้องข้าง ๆ
ห้องปริมยังเปิดไฟสว่างอยู่
คงจะนั่งทบทวนวิชาเรียน นี่อีกไม่ถึงเดือนก็จะสอบกลางภาค ปริมเป็นแบบนี้เสมอ ขยัน ไม่เคยประมาท ส่วนผมน่ะเหรอ โน่น ไปอ่านเอาวันก่อนสอบทีเดียว
ผมไขกุญแจเข้าห้อง เปิดไฟ คว้าผ้าเช็ดตัวพาดบ่าแล้วเดินเข้าห้องน้ำ แค่เห็นผ้าเช็ดตัว ภาพร่างอวบ ๆ ของปริม เมื่อตอนเช้าที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวก็แว้บเข้ามาในหัวผม ปริมไม่ใช่คนผอมบาง แต่อวบอั๋นมีน้ำมีนวล มีสัดมีส่วน
คงจะเต็มไม้เต็มมือน่าดู !
ผมได้แต่คิดแล้วกลืนน้ำลาย บอกตัวเองให้ลืม ๆๆ แต่ไอ้น้องชายกลางหว่างขามันไม่เห็นด้วย แม่งเสือกพองตัวขึ้นมาเรื่อย ๆ จนใหญ่เต็มที่ ผงกหัวหงึก ๆ ประท้วงผมอยู่
ผมแม่งเกลียดมันจริง ๆ
ผมยืนนิ่ง ๆ อยู่ในห้องน้ำ พยายามสงบสติอารมณ์ แต่หูของผมกลับได้ยินอะไรบางอย่าง
อื๊อ.. อ้า...
มันดังมาจากข้างห้อง... ปริม งั้นเหรอ
คนโชกโชนเรื่องเพศอย่างผมทำไมจะไม่รู้ว่าเสียงนั้นมันคือเสียงครางเพราะกิจกรรมอย่างว่า ใจผมตกไปที่ตาตุ่ม หรือว่าปริมจะเอาผู้ชายมานอนที่ห้อง
หัวใจผมเจ็บแปลบหนึ่ง เป็นไปไม่ได้ ปริมเป็นเด็กดีมาตลอด ปริมต้องไม่ทำอย่างนั้น
ในใจผมโต้แย้งกันไปมา แต่สุดท้ายก็แพ้ความอยากรู้อยากเห็น ทำให้ผมทำในสิ่งที่เหมือนโรคจิต คือ ปิดไฟแล้วเดินไปที่ระเบียงหลังห้อง ชะโงกหน้าไปห้องปริมที่มันติดกัน
แล้วมึงจะเจ็บทำไมไอ้แผ่นดิน ทีมึงยังเอาผู้หญิงมานอนไม่ซ้ำหน้า แล้วปริมก็เป็นแค่เพื่อน ไม่ได้เป็นคนรักมึงสักหน่อย...