9
ภูตะวันร้อนผ่าวไปทั่วร่าง มือเล็กลูบไล้ไปบนลำตัวแกร่ง พลางขยับให้แนบชิดกับร่างแกร่ง แต่ก็เหมือนกับว่าชายหนุ่มแกล้งเธอ หญิงสาวร้องครางอย่างเสียอารมณ์เมื่อชายหนุ่มเคลื่อนกายหนี
เกเบรียลหัวเราะกลั้วลำคอ ขณะจับมือเรียวมาวางกึ่งกลางลำตัว แต่หญิงสาวดึงหนี เมื่อสัมผัสถูกความร้อนผ่าว แต่มีหรือที่ชายหนุ่มจะยอม
“เธอควรจะเรียนรู้การทำให้ฉันมีความสุขเร็วๆ นะตะวัน”
ภูตะวันฮึดฮัด มองเกเบรียลอย่างตัดพ้อ แต่ชายหนุ่มกลับยิ้มใส่
“ฉันบอกเธอแล้วไงตะวัน ว่าต่อไปนี้เธอจะต้องเรียนรู้ที่จะทำให้ฉันมีความสุขที่สุด เพื่อแลกกับความลับที่เธอต้องการ”
ภูตะวันไม่เข้าใจในสิ่งที่เกเบรียลพูด หมายถึงเรื่องใด แต่เธอถามไม่ถูก เพราะกายบอบบางถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง จากนายช่างผู้ชำนาญกาล ปากหนาฟอนเฟ้นขบเม้มไปทั่วปทุมถันเต่งตึง หยุดนิ่งบนปลายถันสีชมพูระเรื่อ ฟันสีขาวขบเม้มแล้วปล่อย แล้วปลายลิ้นก็ตวัดมันเข้าปากไป
“คุณเกล...” ภูตะวันร้องเสียงดังลั่น สองมือจิกและลางไปบนแผ่นหลังกว้างจนชายหนุ่มถึงกับปวดแสบปวดร้อน ยิ่งเจ็บปวดมากเท่าไหร่ เกเบรียลก็ยิ่งกลืนกินทับทิมผลหวานราวกับว่าเขาได้แปลเปลี่ยนจากชายหนุ่มเป็นเด็กทารกตัวน้อยกำลังกลืนกินน้ำมนจากอกมารดา
กายบอบบางแอ่นโค้งเหมือนกับคันศร เธอกดศีรษะทุยให้แนบชิดกับทรวงอกมากที่สุด ลมหายใจหอบกระเส่า สมองหมุนคว้างเหมือนลูกข่างส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่
“ฉันจะทำยังไงกับเธอดีตะวัน” เพียงใกล้ชิด เขาก็ปวดร้าวด้วยความต้องการที่ไม่รู้จักจบสิ้น
ปากหนาประทับจุมพิตขบเม้มไปบนลำตัวเนียนนุ่ม ภูตะวันรู้สึกเจ็บแสบหนวดเคราที่กำลังทิ่มตำไปตามเรือนกาย แต่ก็ยังน้อยกว่าถ่านร้อนๆ ที่ลามเลียส่งมอบความสุขให้กับเธออยู่เบื้องล่าง ปากหนาประทับกึ่งกลางลำตัว ปลายลิ้นสากร้อนไล้วนรอบๆ สะดือสวยและเย้าแหย่ลงไป
ภูตะวันจิกทึ้งเส้นผมบนศีรษะทุย จิกเกร็งขาเรียวยาว ปากก็ร้องเรียกหาแต่เกเบรียล แล้วยิ่งต้องร้องเสียงดังยิ่งขึ้น เมื่อนิ้วยาวซอกซอนสำรวจความลึกล้ำตามธรรมชาติของกลีบกายบอบบาง ปลายนิ้วตะวัดพลิ้วไหวเหมือนกับปลาตัวน้อยที่กำลังว่ายวนไปตามลำน้ำ เพื่อเสาะหาอาหารและที่พักอันอบอุ่น
“เธอทำให้ฉันคิดอะไรไม่ออก”
ปากหนาขบเม้มเคลื่อนตามลงไปอย่างเชื่องช้า และได้ทิ้งความร้อนไว้ทุกหนแห่งที่ผ่านไป ลิ้นสากร้อน ใบหน้าสากระคายคลุกเคล้าดมดอมหาความหวานหอมของเนินเนื้อสาว ฟันสีขาวขบไปบนเกสรสีแดงสด เรียกเสียงร้องหวานๆ จากหญิงสาวได้เป็นระลอก
แค่มือไม่พอให้ชายหนุ่มได้มอบรักให้หญิงสาว ลิ้นสากระคายไกล่เกลี่ยไปตามร่องกลีบปุบผา แทรกตามนิ้วยาวใหญ่เข้าไป
“คุณ...คุณเกล...”
เกเบรียลไม่สนใจเสียงร้องหวานหูของหญิงสาวอีกแล้ว เมื่อได้พบกับความหอมหวานและซาบซ่านตรงหน้า ปากและมือใหญ่ช่วยกันนำทาง ส่งให้หญิงสาวได้รับความสุขมากที่สุด มืออีกข้างก็ละจากปทุมงาม เพื่อนำทางให้หญิงสาวได้สำรวจตรวจกายเขา รู้จักที่จะมอบความสุขให้เขาด้วย
ภูตะวันไล้มือไปบนลำตัวกว้างตามที่ชายหนุ่มต้องการ นิ้วเล็กสะกิดตุ่มไตสีน้ำตาลเข้มระหว่างอกกว้างทั้งสองข้าง แล้วก็ให้อยากรู้ว่าถ้าเธอทำเหมือนกับที่ชายหนุ่มทำกับเธอบ้าง เขาจะเป็นยังไง
เพียงภูตะวันกดคลึงตุ่มสีน้ำตาลบนอกกว้าง เกเบรียลก็สะดุ้งได้เหมือนกัน เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มมีอาการกับการกระทำของเธอ ภูตะวันก็ให้เกิดความกล้าและฮึกเหิมที่จะทำความรู้จักกับกายแกร่งขึ้นมาบ้าง
เกเบรียลไม่ยอมละจากดอกไม้อ่อนเยาว์ แต่เคลื่อนกายให้หญิงสาวได้รู้จักกับตัวตนของเขา มือเล็กลากไล้ไปตามกล้ามเนื้อแข็งแกร่ง ไม่เพียงแค่นั้น ริมฝีปากอวบอิ่มก็ประทับบนกล้ามเนื้อแข็งแกร่ง ลำตัวกว้างและอบอุ่น
“อุ้ย!” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อเห็นร่างกายที่ตื่นตัวอยู่ตรงหน้า หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างขลาดกลัวกับสิ่งที่ได้เห็น แล้วก็ให้งุนงงและสงสัย เพราะเหตุใดร่างกายของเธอกับเกเบียลถึงได้สอดรับและเข้ากันได้เป็นอย่างดี
“เป็นอะไรไปละตะวัน”
เกเบรียลเห็นภูตะวันหยุดชะงักและพยายามหลีกหนี เขาจึงต้องวิธีการ...บังคับ!
ภูตะวันอายจนหน้าแดงก่ำ แต่เมื่อถูกรุกเร้าและกระตุ้นจากชายหนุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวรัวเร็ว ส่งให้เธอลอยล่องไปในกระแสธาราอารมณ์ สาวน้อยแสนสวยหมดสิ้นความอาย เหลือเพียงความสุขที่โอบล้อมอยู่รายรอบ ริมฝีปากอวบอิ่มเริ่มเคลื่อนไหวอย่างที่ชายหนุ่มต้องการ ปากอิ่ม เคลื่อนไหวไปตามกายใหญ่ แต่ก็ยังละเว้นที่จะยุ่งเกี่ยวกับความแข็งแกร่งและร้อนผ่าวที่ชูชันอยู่ต่อหน้า
เกเบรียลเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่ภูตะวันจะสัมผัสกายเขาทุกส่วน แต่เมื่อเห็นหญิงยังรีรออยู่ จึงจับมือเล็กพามากอบกุมกายแกร่งเสียเอง
“อู้...ตะวัน...” เกเบรียลเป็นฝ่ายร้อนรน และเขายังเป็นฝ่ายเรียกร้องหาหญิงสาวบ้าง ลมหายใจชายหนุ่มหอบเร็ว เมื่อหญิงสาวที่ดูว่าไร้พิษสงกำลังกลืนกินร่างกายของเขาอย่างไม่ประสา ลิ้นและมือเล็กลากไล้ไปตามความแข็งแกร่งและร้อนผ่าว ราวกับได้เจอกับผลไม้รสหวานนุ่ม
เกเบรียลก็ไม่ยอมแพ้ เมื่อเธอกล้าเขาก็พร้อมที่จะมอบสัมผัสอันเร่าร้อนรุนแรงให้ ลิ้นและมือใหญ่เกี่ยวกระหวัดซอกซอนสำรวจความหวานจากกลีบกายบอบบางและนุ่มนวล น้ำผึ้งรสฝาดหวานไหลซึมจากดอกไม้งามเอ่อล้นให้ชายหนุ่มได้ลิ้มรส
ชายหนุ่มเคลื่อนกายขึ้นมอบจุมพิตหวานให้หญิงสาว มือใหญ่ข้างหนึ่งช้อนกายอรชรขึ้น ก่อนยื่นมือไปหยิบหมอนมาวางรองสะโพกงามงอน
“ไม่นะคุณเกล” ภูตะวันร้องห้าม เมื่อรู้ว่าเกเบรียลคิดจะทำอะไร แต่ก็ต้องหยุดเมื่อเจอสายตาดุๆ ที่มองมา ก่อนเขาจะแนบริมฝีปากลงไปบนผิวเนื้อนวลเนียนนุ่ม
แต่ดูเหมือนว่าความสูงที่มี ทำให้หญิงสาวมองเห็นสิ่งที่เขาทำกับอะไรกับร่างกายของเธอไม่ชัด เขาจึงช้อนใต้สะโพกงามงอนพร้อมกับดันกายอรชรให้สูงขึ้น
“ไม่นะคุณเกล!” ภูตะวันร้องห้าม ก่อนลมหายใจจะสะดุดเป็นห้วงๆ เสียงหวานเปล่งออกจากลำคอระหง เพราะริมฝีปากหนาประทับบนกลีบกายบอบบาง ลิ้นรากร้อนไล้ตามรอยแยกของกลีบดอกและแทรกเข้าไปภายในอย่างเชื่องช้า
“คุณเกล....” ภูตะวันถึงกับทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ เธอจิกทึ้งดึงผ้าปูเตียงอย่างแรง สองขาจิกเกร็ง หน้าท้องเนียนเรียบบีบรัดตัวเป็นระลอกคลื่น ลมหายใจขาดเป็นห้วงๆ ทรวงอกอวบสล้างสะท้อนขึ้นลงตามแรงหายใจ กายบอบบางค่อยๆ ลอยละล่องไปบนฟ้าอย่างเชื่องช้า
ใบหน้าคมซบกับใจกลางกลีบปุบผางาม ลิ้นสากร้อนซอกซอนสำรวจหาความลึกล้ำตามธรรมชาติ ของกลีบกายบอบบางอย่างนุ่มนวล สองมือใหญ่ฟอนเฟ้นสะโพกหนั่นแน่นและลำขาเรียวยาว เพื่อผ่อนคลายความกระสันเสียวของหญิงสาว
เพียงไม่นานภูตะวันก็รู้สึกเหมือนร่างกายของเธอเหมือนกับลูกโป่งที่ถูกสูบเอาลมใส่มากจนเกินไป แรงอัดทำให้สายธารเสน่หาปรี่ไหล ก่อนสองขาเรียวจะถูกแยกออกจากกันจนกว้าง มีความร้อนผ่าวสอดแทรกเข้ามาอย่างเชื่องช้า
“คุณเกล” ภูตะวันเกร็งได้แต่ร้องเรียกชายหนุ่มเสียงแหบพร่า กายแกร่งสร้างความอึดอัดให้กับเธอ แต่ขณะเดียวกันก็นำพาเอาเสียวซ่านปั่นป่วนมาให้เช่นกัน
“เธอนี่...แม่มดดีๆ นี่เองตะวัน” เกเบรียลคำราม แนบจุมพิตบดคลึงขบกัดปากอิ่มสลับซอกซอนเข้าไปในโพรงปากนุ่ม กวาดเคล้าเกี่ยวกระหวัดควานหาความหวานอย่างหนักหน่วง ลำตัวหนาเสียดสีกับสองปทุมถันอวบอิ่ม สะโพกสอบก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวล ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มความเร็วและหนักหน่วงมากขึ้นเพราะความกระหายในรสสวาท