7
“ฉันว่าเอาเจ้านี่ออกดีกว่านะ”
ชายหนุ่มปลดตะขอกระโปรงและดึงรั้งมันออกไปจากเรือนกายกลมกลึง ริมฝีปากร้อนแนบบนลำขาเสลา จากฝั่งหนึ่งข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง แต่ยังไม่ประทับบนดอกทานตะวันที่กำลังชูช่อรอพระอาทิตย์
ภูตะวันขบกัดริมฝีปากสะกดกลั้นเสียงร้อง เธอสัมผัสผิวเนื้อที่ให้ทั้งความอบอุ่นและเร่าร้อน ขณะปล่อยให้กายบอบบางตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเกเบรียลอย่างยินยอมและพร้อมใจ
ริมฝีปากหนาเคลื่อนไปประทับบนดอกไม้อ่อนเยาว์ ลิ้นสากร้อนค่อยๆ ทำความรู้จักกับเกสรนุ่มผ่านชั้นในตัวเล็กและบางเบา ที่ไม่ได้ปกปิดเรือนกายหญิงสาวจากสายตาเขาได้เลย
“...” ภูตะวันครางเสียงแผ่ว เล็บยาวจิกลงไปบนบ่ากว้าง ด้วยความเสียวซ่านและรัญจวนใจ ขาเรียวสั่นระริก ลมหายใจเริ่มติดขัด ขณะมือเขาเคลื่อนไปจับศีรษะทุยหวังจะดึงมันออกจากกาย
แต่สิ่งที่ชายหนุ่มกำลังทำอยู่ หยุดการเคลื่อนไหวของเธอได้อย่างชะงัก ลมหายใจหญิงสาวหอบแรง เรือนกายสั่นจนนั่งไม่ติด
มือใหญ่ดันสะโพกเต่งตึงขึ้นเล็กน้อย ดึงเอาชั้นในบางเบาและเปียกชื้นออกจากกายสาว ปลายลิ้นสากระคายตวัดไล้ปุ่มสีแดงสดรัวเร็วและถี่ยิบ ขาเรียวยาวข้างหนึ่งถูกจับขึ้นไปวางบนบ่ากว้าง เพื่อให้ใบหน้าคมได้แนบชิดกับกายหวานและนุ่มหอม
“ไม่! หยุดนะคุณเกล...”
ภูตะวันพยายามห้ามเสียงสั่นพร่า มันไม่ควรเป็นแบบนี้ หากเธอกลับตอบรับกับวัตถุร้อนผ่าวที่นาบอยู่กึ่งกลางลำตัว เธอจิกมือบนแผ่นหลังกว้างและลากแรงๆ ระบายความเสียวซ่าน
“แน่ใจหรือว่าให้ฉันหยุดจริงๆ ตะวัน” ชายหนุ่มถาม ยิ่งเจ็บตัวมากเท่าไหร่เกเบรียลก็ยิ่งตวัดปลายลิ้นแรงและเร็วมากยิ่งขึ้น และเพียงแค่ไม่นานเขาก็ลิ้มรสน้ำหวานดอกไม้หยดแรงที่ทั้งหวานและหอม
“อืม...” เกเบรียลคำรามลั่น ลิ้นสากร้อนลากไล้ไปตามกลีบของปุบผาสวยสด เส้นทางอบอุ่นและฉ่ำร้อนบีบรัดรอบลิ้นสากที่กำลังกระเซ้าเย้าแหย่กวาดไล้ควานหาน้ำค้าง น้ำหวานนุ่มเอ่อล้นออกมามากขึ้น แต่ว่าเส้นทางแห่งความสุขยังคงคับแน่น เขาจึงละมือจากสองปทุมงามเด่นมาช่วยเปิดเส้นทางให้กับกายใหญ่ที่กำลังปวดร้าวจนแทบจะทนไม่ไหว
“คุณเกล...เจ็บ...” ภูตะวันรีบร้องบอกพร้อมกับถอยร่างหนีความเจ็บปวดที่แทรกเข้ามาพำนักในเรือนกาย นิ้วเล็กๆ ลากแรงๆ บนอกกว้างจนเกเบรียลถึงกับสะดุ้ง
“อดทนนิดนะ เดี๋ยวก็หาย”
ชายหนุ่มปลุกปลอบด้วยการส่งลิ้นสากร้อนตวัดกลืนกินเกสรนุ่มรัวเร็ว นิ้วยาวร่วมเคลื่อนไหวขับไล่ความเจ็บให้หญิงสาวเจ็บปวด แต่ภูตะวันก็ยังคงถอยหนี
เห็นทีเขาคงจะต้องใช้อีกวิธีเพื่อคลายความเจ็บให้ภูตะวัน เขาพรมจูบไล่ขึ้นไป พร้อมจับขาเรียวให้โอบรอบลำตัวแกร่ง ขณะส่งนิ้วไปทำความรู้จักเส้นทางคับแน่นอย่างเชื่องช้า...
“ฉันจะทำให้เธอสบายตัว”
ภูตะวันได้แต่ส่งเสียงอือๆ อาๆ ด้วยมีทั้งความเจ็บปวดและเสียวซ่านในคราวเดียวกัน จนเธอไม่รู้ความรู้สึกใดมันจะมากกว่า ทำได้เพียงกดมือบนร่างใหญ่ โพรงปากนุ่มถูกซอกซอนกวาดไล้จากเรียวลิ้นสากร้อน ขณะลำตัวก็จับต้องอย่างหนักหน่วง
เกเบรียลอุ้มหญิงสาวพาไปเอนลงบนเตียงใหญ่ทั้งที่ยังบดเบียดจุมพิตบนเรียวปากนุ่ม เขาทาบกายตามติดร่างอรชร พร้อมเคลื่อนนิ้วไปอย่างแผ่วเบากลางเรือนกายสาว พลางบอกให้ภูตะวันช่วยปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่เหลือออกจากายเขา และหญิงสาวก็ทำตามเหมือนโดนมนต์สะกด
กางเกงสองชิ้นหลุดออกจากใหญ่ อาวุธร้อนก็บดเบียดแนบชิดกับลำขาเสลา เมื่อเกเบรียลทาบกายแนบชิดร่างบอบบาง
ชายหนุ่มจับขาเรียวแยกออกจนกว้าง ให้ความร้อนผ่าวแนบชิดกับดอกไม้บอบบาง แต่เพราะรู้ว่านี่เป็นครั้งแรกของหญิงสาว เขาจึงต้องอดทนเพื่อให้หญิงสาวได้รับความสุขมากที่สุด
“ไม่ต้องกลัวนะตะวัน” ชายหนุ่มวนเวียนปลอบโยนด้วยจุมพิตไปที่แนบอยู่บนเรียวปากนุ่ม มือหนึ่งไล้วนเวียนเข้าไปทักทายเส้นทางรักที่มีน้ำหวานเอ่อล้นออกมาเคลือบอยู่บ้างแล้ว นิ้วใหญ่ไม่ละจากเกสรนุ่ม ขณะเดียวกันปากก็บดเบียดเคล้าคลึงกลืนกินความหวานนุ่ม ปลุกปั่นภูตะวันจนร้องครวญครางไม่หยุดปาก
ภูตะวันร้อนผ่าวราวกับถูกไฟเผา สัมผัสที่ได้รับทำให้เธอปั่นป่วนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า กล้ามท้องบีบรัดความร้อนผ่าวที่ล่วงล้ำเข้ามาพำนักในเรือนกาย ที่มันเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ขยับโยกซ้ายย้ายขวา บ้างก็ห่างหายไปและกลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง ส่วนเธอก็ทำได้แค่ตอบรับเพียงแค่อย่างเดียว
เกเบรียลเห็นว่าหญิงสาวหลงเข้าไปในเส้นทางเพลิงพิศวาสที่เขาได้สร้างขึ้น อีกทั้งกายเขาเองก็ปวดร้าวจนทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน เขาจูบปากอิ่มอย่างหนักหน่วง พลางกอดหญิงสาวอย่างแนบชิด พลางประคองกายแกร่งและร้อนผ่าวสอดแทรกเข้าไปพำนักในกายบอบบางอย่างเชื่องช้า หากภูตะวันก็ยัง...
“อึก...อือ....”
ภูตะวันพยายามจะบอกว่าเธอเจ็บ แต่เสียงที่สามารถเปล่งออกมาได้ก็มีเพียงแค่ อึก...อือ...เพราะริมฝีปากนุ่มถูกจูบอย่างหนักหน่วง อีกทั้งมือเกเบรียลก็ยังคงฟอนเฟ้นปทุมถันงามเด่น โดยที่อีกมือยังคงโลมไล้ไปทั่วกายอรชร ปลุกปลอดเธอให้ผ่อนคลายความปวดร้าวที่มีอยู่
“อดทนอีกนิดนะตะวัน อีกเดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว”
เกเบรียลละมือจากทรวงอกอวบอิ่มลงไปฟอนเฟ้นสะโพกสลับกับบีบนวดลำขาเสลา ปล่อยทรวงสล้างให้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของปากอุ่นและลิ้นร้อนชื้น
เพียงไม่นานภูตะวันก็เพริดไปกับมนต์สวาทที่ถูกปลุกเร้าขึ้น เมื่อชายหนุ่มลองขยับตัวดู เห็นว่าไม่มีการขัดขืนก็เริ่มเคลื่อนไหวเร็วขึ้น
“ไม่เจ็บแล้วใช่ไหมตะวัน”
“เจ็บ...ยังเจ็บค่ะ” ภูตะวันบอก หากความเจ็บที่มีความเสียวซ่านปั่นป่วนแซมมาจนเธอทำตัวไม่ถูก ได้แต่ยกแขนโอบรอบลำตัวแกร่ง จิกปลายนิ้วไปบนแผ่นหลังกว้าง
ภูตะวันขบเม้มริมฝีปากเพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้องออกไป ใบหน้านวลส่ายน้อยๆ จนเส้นผมกระจายไปทั่วหมอน ลมหายใจหอบแรงขาดเป็นห้วงๆ
“ร้องออกมาซิตะวัน...”
เขาไม่ชอบเลยที่เธอหญิงสาวสะกดกลั้นเสียงไม่ยอมร้องออกมา เขาเลยเคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้นรัวเร็ว ปากหนาขบเม้มผิวเนื้อเนียนนุ่ม ลำคอระหงแล้วย้อนกลับมาบนปทุมถันอวบอิ่ม แตะแต้มไปทั้งสองทรวงอย่างหนักหน่วง เชอรี่ผลหวานนุ่มกำลังชูช่อเรียกร้องให้เขาทำการกลืนกิน และเกเบรียลก็ไม่ทำให้มันผิดหวัง ปากหนาประทับไปบนเชอรี่ผลหนึ่ง และอีกผลก็ส่งมือใหญ่เข้าไปครอบครองอีกผล
“...” ภูตะวันปล่อยเสียงร้องออกมา กายที่เคยเป็นของเธอตอนนี้กลับไม่ใช่แล้ว เมื่อเกเบรียลทำความรู้จักกับมันทุกตารางนิ้ว และยังจะครอบครองมันด้วยร่างกายของเขา
มือใหญ่อีกข้างเคลื่อนตัวลงไปด้านล่าง เคล้าคลึงจับต้องเกสรดอกไม้อ่อนเยาว์ ในขณะที่สะโพกก็เคลื่อนไหวโหมกระหน่ำเข้าหาความอบอุ่นและฉ่ำร้อน แรงเสียดสีและบีบรัดตัวของภูตะวัน สร้างความเสียวกระสันให้ชายหนุ่มจนสุดแสนจะทน กายหนุ่มเคลื่อนไหวรัวเร็วราวกับอาชาตัวใหญ่และคึกคะนอง
“คุณเกล....ขา...ช่วยตะวันด้วย...”
ใบหน้าขาวสวยแหงนไปด้านหลัง ทรวงอกอวบเต่งตึงจมหายไปในปากและมือใหญ่ เรือนกายบอบบางสั่นจนเหมือนกับกำลังยืนอยู่บนหน้าผาที่ทั้งร้อนและหนาวสลับกันไป กายเบื้องล่างเคลื่อนเข้าหากายใหญ่ เพื่อขอความอบอุ่นและต้องการให้มันแนบชิดกับกายเธอมากยิ่งขึ้นด้วย
“อืม...ตะวัน...เธอคับแน่น...มาก...”
เกเบรียลร้องครางเสียงแหบพร่า เส้นทางสวาทของภูตะวันช่างอบอุ่นเสียเหลือเกิน แรงบีบรัดทำให้ใบหน้าชายหนุ่มเหยเก
ริมฝีปากหนาประทับไปบนเรียวปากนุ่มอีกครั้งและอีกครั้ง ปลายเม็ดสีน้ำตาลเข้มเสียดสีกับปลายยอดถันสีชมพูเข้ม สะโพกสอบเคลื่อนไหวถี่รัวรวดเร็วและหนักหน่วง ยิ่งกายนุ่มตอบรับเขามากเท่าไหร่ เกเบรียลก็ยิ่งปวดร้าวแต่ก็มีความสุข จนเหมือนว่าโลกทั้งโลกเป็นของเขาและจะมีเพียงแค่เขาและภูตะวันเท่านั้น