บทที่ 8 พิษพรากวิญญาณ

1619 Words
บทที่ 8 พิษพรากวิญญาณ ป่ากว้างไกลสุดลูกตาเห็นภูเขาหลายลูกเรียงรายแม้แต่สายลมก็พัดพาให้ใบไม้สั่นไหวที่นี่เหมือนกับโลกจริง ๆ ทั้งลมทั้งต้นไม้ทุกอย่างไม่ต่างจากโลกเลย “เป็นอย่างไง” ลี่จือกอดอกอย่างภูมิใจกับผลงานของตัวเองแม้ว่าจะทิ้งมันไปหลายร้อยปีแล้วก็ตาม ตอนที่นางสร้างนางใช้ระยะเวลากว่าพันปีมิตินี้จึงเสร็จแม้ตอนแรกจะทำเล็ก ๆ แต่ทำไปทำมามันก็สนุกจนแต่งเติมไปเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ “สุดยอดเลย สวยมาก” ก่อนหน้านี้ชิงเหยียนคิดว่าเป็นเพียงมิติขนาดไม่ใหญ่มากแต่นี่มันเกินที่คาดไว้อย่างมาก เขาแทบไม่อยากเชื่อสายตา “ข้าจะทำตราประทับมอบมันให้เจ้าหลังจากนี้จะมีเพียงเจ้าที่กำหนดการเข้าออกของมิตินี้ได้” “ขอบใจเจ้ามากนะลี่จือเจ้าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลย” เสียงหวานเอ่ยอย่างตื่นเต้นใบหน้างดงามยิ้มดูเป็นประกายงดงาม ลี่จือวาดวงแหวนที่หลังมือของชิงเหยียนแสงสว่างขึ้นเพียงเล็กน้อยก่อนที่มันจะหายเข้าไปในร่างกาย “เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้เพียงเจ้านึกถึงมิติก็สามารถเข้ามาได้ตามต้องการ” ชิงเหยียนลูบที่อกตัวเอง เขาไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงลองนึกภาพออกจากมิติเขาก็กลับมาที่น้ำตกเมื่อคิดว่าเข้ามิติก็กลับเข้า “สะดวกสุด ๆ เลย ถ้าอย่างนั้นเราจะย้ายน้ำตกเข้ามาข้างในได้อย่างไร” “เจ้าแตะที่น้ำตกแล้วพูดว่าเก็บเท่านั้น” ชิงเหยียนพยักหน้าก่อนจะออกจากมิติกลับไปที่ป่าลองทำตามคำแนะนำของลี่จือ มือขาวแตะที่น้ำตกก่อนจะนึกในใจว่าเก็บเข้ามิติน้ำตกหายไปในทันทีชิงเหยียนกลับเข้าไปในมิติเห็นน้ำตกย้ายมาอยู่ข้างในแล้ว “แค่นี้ก็เรียบร้อย ไว้วันหลังค่อยมาสำรวจที่นี่ตอนนี้เราออกไปดูที่ป่ากันเถอะ เผื่อมีอย่างอื่น” ลี่จือพยักหน้า สองร่างปรากฏที่ป่าอีกครั้ง กรรรรร “เสียงอะไรน่ะ เราไปดูกันเถอะลี่จือ” เสียงคำรามดังสนั่นไม่ไกลจากจุดที่ทั้งสองคนยืนอยู่ ทั้งคู่ไปยังจุดกำเนิดเสียงด้วยความรวดเร็ว ร่างหมูยักษ์กำลังลากหมาป่าตัวใหญ่ไป ร่างสีขาวเปื้อนเลือดแน่นิ่งถูกลากไปชิงเหยียนไม่คิดจะเข้าไปยุ่งกับการล่าเขาเข้าใจดีถ้าไม่ล่าก็ถูกล่ามันเป็นสัญชาตญาณของสัตว์ “คงไม่มีอะไรแล้ว เราไปต่อกันเถอะ” หงิงงง หงิงงง ชิงเหยียนชะงักเมื่อได้ยินเสียงดังมาจากพุ่งไม้เมื่อแหวกออกดูก็เจอลูกหมาป่าสีขาวจำนวน 3 ตัวนอนเปื้อนเลือดแต่ไม่มีบาดแผล “เลือดพวกนี้คงจะของแม่สินะ ลี่จือเราเอามันเข้าไปในมิติได้ไหม” ชิงเหยียนหันไปถาม ลี่จือกำลังนอนถูไถบนขนนิ่มของพวกลูกหมาป่าด้วยสีหน้ามีความสุขแม้ว่าลูกหมาป่าจะตัวเล็กสำหรับเขาแต่เมื่อเปรียบกับลี่จือดูตัวใหญ่จนขี่ได้เลย “ได้อยู่แล้วสบายมาก ก่อนหน้านี้สาเหตุที่ในมิติไม่มีสัตว์เพราะข้ากะสร้างเล่น ๆ กลัวว่าถ้าเอามันไปปล่อยจะไม่มีเวลาเข้าไปหาพวกมัน แต่ถ้าเจ้าจะเอาเข้าตามสบายเรื่องแค่นี้เอง” ชิงเหยียนพยักหน้าเก็บพวกลูกหมาป่าเข้ามิติ “เจ้าพวกนี้ยังต้องดื่มนมแม่อยู่ไหมนะ” “ทิศใต้มีฝูงแกะอยู่มีลูกเยอะเลยแถมน้ำนมก็มี ยามเบื่อ ๆ ข้าชอบไปเล่นกับเด็ก ๆ ที่นั่น” ช่วงบ่ายเขาเอาแกะทั้งฝูงเข้าไปในมิติจัดการเก็บนมใส่ขวดไว้สำหรับป้อนวันนี้ นอกจากนี้ยังเอาสัตว์อื่น ๆ เข้าไปด้วยหลายชนิด หลังจากนั้นก็ไม่เจออะไรน่าสนใจในป่าอีกแล้วมีแค่พวกสมุนไพรและแน่นอนว่าถูกชิงเหยียนถอนรากถอนโคนออกมาโยนใส่มิติ ในมิติอากาศบริสุทธิ์กว่ามากและกลิ่นดินก็มีแร่ธาตุมากกว่าคงเพราะอยู่มานาน เขาคาดว่าสมุนไพรทั้งหลายที่เขาโยนเข้าไปมันต้องงอกเงยอย่างแน่นอน เวลาเลยมาถึงช่วงเย็นชิงเหยียนกลับมาที่วังไปที่ตำหนักของฮ่องเต้อย่างคุ้นเคย ลี่จือบินวนรอบ ๆ อย่างตื่นเต้นก่อนหน้านี้เพราะออกจากป่าไม่ได้นางทำได้เพียงมองอยู่ไกล ๆ เห็นผู้คนเดินไปมาไม่ได้มาใกล้ขนาดนี้ “นี่ใครรึ” ชิงเหยียนนั่งที่เตียงลูบแก้มสีซีดพร้อมเอ่ยแนะนำ “ฮ่องเต้น่ะเป็นสามีของเราเอง” ใบหน้างดงามแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู “เอ๋ มีคนหน้าตาเหมือนกันยืนอยู่ข้าง ๆ เจ้าด้วยนะ” ลี่จือมองระหว่างร่างโปร่งแสงกับร่างที่นอนนิ่งบนเตียงทั้งคู่เหมือนกันทุกประการ ชิงเหยียนเมื่อได้ยินแบบนั้นก็สะดุ้งมองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาระแวง “อย่าบอกนะว่าผี! ไม่เอานะลี่จือ! เรากลัวผีมากที่สุด!” ร่างงามกระโจนเข้ามาหาลี่จือมองไปรอบ ๆ อย่างหวาดกลัว ร่างโปร่งแสงขมวดคิ้วคิดว่าเขาเป็นผีกล้าดียังไงเดี๋ยวเถอะรอให้เขาฟื้นก่อนจะจับลงโทษให้ “แล้วสามีเจ้าเขาป่วยเป็นอะไรรึ” ลี่จือบินเข้าไปใกล้ร่างที่หมดสติอย่างสำรวจ “ไม่รู้เหมือนกันแม้ว่าจะใช้เวทรักษาแล้วแต่ก็ยังไม่ฟื้นเราพยายามมาเป็นเดือนแล้ว” ลี่จือขมวดคิ้ววางมือเล็กที่หน้าผาก แสงสว่างออกเป็นสีขาวเกือบก้านธูปชิงเหยียนมองด้วยสายตาลุ้นระทึก “ยาพิษพรากวิญญาณ ถ้าไม่ได้รับการรักษาภายใน 5 ปีวิญญาณจะสลายไปอย่างถาวรกลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณไปกว่าจะหมดอายุขัย เป็นยาพิษที่หายากมากเพราะส่วนผสมมาจากดินแดนปีศาจเป็นส่วนใหญ่” ดินแดนปีศาจส่วนล่างสุดของโลกที่ไม่มีมนุษย์คนไหนกล้าย่างกายเข้าไปดินแดนที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูรที่โหดร้ายฆ่ากันเพื่อความสนุก แม้แต่ชิงเหยียนก็ไม่อยากไปยุ่งกับที่นั่นแม้เขาจะมีพลังแต่ไม่มั่นใจว่าจะทนไหวไหมการไปไม่ต่างจากการเอาชีวิตไปทิ้ง “บ้าจริง ทำไมต้องวางยาพิษกับแคว้นเล็ก ๆ ด้วย” หากเป็นแคว้นใหญ่ทรัพยากรเยอะ ๆ ชิงเหยียนจะไม่แปลกใจ แคว้นที่มีแต่ป่าแบบนี้ไม่เห็นเข้าใจเลย “บางทีอาจจะหวังสิ่งนั้นอยู่ก็ได้” ลี่จือพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “หมายถึงอะไรลี่จือ” สีหน้าเคร่งเครียดของจิตวิญญาณแห่งป่าทำให้ชิงเหยียนเครียดตามสีหน้ากังวลที่ไม่เคยเห็นมาก่อน “มันคือต้นกำเนิดแห่งสรรพสัตว์ ศูนย์กลางแห่งชีวิต ข้าสัมผัสมันได้เมื่อ 5 ปีก่อนแต่ไม่สามารถไปยืนยันด้วยตาของตัวเองได้ หากพวกมันได้ไปจะต้องเกิดหายนะอย่างแน่นอน” เมื่อจบคำพูดบรรยากาศในห้องก็เงียบสนิทแต่ภายในใจชิงเหยียนกำลังครุ่นคิดอย่างหนักเขาจะไม่ยอมให้เกิดปัญหาแบบนั้นทั้งที่ตอนแรกจะสร้างแคว้นที่อยู่อย่างสงบสุขแท้ ๆ ตอนนี้กลับต้องไปยุ่งกับพวกปีศาจ ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างมันต้องเกิดเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน ชิงเหยียนลูบแก้มคนที่ไร้สติยามที่รู้สึกเครียดแบบนี้อยากมีใครสักคนคอยอยู่ข้าง ๆ “ส่วนเจ้าหนูนี่ยาถอนพิษต้องใช้ส่วนผสมหายากและบางส่วนต้องหาที่ดินแดนปีศาจ หญ้าสีเลือด เขาม้าโลกันตร์ พิษแมงมุมแม่ม่าย ส่วนอย่างอื่นก็ว่านใบฟ้า ต้นอ่อนของหญ้านภา ผลของดอกอาทิตย์ ของพวกนี้มีในมิติแล้ว เหลือแค่ของจากดินแดนปีศาจ” ชิงเหยียนครุ่นคิดแสดงว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องไปที่ดินแดนปีศาจไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเหรอ “ข้าเคยได้ยินจอมเวทที่เข้ามาในป่าพูดว่าในโรงประมูลแคว้นซิวจะมีของหายากมากมายเจ้าลองไปที่นั่นก่อนไหมเผื่อจะมี” แววตาของชิงเหยียนเป็นประกายขึ้นรู้สึกมีความหวังเพิ่มมากขึ้น คงต้องฝากแคว้นไว้กับท่านเฉินกงระหว่างที่หาสมุนไพรมารักษาฮ่องเต้เขาไม่อาจประมาทได้บางทีอาจจะเกิดการปะทะกับปีศาจหรือสัตว์อสูรระดับสูง “หลังจากฝากงานไว้กับท่านเฉินกงเสร็จเราจะเดินทางกันเลย” วิญญาณที่ยืนอยู่ด้วยขมวดคิ้วภรรยาของเขากำลังไปเสี่ยงอันตรายดินแดนปีศาจนับได้ว่าเป็นสถานที่ต้องห้ามถ้าไม่อยากตาย วิญญาณหนุ่มกลัวว่าชิงเหยียนจะเป็นอะไรไป ตัวบางแค่นั้นแต่กลับกล้าทำอะไรที่มันใหญ่เกินตัวไม่สมกับเป็นเกอเลย เกอที่เขารู้จักก่อนหน้านี้มีหน้าที่เรียนรู้เย็บปักดูแลสามี “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า เราไปด้วยชิงเหยียนปลอดภัยอยู่แล้ว” ลี่จือสบตากับร่างโปร่งแสงถึงอย่างไรตนเองก็เป็นจิตวิญญาณที่อยู่มานานเรื่องความแข็งแกร่งก็ไม่เป็นรองใคร ‘ต้องฝากเจ้าแล้วลี่จือ’ ---------------------- เราใช้คำว่าเวทย์มาตลอดมันผิด ต้องเป็น เวท เดี๋ยวเราไปตามแก้ให้นะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD