ตอนที่ 3

3720 Words
สองวันผ่านไป… แมทธิวก็เดินทางมาประเทศไทยพร้อมกับโทมัสเพื่อนสนิทของเขาที่เป็นทั้งนายแบบ และเป็นทั้งคนสนิทที่คอยจัดการดูแลคิวงานของเขาทั้งหมดให้ ก็ได้เข้าพักที่โรงแรมสุดหรูของดารัณว่าที่ภรรยาของบุรินที่กำลังจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว “ยินดีต้อนรับสู่ประเททศไทยเพื่อนรัก ขอบใจที่มางานแต่งงานของฉันนะแมทธิว นายก็ด้วยโทมัส ขอบใจว่ะ” บุรินมาทักทายเพื่อนของเขาที่ห้องพักในโรงแรม เพราะวันนี้เขาและดารัณได้เข้ามาดูสถานที่ที่จะจัดงานในช่วงเย็นพอดี เลยแวะเข้ามาทักทายเพื่อนสักหน่อย “ขอบใจอะไรวะ งานแต่งงานของแกทั้งทียังไงฉันก็ต้องมาร่วมยินดีกับแกสิวะ แต่ก็ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆว่าเสือร้ายแบบแกจะแต่งงานเร็วแบบนี้…แกนี่มันใช้ชีวิตไม่คุ้มเอาซะเลยบุริน…” แมทธิวเอ่ยพูดออกไปแล้วเข้าไปตบไหล่เพื่อนหนุ่มด้วยรอยยิ้ม “ถ้าจะให้ฉันใช้คุ้มกับเรื่องสาวๆแบบแกฉันไม่เอาด้วยหรอกว่ะ ตอนนี้ฉันเจอคนที่ดีแล้วฉันก็ไม่อยากจะพลาดคนดีๆอย่างเขาไป วันหนึ่งถ้าแกได้เจอคนที่ใช่ แกจะไม่รู้สึกเสียดายความโสดของแกเลยแมทธิว” บุรินพูดตอบไป เพราะเขาเคยเจ้าชู้ก็จริงแต่พอเขาเจอดารัณเขาก็หยุดเจ้าชู้และยอมให้เธอคนเดียวเท่านั้น “ฉันไม่เจอน่ะมันก็ดีแล้ว ฉันไม่อยากจะกลายเป็นแมวเชื่องๆแบบแกหรอก อย่างฉันน่ะมันเหมาะกับการเป็นเสือมากกว่า ฮ่าๆ” แมทธิวพูดด้วยรอยยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เอาด้วย เพราะเขายังไม่อยากจะเจอตอนนี้ เขายังอยากจะใช้ชีวิตโสดๆแบบสนุกๆแบบนี้ต่อไป “เออๆ งั้นก็ใช้ชีวิตให้สนุกสุดเหวี่ยงต่อไปก็แล้วกันแกน่ะ แล้ววันนี้แกจะไปล่าสาวที่ไหนก็ไปเลย แต่ว่าวันพรุ่งนี้แกกับโทรมัสต้องมาสนุกที่ปาร์ตี้สละโสดของฉันนะโว้ย ฉันเตรียมสาวๆไว้เพียบเลย” บุรินพูดไปเพราะยังมีเพื่อนๆของเขาอีกหลายๆคน เขาจึงจ้างสาวมาเอนเตอร์เทรนหลายคน ให้มันเหมาะสมกับปาร์ตี้สละโสดของเขาหน่อย “วันนี้ฉันพึ่งมาถึงแกจะให้ฉันออกล่าเลยหรือไงวะ ฉันว่าฉันจะไปหาแม่ฉันก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปสนุกที่ปาร์ตี้ของแกก็แล้วกัน เพราะคราวนี้ฉันน่าจะอยู่ไทยเป็นเดือนเลย มีเวลาให้ฉันล่าสาวๆที่นี่อีกเยอะ หึๆ” แมทธิวพูดออกไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะเขาน่ะยังมีเวลาอีกเยอะที่จะได้สนุกกับสาวๆที่นี่ แต่ที่แน่ๆเขาต้องไปเจอแม่ของเขาก่อน ไม่งั้นท่านคงน้อยใจเขาแย่ “คิดแบบนี้ได้ก็ดี คุณน้าท่านคงจะดีใจที่ได้เจอแก งั้นฉันกลับก่อนก็แล้วกันพอดีต้องไปทำธุระต่อ ไว้เจอกันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ฉันจะส่งรถมารับแกกับโทมัสที่นี่” บุรินพูดบอกไปก็ลุกขึ้นแล้วมองหน้าเพื่อนหนุ่มแบบจริงจัง เพราะตอนนี้ดารัณน่าจะรอเขาอยุ่ข้างล่างแล้ว “อืม แล้วเจอกัน” แมทธิวพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มให้บุริน จากนั้นก็เดินออกไปส่งเพื่อนหนุ่มที่หน้าประตูห้องพักของเขา เพราะเขาพักที่ห้องสูทส่วนตัว ส่วนโทมัสเองก็เข้าพักห้องข้างๆและตอนนี้ก็คงจะหลับเป็นตายไปแล้ว จากนั้นแมทธิวก็โทรไปบอกแม่ของเขาว่าตอนนี้เขาถึงประเทศไทยแล้ว และเขาก็บอกว่าจะเข้าไปหาท่านเย็นนี้ แต่แม่ของเขาก็บอกจะพาไปทานอาหารที่ร้านอาหารแทน เขาก็ตอบตกลงและก็ไปนอนหลับพักผ่อนเพราะเหนื่อยกับการเดินทางที่ต้องนั่งเครื่องบินมาสิบกว่าชั่วโมงกว่าจะมาถึงเมืองไทย ห้าโมงเย็น… ณ ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา พิยดาก็ออกมานั่งทานข้าวเย็นกับเพื่อนๆของเธอซึ่งวันนี้นั้นถือว่าพวกเธอนั้นได้นัดกันมาทานข้าวแบบครบแก้งค์ เพราะพวกเธอจะนัดทานข้าวด้วยกันอยู่ตลอด “แล้วนี่ยัยน้ำตาลมันยังไม่เสด็จมาอีกเหรอยัยก้อย แกกับมันทำงานด้วยกันไม่ใช่เหรอ ทำไมมันไม่ออกมาพร้อมแกหึ” จารุวัตรเอ่ยถามเพื่อนสาวออกไป เพราะตอนนี้เหลือน้ำตาลที่ยังไม่มา “ก็ตอนนี้ยัยน้ำตาลมันเตรียมตัวจะไปถ่ายรูปในงานแต่งงานของคุณบุรินกับคุณดารัณเขาไงยะ มันก็เลยต้องทำงานเลิกช้ากว่าปกติช่วงนี้เพราะคุณปิ่นเขาจริงจังกับงานนี้มาก” กาญจนาเอ่ยอธิบายออกไป เพราะเธอทำงานคนล่ะอย่างกับเพื่อนสาวจึงไม่ได้ยุ่งมากนัก เพราะเธอมีหน้าที่แค่นำเสนองานและคอยติดตามงานก่อนและหลังให้กับลูกค้าเท่านั้นส่วนเรื่องการถ่ายภาพและแต่งภาพจะเป็นหน้าที่ของพวกช่างภาพทั้งหมด “ก็งานใหญ่งานยักษ์นิยะ ฉันก็ว่าจะพึ่งบารมียัยน้ำตาลเหมือนกัน” จารุวัตรพูดออกไปแล้วยิ้มออกมาแบบเจ้าเล่ห์ “นี่แกคงไม่ได้จะให้ยัยน้ำตาลเอาภาพในงานมาทำข่าวหรอกนะนังเจา” บิวตี้เอ่ยพูดออกไปอย่างรู้ทัน เพราะอย่างจารุวัตรจะมีอะไรอีกถ้าไม่เอาข่าวมาจากพวกหล่อนๆน่ะ “อ่าวเจ้ ก็ยัยน้ำตาลมันได้อภิสิทธิ์เข้าไปถ่ายรูปในงานอยู่แล้วไงก็เอามาให้น้องทำข่าวบ้างจะเป็นอะไรไปล่ะ อีกอย่างงานนี้ได้ข่าวว่ามีคนดังไปกันเพียบเลยด้วย ยังไงมันก็ต้องมีข่าวเด็ดๆให้ไปลงบ้างแหละน่ะ” จารุวัตรพูดออกไปตรงๆ เพราะปกติเขาก็ได้ข่าวคราวพวกเซเลปมาจากพิยดาที่ชอบไปตามบิวตี้ออกทริปกับพวกสังคมไฮโซเซเลปมาตลอด “หาผลประโยชน์จากเพื่อนอีกแล้วนะนังเจา นี่แกก่ะจะให้ฉันโดนคุณปิ่นเขาไล่ออกเลยหรือไงหึ เขามาจ้างถ่ายรูปงานแต่งงานนะยะไม่ได้จ้างไปทำข่าวงานแต่งงานเขาน่ะ” พิยดาเดินเข้ามาแล้วเอ่ยพูดออกไปทันที เพราะทันเข้ามาได้ยินจารุวัตรพูดพอดี “ตายยากจริงๆเลยนะแกเนี่ยเอ่ยถึงปุ๊บก็มาปับ แล้วนี่แกพูดแบบนี้จะไม่ช่วยเพื่อนจริงๆเหรอ เพื่ออยากได้แค่รูปสองรูปเอาไปทำข่าวเองนะ” จารุวัตรพูดออกไปแล้วทำหน้าทำตาอ้อนวอนขอร้องเพื่อนสาวออกไป “เฮ้อ…แกนี่มันจริงๆชอบหาเรื่องเพื่อนลำบากตลอดอ่ะ โอเคๆ ฉันจะลองหาข่าวเด็ดๆในงานให้ก็แล้วกัน”พิยดาพูดบอกไปแบบยอมๆ เพราะยังไงเธอก็ “แต่ฉันได้ข่าวจากวงในมาว่าลูกพี่ลูกน้องของคุณบุรินที่เขาเป็นนายแบบชื่อดังเขาก็จะมาร่วมงานด้วยนะ แกเอาข่าวของเขามาให้ฉันก็ได้นะยัยน้ำตาล แล้วเดี๋ยวฉันจะจ่ายค่าเหนื่อยให้แกอย่างงามเลยถ้าแกได้ข่าวของเขามาน่ะ” จารุวัตรพูดบอกไปเพราะเขายังสามารถเอาไปขายในสำนักข่าวในต่างประเทศได้อีก “ถ้ามีข้อแลกเปลี่ยนแบบนี้มันก็พอจะมีแรงสอดส่องให้อยู่หรอก หึๆ หน้าตาเขาเป็นยังไงแกส่งรูปมาให้ฉันไว้เลย เดี๋ยวฉันจะไปล่าหาข่าวเขามาให้แกเอง” พิยดาพูดบอกไปแล้วยิ้มอย่างถูกใจ เพราะมีค่าขนมแบบนี้ใครจะไม่อยากจะทำบ้างล่ะ “ได้เลย เดี๋ยวฉันไปหาข้อมูลก่อนนะแก พอดีวงในพูดมาแต่ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าหน้าตาเป็นยังไงเหมือนกัน ไว้ฉันได้มาแล้วจะส่งให้แกทันทีเลย” จารุวัตรพูดบอกไปเพราะวงในพูดกันมามันก็ทำให้หลายๆสื่อนั้นจับตามอง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร รู้แค่ว่าเป็นนายแบบชื่อดังจากฝรั่งเศสก็เท่านั้น “รีบๆนะแก เพราะพรุ่งนี้ฉันจะไปถ่ายรูปงานปาร์ตี้สละโสดของคุณบุรินเขากับมอส ฉันจะได้ลองหาเขาดูในงานพรุ่งนี้ก่อน เผื่อจะเจอข่าวเด็ดๆมาให้แก” พิยดาพูดบอกไปเพราะเธอและมอสไปถ่ายให้บุริน ส่วนกันทชัยและช่างภาพอีกคนก็ไปถ่ายที่ปาร์ตี้ของดารัญเพราะรายนั้นขอตัวกันทชัยช่างภาพคนดังไปเท่านั้น เธอจึงได้ตามมอสไปถ่ายของบุรินแทน “แล้วถ้าข่าวหลุดออกมาแกก็เดือดร้อนน่ะสิน้ำตาลแกไปกับมอสแค่สองคนไม่ใช่เหรอ” กาญจนาพูดออกไปแบบเป็นห่วงเพื่อน “จริงสิ ลืมไปเลยอ่ะว่าเขาทำเป็นงานส่วนตัว คงฉกข่าวออกมาไม่ได้ งั้นแกก็รอเอาข่าวตอนงานวันแต่งงานเลยก็แล้วกันนะเจา” พอพิยดาพูดบอกไปเพราะถ้าเพื่อนสาวไม่ทักท้วงเธอต้องแย่แน่ๆ “เออๆ เอาที่แกสะดวกนั่นแหละ ฉันไม่ทำให้แกเดือดร้อนหรอกน่า เออจริงสิ เห็นเจ้บิวตี้บอกว่าเมื่อวันก่อนแกปะทะคารมณ์กับนังคางคกขึ้นวอนั่นมาเหรอ มันว่าอะไรแกหรือเปล่าน้ำตาล” จารุวัตรพูดบอกไปก็ยิ้มให้เพื่อนสาวออกไป แล้วก็เอ่ยถามเรื่องที่พิยดาเจอยุรฉัตรเมื่อวันก่อน “เฮ้อ…อย่างยัยหมิวมันจะว่าอะไรล่ะแก ก็อวดเรื่องผู้ชายและก็ความรวยของผัวนางนั่นแหละ ฉันไม่สนใจหรอก อย่าไปพูดถึงเลยแก อารมณ์เสียเปล่าอ่ะ” พิยดาตอบไปแบบไม่อยากจะพูดถึงเพราะมันจะทำให้บรรยากาศกร่อยขึ้นมาทันทีเลยถ้าพูดเรื่องยุรฉัตร “แล้วนี่เสร็จงานแต่งงานแล้ว แกอย่าลืมนะน้ำตาลว่าแกต้องไปถ่ายรูปให้ฉันทริปนี้น่ะ ลางานไว้หรือยัง” บิวตี้เอ่ยถามออกไปเพราะเธอนัดพิยดาไว้ล่วงหน้านานแล้ว “ลาแล้วค่ะเจ้ เรื่องกินเรื่องเที่ยวน้ำตาลเคยพลาดที่ไหนกันล่ะคะ เจ้าสบายใจได้เลยค่ะ ยังไงทริปนี้เจ้ก็มีรูปสวยๆลงแน่นอน” พิยดาพูดบอกไปก็ยิ้มออกไป “ตั้งใจถ่ายรูปให้เจ้เขาแล้วแกก็ตั้งใจหาผู้ชายด้วยนะยัยน้ำตาล นี่ถ้าฉันเป็นแกน่ะมีผัวเป็นร้อยๆแล้ว ไม่มานั่งเป็นป้าแก่ๆจำศีลแบบนี้หรอก” กาญจนาพูดบ่นออกไป เพราะเธอนั้นลางานอย่างเพื่อนสาวไม่ได้ เพราะทำงานประจำที่ออฟฟิศ ส่วนพวกช่างภาพจะมีช่วงเวลาทำงานที่เข้าๆออกๆได้ตามงานที่มีให้ทำ เพื่อนของเธอจึงไปนั่นทีนี่ทีอย่างชิวๆ “ก็นั่นมันแกไง นี่มันฉัน จะให้แรดแบบแกได้ยังไงเล่า เอาน่า เดี๋ยวฉันเจอคนที่ถูกใจเดี๋ยวฉันก็แรดเองแหละน่า ตอนนี้ยังไม่เจอก็อยู่แบบสวยๆรอไปก่อนสิยะ” พิยดาพูดบอกไปแบบเซ็งๆ เพราะเธอน่ะก็อยากจะแรดกับเขาเหมือนกัน แต่มันติดที่ไม่มีใครที่ทำให้เธอรู้สึกอยากจะแรดอยากจะทำตัวร่านๆด้วยเลยสักคนนี่สิ “แกก็พูดแบบนี้ทั้งปีอ่ะ ฉันก็ไม่เห็นแกจะมีใครเลย ป่านนี้หยากไย่มันเกาะเต็มรูแกแล้วมั้งยัยน้ำตาล หัดใช้งานมันบ้างนะยะก่อนที่มันจะตันน่ะ” กาญจนาพูดแซวเพื่อนสาวออกไปแบบขำๆ “ฮ่าๆ เออจริง ฉันก็เห็นด้วยกับยัยก้อยนะ ฉันว่าแกน่ะควรจะใช้งานมันบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้มันเฉาขนาดนี้” บิวตี้พูดแซวออกไปอีกคนอย่างสนับสนุน “เออ เดี๋ยวถ้าฉันได้ใช้นะ ฉันจะใช้มันให้คุ้มเลย ชิ…” พิยดาพูดบอกไปแล้วส่ายหน้าไปมา เพราะพวกเธอก็มักจะพูดกันประมาณนี้อยู่แล้ว คอยดูนะ เดี๋ยวสักวันเธอจะหาผัวที่ทั้งหล่อทั้งแซ่บมาให้เพื่อนๆดูให้ได้เลย “พากันแซวยัยน้ำตาลมันกันอยู่ได้ ฉันว่าเรามาสั่งอาหารทานกันก่อนดีกว่า ฉันหิวไส้จะขาดแล้วเนี่ย” จารุวัตรพูดบอกไปแล้วหยิบเมนูอาหารขึ้นมาทันที เพราะพวกเขายังไม่ได้สั่งอาหารมา เพรารอพิยดามาก่อนได้แต่สั่งพวกเครื่องดื่มมาก่อนเท่านั้น จากนั้นทั้งสี่ก็เริ่มสั่งอาหารตามความต้องการของแต่ล่ะคนทันที ซึ่งทุกคนก็สั่งแบบอิ่มหนำกันเลยทีเดียว และระหว่างที่รออาหารทั้งสี่ก็นั่งพูดคุยกันไปท่ามกลางวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีเรือร่องไปมา แถมฝั่งตรงข้ามก็ยังมีวัดสวยๆให้ดูอีกต่างหาก ด้านสุภัสสรก็มานั่งรอลูกชายของเธอที่ร้านอาหารพร้อมกับสั่งอาหารอร่อยๆซึ่งเป็นของโปรดที่ลูกของเธอชอบทานตอนเด็กๆมาอย่างเอาใจ เพราะตั้งแต่เธอหย่ากับสามีลูกๆก็ตกอยู่ในความดูแลของเขา ซึ่งเธอก็ไม่ได้ขัดขวางอะไรเพราะในสถานการณ์นั้นเธอแค่อยากจะออกมาจากจุดที่แย่ๆนั้น ทำให้เธอเลือกที่จะยอมให้ลูกๆอยู่กับสามีของเธอ แต่เธอก็ไม่เคยขาดการติดต่อกับพวกเขาเลยมันจึงทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและลูกนั้นยังคงดีอยู่ “ทำไมตาแมทยังไม่มาอีกเนี่ย…หรือว่าจะมาไม่ถูกนะ….” สุภัสสรพูดออกมาแบบบ่นๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดโทรหาลูกชายของเธอ เพราะเธอคิดว่าลูกชายของเธอจะมาร้านอาหารที่เธอนัดไว้ไม่ถูก “ฮัลโหลตาแมท ถึงไหนแล้วลูก มาถูกหรือเปล่า ให้แม่ส่งคนไปรับไหม” สุภัสสรเอ่ยพูดออกไปเมื่อลูกชายของเธอรับสายแล้ว “ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะครับมัม ทำไมผมจะมาไม่ถูกล่ะครับ ตอนนี้ผมอยู่หน้าร้านแล้วครับกำลังจะเดินเข้าไป เดี๋ยวเจอกันนะครับมัม” แมทธิวพูดออกไปด้วยรอยยิ้มที่แม่ของเขาพูดแบบนี้ “โอเคๆ แม่รอตรงโต๊ะนี่แล้ว งั้นแค่นี้นะลูก” สุภัสสรพูดไปก็กดวางสายไปทันที แล้วสายตาของเธอก็มองไปทางทางเข้าร้านอย่างตื่นเต้น ที่จะได้เจอลูกชายคนเล็กของเธอหลังจากที่ได้ไม่เจอกันมาเกือบปี ด้านแมทธิวก็ใส่ชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขายาวสีดำแบบสบายๆมา พอเขาเดินเข้ามาในร้านเขาก็มองหาโต๊ะที่แม่ของเขานั่งทันที “คุณพระ! พวกแกหันไปดูตรงมุมหกสิบองศาเร็วเข้า…” กาจญนาที่นั่งถ่ายรูปอยู่เห็นหนุ่มฝรั่งเดินเข้ามาอย่างมีออร่าความหล่อก็รีบพูดบอกเพื่อนๆหันไปดูทันที “โอ้มายก็อต หล่อวัวตายควายล้มเลยแม่เอ้ย นี่ถ้าไม่มีผัวนะฉันจะอ่อยให้ได้เลย” บิวตี้พูดออกไปเมื่อหันไปมองตามที่กาญจนาพูดก็เจอกับความหล่อที่มันโดดเด่นมากๆ “เจ้น่ะหมดสิทธิ์ นี่น่ะสามีของฉันในอนาคตย่ะ อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะอิเจ้….หูย…ผู้ชายอะไรมองแล้วละมุนชะมัดเลยอ่ะ หน้าหวานๆแบบนี้ต้องเป็นเกย์แน่ๆเลย…” จารุวัตรพูดออกไปก็มองแบบเคลิบเคลิ้มเลยทีเดียว เพราะเจอพวกฝรั่งมาก็เยอะแต่คนนี้น่ะ หล่อลากดินมาเลยอ่ะ เขาล่ะอยากจะภาวนาให้หนุ่มฝรั่งคนนี้เป็นเกย์จริงๆ เขาจะได้เข้าไปอ่อย ส่วนพิยดาก็หันไปมองเช่นกันแล้วเธอก็มองแบบอึ้งๆ เพราะผู้ชายคนนี้นั้นตรงสเปคที่เธอวาดฝันเอาไว้แบบเป๊ะๆเลย หน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสูงใหญ่ แต่งตัวเรียบๆง่ายๆแต่ดูมีคลาส สายตาก็คมเข้มดูมีอะไรน่าค้นหา “หล่อขนาดนี้เขาก็มีแฟนแล้วป่ะ พวกแกนี่เอาแต่เพ้อกันอยู่ได้ เฮ้อ…” พิยดาพูดออกไปด้วยสีหน้านิ่งๆไม่ได้ทำท่าทางแบบพวกเพื่อนที่ส่งยิ้มไปให้เหมือนกันสาวๆโต๊ะอื่นๆ เธอก็ส่ายหน้าแล้วก็หันไปมองผู้ชายคนนั้นอีกครั้งก็เห็นว่าเขามองมา และเธอก็รู้สึกเหมือนสายตาของเธอนั้นสบกับเขาพอดีเลย นี่เขาคงไม่ได้มองเธอหรอกใช่ไหมเนี่ย พิยดาคิดในใจไปก็หลบสายตาของเขาแล้วก็ตักอาหารทานแบบนิ่งๆแก้เขิน “เขามองโต๊ะเราด้วยอ่ะแก เขามองใคร มองฉันหรือเปล่าเนี่ย” กาญจนาพูดไปแล้วทำหน้ายิ้มแบบตื่นเต้น เพราะยิ่งเขาเดินเข้ามาใกล้ก็ยิ่งหล่อ หน้านี่ใสจนเธอนี่อายเลย ผู้ชายอะไรไร้ที่ติดเลยจริงๆ พิยดาก็มองเพื่อนสาวแล้วยิ้มส่ายหน้าไปมาอย่างยอมๆ เพราะมันเป็นปกติของกลุ่มเธออยู่แล้วที่เห็นผู้ชายหล่อมาจะอารมณ์แรดเข้าสิงน่ะ แต่สำหรับเธอที่เดินสายฝอมานาน ถ้าอยากจะให้เขาสนใจจริงๆก็ต้องนิ่งเข้าไว้แล้วคอยมองสบตาเป็นระยะๆ อย่าทำตัวกระโตกกระตากให้เขารู้ว่าเราน่ะอยากได้เขา เพราะมันไม่น่าสนใจสำหรับพวกเขา ด้านแมทธิวที่มองหาโต๊ะของแม่เขาอยู่นั้นก็กวาดสายตาไปทั่วร้านแล้วก็เจอกับสายตาของพวกสาวๆหลายๆคนมองมาที่เขาและส่งยิ้มให้มา แถมบางโต๊ะก็ถึงขั้นสะกิดกันให้มองเขากันเลยที่เดียว มันจึงทำให้เขานั้นยิ้มมุมปากออกมา แต่มีอยู่โต๊ะหนึ่งที่นั่งถัดโต๊ะที่แม่ของเขานั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะนั้นมองมา และเขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยสะดุดตาเขามาก เขาจึงมองเธอในขณะที่เดินไปหาแม่ของเขา จนสายตาของเขาสบกับสายตาของเธอที่มองมาทันที แต่เธอก็หลบสายตาของเขาไปแล้วทำหน้าตานิ่งๆทานอาหารต่อไปไม่ได้ให้ความสนใจเขาแบบคนอื่นๆ มันจึงทำให้เขานั้นค่อนข้างจะสนใจในตัวเธอไม่น้อยเลย เพราะเขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้นั้นดูเหมือนจะมีอะไรที่น่าดึงดูดสำหรับเขา “ตาแมท คิดถึงจังเลยลูก…พรึบ…” สุภัสสรลุกขึ้นโอบกอดลูกชายแล้วเอ่ยเรียกอย่างดีใจ “ผมก็คิดถึงมัมเหมือนกันครับ” แมทธิวโอบกอดแม่ของเขาอย่างคิดถึงเช่นกัน เพราะไม่ได้เจอท่านมานานแล้วเขาจึงกอดท่านอย่างอบอุ่นใจ ก่อนจะถอดก่อนออกจากกันแล้วสุภัสสรก็มองหน้าลูกชายด้วยรอยยิ้มดีใจ “ดูสิ ลูกแม่นี่หล่อดูดีจริงๆเลย มา..เรามานั่งคุยกันแล้วทานข้าวไปด้วยดีกว่า แม่สั่งของโปรดเราไว้ทั้งนั้นเลยนะ นั่งสิลูก” สุภัสสรพูดบอกไปก็มองลูกชายอย่างภูมิใจที่เธอคลอดลูกที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรแบบนี้ออกมา “โอเคครับมัม” แมทธิวพูดตอบไปแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนใส่ผู้เป็นแม่ ก่อนจะไปดึงเก้าอี้ให้แม่นั่งลงก่อน แล้วเขาก็ดินไปนั่งตรงข้ามกับแม่ของเขา แล้วเขาก็ได้เห็นสาวสวยที่เขาสนใจก่อนหน้านี้ด้วย เพราะเธอหันหน้ามาประจันหน้ากับเขาพอดี แต่ติดที่เพื่อนเธอที่นั่งตรงข้ามเธอนั้นค่อนข้างจะบังเขานิดหน่อย “แก เขาเรียกว่ามัมอ่ะ นี่เขาเป็นลูกครึ่งไทยแน่ๆเลยอ่ะ โอ้ย….ใจไม่ดีอยากจะเลิกผัวขึ้นมาทันทีเลยอ่ะ” บิวตี้ที่นั่งข้างๆพิยดาเอ่ยพูดออกไปอย่างเสียดาย “ใจเย็นนะเจ้ เจ้พึ่งไปทำเรื่องจะมีลูกเองกับพี่พีทมาเองนะคะ หยุดความแรดไว้ตรงนีเลยเจ้ อีกอย่างเขามากับแม่เขา เรามองเขาแบบนี้มันเสียมารยาทมากเลยนะ น้ำตาลว่าเราทานอาหารของเราต่อดีกว่า” พิยดาพูดออกไป แล้วมองไปทางเขาก็สบตากับเขาอีกครั้งเธอก็รีบหลบสายตาของเขาทันที “ก็เพราะแกคิดแบบนี้ไงยัยน้ำตาลแกถึงได้โสดอยู่แบบนี้น่ะ เรามองเขานิดๆหน่อยๆเขาไม่ว่าอะไรหรอกน่า ดีซะอีกมีอาหารตาให้ดูตอนกินข้าว จะได้อิ่มอกอิ่มใจ จริงไหมพวกแก” บิวตี้พูดออกไปแล้วยิ้มอย่างขำๆ เพราะมันก็สนุกๆนั่นแหละไม่ได้จะจริงจังอะไรสักหน่อย “จริงค่ะเจ้…” จารุวัตรและกาญจนาก็ประสานเสียงตอบมาอย่างเห็นด้วยทันที แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำตัวเสียมารยาทหัวไปมองขนาดนั้น “ถามจริงๆนะยัยน้ำตาล หล่อแบบนี้ไม่กระตุกต่อมความแรดของแกบ้างเลยหรือไงยะ ขนาดพวกฉันไม่ใช่สายฝอแบบแก พวกฉันยังเห็นแล้วอยากได้เขาเลยเนี่ย ทำไมแกนิ่งซะขนาดนี้ยะ…” กาญจนาเอ่ยถามออกไป เพราะเพื่อนสาวชอบผู้ชายฝรั่งมากกว่าพวกเธอซะอีก แต่ทำไมเพื่อนของเธอดูนิ่งมาก นิ่งจนเหมือนไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD