"โถ่เว้ย!!!ยัยเด็กบ้า" ผมจัดการเขวี้ยงโทรศัพท์ทีนูเซอร์รุ่นล่าสุดที่พึ่งซื้อมาเมื่อไม่กี่วันก่อนกระแทกเข้ากับฝาห้องอย่างแรงโดยไม่คิดเสียดายเงินที่ตัวเองต้องจ่ายไปเพื่อให้ได้มันมาเลยแม้แต่น้อย
หงุดหงิดตัวเองชะมัดเลยโว้ย! ที่มาเสียอาการให้กับยัยเด็กแก้มใสบ๊องแบ๊วคนนั้น โธ่เว้ย!
ทุกคนเชื่อไหมครับว่าคีไม่เคยที่จะคิดเลยสักนิดว่าคนที่ไม่เคยชายตามองหญิงใดอย่างคีนั้นจะต้องมาพลาดท่าให้กับความน่ารักสดของยัยเด็กบ้าๆ คนนึง
หากเป็นเมื่อก่อนที่มีหญิงใดทำท่าทีว่าจะเข้าหาคี คีก็ก็จะด่ากราดยับจนทำให้ยัยพวกนั้นวิ่งหนีไปแทบจะไม่ทัน เป็นแบบนี้มาตลอดจนใครต่อใครเขาต่างก็พากันคิดเอาไปเองว่าไอ้คีคนนี้มันเป็นเกย์ ว่าไปนั่นเถอะ!
ตั้งแต่ปิดเทอมมาเป็นระยะเวลาสองสัปดาห์เศษๆ มันก็ทำเอาคีแทบจะกระอักเลือดตายเอาซะให้ได้ในทุกๆ วัน เมื่อยัยเด็กแก้มใสคนนั้นมันดันมาบล็อกทุกช่องทางการติดต่อของผมไปหมดซะทุกสิ่งอย่าง
ครั้นคีจะไปตามหาตัวยัยเด็กคนนั้นจนถึงแมนชั่นก็กลัวเด็กแสบนั้นจะจับไต๋ได้ว่าคีกำลังวางแผนจะขายขนมจีบให้กับนาง
แต่พอมาคิดดูดีๆ อีกที... ถ้าคีไม่รีบเดินหน้าตั้งแต่ตอนนี้ไอ้โทโมะเพื่อนเลวมันก็คงจะถือโอกาสคาบแมวเหมียวตัวน้อยของผมไปรับประทานเอาซะก่อนเป็นแน่แท้
ใช่แล้วครับทุกคน คีกับเพื่อนรักเพียงคนอย่าฃไอ้โทโมะดันบังเอิญมาตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกัน จนเป็นเหตุให้เราสองคนทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนถึงขั้นแตกหักกันไปในที่สุด
คิดแล้วก็เจ็บใจที่ไอ้โทโมะมันเคยพูดใส่หน้าคีเอาไว้ว่าปากหมาๆ อย่างคี นังเด็กนั่นก็คงจะไม่ตาบอดเอาผมทำพันธ์หรอก
มันหยามกันถึงขนาดนี้ก็ต้องเอาคืนให้หน้าหงายกันไปข้างนึง มารอดูกันว่าพ่อคนสุขุมนุ่มลึกอย่างมันกับพ่อพันธ์ปากไวอย่างผม ใครมันจะพิชิตใจยัยแก้มใสนั่นได้ก่อนกัน
"เป็นอะไรของมึงวะไอ้คี" ท่านบูรพาซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อของคีตะคนที่หล่อๆ เดินเข้ามาตบบ่าของคีเบาๆ
"เปล่า" ถ้าจะให้คีบอกพ่อออกไปว่าคีกำลังจะเป็นบ้าเพราะคิดถึงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ก็คงจะไม่พ้นที่ได้เห็นพ่อของคีลงไปนอนขำกลิ้งลูกชายอยู่ตรงพื้นหินอ่อนในตอนนี้แน่ๆ
"ผมว่าผมพอจะรู้นะพ่อ" จ้าวโฮปหรือไอ้จ้าว ที่เป็นพี่ฝาแฝดของคีเดินมาสมทบพร้อมเสียงหัวเราะที่มันโคตรจะวอนโดนอวัยวะเบื้องล่างกระแทกเบ้าหน้าเป็นที่สุด!
"ทำไมวะไอ้จ้าว" พ่อคีที่ได้ยินพี่ชายฝาแฝดของคีพูดแบบนั้นก็พลอยสงสัยในท่าทีของคีมากขึ้นไปกว่าเดิม
"ก็ไอ้คีลูกชายของพ่อมันกำลังมีความรักยังไงเล่าพ่อพ่อ" เชื่อเถอะว่าถ้าไม่ติดที่ว่ามันมีน้ำหนักที่มากกว่าคีถึงสิบห้ากิโลกรัมกับลูกนิมิตที่แขนของมันแล้วนั้นก็คงจะไม่พ้นที่ทุกคนจะได้เห็นคีกระโจนไปกระแทกเบ้าหน้าพี่ชายฝาแฝดตัวเองเพราะความขี้เสือกไม่ยอมเลิกของมันไปแล้วละครับ!
แต่ถึงจะทำยังไงผมก็สู้มันไม่ได้อยู่ดีเพราะตัวมันใหญ่อย่างกับยักษ์ ในขณะที่ผมซึ่งเป็นฝาแฝดกับมันแท้ๆ กลับตัวผอมกะหร่องไม่ได้สักครึ่งนึงของน้ำหนักมันด้วยซ้ำ
"บ๊ะ! ไอ้จ้าว มึงก็ว่าไปนั่น ฮ่าๆๆ" นั่นไงละ คีบอกแล้วว่าพ่อจะต้องหัวเราะแน่นอนถ้าพ่อได้รับรู้ว่าลูกชายของพ่อคนนี้กำลังเสียอาการเพราะผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึง
"นี่ๆ นักศึกษาแพทย์ปี1 ดีกรีดาวคณะเลยนะพ่อ" ไอ้จ้าวจอมเสือกที่เห็นแบบนั้นรีบเลื่อนโทรศัพท์ทีนูเซอร์เครื่องหรูของมันไปให้พ่อบังเกิดเกล้าของพวกเราได้ดูอะไรบางอย่างที่อยู่ในนั้นทันที
"ตาถึงจังวะไอ้ห่า! ลูกชายใครวะเนี่ยมึงไอ้คี" ท่านบูรพาเขย่าไหล่ของลูกชายคนเล็กเบาๆ เบาๆ ที่แปลว่าไหล่ของไอ้คีกำลังจะหัก บางทีพ่ออาจจะลืมไปแล้วก็ได้ว่าไอ้คีคนนี้มันไม่ได้หุ่นบึกร่างยักษ์เหมือนพ่อกับไอ้จ้าว
"ทำไมวะไอ้คี นี่มึงอย่าบอกนะว่ายัยหนูเขาไม่รับรักมึงๆ ถึงได้มานั่งหงอยเหมือนหมาอยู่แบบนี้"
"รับรักอะไรละพ่อ ไอ้เหี้ยนี่มันไม่ทันจะได้จีบน้องเค้าด้วยซ้ำ แต่เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของมันก็ดันมาคาบไปเอาแดกซะแล้ว ฮ่าๆ"
"ไม่มีใครคาบเขาไปแดกทั้งนั้นแหละมึงมั่วไอ้จ้าว" คีเดินตรงไปผลักไอ้พี่ชายฝาแฝดร่างยักษ์เบาๆ คิดจะทำร้ายร่างกายไอ้เวรนี่แต่ละทีก็เหมือนกับว่ากำลังพุ่งหัวตัวเองเข้าชนกับกำแพง คนห่าอะไรตัวใหญ่อย่างกับยักษียักษา
"น้องเขายังโสด" คียิ้มเยาะไอ้พี่ชายขี้เสือกของตัวเองมันที่สืบได้ถึงข้อมูลที่เป็นเท็จแล้วเอมาเที่ยวคุยโวไปเรื่อย
"อ้าว...เหรอวะ" แต่พอเห็นไอ้จ้าวแม่งยกยกมือขึ้นมาป้องพร้อมกับท่าทีกวนประสาทนั้นของมัน ยอมรับเลยว่าคีเริ่มที่จะเชื่อว่ามันแม่งกำลังพูดเรื่องจริง
"แต่กูเห็นนะว่าเด็กมึงขึ้นคูมาเรียลของไอ้โทโมะเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของมึงไปเมื่อเกือบหกโมงเย็นที่ผ่านมา ที่รู้ก็เพราะกูพึ่งจะสวนทางกับกูตอนที่กูขับรถมมาใกล้จะถึงบ้านเรานี่แหละ"
"มึงเห็นที่ไหน! เมื่อไหร่! แล้วเด็กนั่นกับไอ้โทโมะจะไปที่ไหนกัน!"
"เป็นเดือดเป็นร้อนจังวะไอ้ห่า! ละก็ช่วยเอามือมึงออกไปจากเสื้อราคาแพงของกูด้วย เสื้อกูยับขึ้นมากูยับหน้ามึงแหกแน่ไอ้น้องเวร!"
"เดี๋ยวก่อนไอ้จ้าว! มึงบอกว่าเพื่อนของไอ้คีที่พาเด็กมันขึ้นคูมาเรียลไปมันชื่อว่าอะไรนะ!"
เสียงเข้มๆ ที่คำรามออกมาดังลั่นของท่านบูรพาเล่นเอาลูกชายอย่างไอ้คีกับไอ้จ้าวบุตรสะดุ้งจนสุดตัวกันเลยทีเดียวครับทุกคน พ่อคีไม่โหดครับ จะออกแล้วเหี้ยมอำมหิตซะมากกว่า ฮ่าๆๆ
"ไอ้โทโมะ...ทำไมอะพ่อ" เป็นคีเองที่ตอบคำถามพ่อตัวเองอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ที่ต้องเอ่ยถึงชื่อไอ้เพื่อนชั่วคนนั้น
ตั้งแต่มียัยเด็กคนนั้นมันเข้ามาวนเวียนในชีวิต หัวใจแกร่งๆ ของไอ้คีคนหล่อคนนี้มันก็รุ่มร้อนแม่งอยู่ได้ตลอดเวลา หงุดหงิดตัวเองฉิบหายบอกตรงๆ!
"มึงช่วยบอกกูทีว่าเพื่อนของมึงคนนี้พ่อมันไม่ได้ชื่อไอ่วศิน!" ทันทีที่สังเกตเห็นว่าพ่อตวัดตาคมกริบแบบฉายแววโหดเหี้ยมออกมาอย่างชัดเจน ทั้งคีทั้งไอ้จ้าวก็รีบก้มหน้าลงอย่างไม่กล้าแม้แต่จะสบตาในทันที ก่อนจะพร้อมใจกันถอยปรูดให้ออกห่างจากรัศมีที่พ่อกำลังยืนอยู่ ถามว่าเพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะเวลาที่พ่อโมโหพ่อโคตรจะน่ากลัวฉิบหายยังไงละครับทุกคน!
"กูถาม! มึงหูหนวกรึไงไอ้จ้าวลูกเวร!" น้ำเสียงที่ผมกลัวดังขึ้นอีกครั้งเพื่อคาดคั้นคำตอบจากไอ้จ้าว พร้อมด้วยแรงอารมณ์ที่กำลังโกรธจัดจนแทบจะปกปิดเอาไว้ไม่มิด
"ชะ...ใช่พ่อ ไอ้โทโมะพ่อมันชื่อวศิน แม่มันชื่อวันดี" เป็นคีเองที่ตัดสินใจตอบในสิ่งที่พ่อถาม เพราะไอ้ห่าจ้าวแม่งกลายเป็นไอ้บ้าใบ้แดกไปแล้ว โยนขี้มาให้กูตลอดพี่เวร!
ขวับ!
"บัดซบ" คีกับไอ้จ้าวถึงกับต้องหันมามองหน้ากันอย่างรู้สึกตื่นๆ เมื่อเห็นว่าพ่อตรงเข้ามาคว้าปืนกระบอกคู่ใจที่อยู่บนโต๊ะทำงานก่อนจะสบถใส่ไอ้จ้าวออกมาดังลั่น
"มึงรู้รึเปล่าไอ้จ้าวว่ามันพาอีหนูคนนั้นไปที่ไหน"
"ทำไมอะพ่อ ทำไมมีอะไร" ไอ้จ้าวหันมามองหน้าคีสลับกับพ่ออย่างไม่เข้าใจ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกที่มันจะงง เพราะคีเองก็กำลังสับสนกับอาการของพ่อเหมือนกันครับทุกคน
"ตอบกูสิวะไอ้ลูกฉิบหาย!!" เสียงคำรามดังลั่นด้วยความโมโหสุดขีด
"ผมไม่รู้! BBS มั้งก็เห็นขับกันไปทางหน้าเมืองโน่น! ฉิบหายเถอะผมจะไปรู้ได้ไงวะพ่อโถ่!"
"ขึ้นรถ อย่าให้กูต้องพูดซ้ำสอง"
ไอ้จ้าวมันโหดได้ใคร ตอนหน้ามีคำตอบฮะ