"พี่คีคะ" เมื่อแน่ใจว่าทุกคนได้แยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้ว ฉันก็หันไปกวักมือเรียกพี่คีตะที่เอาแต่กำองค์พระเอาไว้แน่นอยู่ตลอดเวลา
"พี่คีนอนในกระท่อมอีกหลังที่ใกล้กับห้องน้ำนะคะ มาค่ะหนูช่วยถือ"
"แล้วเธอจะนอนตรงไหน" ถ้าจะให้เดาจากสายตาของพี่คีตะที่กำลังเหลียวซ้ายแลขวาแล้วนั้น ก็คงไม่พ้นที่จะกำลังกวาดสายตาหาเต้นท์ของฉันอย่างแน่นอน
"แต่นแต๊น!" ฉันผายมือให้เขาดูเปลทหารที่มีมุ้งสวมติดกันอยู่อย่างภาคภูมิใจ
"จะบ้าไปแล้วรึไง! ไปนอนในกระท่อมเลยนะส่วนฉันจะนอนในนี้เอง" ทั้งที่คุณพี่กลัวผีจนปัสสาวะแทบจะราดนะเหรอคะ คุณควรสงสารตัวเองก่อนค่ะคุณกิตติ!
"แบร่!"
"เฮ้ย!" ทุกคนเชื่อไหมคะว่าพ่อคนขวัญอ่อนของฉันนั้นมันแทบจะรัวกำปั้นใส่หน้าฉันในแทบจะทันที่ฉันที่ทะลึ่งไปแกล้งแหย่เขาเล่น
"ฉันตกใจหมดเลยไอ้เด็กบ้า!" ขนาดเจอของปลอมยังสะดุ้งสุดตัวขนาดนี้ เจอของจริงเข้าไปก็คงไม่พ้นที่พวกเราทุกคนจะได้เห็นใครบางคนไข้จับหัวโกร๋นอย่างแน่นอนค่ะทุกคน
"นั่นปะไร! ก็รู้อยู่ว่าตัวเองเป็นคนกลัวผี อย่างนี้แล้วพี่จะยังดึงดันนอนเปลแทนมาวินอีกอีกไหมคะสุดหล่อ? ไปพักผ่อนในที่ของพี่เถอะค่ะ เชื่อเถอะว่าหนูนอนของหนูได้"
เที่ยงคืน
ฉันกำลังนอนดูดาวจากในเปลหลังเก่าที่คุ้นเคยด้วยหัวใจที่โคตรจะมีความสุข เจ้าดวงดาวน้อยใหญ่หลายล้านดวงที่กำลังพร่างพราวจรัสแสงประดับอยู่บนท้องฟ้ามันช่างสวยมากซะจนทำให้ท้องฟ้าในคืนนี้ดูสวยงามดุจดั่งภาพจากนักวาดฝีมือดีเลยทีเดียวละ
"เฮ้ย! ฉิบหายเถอะตัวเหี้ยอะไรวะเนี่ย" ฉันรีบกระโดดพรวดลงจากเปลด้วยความตกใจในทีที่ได้ยินพี่คีตะร้องตะโกนออกมาจนเสียงดังจนลั่นสนั่นไปทั่วทั้งเทือกเขา
"พี่คี! พี่เป็นอะไร!" ก่อนจะรีบวิ่งไปตรงไปยังกระท่อมที่พี่คีตะนอนหบับพักผ่อนอยู่ด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าพี่เขาจะได้รับอันตราย
"เฮ้ยๆ ๆ"
ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ!
"เจ็บฉิบหาย บัดซบ! จ๊าก! พ่อจ๋าแม่จ๋ามาช่วยหนูด้วยผีหลอกหนูจ้า"
เพราะเขาไม่ทันที่จะสังเกตเห็นว่าฉันวิ่งเข้าไปรอรองรับเขาที่กำลังจะตกบันไดลงมาถึงขั้นสุดท้าย จึงส่งผลให้พี่เขาเผลอปัสสาวะราดออกมาจนส่งผลให้ทั้งกางเกงของฉันมันเปียกชุ่มไปหมด
"พี่คี! พี่คี! มาวินเองค่ะ" แม้อยากจะหัวเราะในเรื่องที่พี่คีตะแกปัสสาวะรดกางเกงจนใจจะขาดมากแค่ไหน แต่พอคิดขึ้นได้ว่าเมื่อก่อนหน้านี้เขาคงจะรู้สึกผวามากซะจนเกือบสิ้นสติ ฉันจึงค่อยๆ วิสาสะดึงหัวของเขามากอดและลูบแผ่นหลังใหญ่นั้นเบาๆ เพื่อเรียกขวัญให้กับเขา
"พี่กลัว กลัวจริงๆ"
ฝ่ายคีตะเองก็ถึงกับแอบเผยยิ้มออกมาพร้อมด้วยใบหน้ากรุ้มกริ่ม เพราะถึงแม้งานนี้เขาจะต้องอับอายเพราะตัวเองปัสาวะราดใส่กางเกงต่อหน้าหญิงสาวก็ตามที แต่มันก็เกินคุ้มแล้วสำหรับเขา ด้วยเพราะว่าตอนนี้ทั้งใบหน้าของเขามันกำลังได้โอกาสในการซุกอยู่บนอกอิ่มที่ล้นออกมาจากขอบสายเดี่ยวตัวจิ๋วของหญิงสาวนั่นเอง
"เอะอะเสียงดังอะไรวะไอ้คี!" ฉันหันไปส่งยิ้มน้อยๆ เชิงคำตอบว่าไม่มีใครเป็นอะไรให้กับพี่จ้าวและพี่น้ำหวานที่วิ่งมาเข้ามาสมทบทีด้วยท่าทีเหนื่อยหอบ กระท่อมของพี่จ้าวอยู่ตรงเชิงเขาน่ะ การที่ต้องวิ่งขึ้นมาหาพี่คีที่พักผ่อนอยู่กระท่อมบริเวณไหล่เขาจึงอาจจะส่งผลให้รู้สึกเหนื่อยไปบ้างเป็นธรรมดา
"ตัวห่าอะไรก็ไม่รู้แม่งเสือกตกลงมาบนหน้าผากตอนกูตอนกำลังจะนอน" แม้ปากหยักคมนั้นจะเอ่ยตอบคำถามเมื่อก่อนหน้าของพี่ชายอยู่ก็ตามที หากแต่ดวงตาคมคู่นั้นกลับเอาแต่จดจ้องไปยังบักแตงโมลูกโตๆ ที่อยู่ตรงหน้าของหน้าตัวเองอยู่อย่างไม่ยอมลดละสายตา
"มาวินออกมาก่อน" ฝ่ายจ้าวโฮปก็ได้แต่ส่ายหัวให้กับความเจ้าเล่ห์เพทุบายของไอ้น้องชายฝาแฝดของตัวเอง
"ไอ้คี! ฉิบหายเถอะ! นี่มึงกลัวหนักจนเลือดกำเดาไหลเลยเหรอวะเนี่ย!" และหากไม่ติดตรงที่ว่าในตอนนี้มาวินยังคงนั่งอยู่ตรงที่แห่งนี้แล้วนั้น ก็คงไม่พ้นที่จะได้เห็นใครบางคนที่ลงไปนอนขำกลิ้งจนท้องแข็งตายคาเทือกเขานี้ไปแล้ว
"เดี๋ยวยังไงจ้าวก็นอนเป็นเพื่อนคีเขาหน่อยนะคะ มา...มาวินไปนอนกับพี่" น้ำหวานที่พอจะอ่านเกมกลออกแอบถลึงตาใส่สองพี่น้องอย่างนึกโมโหอยู่ไม่น้อย ก่อนจะหันไปดันแผ่นหลังของแม่สาวตัวเล็กที่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย~ ให้เดินตามเธอกลับไปยังกระท่อมที่อยู่ตรงเชิงเขา
เช้าวันต่อมา
"อ้าวธี พี่ก็นึกว่าธีอยู่ค่ายมวยเอาซะอีกแหนะ" ฉันตรงเข้าไปสวมกอด 'กันต์ธี' ซึ่งเป็นน้องชายคนรองของตัวเองอย่างแสนคิดถึงในทันทีที่ได้เห็นร่างกำยำที่คุ้นเคยนั้นกำลังเดินเข้ามาหา
"ถ้าอยู่ค่ายจริง พี่ก็คงจะไม่เห็นธีมายืนอยู่ตรงนี้หรอกจริงไหม" ไอ้น้องชายหน้าหล่อพ่อให้มาของฉันมันวอนโดนอวัยวะเบื้องล่างกระแทกปากตั้งแต่เช้าเลยค่ะทุกคน!
"เฮียอั๋นอะ"
"ตรงกระท่อมหลังแรกนู้น" ฉันพูดจบกันต์ธีก็รีบผละตัวออกไปหาพี่ชายคนโตอย่างเฮียอั๋นในทันที
"คิดถึงกันเข้าไป! ชิ!"
"อ้าว...ธี นึกว่าอยู่ค่าย"
ยัยน้องอย่าแกล้งพี่ พี่มันกลัวจนฉี่รดกางเกงแล้วนะเห็นไหมนั่น
ส่วนอีพี่ก็อย่าทำเนียนค่ะ ทรงหมาแก่แอบดูนมเด็ก นิสัย 🤣