“คุณจะให้ดิฉันไปเป็นสายลับที่บริษัทแม่อย่างนั้นเหรอคะ”
มัดไหมถามด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินว่าตนเองจะต้องไปเป็นสายลับที่บริษัทแม่ซึ่งอยู่ต่างประเทศ ใบหน้าของเธอจึงเคร่งเครียดขึ้นมาทันตาเห็นเพราะไม่คิดว่าชีวิตนี้ ตนเองจะต้องไปอยู่ต่างแดน ห่างไกลจากน้องสาวผู้ซึ่งเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่
“ครับ ถูกต้องแล้ว” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบในขณะจ้องมองคนตรงหน้า
“แล้วทำไมต้องเป็นดิฉันด้วยคะ” เธอถามด้วยความไม่เข้าใจเหตุใดลูคัสถึงเลือกตนเอง เขาไม่กลัวเธอจะทำงานพลาดหรือ
ว่าที่พ่อของลูกที่พ่วงตำแหน่งว่าที่เจ้านายจึงยิ้มมุมปากอย่างเป็นต่อก่อนจะตอบตามตรงด้วยวาจากวนบาทา อย่างที่ไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนในชีวิต เพราะลูคัส ลอเรนส์โซ มักจะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าสาว ๆ เสมอยกเว้นคนตรงหน้า
“เพราะคุณดวงซวยมั้ง หึ”
“คุณ!”
“ผมไม่ได้บังคับ ถ้าคุณทำได้ ผมก็ยอมทำตามที่คุณต้องการ ถ้าคุณทำไม่ได้ก็ต่างคนต่างไป”
“แล้วถ้าดิฉันทำไม่ได้หรือทำไม่สำเร็จจะเกิดอะไรขึ้น” เธอเอียงคอถามด้วยความสงสัย ถ้าเรื่องที่เขาให้ไปสืบไม่สำเร็จมันจะเป็นอย่างไร ไม่เท่ากับว่าตนเองเข้าไปทำงานให้ลูคัสฟรี ๆ หรือ
ชายหนุ่มจึงอธิบายเพิ่มเติม เพราะไม่คิดจะเอาเปรียบหญิงสาวอยู่แล้ว ขอแค่เธอยอมให้ความร่วมมือ ไม่ว่างานจะสำเร็จหรือไม่เขายินดีทำตามที่เธอขอทุกอย่าง
“ขอแค่ยอมเป็นสายลับให้ผม จะสำเร็จหรือไม่ ผมยินดีมอบสิ่งที่คุณต้องการ”
“จริงเหรอคะ”
“จริงครับ ผมมีเวลาให้คุณหกเดือน สืบข้อมูลให้ได้มากที่สุด” เขารู้ว่ามันยากที่จะสำเร็จจึงให้เข้าไปสืบหาข้อมูลก็พอ
“แล้วถ้าดิฉันถูกจับได้ ดิฉันจะเป็นอะไรไหม”
“ผมจะคอยช่วยคุณเอง ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น คุณจะไม่โดนจับได้อย่างแน่นอน”
“แล้วมีอะไรการันตีว่าดิฉันจะไม่โดนคุณหักหลัง”
“ผมทำสัญญามาให้แล้ว คุณลองเอากลับไปอ่าน ผมให้เวลาตัดสินใจสามวัน”
“อืม...ก็ได้ค่ะ สามวันต่อจากนี้แล้วเจอกัน”
“หวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธเงื่อนไขของผมนะครับ คุณมัดไหม”
“ถ้ามันคุ้มค่า ดิฉันไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน ขอตัวนะคะ สวัสดีค่ะ”
หญิงสาวยกมือขึ้นมาไหว้ว่าที่พ่อของลูก ก่อนหยิบเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะมาถือแล้วเดินออกจากห้องไป ท่ามกลางความเครียดของสมองที่ไม่รู้จะเอาอย่างไรดี เพราะเรื่องเป็นสายลับไม่ใช่เรื่องเล็กเลย ยิ่งอยู่ต่างประเทศด้วยแล้ว เธอยิ่งต้องคิดให้รอบคอบถึงผลได้ผลเสียของการตัดสินใจครั้งนี้
หลังจากมัดไหมเดินออกไป เลขาของลูคัสก็เดินเข้ามาพร้อมด้วยหญิงสาวรายใหม่ที่แต่งตัวทะมัดทะแมงราวกับทอมบอย ตัดผมซอยสั้นเหมือนผู้ชายไม่มีผิด สวนทางกับผิวพรรณและหน้าตาที่ดูอย่างไรก็น่าจะใช่สาวห้าว
“เห็นผู้หญิงที่เดินออกไปแล้วใช่ไหมนารา”
คนมีศักดิ์เป็นเจ้านายเอ่ยถามหญิงสาวที่เขาเอ็นดูเหมือนน้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง นารา ณราพักต์ ลูกสาวของอดีตบอดีการ์ดของลูคัสจึงยิ้มตาหยีตอบกลับด้วยความชื่นชม แม้เธอจะเห็นมัดไหมเพียงครู่เดียวแต่ก็รู้ว่าผู้หญิงที่เข้ามาในห้องก่อนหน้านี้หน้าตาน่ารักใช่เล่น
“เห็นแล้วค่ะบอส เธอน่ารักดีนะคะ”
“ผมให้คุณไปช่วยเธอ ไม่ได้ให้ไปจีบ”
ลูคัสเอ่ยเตือนทีเล่นทีจริงเพราะรู้ดีว่านาราไม่ได้มีรสนิยมชอบผู้หญิง แต่คนที่เธอชอบคือแดเนียลต่างหาก
“โธ่บอสขา นาราไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย” หญิงสาวค้อนควักไม่ชอบจริง ๆ เวลาที่ใครมาพูดแบบนี้ ถึงตนเองจะแต่งตัวแมน ๆ แต่หัวใจเป็นสีชมพูตลอด ยังชอบเพศตรงข้ามเหมือนเดิม
แต่ก็ไม่แน่ถ้าอนาคตผู้ชายที่เธอสนใจยังทำเมินใส่แบบนี้ เธออาจเปลี่ยนใจไปชอบคนเพศเดียวกันก็ได้
“ไม่คิดก็ดีแล้ว เอาเป็นว่าเตรียมตัวก็แล้วกัน” ลูคัสต้องการให้นาราเข้าไปช่วยมัดไหมสืบหาข้อมูล และคอยดูแลความปลอดภัยด้วยในระหว่างปฏิบัติภารกิจ เพราะหญิงสาวเก่งการต่อสู้และเป็นคนของตนเองด้วยจึงไว้วางใจที่จะให้ทำภารกิจนี้ อีกอย่างน้อยคนนักที่รู้จักนาราทำให้การปลอมแปลงประวัติทำได้ไม่ยาก
หญิงสาวไม่ปฏิเสธออกจะยินดีด้วยซ้ำ ที่เจ้านายให้ไปทำอะไรสนุก ๆ เพราะทุกวันนี้เธอทำงานเป็นช่างภาพฟรีแลนซ์จึงไม่มีปัญหาเรื่องเวลา
“แต่เธอยังไม่ตอบตกลงนะคะ บอสมั่นใจเหรอว่าเธอจะยอมช่วยเรา”
“แน่ใจ ข้อเสนอของผมกับสิ่งที่เธออยากได้มันยากที่จะปฏิเสธ”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี หวังว่านาราจะได้ร่วมงานกับพี่คนน่ารักนะคะบอส”
“หึ อีกสามวันรู้เรื่อง”
“ค่ะ งั้นนาราขอตัวนะคะ”
หญิงสาวลุกขึ้นมาทำความเคารพเจ้านายหนุ่ม จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกับหันมาส่งยิ้มให้เลขาของลูคัสด้วยสีหน้ากวน ๆ อย่างที่ชอบทำเป็นประจำ
แดเนียลถลึงตาใส่ แต่นารากลับไม่สะทกสะท้านจึงแลบลิ้นกลับ ก่อนจะเดินหนีด้วยความรวดเร็วพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคัก
“ชอบเขาก็พูดไปสิ มาทำหน้าแบบนั้น เขาไม่รู้หรอก”
เสียงของลูคัสดังขึ้นมาเมื่อเห็นเลขาอมยิ้มเล็กน้อย หลังจากที่เด็กสาวเดินออกไป แดเนียลจึงหันขวับมามองเจ้านายแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ผมเหรอชอบยัยเด็กนี่ ไม่มีทาง เจ้านายมองผิดแล้ว”
“โกหกใครก็โกหกได้ แต่โกหกหัวใจตัวเองไม่ได้หรอก ชอบก็จีบเลย”