บรึ้น…
เสียงเร่งของเครื่องยนต์กึกก้องดังไปทั่ว สองแฝดพี่น้องคร่อมมอเตอร์ไซค์คันโตหรือเรียกอีกอย่างว่าบิ๊กไบค์วิ่งไปตามท้องถนน
ทั้งสองต่างเร่งความเร็วแข่งกันอย่างไม่มีกลัวแม้บนท้องถนนจะมากไปด้วยรถยนต์หรือกระทั่งมอเตอร์ไซค์ด้วยกันแต่ทว่าสองแฝดกลับไม่สน
เส้นทางจากบ้านจนถึงวิทยาลัยกินเวลาไปกว่าครึ่งชั่วโมงเพราะการจราจรที่ติดขัดในช่วงเวลาเช้าที่ผู้คนต่างออกจากบ้านรวมถึงสองแฝดที่ออกไปเรียน
จนกระทั่งรถบิ๊กไบค์คันโตขับเข้ามาจอดในลานจอดรถของวิทยาลัยเรียกความสนใจจากผู้คนในวิทยาลัยได้เป็นอย่างดีเพราะเสียงท่อไอเสียที่ดังก้องกังวาน
แต่ทว่ากลับได้รับคำด่าว่ากล่าวจากผู้คนบนท้องถนนเพราะเสียงท่อไอเสียที่ดังเกินไปจนน่ารำคาญ สไตล์การขับที่รีบราวกับจะไปเข้าเฝ้ายมบาลแต่ใช่ว่าสองแฝดจะสนใจ
เพราะการแต่งลูกรักให้ครบเครื่องและเต็มระบบ มันคือความชอบ หากให้ขับรถท่อไม่ดัง สองแฝดยอมเดิน !
“ไอ้เกรท ไอ้เกรฟ เด็กโรงเรียนเราแม่ง ! โดนรุมอยู่หน้าโรงเรียนนานาชาติ” เสียงตะโกนของใครคนหนึ่งเรียกความสนใจจากสองแฝดได้เป็นอย่างดี
“มึงจะไปหรือเปล่าไอ้เกรฟ” เกรท แฝดพี่ผู้เป็นถึงประธานรุ่นปวส.สอง เอ่ยปากถามน้องชายฝาแฝดของตัวเองเพราะพึ่งมาถึงโรงเรียน เขาไม่มั่นใจเลยว่าน้องชายจะไปด้วยหรือเปล่า
สำหรับเกรฟถึงจะมีเรื่องต่อยตีอยู่บ่อย ๆ แต่หากเป็นในเวลาเรียนเขามักจะไม่ไปด้วยเพราะพี่ชายฝาแฝดก็ไม่ค่อยรักเรียน หากโดดไม่เข้ากันทั้งสองคนแล้วจะไปผ่านพ้นปีสุดท้ายแบบนี้ได้ยังไง
“ไป” เกรฟ ตอบกลับไปทันทีเพราะยังไงตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลาเรียนอีกวิชา วิชาแรกยังไงก็สายไปแล้วปล่อยไปก็แล้วกัน
อีกอย่างมีเรื่องหน้าโรงเรียนนานาชาติของพวกลูกคุณหนู เกรฟเองก็อยากรู้ว่าไอ้หน้าไหนมันถึงกล้าทำระยำตรงนี้
“จะไปก็เร็ว ๆ มัวแต่ยืนคุยกันไอ้เด็กที่โดยรุมตายห่าไปแล้วมั้ง” เสียงตะโกนดังขึ้นอีกครั้งและไม่ต้องถามเลยว่าเป็นเสียงใคร
เสียงของเพื่อนสนิทในกลุ่มของเกรทกับเกรฟที่มีชื่อว่าพล เขาบังเอิญได้ยินพวกเด็ก ๆ รุ่นน้องคุยกันแต่ทว่าไม่มีใครกล้าไปเพราะไม่ตัวเปิดที่เป็นรุ่นพี่
ก็แน่ล่ะ ! เพราะไอ้พวกรุ่นพี่อย่างพวกเขากว่าจะมาวิทยาลัยก็สายตลอด ไม่เคยจะมาตรงเวลาเพราะการตื่นเช้ามันเป็นเรื่องยาก
แน่นอนว่าสองแฝดรวมถึงพลเพื่อนสนิทต่างรีบวิ่งมายังหน้าโรงเรียนนานาชาติ เด็กโรงเรียนของเขาใส่เสื้อช็อปช่างกลแถบแขนสีน้ำเงินกำลังโดนรุมกระทืบโดยไม่มีใครช่วย
เกรทที่เห็นแบบนี้ก็ไม่รอช้าวิ่งพุ่งเข้าไปยกเท้าถีบคู่อริให้ถอยห่างจากรุ่นน้องของตัวเอง ถึงแม้ในวงนี้จะมีมากกว่าสามแต่ใช่ว่าเกรทจะกลัว
“ไอ้พลมึงมาเอาไอ้เด็กนี่กลับไป” เกรทบอกกับเพื่อนสนิทพร้อมหันมาประจันหน้ากับคู่อริ
มองจากการแต่งตัวปกปิดมิดชิดแบบนี้มันยากมากว่ามาจากเทคนิคไหนแต่ดู ๆ แล้วก็คงเป็นพวกเด็กกระโปกหัดห้าวเพราะหากเป็นพวกรุ่นเดียวกับพวกเขาจริง ๆ คงไม่ใช่แค่กระทืบยำตีนกันแบบนี้
“กล้ามากที่มาถึงถิ่นกู” เกรทพูดขึ้นพร้อมชี้หน้าเรียงตัวทำเอาพวกคู่อริถึงกับตัวสั่นเป็นแถว
ให้ทายว่าไอ้พวกนี้คงรู้ดีว่าเกรทเป็นถึงหัวโจกซึ่งมันคนละชั้นกับไอ้เด็กพวกนี้ ทำให้ยืนตัวสั่นเป็นลูกหมาตกน้ำผิดแปลกจากเมื่อกี้ที่ห้าวหาญทำเด็กของเขา
“กูรู้แล้วว่ามันกล้าเพราะอะไร” เกรฟเดินเข้ามาหาเกรทพร้อมกับชี้ไปยังถนนอีกฝั่ง
ไอ้เด็กกระโปกพวกนี้ไม่ได้มากันเองแต่มันมีรุ่นใหญ่พามาด้วย มองจากตรงนี้สองแฝดรู้ดีว่าอีกฝ่ายคือใคร
อีกฝ่ายคือคู่อริของพวกเขาและขึ้นชื่อว่าคู่อริอันดับหนึ่งมีเรื่องบาดหมางกันมาแล้วนับไม่ถ้วน
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ไปตามพวกพี่มึงมา”
น้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมใบหน้าดุพูดออกไปทำเอาไอ้เด็กหัดห้าวพวกนี้ถึงกับยืนสะดุ้ง แน่นอนว่าเกรทและเกรฟเห็นเป็นเด็กเขาเลยไม่ทำ
สำหรับพวกเขาชอบเล่นกับรุ่นเดียวกันมากกว่าเพราะการเล่นรุ่นน้องมันดูเหมือนพวกกระจอก จะต่อยจะตีก็ต้องหาพวกที่ศีลเสมอจะได้สนุกคุ้มกับการเสียเวลา
“มันมีสี่ เรามีสองมึงไหวไหมเกรฟ” เกรทได้แต่เอ่ยถามน้องชายเพราะอีกฝ่ายมีมากกว่าครึ่งอีกทั้งอาวุธก็ครบมือทั้งสี่คน
ยังไงตอนตอนนี้เกรทกับเกรฟก็เสียเปรียบเพราะมีสองคนถึงอาวุธจะครบมือไม่ต่างกันแต่ยังไงก็เสียเปรียบเพราะสองต่อสี่
“กูไหวแค่ไอ้พวกนี้มันคณามือกูหรอก” เกรฟตอบกลับไปตามตรงเพราะถึงพวกมันจะมีสี่แต่เกรฟไม่กลัว เคยชนกันมาแล้วหลายครั้ง ชนกันอีกสักครั้งจะเป็นอะไรไป
“กูเปิดเลยนะ” เกรทพูดเพียงแค่นี้พร้อมกับเดินตรงเข้าไปหาพวกคู่อริที่กำลังเดินเข้ามา ส่วนเกรฟก็ตามหลังพี่ชายไปติด ๆ
สองแฝดต่างยกไม้เบสบอลในมือฟาดคู่อริตรงหน้า หมัดหนักของใครคนหนึ่งต่อยเข้าที่หน้าของเกรท เกรฟที่เห็นแบบนั้นก็รีบสลัดคนที่ล็อกแขนของตัวเองไว้ออกพร้อมตรงเข้าหาคนที่ปล่อยหมัดใส่พี่ชาย
สี่ต่อสองในตอนนี้วุ่นวายอยู่หน้าโรงเรียนนานาชาติแต่ทว่ากลับไม่มีใครกล้าเข้ามาห้ามเพราะขึ้นชื่อว่าเด็กช่างก็ไม่มีใครอยากยุ่ง
“ไอ้เกรฟหลบ !”
อั่ก !
“อ่ะ…โอ่ย !” เสียงร้องของเกรฟดังขึ้น
เขาโดนไม้เบสบอลฟาดเข้าที่หลังจนล้มลง เกรทที่เห็นน้องชายโดนกระทำก็รีบพุ่งตัวเข้าไปหาอีกคนที่ทำน้องชาย มือหนากำไม้เบสบอลในมือแน่นพร้อมกับฟาดใส่อีกคนอย่างไม่ลดแรง
เมื่อคนคนนี้ไร้เรี่ยวแรงต่อสู้ เกรทก็หันหน้ามาหาอีกสามคนที่ตอนนี้พร้อมเข้ามาหาพวกเขา ส่วนเกรฟก็ได้แต่พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นเพื่อหวังสู้ต่อ
เพราะสามต่อหนึ่งในตอนนี้ยังไงไอ้เกรทก็ไม่ไหว !
ถึงจะเจ็บหลังแต่ทว่าเขาต้องฮึดใจสู้ก่อนเพราะหากปล่อยให้พี่ชายสู้คนเดียวมีหวังก็คงไม่รอด ไอ้พลแม่งก็หายไปเลยแทนที่จะมาช่วยกัน
หัวโจกของอีกฝ่ายเองก็ไม่น้อยหน้าตรงเข้ามาหาเกรฟทั้งยังมีไม้เบสบอลในมือเตรียมจะฟาดแต่ทว่าเกรทเห็นก่อน ผลักน้องชายให้หลบพร้อมยกไม้เบสบอลฟาดอีกคนจนล้มลง
แม่ง ! หวังจะซ้ำน้องกูซ้ำสอง
อั่ก !
“โอ๊ย !” เสียงร้องดังขึ้นทำเอาเกรทกับเกรฟได้แต่ยกยิ้มก่อนจะใช้ไม้เบสบอลวางลงที่หน้าอกของอีกฝ่าย
“มาสี่แต่เจ็บหมด พวกมึงนี่กระจอกจริง ๆ”
“เหอะ ! คิดว่ากูกลัวมึงหรือยังไง” อีกฝ่ายมีชื่อว่าชาร์ป เป็นลูกครึ่ง หน้าตาฝรั่งจ๋าแต่ทว่าสันดานกลับหมาสุด ๆ
“กลัวไม่กลัวตอนนี้กูก็เอาตีนเหยียบหน้ามึงได้” เกรทพูดออกไปพร้อมทั้งเอาไม้เบสบอลที่อยู่บนหน้าอกของชาร์ปกระแทกลงจนอีกฝ่ายหน้าเสียเพราะความเจ็บ
อั่ก ! อั่ก ! อั่ก !
“ไอ้สัส”
“ไอ้เหี้ยเอ๊ย ! พ่อมึงมา ไอ้เกรทไอ้เกรฟหนีเร็ว” เสียงตะโกนของพลที่วิ่งกลับมาดังขึ้นเป็นวงกว้างหลังจากพาเด็กรุ่นน้องที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดโดนไอ้พวกนี้กระทืบไปส่งที่ห้องพยาบาลของวิทยาลัย
“แม่ง ! กูยังไม่ได้จัดการไอ้เวรนี่เลย” เกรทพูดออกมาอย่างหัวเสีย ไม้เบสบอลที่เคยอยู่บนอกชาร์ปตอนนี้ก็เอาออกเปลี่ยนเป็นการเอาเท้าแกร่งกระแทกหน้าเพื่อหวังให้เลือดกบปาก
“วิ่งก่อนไอ้เกรท ถ้าพ่อกับแม่รู้มึงกับกูจบเห่แน่” เกรฟบอกออกไปตามตรงเพราะแค่เรียนเทคนิคคุณพ่อคุณแม่ก็ใจกว้างพอแล้ว
ทุกวันนี้มีเรื่องแทบตลอด เขาเบื่อที่จะฟังคำบ่นและคำด่าจากสองคนแก่นั่นจะแย่ ถึงจะรู้ว่าพวกเขาบ่นเพราะความเป็นห่วงก็เถอะ
“เจอครั้งหน้ากูจะไม่เอาแค่ส้นตีนเหยียบหน้ามึงแน่ไอ้ชาร์ปแต่กูจะเอามีดหัวตัดมาเฉือนหน้ามึง”
“พวกมึงไม่กล้าทำกูถึงขนาดนั้นหรอกเพราะถ้าพวกมึงฆ่ากู
พวกมึงไม่มีทางรู้เลยว่าเมียเก่าพวกมึงมันนอกใจเพราะเหตุผลอะไร”
“ลองดูไหมล่ะเพราะแค่มึงหายไปคนเดียว บ้านกูมีปัญญาปิดข่าวทำให้มึงกลายเป็นศพเป็นบุคคลสาบสูญ”
❤️
welcome
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ความโหด
สองแฝดของพวกเราคนดีจริง ๆ นะแต่ก็มีบ้างที่เกเรและที่
สำคัญคลั่งรักสุด ๆ
ฝากคอมเมนต์ให้กันด้วยนะคะ
กำลังใจชั้นดีของเค้าเลย