และในที่สุดช่วงเวลาที่น่าอึดอัดก็ผ่านพ้นไป แกรี่ในชุดสูทอย่างดีก้าวยาวๆ ตรงไปยังหญิงสาวร่างระหง เธอดูโดดเด่นสะดุดตาด้วยช่วงขาเรียวยาวในกางเกงยีนส์ตัวสั้นและเสื้อยืดรัดรูป เขาเปลี่ยนเป็นเดินแกมวิ่งด้วยความดีใจ ยังไม่ทันไปถึง ไข่มุกก็หันมามองทางเขา เธอเขม้นมองราวกับจำเขาไม่ได้จนกระทั่งเขาไปยืนอยู่ตรงหน้า
“สวัสดีครับคุณหนูไข่มุก” เขาทักทายหญิงสาว เธอดูสวยกว่าบนโซเชียลที่เขาไถไอจีดูอยู่ทุกๆ วัน สวยจนเขาเผลอยิ้มและมองตาค้างโดยไม่รู้ตัว
“ห่างเหินจัง”
สรรพนามที่เขาใช้เรียกเธอเปลี่ยนไปจากสมัยก่อน ทำให้ไข่มุกหน้าบึ้งไม่พอใจ
“บอดี้การ์ดไม่มีสิทธิ์วางตัวเสมอเจ้านาย มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว” แกรี่พูดอย่างสุภาพ
“แต่พี่ต้าร์ยังไม่ได้เป็นบอดี้การ์ดของมุก การคัดเลือกบอดี้การ์ดประจำตัว CEO จะเกิดขึ้นปีหน้า และตอนนี้มุกก็ยังไม่ได้เป็นประธาน มุกอยากให้พี่ต้าร์วางตัวเหมือนแต่ก่อน”
“มันเป็นไปได้ยากครับคุณหนู ด้วยวัย ด้วยความเหมาะสม และอะไรหลายๆ อย่าง” เขาอธิบายด้วยเหตุผล ไข่มุกถอนหายใจ เธอเข้าใจที่ชายหนุ่มพูดออกมาทุกอย่าง
“ถ้างั้นตอนที่อยู่กับมุก มุกขอให้พี่ต้าร์ใช้สรรพนามเหมือนเมื่อก่อนจะได้ไหม” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มหวานซึ้งจ้องเข้าไปในดวงตาของแกรี่อย่างขอร้อง ก่อนจะมองเครื่องหน้าของพี่ชายในวัยเยาว์ที่ความหล่อของเขาคมกริบ แล้วความหล่อนั้นก็คงจะเชือดเฉือนหัวใจของสาวๆ หลายๆ คน แล้วสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเมื่อเห็นหลักฐานทนโท่อยู่บนต้นคอเขา
แกรี่ลำบากใจที่จะทำตามคำขอของไข่มุก ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่เขาปรารถนาที่สุด “ผม...”
“หมอต้าร์คนเก่งพลาดเอามีดผ่าตัดมากรีดคอตัวเองหรือไงคะ” ไข่มุกจ้องที่รอยข่วนบนคอของเขา แล้วเลื่อนสายตาไม่พอใจมามองตาของแกรี่ที่เบิกโพลงขึ้นฉับพลัน
เขายกมือลูบคอตัวเอง รอยข่วนเป็นทางยาวของโซเฟียทำพิษเขาเสียแล้ว
ไข่มุกสะบัดหน้าเดินหนีไปอีกทาง
“น้องมุก” คราวนี้สรรพนามที่เขาใช้เรียกเปลี่ยนไปทันที
*********
แกรี่เสียววาบทุกครั้งที่มองผ่านกระจกส่องหลัง ไข่มุกใช้สายตาพิฆาตมองสวนไม่หลบสายตา ความคิดที่ว่าจะเห็นหญิงสาวคนสวยหันไปมองนอกหน้าต่าง ไม่มีอยู่ในตัวผู้หญิงคนนี้ เมื่อครู่เขาวิ่งตามไปดักหน้าดักหลังแทบตายกว่าเธอจะยอมมาขึ้นรถ
ชายหนุ่มลองยิ้มให้เธอเบาๆ...
ไข่มุกแบะปากให้เขาแรงๆ...
หลังจากเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ไข่มุกก็ตระหนักได้ว่าทำไมเธอจะต้องมาอารมณ์เสียกับไอ้รอยข่วนบ้าๆ ไร้ราคานั่น มันจะทำให้ชายหนุ่มสำคัญตัวเองผิด เรื่องความแซ่บของหมอต้าร์เธอก็รู้ แต่ก่อนเวลาได้ยินเพื่อนนางแบบพูดถึงเขาแบบปากต่อปาก เธอจะรู้สึกหวง มันเป็นความหวงที่ก้ำกึ่งระหว่างคนพิเศษกับพี่ชาย แต่คิดว่าค่อนไปทางหวงแบบน้องสาวหวงพี่ชาย ไม่อยากให้ใครมายุ่งกับพี่ชายคนเดียวของตัวเอง
อายุของเขาตั้งสามสิบกว่า เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาสากลโลก แต่เมื่อครู่ก็อดไม่ได้ที่สติจะขาดผึง พอโมโหแล้ว เรื่องที่คิดว่าจะทำเป็นลืมๆ ก็ผุดขึ้นมาอีก
“กฎพื้นฐานของบอดี้การ์ดคืออะไร” เธอถามใส่คนที่ยังยิ้มให้ผ่านกระจกมองหลัง สายตาแบบนี้ไงที่ทำให้ใครต่อใครหลงใหล อ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟ แต่มันใช้กับเธอไม่ได้หรอก
“ปกป้อง อารักขา เชี่ยวชาญการใช้อาวุธและกำลัง”
เขาตอบกลับทันควัน แล้วเอี้ยวตัวมามองหญิงสาวที่ดูผุดผ่องน่าทะนุถนอม การจราจรเวลานี้ยังแน่นขนัด ขยับได้เพียงนิดก็ติดไปอีกยาว
“แค่นี้เหรอ” ไข่มุกใช้เสียงเย็น สีหน้ายังปั้นปึ่ง แสดงความเข้มงวดแบบเชื้อไม่ทิ้งแถวที่ได้รับการถ่ายทอดมาทางดีเอ็นเอของเอเดรียนผู้เป็นบิดา
“อึด ถึก ทน นิ่ง สงบ ไม่ทำให้เจ้านายรู้สึกไม่ปลอดภัย แม้ตอนนั้นจะรู้ว่ามีอันตรายสำหรับเจ้านายครับผม”
“อะไรอีก”
“สมาร์ต ภูมิฐาน กล้าหาญ ยอมเจ็บปวด เสียสละชีวิตตนเองแลกกับชีวิตของคุณหนูไข่มุกครับ”
เขาพยายามพูดให้ไข่มุกอารมณ์ดีด้วยการทอดเสียงหยอกล้อ
“มุกไม่ใช่ผู้หญิงพวกนั้น พี่ต้าร์ไม่ต้องมาใช้น้ำเสียงกับสายตาแบบนี้กับมุก”
ว่าจะไม่แซะ แต่ก็พลั้งปากจนได้
“พี่ไม่เคยใช้กับใครเลยครับ ไม่เคยมีใครทำให้พี่ยิ้มได้แบบนี้ แล้วพี่ก็ไม่เคยมองใครด้วยสายตาแบบนี้”
ใจแอบฟูขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ซ่อนไว้ภายใต้สีหน้าเรียบเฉย
“ไม่เชื่อ”
“จริงครับ พี่เก็บไว้ให้คนคนเดียว”
“เรื่องนั้นช่างเถอะ ไม่ถือว่าเป็นสาระสำคัญสำหรับมุก”
เธอกดความดีใจไว้ภายใน ขณะที่ชายหนุ่มหน้าเจื่อนลง
“บอดี้การ์ดต้องรู้กฎหมายค่ะ!” ไข่มุกบอกกฎเหล็ก “พี่ต้าร์ให้ฉลามเอารถแอมบูแลนซ์ออกมาใช้ได้ยังไง”
“เอ่อ...พี่...”
“อีกอย่างนะ ฉลามอายุแค่สิบเจ็ด มีแต่ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ พี่ต้าร์จะบ้าหรือเปล่า”
นี่สินะที่ฉลามว่าบอกโดนพี่สาวด่า
“พี่ขอโทษ พี่ไม่ทันคิด คิดแต่ว่าจะมารับน้องมุกให้ทันเท่านั้นเอง”
ไม่ใช่เรื่องที่จะบอกว่าตอนแรกเขาถามฉลามว่าพอมีเส้นสายของปวินทร์ ตาของฉลามซึ่งเป็นอดีตตำรวจไหม จะได้อำนวยความสะดวกเรื่องการจราจร ฉลามบอกว่าเดี๋ยวจัดการเอง เขาก็ไม่คิดว่าฉลามจะไปเอารถแอมบูแลนซ์มานำทาง ที่สำคัญเขาดันไม่ห้ามนี่แหละ