รถซีดานสีดำสุดหรูจอดที่ลานจอดรถของร้านอาหารชื่อดัง ณัฐฐาเปิดประตูรถลงมาด้วยตัวเองโดยไม่รอให้คนขับมาเปิดให้
วิชญะเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเธอจนกระทั่งถึงโต๊ะอาหารที่ครอบครัวของเธอจองเอาไว้
“สวัสดีครับท่านประธานใหญ่” เลขานุการหนุ่มของหญิงสาวกล่าวทักทายผู้ที่นั่งหัวโต๊ะด้วยความสุภาพ
“ประธงประธานอะไรกัน ลุงบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกตามปกติ” ณัฐชัยบอกลูกชายของเพื่อนรักที่เคยเป็นมือขวาของตนมาก่อนที่จะส่งต่อให้ดูแลลูกสาวคนเล็กด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นกันเอง
ณัฐฐานั่งลงตรงข้ามบิดา รู้ว่าที่นัดมาครั้งนี้เขาคงจะพูดธุระอะไรบางอย่างแน่ เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่เรียกวิชญะมานั่งร่วมโต๊ะด้วย
“ครับ คุณลุง” เขาตอบรับแล้วนั่งลงตรงข้ามกันกับรองประธานสาว “ว่าแต่มีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่าครับ”
“อย่าเรียกว่ารับใช้เลย ลุงมีเรื่องจะขอให้วิชญ์ช่วยหน่อย” อดีตประธานบริษัทรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจรกล่าวแล้วยิ้มที่มุมปากด้วยท่าทางที่ใจดี
“ลุงว่าจะขอให้วิชญ์ช่วยขับรถให้หน่อย”
“ขับรถ ไปไหนเหรอครับ”
“ไปเที่ยวทะเลน่ะ ณิกับสามีเขาไปรถอีกคัน เราไม่อยากให้คนขับรถขับให้อยากไปแบบส่วนตัวน่ะ ลุงเลยอยากให้วิชญ์ช่วยขับรถพาไปหน่อย”
ณัฐฐาเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจไม่คิดว่าบิดาจะให้วิชญะไปขับรถให้จริงๆ ก่อนหน้านี้แม้เขาจะพูดเกริ่นเอาไว้แล้วเธอก็คิดแต่เพียงว่าเป็นการพูดลอยๆ เท่านั้น
“ผมยินดีครับ” เลขานุการหนุ่มกล่าวตอบรับแล้วอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะลดยิ้มลงทำสีหน้าให้เป็นปกติ แต่นั่นก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาอันแหลมคมของผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนได้
“ขอบใจมากนะ” ณัฐชัยกล่าวแล้วบริกรก็เริ่มทยอยนำอาหารมาวางที่โต๊ะ
รองประธานสาวนิ่งเงียบไป ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ รู้ดีว่าบิดาของตนคงจะกำลังทำสิ่งที่เรียกว่า ‘การจับคู่’ เพราะวิชญะคือคนโปรดของเขามิหนำซ้ำยังเป็นลูกชายของเพื่อนสนิทอีกด้วย
‘ถ้าพี่วิชญ์ใกล้ชิดกับฐาเพราะเกรงใจคุณพ่อ ไม่ได้เกิดจากความรู้สึกจริงๆ ฐาก็ไม่มีวัยยอมรับหรอก’ หญิงสาวนึกในใจอย่างต่อต้าน
ในขณะที่วิชญะเองก็ไม่ได้โง่พอ เขาดูออกว่าณัฐชัยเองก็ไม่ได้รังเกียจหากว่าตนจะชอบพอกับณัฐฐา แต่ว่าฐานะที่แตกต่างกันทำให้เขาต้องเจียมตัวเพราะดูท่าแล้วณัฐฐาเองก็เหมือนจะต่อต้านเขามาตั้งแต่ที่เธอยังเป็นแค่นักเรียนที่มาเรียนรู้งานโดยมีเขาเป็นคนดูแล
ณัฐชัยลอบมองสายตาของชายหนุ่ม เขารู้ดีว่าสายตาแบบนั้นสื่อถึงอะไร ส่วนณัฐฐานั้นเขาเองก็ไม่มั่นใจว่ารู้สึกอย่างไรกับวิชญะ
ก่อนหน้านี้ตอนสมัยยังเด็กยังติดวิชญะแจ พอห่างกันไปแล้วมาเจอกันอีกครั้งตอนกลับดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนไป สายตาผู้เป็นพ่อรู้ดีว่านั่นเกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจของตัวณัฐฐาเอง
นั่นก็เป็นเพราะว่าวิชญะนั้นมักจะได้รับคำชื่นชมและเป็นที่ยอมรับของใครหลายๆ คน แต่เธอที่เป็นถึงจะทำอะไรบางเรื่องต้องผ่านวิชญะก่อน ตั้งแต่ตอนฝึกงานจนรับตำแหน่งทำให้เธอรู้สึกไม่ดีกับเขา หรือถ้าเรียกให้ถูกคือเธอไม่พอใจที่อยู่ใต้เงาของวิชญะ
แต่อย่างไรก็ตามเขาวางตัววิชญะไว้แล้วว่าจะให้เป็นลูกเขยของตน และสายตาที่วิชญะมองณัฐฐาก็ทำให้รู้ว่าตนคิดไม่ผิด
************************
เมื่อกลับไปถึงบริษัท รองประธานสาวก็เข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวแล้วนั่งลงที่โต๊ะทำงานของตนอย่างครุ่นคิดและรู้สึกกระวนกระวายใจกับสิ่งที่บิดาเหมือนกำลังจะสนับสนุนเธอกับวิชญะ
เธอไม่ได้รังเกียจเขา ส่วนลึกๆ ในใจของเธอนั้นยังคงจำได้ถึงความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีต่ออีกฝ่าย ตอนสมัยเด็กเธอและเขาสนิทสนมกันมาก จนเรียกได้ว่าติดเขาแจ
ตอนที่เธอมาเรียนรู้งานที่บริษัทช่วงสมัยมัธยมปลาย วิชญะและยังเป็นแค่เพียงพนักงานธรรมดาทั่วไปเท่านั้นแต่กลับได้รับคำชื่นชมจากบิดาของเธอเสมอ ซึ่งเป็นคำชื่นชมที่ณัฐชัยไม่เคยพูดชมให้กับเธอเลย
หญิงสาวอยู่ภายใต้การดูแลควบคุมของเขามาโดยตลอด วิชญะชี้นำเธอและสอนงานทางธุรกิจไม่น้อย แม้กระทั่งช่วงที่ฝึกงานตอนปีสี่แต่ก็เลือกฝึกงานที่บริษัทของบิดา วิชญะก็เป็นหัวหน้าที่ดูแลการฝึกงานของเธอ และสอนงานเธอตามคำสั่งของณัฐชัย
กระทั่งตอนนี้ที่แม้ตนเองจะเป็นถึงรองประธานบริษัท แต่อำนาจการตัดสินใจบางอย่างกลับถูกชี้นำมาจากเลขานุการคนนี้อยู่เสมอ
ท้ายที่สุดแล้วแม้จะได้รับคำชื่นชม แต่เธอคิดว่ามันควรมาจากความสามารถในการคิดวิเคราะห์และลงมือทำงานด้วยตนเองของเธอ ไม่ใช่เพราะความคิดที่ชี้นำจากวิชญ์ แบบนี้ณัฐฐาไม่ได้รู้สึกภูมิใจเลยสักนิด
‘คุณพ่อให้พี่วิชญ์มาใกล้ชิดเราตั้งแต่แรกแล้วสินะ แล้ววันนี้ยังชวนให้พี่วิชญ์ไปเที่ยวกับครอบครัวเราอีก ไม่บอกก็รู้ว่าคุณพ่อคิดจะทำอะไร’ หญิงสาวคิดในใจ เริ่มเดาความต้องการของบิดาออกแล้วอดใจเต้นเล็กน้อยไม่ได้
วิชญะทำงานทุกอย่างตามคำสั่งของณัฐชัยมาโดยตลอด หากจะจับคลุมถุงชนรองประธานสาวจึงคิดว่าเขาก็คงยอมทำทุกอย่างตามคำสั่งของบิดาตนเพื่อตอบแทนที่ช่วยเหลือในการรับเข้าทำงานก็เท่านั้น
“บ้าจริง เราจะมาคิดเรื่องนี้ทำไมนะ” เธอบ่นพึมพำแล้วกอดอกมองปากกาที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างมือเหม่อลอย โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเลขานุการหนุ่มยืนอยู่ที่ข้างโต๊ะตั้งแต่เดินตามเข้ามาแล้ว
“คุณฐาครับ” เสียงเรียกของเขาทำให้เธอตื่นจากภวังค์และสะดุ้งเล็กน้อยที่อีกฝ่ายมายืนตรงนี้
“พี่วิ... เอ่อ คุณเข้าตั้งแต่เมื่อไหร่” เธอเกือบหลุดปากเรียกเขาด้วยสรรพนามที่คุ้นเคย
วิชญะอมยิ้มเล็กน้อย “ผมก็เดินตามคุณฐาเข้ามาตั้งแต่แรกแล้วนี่ครับ”
“อยู่มีอะไรคะ”
“คุณฐามีนัดคุยกับคุณองอาจแทนคุณณิครับ ให้ผมเรียกเขามาพบได้เลยหรือเปล่า”
“ค่ะ ฐาพร้อมแล้ว” หญิงสาวพูดจบก็มองใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขาที่เหมือนกำลังพอใจกับอะไรบางอย่าง
“ขอกาแฟมาเสิร์ฟให้เราด้วยนะคะ”
“ครับ” วิชญะยิ้มรับแล้วเดินออกจากห้องไป
ไม่นานนักองอาจก็เข้ามาพบกับเธอ ตามมาด้วยวิชญะที่ถือถาดเครื่องดื่มตามเข้ามา
ถ้วยกาแฟถูกวางให้กับองอาจ และโกโก้ร้อนวางให้แก่ณัฐฐาทำให้รองประธานสาวเม้มปากแล้วจ้องหน้าเขาด้วยสายตาที่ไม่พอใจ แต่เพราะมีองอาจนั่งอยู่ต่อหน้าจึงไม่ได้โวยวายออกไป
วิชญะยิ้มให้กับเธออย่างรู้ทัน เขาถือถาดเครื่องดื่มเดินกลับออกไปพร้อมกับนำสมุดปกหนังกับปากกาคู่ใจเข้ามาเพื่อนั่งฟังการสนทนาด้วย
สายตาของเขามองณัฐฐาด้วยความชื่นชม ก่อนจะหันไปสนใจคู่สนทนาแล้วทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด
************************