@คอนโด
สถานที่แปลกตาทำให้เด็กน้อยที่เพิ่งลงจากรถมองด้วยความสนใจ
เมยาวีรู้ทันลูกสาวว่าเมยาดากำลังอยู่ในอารมณ์ไหนรีบนั่งยองๆ ลงตรงหน้าอธิบาย
อคิราห์ที่เห็นก็ปล่อยให้สองแม่ลูกเคลียร์กันไปก่อนแล้วเขาเดินไปเอาของที่หลังรถ ภาวนาว่าขอให้น้องมายด์ยอมมาอยู่ด้วยกันเถอะ ไม่งั้นคงเป็นเขาที่ย้ายไปอยู่กับลูกแน่
ถึงจะร้อนและห้องเล็กคับแคบแค่ไหน แต่ถ้าลูกไม่มาเขาจะอยู่อย่างสุขสบายคนเดียวได้อย่างไรกัน
"คือแบบนี้นะคะน้องมายด์ ต่อไปเราจะย้ายมาอยู่ที่นี่กันนะคะ ที่นี่เป็นบ้านของคุณพ่อค่ะ คุณพ่ออยากให้น้องมายด์มาอยู่ด้วย" เมยาวีเอ่ยกับลูกสาวยิ้มๆ ทำให้เด็กน้อยเห็นว่าไม่มีอะไรน่าห่วง
"ทำไมเหรอคะคุณแม่" เมยาดาถามด้วยความสนใจ
"เพราะที่นี่ไม่ร้อนเหมือนที่บ้านเราไงคะ คุณพ่อบอกว่าอยากให้น้องมายด์มาอยู่ด้วย แล้วที่นี่ก็ใกล้โรงเรียนลูกสาวแม่ด้วย น้องมายด์จะได้ไม่ต้องตื่นเช้ามาก ลูกสาวคุณแม่ก็จะได้ไม่ต้องไปแย่งกับคนอื่นขึ้นรถอย่างทุกวันค่ะ"
"แล้วคุณแม่อยู่กับน้องมายด์มั้ยคะ" เพราะเด็กน้อยเองก็ไม่ชอบคนเยอะ แต่เธอติดตรงแม่มากกว่า
"อยู่สิคะ น้องมายด์อยู่ที่ไหนคุณแม่ก็จะอยู่ด้วยค่ะ ตกลงไหมคะ"
"ตกลงค่ะ" ขอแค่มีแม่ เธออยากมีแม่อยู่ด้วยทุกที่
เมยาวีผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่ง ไม่เสียแรงที่เธอเอ่ยเรื่องพ่อของลูกให้เขาฟังบ่อยๆ ถึงแม้ไม่รู้หรอกว่าวันหนึ่งจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันไหม แต่ในฐานะคนเป็นแม่แล้ว เธอไม่เคยบอกว่าพ่อน้องมายด์เสียชีวิต หรือเอ่ยถึงอีกฝ่ายในเรื่องไม่ดี
เธอบอกลูกว่าพ่อไปทำงานเขาจะได้สบายใจ เพราะคิดว่าหากวันหนึ่งลูกโตขึ้นเขาจะค่อยๆ เข้าใจว่าที่แม่พยายามบอก ที่แม่พยายามทำเพื่อไม่ให้เขารู้สึกขาด เวลาไปโรงเรียนหากใครถามน้องมายด์จะได้ตอบคนอื่นได้โดยเจ้าตัวไม่รู้สึกเสียใจ
แต่ตอนที่น้องมายด์ถามเธอว่าคุณพ่อหล่อไหม พอเธอบอกว่าหล่อมากเท่านั้นล่ะ ทำให้เด็กน้อยที่เคยได้ยินแต่ว่าพ่อไปทำงานกลับอยากเจอขึ้นมาเพื่อจะได้วาดรูปไปส่งคุณครูที่โรงเรียน เรื่องราวทั้งหมดจึงกลายมาเป็นแบบนี้
อคิราห์ที่ปล่อยให้สองแม่ลูกคุยกันเสร็จเรียบร้อยจึงเดินเข้ามาหาบ้าง เห็นใบหน้าสวยอมยิ้มมาให้เขาเล็กน้อยก็เข้าใจได้ว่าคงเคลียร์กันแล้ว
คราวแรกเขากลัวลูกสาวจะงอแง แต่เหมือนเด็กตัวน้อยจะเข้าใจอะไรได้ง่ายถึงความเปลี่ยนแปลง เขาถึงได้นั่งยองๆ ลงสู่ด้านล่างเพื่อคุยกับลูกอีกครั้ง
"เรามาอยู่ที่นี่ด้วยกันนะคะ มีที่ให้น้องมายด์วิ่งเล่น และที่นี่ก็ใกล้โรงเรียนลูกสาวพ่อด้วย ตอนเช้าคุณพ่อกับคุณแม่จะไปส่งน้องมายด์ที่โรงเรียนด้วยกัน ต่อไปน้องมายด์จะมีพ่อและแม่ไปส่งทุกวัน แทนการให้คุณแม่ไปคนเดียว น้องมายด์ว่าดีไหมคะ"
"ดีค่ะ" เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงักตอบรับเสียงแจ๋วทันที เพราะเธอเคยเห็นเพื่อนคนอื่นๆ มีพ่อกับแม่ไปส่ง
เมยาวีที่ได้ยินดังนั้นยิ้มบางๆ ไม่ทราบอนาคตหรอกว่ามันจะเป็นไปในทิศทางไหน แต่ถ้าวันนี้ลูกโอเคเธอยังยืนยันที่จะเคารพในการตัดสินใจของลูก เธอให้ลูกมาเป็นที่หนึ่งเพราะเรามีกันแค่นี้จริงๆ
"โอเค งั้นเราขึ้นห้องกันค่ะ ไปดูห้องคุณพ่อดีกว่ามา" อคิราห์จึงยื่นของให้แม่ของลูกถือแล้วอุ้มลูกสาวขึ้นแนบอกเอง หอมแก้มนุ่มๆ ไปด้วยระหว่างทาง มันเป็นไปอย่างอัตโนมัติอีกแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าปรับตัวอะไรได้รวดเร็ว
แต่..แบบนี้ก็ดีไปอีกอย่าง บางทีการที่พ่อเขาอยากให้เขาแต่งงานมีครอบครัว มันอาจไม่ต้องรอเวลาให้เขาศึกษาใครบางคนแล้วค่อยๆ เลื่อนสถานะ เพราะวันนี้เขามีทั้งลูกและแม่ของลูกแล้ว แถมมีลูกโตทันใช้ขนาดนี้เรียกได้ว่าไม่เสียเวลาเปล่าแน่นอน
ไม่นานทั้งหมดก็เข้ามาอยู่ในห้อง อคิราห์จึงพาสองแม่ลูกทัวร์ห้องทันที เริ่มจากห้องนอนด้านในก่อน เอื้อมมือไปเปิดไฟให้เกิดความสว่างเพื่อที่ลูกสาวจะได้มองชัดๆ โดยที่อีกมือนั้นเขายังจับมือลูกไม่ปล่อย มีเมยาวีเดินตามหลังมาเงียบๆ
"ต่อไปนี้เราจะนอนที่นี่กันนะคะ" อคิราห์ชี้ไปที่เตียงนอนสีขาวขนาดคิงไซซ์และมีระบบล็อกความปลอดภัยกันลูกตกลงมาด้านล่างด้วย ทำให้เด็กน้อยที่เห็นดวงตาลุกวาวกับความใหญ่โต
ก่อนเขาจะจูงมือลูกสาวแล้วอุ้มขึ้นนั่งบนเตียง นั่นจึงทำให้เด็กน้อยที่นั่งอยู่ตรงปลายเตียงลองขย่มๆ ก่อนจะฉีกยิ้มหวานออกมา
"คุณแม่ขา.." เมยาดากวักมือเรียกแม่ตัวเองที่ไม่เดินตามมา เพราะอีกฝ่ายยังยืนที่หน้าประตูอยู่เลย
เมยาวีค่อยๆ เดินเข้ามาเพราะสายตาดุของใครบางคนนั้นจ้องแต่จะตำหนิเธออยู่ตลอดเวลา ทำให้ตอนนี้หญิงสาวมายืนอยู่ไม่ไกลจากลูก
ทว่าดวงตากลมต้องเบิกกว้างขึ้นเมื่อมีแรงฉุดเธอลงไปนั่งบนตักแล้วเขาก็รีบเอามือโอบรัดรอบเอวเธอ ท่ามกลางเด็กน้อยที่เห็นพ่อและแม่ทำแบบนั้นก็หัวเราะคิกคัก
เมยาวีตัวแข็งทื่อไปกับความใกล้ชิด เธอไม่กล้าขยับเพราะเห็นท่าทางของลูกมีความสุขทำให้จำยอมนิ่งอยู่
"แล้วคุณแม่ชอบไหมคะ เตียงนอนใหญ่ๆ นุ่มๆ แบบนี้" อคิราห์กระซิบกระซาบที่ข้างหูถามแม่ของลูก ใกล้กันแค่นี้เขาเห็นเส้นเลือดฝอยตามแก้มใสของเธอได้ชัด กระนั้นยังได้กลิ่นหอมของแป้งเด็กที่เขาได้กลิ่นจากตัวเมยาดาด้วยกลิ่นเดียวกัน
เมยาวีขนลุกซู่หดคอลงเล็กน้อย
"ว่าไงคะ คุณแม่ชอบหรือเปล่า แอบกดจมูกลงไปเบาๆ ทีหนึ่ง" เมยาวีหดคอหนีคราวนี้ แต่กลับไม่กล้าลุกขึ้น
"คุณแม่ชอบไหมคะ" เมยาดาถามแม่ตัวเองซ้ำ เด็กน้อยนั่งทำตาแป๋วเฝ้ารอคำตอบเพราะได้ยินที่พ่อตัวเองถามแม่เธอเหมือนกัน
เมยาวีพยักหน้าน้อยๆ นั่นจึงทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กหญิงเมยาดาคลี่ออกมา แล้วก็ขย่มๆ ต่อเพราะตัวเองไม่เคยสัมผัสที่แบบนี้สักที
ไม่นานเขาจึงค่อยๆ ปล่อยเธอออกจากอ้อมแขน เมยาวีรีบลุกขึ้นแล้วจัดแจงเสื้อผ้าให้เขาที่ ปรายตามองไปทางอื่นเพื่อแก้อาการเคอะเขิน
อคิราห์กระตุกยิ้มตรงมุมปากก่อนยื่นมือไปอุ้มลูกลงจากเตียงนอนแล้วจับมือเดินไปด้วยกัน
เมยาวีมองสองพ่อลูกที่เดินจูงมือกันไปอีกทางจึงเดินตาม ระหว่างนั้นแอบเอามือสัมผัสแก้มตัวเองเบาๆ เพื่อลบรอยที่เขาทำไว้ให้เธอรู้สึกไม่จางหายสักทีด้วย
"อันนี้ห้องน้ำค่ะ หากน้องมายด์อยากลงเล่นน้ำในอ่างบอกคุณแม่นะคะ"
"ค่ะ ห้องน้ำบ้านคุณพ่อใหญ่กว่าห้องน้ำบ้านน้องมายด์อีกค่ะ" คราวนี้เด็กน้อยช่างพูดก็แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา เธอจะเงียบเมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่ไม่รู้จัก แต่พอได้สนิทใจก็มีน้ำเสียงใสแจ๋วขึ้นมา
อคิราห์อมยิ้มไปกับความช่างพูดช่างจา "เอาไว้วันหลังเราชวนคุณแม่เข้ามาอาบน้ำด้วยกันสามคนดีมั้ยคะ" ลองเสนอลูกดูคราวนี้
"ดีค่ะ"
เมยาวีหน้าเหวอ ทำไมเธอต้องอาบน้ำพร้อมเขาด้วยล่ะ มองคนเจ้าเล่ห์จูงแขนลูกสาวเดินผ่านหน้าเธอออกมาด้วยใจที่เต้นเร็ว ก่อนจะรีบเดินตามหลังเขาออกไปยังด้านนอก
"ระเบียงด้านนอกตรงนั้นอันตราย หากออกจากประตูนี้ไปเราจะตกลงไปเสียชีวิต" ว่าแล้วเขาก็เดินไปล็อกแล้วหาอะไรมาคล้องดูว่ามันแน่นหนาแข็งแรง แต่อย่างนั้นก็เตือนลูกสาวเอาไว้ก่อน "เอาไว้ให้คุณพ่อซื้อบ้านหลังโตๆ เราค่อยไปอยู่ที่บ้านกันนะคะ"
"คุณ.."
"มีอะไรหรือเปล่า" อคิราห์เลิกคิ้ว
"ความจริงคุณไม่ต้องซื้อบ้านหลังใหม่ก็ได้นะคะ ที่นี่พวกเราก็อยู่ได้ค่ะ" มันจะเปลืองเงินเขาเปล่าๆ และอีกอย่างหากวันที่เราต้องย้ายออกเธอเกรงใจ
"ฉันซื้อให้ลูกเธอมีปัญหาอะไร"
นั่นจึงทำให้เมยาวีเงียบปากลงไป ใช่ ที่เขาทำอยู่มันก็เพื่อลูกทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับเธอสักหน่อย เมยาวีหายใจเข้าลึกๆ เรียกสติตัวเองไม่ให้ลืมตัว และที่เขาทำในห้องนอนเมื่อสักครู่ก็เพราะอยู่ต่อหน้าลูกหรอก ทำให้ลูกเห็นว่าพ่อกับแม่รักกัน ทั้งที่ความจริงเราแค่พลาดพลั้งกันทั้งคู่แล้วมามีลูกสาวตัวน้อยเป็นบ่วงผูกมัด แต่ถ้าเธอไม่พาเมยาดามาเจอเขา เขาก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองมีลูกแล้ว
"ถ้าน้องมายด์อยากดูการ์ตูนให้คุณแม่พามานอนดูตรงนี้นะคะ" เป็นโซฟาชุดที่ใช้สำหรับนั่งและนอนดูหนังฟังเพลง หรือบางทีเขาจะเอาโต๊ะกระจกออกแล้วเอาที่นอนท็อปเปอร์มาปูด้านล่างดีจะได้นอนด้วยกันสามคน ข้อนี้จึงเก็บไว้เป็นไอเดีย
"ถ้าลูกสาวพ่ออยากทำการบ้านก็มานั่งทำตรงนี้ได้อีกเหมือนกันค่ะ แต่เวลากินข้าวเราจะนั่งทานตรงนั้นกันนะคะ" ชี้ไปที่โต๊ะกินข้าวขนาดสี่ที่นั่งทางซ้ายมือ ถึงเขาจะอยู่ตัวคนเดียวก็ตาม แต่เวลาที่เพื่อนมาเขาก็ต้องมีเก้าอี้เพิ่มสำหรับไอ้เคน ไอ้ภูผา และไอ้ซัน
จากนั้นจึงพาลูกสาวเดินเข้าครัว แต่ที่ตรงนี้คงเหมาะกับเมยาวีมากกว่าเขาจึงคว้าเอาข้อมือแม่ของลูกอย่างถือวิสาสะเข้ามาใกล้
เมยาวีที่กำลังใจแป้วลงไปจำต้องออกจากภวังค์มองอย่างสนใจ
"ในนี้มีของใช้ทุกอย่างเพราะฉันชอบทำอาหารกินเอง แต่ของสดยังมีไม่มากเพราะฉันยังไม่ได้ไปซื้อ เดี๋ยวอยากได้อะไรบอกมาแล้วกันจะให้คนไปซื้อให้ ทำกับข้าวให้ลูกทานที่นี่" เขาเอ่ยกับคนที่มีใบหน้าสลดลงไปเมื่อกี้ อาการของเธอทุกอย่างเขารับรู้ดี มันอยู่ในสายตาของเขาตลอดว่าเมยาวีกำลังรู้สึกแบบไหน
"ค่ะ" เมยาวีมองห้องครัวขนาดใหญ่ของเขา แต่ดูท่าแล้วสะอาดสะอ้านหรูหรามาก เธอจะใช้เป็นหรือเปล่า เธอรู้จักก็แค่หม้อกระทะไฟฟ้า และถังแก๊สปิกนิกเพราะที่ห้องใช้อยู่แทบทุกวัน
พอชมห้องกันเสร็จแล้วเมยาวีจึงขอตัวพาลูกสาวไปอาบน้ำ พ่อของลูกก็ไปจัดการเอาที่นอนท็อปเปอร์ออกมาปูรออย่างรวดเร็ว
ขณะนั้นลูกสาวตัวน้อยอาบน้ำออกมาแล้ว อคิราห์ที่นอนรออยู่ก่อนหน้าอ้าแขนออกรับลูกสาวตัวน้อยให้เดินมาหา
จากนั้นเมยาวีจึงเดินเข้าครัวเพื่อไปทำอาหารต่อ ดีที่ที่นี่มีไข่ แล้วเธอก็เห็นว่ามีข้าวสารจึงจัดการหุงข้าว
เธอไม่แน่ใจว่าเขาจะทานด้วยหรือเปล่า แต่ก็ทำเป็นผัดผักกับหมูชิ้นออกมาอีกจานหนึ่ง ทั้งหมดใช้เวลาสามสิบนาทีอาหารก็มาวางอยู่บนโต๊ะจึงเดินไปเรียกพ่อกับลูก