Chapter.7 "อรุณรดานี่เร้าใจกว่าแสงรุ่งอีกนะ เธอว่าไหม?"
ปลายยอดถันสีสวยเหนือเนินเนื้อนุ่มหยุ่นพอดีมือชูชันเด่นหรา เหมือนกำลังเชื้อเชิญชิวหาเก่าผู้เคยครอบครองมันกลับมาโน้มลงคลุกเคล้า ดูดดื่มราวกับต้องมนต์หฤหรรษ์
“สวย”
เขากล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่าสัดส่วนของเธอนั้นช่างงดงาม มองเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนของอรุณรดากับความเป็นแสงรุ่งก็ตรงนี้แหละ เธอเปล่งปลั่งและเต็มสาวคู่ควรแก่การโถมกายลงกระหน่ำได้อย่างเต็มแรง
“อื้อ”
ดวงตาสีครามเปล่งประกายภายในยิ้มอย่างพอพึงใจเมื่อการสัมผัสของเขาทำให้เธอเผลอครางเสียงแผ่วพร้อมแอ่นเนินอกสล้างรับ แต่พอนึกไปถึงช่วงเวลาที่เขาไม่ได้อยู่เคียงข้างเธออาจจะมีใครอีกคนหรือหลายๆคนได้เชยชมสิ่งนี้แล้ว หัวใจร้อนรุ่มคลุ้มคลั่งดั่งไฟสุมดูดงับมันรุนแรงจนเธอสะดุ้งวาบ
“กรี๊ดด”
อรุณรดาได้สติกลับคืนเธอผลักใบหน้าหล่อเหลานั้นออกจากอกรวบรวมพลังกายที่เหลืออยู่ยกเท้าขึ้นถีบเขา
หมั่บ
มือหนาคว้าข้อเท้าเล็กก่อนลากเธอลงมานอนบนพื้นพรม
“อยากเอาบนพื้นก็ไม่บอก”
“มาร์ตินอย่า” เธอส่ายหน้าระรัว พยายามให้แววตาเศร้าโศกคู่นี้เข้าลึกลงไปในจิตใต้สำนึกของเขา
“น้ำแตกแล้วฉันปล่อยไปแน่”
“ฮึก ทีตอนนั้นผลักไสกันเหมือนหมา แล้วตอนนี้กลับมาทำไม” เธอแผดเสียงขึ้นเจือสะอื้น แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรเลย มาร์ตินก็ยังเป็นมาร์ตินคนเดิม ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะสามารถเปลี่ยนเขาได้จริงๆ
“อื้อ”
เธอสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายลิ้นสากไล้เลียลงมาถึงสะดือ ลากลงมาเรื่อยๆ ความหวาดกลัวพยายามต่อต้านความอ่อนไหวของร่างกาย เธอจะไม่มีทางยอมให้เหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นอีกซ้ำสองแน่
“ฉันมีผัวแล้ว!”
เธอโพล่งออกมาเสียงดัง
“หืม?”
ศีรษะทุยผงกขึ้น ดวงตาดุกร้าวจดจ้องมองเธออย่างน่าหวั่นเกรงจนต้องเบนสายตาออกด้านข้าง เธอมั่นใจว่าประโยคนี้จะทำเขาหยุด แต่กลับไม่
“โอ๊ย”
สะโพกอวบแอ่นยกขึ้น สองขาเรียวเหยียดเกร็งเมื่อเขาใช้นิ้วแทรกเข้ามากลางกายชนิดไม่ได้ตั้งตัว
“แล้วไง ผัวใหม่มันเร้าใจและใหญ่เท่ากูไหมล่ะ?”
“เลว”
“ร่าน!”
“ถุ้ย”
ถ้อยคำตอกกลับจากเขาทำให้ความอดทนเธอหมดลงจนเผลอถ่มน้ำลายใส่แก้มสาก และนั่นก็เหมือนเอาน้ำมันราดลงกองไฟ
หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ เปลือกตาปิดสนิทเตรียมรับการตอกกลับที่สาสมและมากกว่า ทว่าเขากลับเค้นเสียงหัวเราะออกมาอย่างน่าขนลุก
อรุณรดาเปิดเปลือกตามองเขาที่กำลังยกฝ่ามือตนเองลูบน้ำลายจากแก้มลากชโลมริมฝีปากตนเองราวกับคนโรคจิต
“ชอบให้จูบก็ไม่บอก”
ริมฝีปากหนาบดขยี้ปากเธอพร้อมออกแรงดูดลิ้นเล็กรุนแรงดิบเถื่อนก่อนปล่อยน้ำลายตนเองเข้าโพรงปากเธออย่างจงใจ
“กลืนมันสิ”
เขาบังคับเธอด้วยการบีบคางเรียวไว้แน่น
“อื้อ”
เธอดิ้นพล่านใต้ร่างหนาที่ตะบันนิ้วรัวใส่โพรงสวาทซ้ำยังเพิ่มเป็นสองนิ้ว
“โอ๊ย เจ็บ”
จูบรุนแรงแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนลงเพื่อโน้มน้าวให้เธออ่อนระทวยระหว่างที่เขากำลังจัดการถอดเสื้อตนเองออกจนหมด
“ถ้าหนีจะเอาให้เจ็บเลยดูสิ”
เธอนอนแผ่หลาปลดปล่อยน้ำตาไหลพรากหยดลงพื้นพรมนุ่ม จะจับเธอไว้ท่วงท่าใดหรือแหกขาเธออกกว้างแค่ไหนก็ตามแต่ใจเถอะ เธอแพ้แล้ว
“มองหน้าฉันสิ!”
ฝ่ามือหนาตบพวงแก้มนิ่มเพียงเบาๆให้หันมา แต่เธอยังขัดขืนจนเขาต้องใช้ไม้แข็งโดยการใช้ฝ่ามือบีบคางเธอแน่น
“โอ๊ย”
ใบหน้าสวยเหยเกด้วยความเจ็บปวด เธอหรี่ตามองดูเขาที่จ้องเธอเขม็งแสดงอาการหื่นกระหายอย่างเปิดเผย แท่งบุรุษร้อนผ่าวถูไถไปตามเนินเนื้อนิ่มอย่างน่าหวั่นกลัว เขาหยุดปลายท่อนไว้ที่เม็ดกระสันจงใจบดขยี้ทั้งที่ใบหน้าจดจ้องเธอเขม็ง
“ไม่”
เธอวอนขอเสียงสั่น แต่เขาทำตรงกันข้ามด้วยการเสือกพรวดเข้ามาจังหวะเดียวจนมิดลำ
“กรี๊ดดดด เอาออกไปไอ้บ้ากูเจ็บ!”
เธอกรีดร้องเสียงหลงดวงตาเบิกโพลงขณะที่เขาใช้สองมือประคองใบหน้าเรียวรูปไข่ไว้ เสียงครางต่ำดังระงมในลำคออย่างพอพึงใจเมื่อภายในของเธอบีบรัดแน่นจนแทบจะแตกมันตอนนี้
“อ่าห์”
“อื้อ ซี้ดดด” สองมือเล็กทุบตีอกแกร่งเปลือยเปล่าระรัว ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวเหยเกหนักด้วยความเจ็บปวดผสมปนเปกับความเสียวซ่านภายในเมื่อเขาหมุนควงจังหวะเชื่องช้า
วินาทีที่เขาสอดแทรกเข้ามาในกายเสมือนว่าชีวิตได้ดำดิ่งลงสู่หุบเหวอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายและหลุดพ้นมาได้นานกว่าห้าปี
อาร์มาติโน่ เคอวิซ เอลวานอฟยังคงประคองใบหน้าเรียวสวยพร้อมมองดูสีหน้าปฏิกิริยาของเธออย่างไม่วางตา เขาขยับโยกบั้นเด้าพร้อมเปล่งเสียงครางฮือในลำคออย่างมีความสุข เธอช่างบีบรัดเขาแน่นเหลือเกิน
เสียงครางระงมของแสงรุ่งในวันวานดังขึ้นในหัวเมื่อครั้งที่เขาได้รุกรานความสาวเธอครั้งแรก เธอร้องไห้ไม่ต่างจากตอนนี้
‘พี่มาร์ติน รุ่งเจ็บ ซี้ดดด’
‘พี่มาร์ตินอย่าทิ้งรุ่งนะคะ’
สองมือนุ่มนิ่มประคองใบหน้าคมสันเอาไว้ เด็กสาววัยสิบแปดร้องไห้โยเยในช่วงเวลาที่เยื่อพรหมจรรย์ถูกเขาทำลายทว่าสองมือยังโอบกอดเขาทั้งที่ร่างกายเจ็บแสบ ขนาดความเป็นชายที่ดุดันไม่สมดุลกับอวัยวะอ่อนนุ่มที่โอบรัดจนปริฉีก แต่เธอยังยืนยันที่จะรับความเจ็บปวดนั้นไว้อย่างไร้เดียงสา
“อ๊าส์”
อรุณรดาส่งเสียงร้องครางลั่นเกินจะห้ามได้ไหวเมื่อคราที่ร่างใหญ่โหมกระหน่ำรุนแรงกระแทกกระทั้นเร่งจังหวะเมื่อใกล้จะถึงจุดสิ้นสุด
“อรุณรดานี่เร้าใจกว่าแสงรุ่งอีกนะ เธอว่ามั้ย?” เขากระซิบลงข้างหู จงใจใช้วาจาทิ่มแทงเธอให้เจ็บปวด
“ฉันเกลียดแก”
มุมปากหยักรั้งขึ้นพร้อมหยุดการเคลื่อนไหว ชะงักสะโพกไว้ชั่วครู่เพื่อรอดูการตอบสนองของเธอ
“อื้อ”
อรุณรดานอนกระสับกระส่ายเมื่อถูกเขาทรมานด้วยการปล่อยให้ค้างเติ่งทั้งที่เธอใกล้จะกระตุกในอีกไม่กี่อึดใจที่จะถึงนี้
“เกลียดทั้งๆที่ร่องตอดค..แรงขนาดนี้ ถ้ารักล่ะจะขนาดไหน”
“ไอ้เลว” เขาดูถูกเกินที่จะร้องขอได้อีก ร่างอรชรเปลือยเปล่าตัดสินใจถอยสะโพกออก มือคว้าเอาเสื้อผ้ารีบหยัดกายลุกขึ้นวิ่งหาที่หลบมุมสวมใส่ให้เรียบร้อย
“รู้ไหม ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งกระตุ้นให้รุนแรง หรือเพราะรู้ เลยทำ”
“อยู่ใครอยู่มันถ้าเ****นนักก็ไปหาแฟนแกสิ โอ๊ย”
เขารวบผมยาวเธอไว้ด้านหลังจนหน้าหงาย วงแขนล่ำใหญ่เต็มไปด้วยรอยสักรวบร่างเล็กไปเอนราบลงบนโต๊ะทำงานในท่ายืนโก้งโค้งก่อนรีบแทรกตัวตนเข้าใส่จนเธอสะดุ้งตาเบิกโพลง
“ว้าย”
เขาอัดบี้สะโพกหมุนคว้านเข้าไปในลึกสุดขนเธอรู้สึกจุก
“ออ จะรีบไปหาผัวเธอเหรอ?”
“เรื่องของฉัน”
เอ่ยไม่ทันขาดคำร่างเล็กสั่นคลอนตามแรงกระแทกจากด้านหลังขนาดความยาวที่เข้าลึกในท่านี้ทำเธอสะดุ้งวาบไปทั้งตัว ไม่นานนักร่างเกร็งกระตุกส่งเสียงหวีดร้องออกมาก่อนปล่อยร่างอ่อนยวบใบหน้าแนบลงกับโต๊ะทำงานของเขา
“โอ่วส์ ซี้ดดดส์”
เขาเปล่งเสียงครางต่ำราวกับสัตว์ป่าคำรามระหว่างเร่งจังหวะรุนแรงและหนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่น กับบั้นท้ายขาวอวบงอนเด้งจนต้องใช้ฝ่ามือบีบขยำไว้ก่อนส่งแรงครั้งสุดท้าย
“ยะ อย่าปล่อยใน”
เธอพยายามร้องบอกเขาอยู่ตลอดเวลาแต่ดูทีท่าว่าคนฟังจะยิ่งทำตรงกันข้าม อรุณรดาเอื้อมมือไปข้างหลังเพื่อแตะแขนเขา
“อย่าปล่อยใน”
“อย่า ได้โปรด”
“กลัวท้องกับกูหรือ?” เขาเอ่ยเสียงรอดไรฟันเมื่อถูกเธอรังเกียจ เร่งกระหน่ำรุนแรงตั้งใจจะปลดปล่อยข้างในให้ลึกสุด
“แก ..แกไม่สมควรเป็นพ่อคน ว้าย”
สิ้นประโยคเขารีบถอนตัวตนออก ลากเธอลงพื้นปลดปล่อยน้ำรักละเลงทั่วใบหน้าเรียวสวยด้วยความขุ่นเคืองที่โดนเธอดูถูก
“อื้อ ไอ้บ้า” มันเข้าตาจนแสบไปหมด ร่างอรชรเปลือยเปล่านั่งพับเพียบปาดน้ำกามและน้ำตาแห่งความอัปยศออกอย่างน่าสงสาร
“กินยังเคยเลย ทีตอนนี้กระแดะทำเป็นขยะแขยง”
เขาเปรยออกมาขณะเดินผ่านเธอไปหยิบเสื้อผ้าตนเองมาสวมใส่โดยไม่สนใจหญิงสาวที่นั่งจมดิ่งอยู่กับสิ่งที่เขาทำลงไป