ถึงจะเข้าห้องไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้นัชฌานหยุดการกระทำอันเป็นที่รบกวนได้เลย เขาตื่นมาดักรอลีแทจินที่หน้าห้องแต่เช้า ถ้ารออยู่เฉยๆ คงไม่เท่าไหร่ แต่นี่กดกริ่งเรียกราวกับว่ามีเรื่องคอขาดบาดตายอย่างไรอย่างนั้นแหละ ที่สำคัญคือลีแทจินก็ดันบ้าจี้ไปด้วย กุลีกุจอลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวไปสตูดิโอประหนึ่งหนูติดจั่น พอเปิดประตูมาเจอหน้าใสๆ ของผู้จัดการก็อดไม่ได้ที่จะแหวใส่ “ที่บ้านไม่มีกริ่งให้กดหรือไง เอากลับไปเล่นมั้ยฮึ?” “ฉันกลัวว่านายจะนอนเน่าตายอยู่ในห้องก็เท่านั้น” นัชฌานตั้งท่ารออยู่แล้วก็พ่นคำเจ็บแสบกลับพลัน “แล้วตกลงตายไม่ตายล่ะ” ชายหนุ่มผายมือพร้อมยักไหล่ ท่าทางยียวนนั่นเชิญชวนให้นัชฌานอยากจะเตะสักทีสองที ดีที่เขาไม่ได้เป็นคนใจร้อน ไม่อย่างนั้นคงได้มีข่าวนักร้องฟัดกับผู้จัดการส่วนตัวแหงๆ “วันนี้ถือว่าเป็นวันดีของนาย ฉันจะปล่อยนายไปสักวันแล้วกัน” “หืม? พูดดีนี่ ก็ได้ ฉันจะคิดว่าเสียงนายเ