เจ้าขาตัวสั่นเทาไม่เลิกตั้งแต่ได้ยินประโยคนั้น
‘เธอรู้ความลับของฉันแล้ว...’
ความลับหรือ? ความลับอะไรกัน?
หรือจะเป็นเรื่องที่เขาไม่ใช่มนุษย์?
เจ้าขาคาดเดาเอาเองและคิดครุ่นเรื่องนี้ไม่ตก แม้กระทั่งตอนที่คุณลุงคนนั้นหายไปต่อหน้าต่อตาหลังจากที่หน่วยกู้ภัยมาช่วยงัดถ่างเอาเธอออกจากหน้ารถทัวร์ได้สำเร็จ และแน่นอนว่าคนที่อยู่ในบริเวณนั้นล้วนแปลกใจว่าทำไมเธอถึงไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว มีเพียงแค่แผลถลอกและรอยฟกช้ำเล็กน้อยเท่านั้นที่ปรากฏบนผิวเนื้อละเอียด
และเพื่อความแน่ใจว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ จึงมีการส่งตัวไปตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ฉุกเฉินก็ยืนยันด้วยความมั่นใจว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร มีเพียงรอยแผลถลอกกับร่องรอยฟกช้ำเท่านั้น
เป็นเรื่องมหัศจรรย์!
ใครๆ ก็ว่าอย่างนั้น ขณะที่เจ้าขาอดคิดไม่ได้เลยว่าที่เธอไม่เป็นอะไร ก็เพราะคุณลุงคนนั้นช่วยชีวิตเธอเอาไว้นั่นล่ะ และมันก็เป็นการช่วยชีวิตครั้งที่สองของชีวิตเธอเสียด้วย
ไม่เคยมั่นใจอะไรอย่างนี้อีกแล้ว ผู้ชายวัยกลางคนที่มาช่วยเธอนั้นเป็นคนคนเดียวกันกับเมื่อตอนเธอประสบอุบัติเหตุตอนอายุสิบสามขวบ
เจ้าขารู้สึกอุ่นวาบขึ้นมาในอก มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย คล้ายกับว่าเธออุ่นใจที่ได้เห็นผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง ไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงได้รู้สึกอย่างนี้ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นความหวาดกลัวมากกว่า
ความรู้สึกนั้นติดตรึงในใจของเจ้าขาจนไม่สามารถสลัดมันออกไปได้ หากแต่เธอแสร้งทำเป็นว่าไม่สนใจกระทั่งนั่งรถแท็กซี่กลับมาถึงบ้าน
บ้านของเธอเป็นบ้านสองชั้นที่มีสวนเล็กๆ ล้อมรอบตัวบ้าน ความจริงจะบอกว่าเป็นบ้านของเธอก็ไม่ถูกเสียทีเดียวนัก หากแต่เป็นบ้านของคุณตาคุณยายที่รับเธอมาเลี้ยงดูตั้งแต่ที่เธอเสียพ่อแม่ไป
เจ้าขาลงจากรถพลางถอนหายใจเมื่อเห็นว่าบริเวณรั้วบ้านนั้นมีสัมภเวสีหลายตนมายืนออคล้ายกับว่ากำลังรอขอส่วนบุญจากเธอ นั่นก็คงเป็นเพราะบุญที่เธอได้ทำมาจากการตระเวนทำบุญไหว้พระเก้าวัดในวันนี้ และก็เป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่เธอออกไปทำบุญ ดีนะที่คุณตาคุณยายซึ่งอยู่บ้านเดียวกับเธอไม่รู้ว่าเธอมีญาณพิเศษอย่างนี้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ พวกท่านคงจะขนหัวลุก หรือไม่ก็คิดว่าหลานตัวเองเพี้ยนเพราะได้รับการกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุในวัยเด็กเป็นแน่
หญิงสาวเดินฝ่าฝูงสัมภเวสีไปไขกุญแจรั้วบ้าน ตอนนี้เธอยังไม่คิดที่จะแบ่งปันบุญให้กับใครหน้าไหนทั้งนั้นด้วยเหนื่อยอ่อนจากเรื่องที่เผชิญมาตลอดวันเป็นอย่างมาก ก่อนริมฝีปากบางจะเปล่งเสียงพึมพำออกมา
“รอกันก่อนนะ ไว้คืนนี้จะสวดมนต์แผ่ส่วนกุศลให้”
สิ้นเสียงก็มีเสียงร้องวิงวอนอื้ออึงดังตามมาด้วยเกรงว่าตนจะไม่ได้รับส่วนบุญ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงเอ็ดตะโรของพระภูมิเจ้าที่ประจำบ้านซึ่งปรากฏกายขึ้นในลักษณะชายชราในชุดขาวที่สั่งห้ามไม่ให้สัมภเวสีหน้าไหนตามหลังหญิงสาวเข้ามาในตัวบ้าน
เจ้าขาเหลียวหลังไปมองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจอีกครา
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เธอเก็บงำไว้คนเดียว ไม่ยอมปริปากบอกใครในบ้าน แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เธอชินชาเสียแล้วเมื่อเห็นชายชราคนนั้นส่งเสียงไล่หลังมา
‘ไม่ต้องเป็นห่วง เข้าบ้านไปพักผ่อนเถิด ทางนี้ข้าจะจัดการให้เอง’
เจ้าขายกมือไหว้ พึมพำเบาๆ ว่าขอบคุณ จากนั้นก็หมุนตัวเข้าไปในบ้านโดยไม่คิดที่จะหันหลังมามองอีกเลย