ในห้องรับประทานอาหารของบ้านไม้เรือนไทยประยุกต์หลังใหญ่กลางไร่สตรอว์เบอร์รีจัดโต๊ะทุกวันเวลาหกโมงครึ่ง สะอาง มนัสวินลูกชายคนเดียวของตนนั่งรอวรนิษฐ์ที่ให้เด็กรับใช้ขึ้นไปตามมาทานมื้อเย็นด้วย และรอไม่นานเธอก็เดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร พร้อมกับเด็กรับใช้เลื่อนเก้าอี้ออกให้เธอนั่งลง
“แล้วตามาร์ค ลูกชายตัวดีของเราไปไหนพ่อวิน อย่าบอกนะว่าไปเฝ้าแม่นั่นอีกแล้ว” เมื่อตอนนี้ไม่เห็นหลานชายมาทานข้าวกับตน เพราะนี่ก็หลายวันแล้วที่ไม่มาร่วมทานมื้อเย็นกับตน เพราะออกไปทานข้างนอกกับแฟนสาวทุกวัน
“คุณแม่ถามผมทั้งๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้วยังจะถามอีก มันก็ไปของมันทุกวัน ก็แฟนมันนี่ครับ มันรักของมัน”
“ไม่ได้เรื่องทั้งลูกชายและหลานชาย ตักข้าวเถอะแม่พร” แล้วก็หันไปสั่งแม่พร คนสนิทของตนให้ตักข้าวเมื่อตอนนี้วรนิษฐ์ก็มาแล้ว
วรนิษฐ์ปิดปากตัวเองตั้งแต่นั่งลง เธอมองกับข้าวหลายอย่าง อาหารตรงหน้าทุกอย่างน่าทานมาก แต่กลิ่นของมันช่างทรมานเธอเหลือเกิน เธออยากจะอาเจียนตอนนี้
“เป็นอะไรหนูไวน์ หนูไม่กินอาหารไทยเหรอลูก” สะอางถามเมื่อเห็นเด็กสาวปิดปากคล้ายเหม็นอาหารบนโต๊ะ
“ไม่ค่ะ หนูชอบอาหารไทย แต่ทำไมวันนี้อาหารถึงได้เหม็นแบบนี้ ห้องน้ำไปทางไหนคะคุณย่า”
“ทางขวามือจ้ะ เดินออกจากห้องก็เจอ” นางบอกหญิงสาว
“งั้นหนูขอตัวนะคะ และขอโทษด้วยนะคะ หนูทานไม่ได้จริงๆ มันเหม็นมาก” เธอรีบปิดปากตัวเองลุกออกจากห้องรับประทานอาหารโดยไม่สนใจรอฟังคำโต้ตอบกลับของอีกฝ่าย
“แม่พรไปดูหนูไวน์สิ ส่วนพวกหล่อนตักข้าวให้ฉันได้แล้ว” นางสั่งให้คนสนิทของตนให้ตามหญิงสาวไป พร้อมสั่งให้เด็กรับใช้คนอื่นตักข้าวแทน พรก็รีบทำตามคำสั่งนายท่านของตนทันที
“แปลก กับข้าวบนโต๊ะแม่สะอางทำอร่อยทุกอย่าง หอมๆ ทั้งนั้น หนูไวน์บอกว่าเหม็นได้ยังไง” มนัสวินเอ่ยพลางก้มลงไปสูดดมกลิ่นอาหารตรงหน้าตนก็หอมๆ ทั้งนั้น
“นั่นสิ แม่ทำเองกับมือเลยนะ ก็ทำเหมือนทุกวัน กลิ่นหอมออกปานนี้ เอ๊ะ! แต่อาการแบบนี้ เหม็นอาหารมันเหมือนคนท้องเลยนะพ่อวิน หรือว่าหนูไวน์ท้อง” เมื่อนึกถึงอาการที่เด็กสาวเป็นแล้วมันชัดเจนเลย อาการแบบนี้แพ้ท้องแน่นอน นางรู้ดี เพราะสมัยตั้งครรภ์มนัสวินก็เหม็นอาหารแบบนี้ ทานอะไรไม่ได้ตั้งสามเดือน
“ไม่ใช่หรอกมั้งแม่สะอาง ผมว่าไม่ได้ท้องหรอก หนูไวน์คงเพลียน่ะครับ เดินทางมาตั้งไกลนะครับ อย่าลืมสิ”
“ถ้าเพลียไม่เหม็นอาหารหรอกพ่อวิน แม่ว่าหนูไวน์ต้องท้องแน่นอน รีบกินข้าวกันเถอะ กินเสร็จแม่จะให้เด็กชงยาหอมให้หนูไวน์แล้วซักถามหนูไวน์ว่าเป็นอะไรกันแน่ และแม่จะถามด้วยว่าท้องจริงไหม แม่ไม่อยากอยู่กับความสงสัยหรอกนะพ่อวิน”
“ครับผม งั้นคุณแม่ทานปลาราดพริกนะครับ” แล้วเขาก็ตักปลาพร้อมเลาะก้างออกให้เรียบร้อยส่งไปยังจานของหัวเรือใหญ่ที่หัวโต๊ะทานข้าว
“ขอบคุณนะลูกรักของแม่ ถึงจะมีหลายเรื่องที่ทำให้แม่ไม่พอใจและหงุดหงิด แต่พ่อวินก็ใส่ใจแม่เสมอ”
“ก็ผมรักแม่สะอางนี่ครับ” มนัสวินตอบพร้อมกับตักปลาให้ตนเองและหยิบกุ้งมาแกะแล้วส่งให้แม่ด้วย สะอางยิ้มรับกุ้งจากมือลูกชาย นางมองลูกชายที่ครองตัวเป็นโสดตั้งแต่แม่ของหลานชายจากไป นางเคยถามลูกชายว่าเหงาและเบื่อบ้างไหมที่ต้องอยู่คนเดียวแบบนี้ แต่มนัสวินก็บอกว่ามีความสุขดี และดีใจที่ได้อยู่กับตนและลูกชาย
“หนูขอโทษคุณย่าและคุณลุงด้วยนะคะ ที่เมื่อกี้เสียมารยาทบนโต๊ะอาหาร” เธอยกมือไหว้ขอโทษท่านทั้งสองพร้อมหยิบยาหอมขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว แม้จะไม่ชอบรสชาติแต่ก็ต้องดื่ม ท่านบอกว่าจะได้รู้สึกดี
“ไม่เป็นไรหรอกลูก หนูไวน์เป็นแบบนี้นานรึยังลูก เหม็นอาหารแบบนี้ แล้วอยากกินอะไรไหม ย่าจะสั่งให้เด็กทำให้ใหม่”
“หนูอยากกินข้าวผัดไข่ค่ะ” เธอบอกท่าน
“แม่พรไปสั่งเด็กทำข้าวผัดไข่ให้หนูไวน์หน่อย” แล้วนางก็หันไปสั่งพร คนสนิทของตน
“ค่ะ คุณท่าน” แล้วพรก็รับคำเดินจากไป เหลือแต่สะอาง วรนิษฐ์และมนัสวินในห้องนั่งเล่น
“หนูไวน์บอกย่ามาซิว่าหนูท้องใช่ไหม หนูเหม็นอาหารเหมือนคนแพ้ท้องเลยนะ บอกย่ามาเถอะว่าจริงหรือไม่จริง และที่มาที่เมืองไทยครั้งนี้ พ่อกับแม่ยังไม่รู้ใช่ไหมลูก” นางซักถามทันที และหญิงสาวก็พยักหน้าเป็นคำตอบ ส่วนมนัสวินนั้นไม่อยากเชื่อว่าเด็กสาวน่ารักอย่างวรนิษฐ์จะตั้งครรภ์ และผู้ชายคนนั้นเป็นใคร
“แล้วหนูท้องกับใครลูก พ่อของเด็กรู้รึยังลูก” นางสะอางถามต่อ ส่วนมนัสวินก็นั่งเงียบๆ เป็นผู้ฟังที่ดี
“หนูบอกเขาแล้วค่ะ เขาไม่รับผิดชอบหนู แต่เขาจะรับแค่ลูก”
“เลว!” มนัสวินเอ่ยแทรกขึ้นเสียงดังแล้วพูดต่อ
“บอกลุงมาซิหนูไวน์ว่ามันเป็นใคร ไอ้ผู้ชายสารเลวพรรค์นั้น ลุงจะจัดการมันให้เอง” เขาเอ่ยอย่างเดือดดาล กล้ามากที่มารังแกหลานสาวตนแบบนี้
“คือว่า...” เธออ้ำอึ้งพร้อมกับมองสบตาของคุณย่าและคุณลุงก่อนที่จะพูด
“พี่มาร์คค่ะ หนูท้องกับพี่มาร์ค” ชื่อที่วรนิษฐ์เอ่ยออกมาทำให้ทั้งสองอึ้งไปอีก และไม่อยากเชื่อ แต่เมื่อมองดูดวงตากลมโตหม่นเศร้าของวรนิษฐ์แล้วมันไม่มีแววโกหก
“หนูท้องกับตามาร์คเหรอลูก แสดงว่าในท้องก็เหลนย่า” สะอางถามอย่างดีใจพร้อมกับหันไปหาลูกชาย
“ไอ้ลูกเลว หนูไวน์ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวลุงจัดการไอ้มาร์คให้เอง มันไม่อยากรับผิดชอบใช่ไหม ไม่อยากรับผิดชอบหนู เดี๋ยวลุงจัดการเอง แล้วเรื่องนี้บอกทรงพลกับลินดารึยังหนูไวน์ ถ้ายังเดี๋ยวลุงจะบอกทั้งสองเอง” มนัสวินไม่เคยสอนให้ลูกชายไร้ความรับผิดชอบแบบนี้มาก่อน และยิ่งตอนนี้วรนิษฐ์กำลังอุ้มท้องหลานตนด้วย เขาไม่ยอมปล่อยผ่านเลยไปแน่แล้วเขาก็ล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงมากดต่อสายหาลูกชายตัวดีของตนทันที
“หนูยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่ค่ะ หนูมาที่นี่ก่อน ตอนรู้ว่าท้อง หนูก็ตัดสินใจบินมาที่ไทยทันทีค่ะ และขอให้พ่อกับแม่ขอร้องให้ลุงวินไปรับค่ะ” เธอบอกตอบและมองคนที่เดินออกไปคุยโทรศัพท์
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ เดี๋ยวย่ากับพ่อวินจัดการให้เอง ต่อไปหนูก็ดูแลตัวเองและเหลนย่าดีๆ นะหนูไวน์ ย่าดีใจนะ ที่จะได้หนูไวน์มาเป็นหลานสะใภ้ เพราะย่าไม่ชอบแฟนของตามาร์ค แล้วเรื่องไปไงมาไงเล่าให้ย่าฟังได้ไหม ทำไมถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นฮึ”
วรนิษฐ์ก้มหน้าซ่อนยิ้มเมื่อตอนนี้ทุกคนเข้าข้างตนและต้อนรับตนมากกว่าแฟนสาวของมโนภฤศ ก่อนจะเงยหน้าที่ตีสีหน้าเศร้าสร้อยบอกเรื่องระหว่างตนกับพ่อของลูกในท้องให้ท่านฟังและแสร้งร้องไห้ไปด้วย