ตอนที่ ๘
คืนนั้นทั้งคืนตุลย์ไม่ได้เข้าไปนอนในห้องอย่างที่คีรีธรเข้าใจ เขานั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ห้องโถงนั่นเอง ส่วนคีรีธรเมื่อนทีในกายเคลื่อน จึงได้กลับเข้าสู่สมาธิไปอย่างสบายอารมณ์
กระทั่งเช้า ตุลย์ตื่นตั้งแต่เช้า ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าไปทำงานตามปกติ จะกลับมาอีกทีก็ช่วงเย็นแล้ว
เช่นเคย วันนี้เขาไม่เห็นคีรีธร คงจะยังอยู่ในสมาธิในห้องนอนนั่นแหละ
อารมณ์ความรู้สึกส่วนลึก บอกให้เขาไปแอบดูพ่อนกประหลาด
อีกฝ่ายยังคงนั่งนิ่งอยู่บนที่นอนที่ปูลาดบนพื้น กระทั่งรับรู้ถึงการมาถึงของตุลย์ คีรีธรจึงออกจากสมาธิ ก่อนจะลุกขึ้นถลามาขวางตุลย์ที่หมุนตัวจะหันหลังออกจากห้องนั้นไป
สายตาสองคู่สบประสานกัน ความรู้สึกประหลาดเย้ายวนหัวใจ สื่อสัมผัสแปลกประหลาดเกิดขึ้นภายในหัวใจของตุลย์อีกครั้ง เช่นเดียวกับกินนรหนุ่ม ที่คล้ายจะมีประกายแห่งความรู้สึกผิดฉาบเคลือบอยู่บนดวงตา
“เราขอโทษ ต่อสิ่งที่กระทำต่อเจ้า”
“ไม่เป็นไร ฉันยกโทษให้”
“แต่สายตาของเจ้า ยังบอกว่าขุ่นโกรธเราอยู่”
“ฉันไม่ได้โกรธ หลีกไป ฉันจะไปหาอะไรกิน”
“เราไปด้วย...”
“ไม่ต้อง นายกินอยู่ไม่เหมือนกับคนเมืองนี้ ไปกับฉันคงหาอะไรกินไม่ได้”
“เดี๋ยวก่อน...”
คีรีธร ฉุดแขนของตุลย์เอาไว้ เป็นอีกครั้งที่สองตาสบประสานกัน ตุลย์ไม่อยากรู้สึกให้มากไปกว่านี้จึงเบี่ยงสายตาไปมองทางอื่น
“เราไม่อยากให้เจ้าขุ่นโกรธเรา...”
“ฉันให้อภัย...” พยายามสลัดภาพความรู้สึกทั้งมวลทิ้ง ฝืนยิ้มออกมา “ฉันเข้าใจว่านายมีความต้องการ และนายก็ย่อมต้องหาทางระบายออกตามวิถีของบ้านเมืองของนาย และเมื่อคืนมันก็มีแค่ฉันที่จะสามารถช่วยนายได้ ฉันเข้าใจแล้วล่ะ ไม่โกรธนายหรอก”
“แต่แววตาของเจ้ามันฟ้อง...”
คีรีธรดึงแขนของตุลย์ให้กลับเข้าไปในห้องนอน ดันคนขี้งอนให้นั่งลง หันหลังไปปิดประตู แล้วมานั่งมองตุลย์อยู่เนิ่นนาน
“ความรู้สึกภายในของเราบัดนี้มันกลับกลายจากเดิมเสียแล้ว...”
ระบายลมหายใจออกมา ขณะความรู้สึกทั้งมวลเริ่มค่อยๆ พรั่งพรูออกจากปากของพ่อนกรูปหล่อไปทีละน้อย
“มันอาจจะเป็นเพราะเจ้ามิใช่ชาวเมืองหิมพานต์ พอได้กระทำต่อเจ้าแล้ว เราจึงรู้สึกแปลกประหลาดในหทัยของเราเป็นยิ่งนัก เจ้ามิใช่นางกินรี แต่เหตุใดเราจึ่งได้มีจิตปฏิพัทธ์ต่อเจ้า”
“หมายความว่ายังไง...”
“เจ้ามิใช่ชาวหิมพานต์ จึงเสมือนอยู่นอกขอบเขตของคนที่นั่น พอเจ้าได้ช่วยเหลือเราในกาลราตรีที่ผ่านพ้น หทัยของเราจึงได้ลุ่มหลงรักเจ้าอย่างประหลาด”
“บ้าไปแล้ว...”
แม้ว่าถ้อยคำของคีรีธรจะเข้าใจยากในบางคำ ทว่าตุลย์กลับเข้าใจในความหมายเหล่านั้น
นั่นเพราะเวลานี้ คำตอบที่มีอยู่ในหัวใจของเขา ก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน
มันเกิดอะไรขึ้น แค่เพียงการเป็นที่รองรับอารมณ์ของกินนรต่างบ้านต่างเมือง เขากลับมีหัวใจหวั่นไหว หลงรักคีรีธรอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
มันจะดีไปกว่านั้น หากว่าเขาและคีรีธรต่างอยู่ในสถานภาพที่เอื้ออำนวยต่อกัน
“มันอาจจะเป็นช่วงมาสเดือนแห่งการมีคู่ครองของเรา แต่เรามิอาจปฏิเสธหทัยของเราได้ ว่าเราสิเน่หาในตัวของเจ้า”
“นายก็น่าจะเคยผ่านช่วงเวลานี้มาบ้างแล้ว ทำไมถึงได้มามีความรู้สึกต่อฉันได้ล่ะ”
“ปีนี้เป็นปีแรกที่เราเข้าสู่วัยหนุ่ม เป็นปีแรกที่เราก้าวจากวัยปฐมสู่วัยฉกรรจ์ ดังนั้นเราจึงเพิ่งจะเคยมีการขับเคลื่อนนทีในกายเป็นคราวแรก”
ตุลย์เบิกตามองคีรีธรอย่างตกใจ นั่นแสดงว่าน้ำที่เขากลืนเข้าปากไปเมื่อคืนคือน้ำแรกของคีรีธรนะหรือ
แต่แล้ว...กลับมีความรู้สึกหนึ่งกระตุ้นเตือน คีรีธรอาจจะโกหกเขาก็เป็นได้
กินนรผู้นี้เติบโตไปทุกสัดส่วน ไม่ใช่แค่ส่วนนั้นส่วนเดียว ผู้ชาย เติบโตมาขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีอารมณ์ทางเพศ หรือแม้แต่คีรีธรเองก็ตาม หล่อเหลาขนาดนี้ ย่อมมีนางกินรีหรือสตรีชาวหิมพานต์มาทอดกายให้เสพสมบ้างล่ะ
เป็นไปไม่ได้ที่กินนรผู้นี้จะยังบริสุทธิ์ผุดผ่องรอดพ้นปากเหยี่ยวปากกามาได้ขนาดนี้
ดูเหมือนว่าคีรีธรจะเข้าใจในสิ่งที่ตุลย์คิด เขาจึงเริ่มอธิบาย
“เรารู้ว่าเจ้ามิได้เชื่อในสิ่งที่เราเอ่ยถ้อยวจี...”
ตุลย์ชะงัก ดูเหมือนว่าตานี่จะอ่านใจเขาออกเสียแล้วสิ
“...ชาวเมืองนอกฟ้า มิเคยพูดปด เพราะพวกเรารู้ว่ามันเป็นบาป ผิดศีลในข้อมุสา จงเชื่อเราเถิด ว่าสิ่งที่เราพูดเป็นความจริงทุกประการ ปีนี้เป็นปีแรกที่เราเข้าสู่วัยฉกรรจ์ จึงเพิ่งเคยเคลื่อนนทีในกายออกมา”
“แล้วนายรู้วิธีได้อย่างไร ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง”
“เราร่ำเรียนมาตั้งแต่วัยปฐมผู้เยาว์ กินนรทุกตน จะต้องรู้วิธีการเคลื่อนนทีในกายออกมา มิเช่นนั้นจะไม่อาจควบคุมปราณในกายได้ บางตนถึงขนาดร่างสลายดับขันธ์ไปเลย นั่นเคยมีมาแล้วหากมิอาจรับรู้อารมณ์เบื้องลึกของตน”
ตุลย์ระบายลมหายใจออกมาอีกครั้ง เหตุผลของคีรีธร มันพอจะฟังขึ้น และมันพอจะทำให้เขาเริ่มผ่อนคลายไปบ้างแล้ว
“พอเราเข้าสู่อารมณ์เบื้องลึกที่จะต้องเคลื่อนนทีในกายออกมา จึงต้องหาที่รองรับ”
“ทำไมนายไม่หาคู่กินรีเสพสมเพื่อระบายอารมณ์ของนายเสียล่ะ”
“การเดินทางของเรา เพื่อจะไปกราบพระฤๅษี เป็นเพราะเรากำลังจะให้พระอาจารย์ตรวจดูดวงชะตาว่าจะสามารถมีคู่ครองได้หรือยัง หากยัง เราจักต้องหานางโอษฐ์เพื่อรองรับนทีของเราในมาสเดือนนี้ จนกว่าจะผ่านพ้นช่วงฤดูกาล แต่มาเจอวิทยาธรตนนั้นเสียก่อน เราต่อสู้กันแล้วหลงมาอยู่ในบ้านเมืองของเจ้านี่ล่ะ”
“แสดงว่านายก็มีคนรักอยู่แล้วสินะ” ตุลย์ค้อนเข้าให้ไปหนึ่งวง