ตอนที่ 1
บรรยากาศอื้ออึงของสถานบันเทิงมีชื่อที่สุดกลางเมืองหลวง กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมผสานกับควันบุหรี่คละคลุ้งไปทั่วบริเวณ นักท่องราตรีนับร้อยชีวิตอัดแน่นเข้ามาในที่อโคจรแบบนี้กันอย่างล้นหลาม บางคนก็ดื่มเหล้าอย่างเอาเป็นเอาตาย บางคนก็เต้นแร้งเต้นการาวกับคนเสียสติ
หากเป็นในยามที่จิตใจปกติ บัวบุษบาก็คงแทบจะอาเจียนกับสิ่งที่ได้สัมผัสตรงหน้า แต่มันไม่ใช่ตอนนี้ มันไม่ใช่ตอนที่หัวใจพังยับเยิน ภาพแฟนหนุ่มกำลังประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะกับเพื่อนสาวที่ตัวเองไว้ใจกระหน่ำเข้ามาในหัว ความผูกพันตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา ทำไมช่างไม่มีความหมายเอาเสียเลย
นาวินเพื่อนร่วมชั้นที่พัฒนามาเป็นแฟน กลับนอกใจหล่อนอย่างไม่ละอาย เขาไม่มีท่าทีตกใจสักนิดที่เห็นหล่อนยืนร้องไห้อยู่ที่หน้าประตู แถมแม่เพื่อนสุดรักของหล่อนก็ยังมอบรอยยิ้มแห่งชัยชนะสาดใส่หน้าหล่อนสมทบมาอีก และพวกเขาก็ยังเล่นรักกันต่อหน้าของหล่อนอย่างเมามันไร้สิ้นความอับอาย เป็นหล่อนเสียอีกที่ต้องเป็นฝ่ายวิ่งหนีออกมา ภาพการร่วมรักสด ๆ ที่มีแฟนหนุ่มกับเพื่อนสาวเป็นพระเอก - นางเอก ทำร้ายหัวใจดวงน้อยจนพังยับเยิน เลือดสด ๆ ไหลทะลักออกมา
หญิงสาวมองแก้วที่ใส่เครื่องดื่มสีสวยอย่างชั่งใจ หล่อนไม่รู้หรอกว่าไอ้ของเหลวในแก้วนี้มันเรียกว่าอะไร รู้เพียงแต่ว่ามันคงแรงน่าดู เพราะหล่อนเป็นคนร้องขอกับบริกรเอง มือบางยกขึ้นป้ายน้ำตาที่มันไหลออกมาเรื่อย ๆ ทิ้งอย่างไม่ไยดี ก่อนจะยกแก้วตรงหน้าขึ้นดื่มจนหมด สาวน้อยเบ้หน้าเมื่อของเหลวรสชาติบาดคอพวกนั้นไหลผ่านลำคอลงสู่กระเพาะอาหารอย่างรวดเร็ว
แก้วแล้วแก้วเล่าถูกทั้งกรอกทั้งสาดใส่ลำคอระหง สาวน้อยพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้สมองลบเลือนภาพที่ได้เห็นเมื่อเย็นนี้ ต้องการให้มันเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ในเมื่อทุกอย่างที่ได้เห็น ทุกอย่างที่ได้ยินมันคือเรื่องจริง
นาวินกับชมนาดร่วมมือกับทรยศหล่อน พวกเขาร่วมหัวกันใช้มีดปักที่กลางแผ่นหลัง ก่อนจะใช้เท้าขยี้ที่ดวงใจน้อย เสียแรงที่หล่อนไว้ใจพวกเขาไม่เคยคิดระแวงแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เอะใจเลยสักนิดที่ชมนาดขอไปอาศัยอยู่คอนโดเดียวกับนาวิน หล่อนคิดว่าเพื่อนสาวไม่มีที่พักจึงตกลง เพราะคอนโดของนาวินอยู่ใกล้กับที่ทำงานของชมนาด แต่แท้ที่จริงแล้วทั้งสองคนหลอกลวงหล่อน
บัวบุษบาสะอึกสะอื้นออกมาปานจะขาดใจ หล่อนจะร้องไห้ ให้กับความโง่ของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย ขอสาปส่งนาวินและชมนาดให้ลงนรกหมกไหม้ และต่อจากนี้ไป ในวันพรุ่งนี้ชื่อของทั้งสองคนจะไม่อยู่ในสมองของหล่อนอีกเลย หล่อนจะต้องทำได้ จะต้องลืมคนต่ำช้าพวกนี้ให้ได้
ความเจ็บปวดผสมผสานกับความผิดหวังสาดซัดเข้าใส่หัวใจไม่ยอมหยุด หญิงสาวนั่งดื่มเหล้าจนเมามาย สติสตังบินหายไปหมด ตอนนี้หล่อนไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้แม้แต่น้อย สมองสั่งการช้าทุกขณะ หนังตาเริ่มหนัก ศีรษะปวดระบมแทบระเบิด มือบางพยายามยกขึ้นกวักมือให้เด็กเสิร์ฟมาคิดเงิน ก่อนจะค่อย ๆ พยุงกายเดินออกไป
ระหว่างทางที่ค่อนข้างเบียดเสียด สาวน้อยชนคนนู้นคนนี้สะเปะสะปะ ร่างอรชรในชุดเสื้อพอดีตัวกับกระโปรงสั้นโชว์เรียวขาขาวเซไปมาแทบจะล้มก็หลายครั้งแต่ก็ฝืนไว้ได้ แต่ครั้งสุดท้ายนี่สิ หล่อนหลงมาตรงส่วนไหนของร้านไม่รู้ รู้แต่ว่ามันค่อนข้างเงียบและเป็นส่วนกว่าตรงส่วนที่หล่อนพึ่งจากมา สมองพยายามคลำหาทางออกเพื่อหาทางกลับบ้านบัวขาว แต่ร่างกายที่มีปริมาณแอลกอฮอล์มากเกินพิกัดไม่ยอมทำตาม มันร่วงปลิดปลิวลงสู่พื้นอย่างไม่เตือนล่วงหน้า ก่อนที่สติสัมปชัญญะจะดับไป
ยาห์มิล บิน ชาร์คีล อัล อัซซาด กษัตริย์แห่งซาคีฟาร์ กัดฟันแน่น ดวงตาคมกล้าสีทองที่มีแพขนตายาวงอนสีนิลประดับอยู่อย่างเหมาะเจาะเจิดจ้าด้วยไม่พอใจ ขณะก้มมองร่างอรชรที่นอนกองอยู่แทบเท้าด้วยความรังเกียจ เรือนกายสูงใหญ่เดินผ่านไปหยุดที่หน้าห้องหนึ่งที่อยู่ห่างจากตรงจุดที่บัวบุษบานอนหมดสตินั้นไม่ไกลนัก
“ชารีฟ ช่วยไปดูแม่สาวใจแตกคนนั้นหน่อยสิ ว่าตายหรือไง”
ยาห์มิลเอ่ยเสียงกระด้างกับคนสนิทที่ยืนอยู่หน้าห้อง ก่อนจะก้าวยาว ๆ หายเข้าไปด้านในเมื่อประตูห้องถูกเปิดออก
ชารีฟองครักษ์คนสนิทประจำตัวของกษัตริย์ยาห์มิล ค้อมศีรษะให้กับเจ้านายด้วยความเคารพ ก่อนจะปลีกตัวออกมาทำตามคำสั่งของยาห์มิลทันที
“สงสัยนางจะเป็นคนที่ทางร้านนี้จัดไว้ให้พระองค์พ่ะย่ะค่ะ” ชารีฟก้มหน้าบอกเสียงนุ่ม ขณะประคองสาวน้อยที่หลับใหลไม่รู้สติไว้ในอ้อมแขน
ยาห์มิลตวัดสายตาขึ้นมองอย่างไม่พอใจ “เราไม่ต้องการผู้หญิง เจ้าไม่ได้แจ้งความประสงค์เหล่านี้ให้กับเจ้าของร้านหรือ”
กรามแกร่งสีน้ำตาลทองขบกันแน่น ใบหน้าที่คมเหลี่ยมกระด้างจัด ริมฝีปากหยักสวยสีเข้มที่มีจมูกโด่งแหลมอยู่ด้านบนเม้มเข้าหากันแน่น
“ที่เรามาที่นี่ก็เพราะมีการเจรจาเรื่องธุรกิจ ไม่ได้มาหาความรื่นเริงจากเนื้อตัวของพวกผู้หญิงเหล่านี้”
“กระหม่อมแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่ว่า...”
“เราไม่อยากฟังคำแก้ตัว ถ้าอยากให้เราผ่อนคลายนัก ก็พานางมาวางบนโซฟา แล้วเจ้าก็ออกไปได้แล้ว”
น้ำเสียงกระด้างน่ากลัว ความไม่พอใจที่ถูกขัดใจระบายชัดเจนเต็มใบหน้าที่หล่อราวกับเทพบุตรชั้นฟ้าของกษัตริย์ยาห์มิล
“พ่ะย่ะค่ะ”
ชารีฟก้มศีรษะให้อย่างนอบน้อมก่อนนำร่างอรชรของผู้หญิงในอ้อมแขนไปวางไว้บนโซฟาตามคำสั่งของเจ้าเหนือหัว และรีบถอยหลังออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มเดินเข้าไปหยุดยืนตระหง่านค้ำอยู่เหนือร่างอรชรที่ตอนนี้หลับใหลไม่รู้เรื่องอยู่บนโซฟาด้วยความขยะแขยง ร่างสูงใหญ่ กำยำ ทรุดนั่งลงบนส้นเท้า ศีรษะทุยได้รูปสวยที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีนิลก้มต่ำลงพิจารณาใบหน้าของแม่สาวน้อยผีเสื้อราตรี