“เฮ้ย... ไปไหนแล้วยายคนนั้น” เขารีบค้นหา
ได้ยินเสียงโอ้กอ้าก
“ไอ้หยา เดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก มีใครได้ยินก็แห่กันลงมาทั้งบ้าน” เขารีบเข้าไปหา
โบนิตานั่งลงไปข้าง ๆ ต้นไม้ จับลำต้นเล็ก ๆ แน่นแล้วโก่งคอขย้อนเอาสิ่งที่อยู่ในท้องออกมาจนหมด
“นี่เธอ...”
สวบ... โบนิตาสวมกอดคอรัดเขาเอาไว้ทันที
“โอ๊ย... หมดแรง ช่วยอุ้มหน่อยสิ” เธอร้องบอกเขา สงสัยจะไม่ไหวแล้วจริง ๆ
แทนที่จะให้เขาอุ้มดี ๆ เธอกลับกระโดดเอาขาหนีบเอวของชายหนุ่ม
“ยายบ้าเอ๊ย...” เขารีบช่วยเธอรวบขาทั้งสองข้างของเธอให้ขึ้นมาหนีบรัดร่างของตัวเองเดินพาหญิงสาวเข้าไปในบ้าน สายตาก็สอดส่องว่าจะมีใครมาพบมาเห็นหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นมีเรื่องแน่ ๆ
“เป็นเวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย ยี้ ตัวก็เหม็น” จะไม่ให้เหม็นไปได้อย่างไร เศษอาหารทั้งนั้นที่ออกมาจากปากของแม่จอมยุ่ง
หิรัญพาร่างเล็ก ๆ เข้าไปในห้องน้ำ แล้วพาไปนั่งที่ชักโครก เขารีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก เพราะมันก็เลอะอ้วกของยายส้มเต็มไปหมด
“หื้อ... เป็นน้องเป็นนุ่งจะจับตีให้ก้นลาย” ปากก็ว่า แล้วแก้ผ้าของตัวเองไปด้วย จนปราการด่านสุดท้ายหมดไป เขาหยิบเอาผ้าเช็ดตัวมาพันกาย
“ไอ้เชี่ย...” หิรัญสบถ สายตาของเขาปะทะเข้ากับหญิงสาวที่อยู่ในกระจก เธอถอดเสื้อผ้าท่อนบนออกแล้ว เหลือแต่เสื้อชั้นใน แล้วกำลังจะแกะตะขอกระโปรงออก เขารีบพาตัวเองไปยังเธออย่างรวดเร็ว
หมับ... มือของเขาถูกส่งไปจับมือของโบนิตาเพื่อห้ามไม่ให้เธอถอด
หน้าอกหน้าใจของเธอที่พุ่งออกมาจากในเสื้อ เฉียดใบหน้าหล่อ ๆ ของหิรัญ ห่างกันไม่ถึงสองเซนฯ
“ฉันจะอาบน้ำ ฉันเหม็นสาบตัวเอง” เธอบอกเขา น้ำเสียงก็ยังบอกได้ว่าเธอเมาอยู่
“ก็ให้ฉันออกไปก่อน”
“ชิ... ก็แหงสิ นายก็ออกไปได้แล้ว ฉันอาบเสร็จก่อน แล้วนายค่อยอาบ” เธอไล่เขา แล้วหันหลังให้ รูดกระโปรงตัวนั้นลงไปทันที
พรึ่บ... มันร่วงลงไปกองกับพื้น เนื้อสะโพกมนขาวจั๊วะสะท้อนแสงไฟที่อยู่ในห้องเป็นจังหวะที่หิรัญหันหน้ามาเอื้อมมือปิดประตู
“ตรูไม่ได้ตั้งใจ แม่งเต็ม ๆ ขาวเชี่ย” เขาหลุดปากออกมา ไม่น่าเชื่อ ร่างกายเธอจะสมส่วนถึงเพียงนั้น แล้วมันช่างเย้ายวนให้เขาอยากเอามือไปลูบ หัวใจในอกของหนุ่มเต้นดัง ภาพเนื้อหลังและสะโพกขาว ๆ ยังติดตา แต่หิรัญก็ต้องรีบปิดประตู
โครม... เสียงสิ่งของบางอย่างร่วงตกอยู่ในห้องน้ำ
“อึ๋ย... เกิดอะไรขึ้น” เขาสะดุ้ง หันไปเปิดประตูเข้าไปทันที
ร่างขาวโพลนเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่ที่ใต้ฝักบัว สายน้ำอุ่นกำลังไหลผ่านร่างบางเหมือนภาพสโลว์โมชัน หิรัญเลือดกำเดาแทบไหล เธอค่อย ๆ หันหน้ามาหา แต่ขาขาว ๆ สองข้างกลับหนีบเข้าหากันแน่น สายตาของเขาทำไมจ้องมองแต่ตรงนั้น
“สบู่เข้าตา” เธอตะโกนบอกเขา
หิรัญเหมือนตื่นจากภวังค์แทบวิ่งเข้าไปหา
“ไหน ๆ ดูซิ”
มือเธอที่ปะเปะไปทั่ว ทำให้ขวดแชมพูขวดสบู่ตกลงไปกองรวมกันอยู่ที่พื้น เขาเอื้อมไปหยิบฝักบัวแล้วยัดเข้าไปในมือ
โบนิตารีบยกมันขึ้นล้างใบหน้า สะบัดผมที่เปียกน้ำแบบเบา ๆ
‘โอย...’ หิรัญทำท่าเหมือนจะละลาย
สายน้ำกระเด็นมากระทบกับผิวหน้าและตัวเขาแต่ชายหนุ่มก็ไม่รู้สึก กลับจ้องมองใบหน้าของเธอที่ไร้เครื่องสำอางและสะอาดหมดจด ปากแดงระเรื่อเผยอหายใจ
เธอขยับตัวทำท่าจะลื่นเพราะเหยียบขวดแชมพู
“โอ๊ะ...” เธอส่งเสียงร้อง ร่างเซ ทิ้งฝักบัวในมือลงไป ใช้มือป่ายปะจับอะไรหาที่ยึด
หิรัญส่งแขนรับร่างของเธอเอาไว้ แต่ไม่ทัน ร่างเล็ก ๆ ร่วงลงไปกองข้างล่าง ในฝ่ามือของเธอยึดเอาท่อนเนื้อที่เริ่มแข็งตัวเพราะเจ้าของไม่ระวัง ผ้าเช็ดตัวของเขาหลุดลงไปแล้ว
“นี่อะไร” คำถามที่ไม่น่าหลุดออกจากปากถามมาเลย ก็เห็นอยู่ว่าเป็นไอ้จ้อนของนายหิรัญเขา
เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของร่างที่ยังตะลึงไม่หาย ริมฝีปากเล็ก ๆ ขยับอ้า และส่งสายตาที่เว้าวอน เขาพูดอะไรไม่ออก กำลังตะลึง
“นี่นายรู้ไหม ยายของฉันบอกกับฉันว่ายังไง” เธอคงเมาแล้วเพี้ยน ในมือยังกำความเป็นชายของหิรัญเอาไว้เต็ม ๆ แล้วยังลูบแบบอ่อนโยน โบนิตาสบตากับเขา
หิรัญหายใจเข้าออกแรง ๆ ได้แต่ส่ายหน้า ตกใจจนพูดไม่ได้ บอกเลยไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนในชีวิต
“ยายบอกว่า ถ้าฉันยังไม่มีผัวก่อนอายุยี่สิบเก้าฉันจะต้องอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต”
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก... หัวใจของหิรัญเต้นแรง
“นายเป็นผัวให้ฉันได้ไหมคืนนี้”
‘อุต๊ะ’ ชายหนุ่มทำตาโต ร้องอุทานอยู่ในใจ
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก...
ริมฝีปากเล็ก ๆ นั้นค่อยอ้ากว้าง ก่อนจะชิดเข้ามาใกล้
“อื้อ...” เสียงที่เล็ดลอดออกมาจากลำคอของหญิงสาว
“โอ้ว...” เสียงนี่คือหลุดมาจากปากของหิรัญ
‘OMG มันคือดีอะ’ เขาหลับตาพริ้ม กำลังอิ่มอุ่นกับความสุขที่เธอประเคนให้
โบนิตากำลังสนุกกับของใหม่ที่เพิ่งเคยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก ในชีวิตไม่เคยจับต้องมัน แต่ตอนนี้หัวใจมันสั่งให้ลุย เกิดมาตั้งอายุยี่สิบแปดปี ก็มีแอบดูหนังเอวีในมือถือบ้าง ใช้มือตัวเองลองสัมผัสบ้าง มันรู้สึกดีจริง ๆ
‘แล้วถ้าเป็นไอ้นี่ล่ะ’
ริมฝีปากที่พยายามกลืนท่อนเนื้อนั้นลงไปในลำคอทำให้เจ้าของแท่งถึงกับตัวแอ่นเด้งรับ อัดโยกนิด ๆ เข้าไปในช่องปากนั้น เขาพ่นลมหายใจออกมาทางปากแรง ๆ ขยับตัวเหมือนทรมาน หนึ่งมือเอื้อมไปปิดน้ำ อีกมือส่งเข้าไปลูบปลายคางและแก้มใส ๆ ของหญิงสาว
“โอ้... ทำดีมาก ทำไมเธอเก่งแบบนี้” หิรัญส่งเสียงบอก
เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา ใบหน้าที่เหยเกผิดรูปของเขาเริ่มออกสี ตัวเขาเกร็งจนกล้ามเนื้อแข็งไปทุกส่วน
‘ฉันเพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรกนะ’ โบนิตาบอกกับเขาในใจ เพราะริมฝีปากยังติดกับแกนนั้นอยู่
“ไม่ไหว ๆ โอ้ ๆ พอ ๆ” เขาดึงมันออกมาจากริมฝีปากน้อย ๆ ของเธอ
รวบรั้งร่างเล็ก ๆ นั้นขึ้น ประกบริมฝีปากลงไปบดขยี้ทันที ฝ่ามือของเขาลูบลงไปกับเนื้อสะโพกแล้วขยำแรง ๆ
“อื้อ... เบา ๆ สิ” เธอเอ่ยปากบอกเขา
ตอนนี้ร่างกำยำของหิรัญรั้งเธอขึ้นสู่วงแขน
“ไปต่อกันบนเตียงนะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงกระเส่า
เธอพยักหน้า หลับตาลง หัวใจเต้นแรงไม่เป็นศัพท์เอาการเหมือนกัน โบนิตาได้อาเจียนเอาอาหารก้อนสุดท้ายออกไปจากท้องแล้ว ความปั่นป่วนทั้งหมดทั้งมวลก็ลดลงไป แต่แอลกอฮอล์ที่อยู่ภายในกายนี่สิ มันทำให้ความรู้สึกปั่นป่วนซ่านหวิว ๆ เหมือนใจจะขาดเวลาที่อยู่ใกล้ ๆ เขา
ตุบ... ทั้งสองคนหล่นลงไปที่เตียง ร่างหนาของหิรัญทับทาบกลืนร่างของเธอลงไปกับที่นอน
“แน่ใจหรือ” เขาถามย้ำอีกครั้ง แต่เป็นการกระซิบอยู่ข้าง ๆ ใบหู พร้อมกับคลอเคลียสูดดมกลิ่นเนื้อกลิ่นตัวของหญิงสาวด้วยความพึงพอใจ
“ถ้าฉันกลับใจตอนนี้ มันไม่ทันแล้วมั้ง คุณเอาอะไรมาทิ่มที่หน้าขาของฉันคะตอนนี้” เธอรับรู้ได้ทั้งหมด ความแข็งหยัดบดเบียดหนักลงมาเรื่อย ๆ
“อะไรที่มันกำลังจะทำหน้าที่เป็นสามีคุณน่ะสิ”
“อ้ำ” เขาไล่งับลงไปตามเนื้อตัวของเธอ
โบนิตาเสียงหัวเราะดังออกมาแบบน่ารัก
“อ้า...” เธอร้องออกปากทันทีที่เขางับเข้าไปที่ยอดเชอร์รีสีหวาน ดูดกินเหมือนหิวกระหาย มือไม้ลูบคลำไปเสียทุกส่วน
‘ขาวจั๊วะ น่าเจี๊ยะมาก เนียน นุ่ม หอม... น่าเอา...’ ความคิดสุดท้ายเตลิดไปไกลแล้ว
ไม่มีเสียงพูดคุยอีกแล้ว มีแต่เสียงลมหายใจของสองคนที่กระเส่า และเธอส่งเสียงครางครวญแผ่ว ๆ ทุกครั้งที่หิรัญใช้ปลายลิ้นและริมฝีปากโลมเลียไปในตำแหน่งที่ซ่านเสียว หัวใจในทรวงอกก็เต้นแรงรัวไปหมดแล้ว
จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ...