“คนหาเจอแล้วก็พูดง่ายเนอะ แล้วฉันจะไปหาแถวไหน ผู้ชายดี ๆ ไม่ใช่แมลงวันนะจะได้คุ้ยหาได้ตามกองขยะ”
“เฮ้... เปรียบผู้ชายเป็นแบบนี้น่ะสิ แกถึงได้ไม่เจอผู้ชายดี ๆ สักที”
กริ๊ง... สองสาวชนแก้ว
“ขอประทานโทษนะครับ กระเป๋านี่ของคุณไหมครับ พอดีมันหล่นลงไปข้างล่าง” เสียงทุ้มน่าฟังมาก ๆ
สองสาวรีบหันหน้าไปมองหน้าเขาเอมมาลินหรี่ตา เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเคยเห็นผู้ชายคนนี้มาก่อน แต่โบนิตากลับคว้าเอากระเป๋าจากมือของชายหนุ่มมาถือเอาไว้ทันที
“ขอบคุณค่ะ ของฉันเอง” น้ำเสียงแสนห้วน
‘ผู้ชายคนนั้นทำหน้าเหลอหลา’ นึกในใจ
‘เมื่อกี้ได้ยินว่าเกลียดผู้ชาย ไม่มีคนมาจีบ แต่แม่เอ๊ย... พฤติกรรมแบบนี้น่ะสิ ถึงได้ไม่มีใครมาจีบ’ เขายิ้มมุมปาก
“ไม่เป็นไรครับ” แล้วเขาก็เดินไป
เอมมาลินอ้าปากค้าง โบนิตารีบพัดมืออยู่ที่ข้างหน้าเธอ
“แหม... เห็นผู้ชายหล่อ ๆ เป็นไม่ได้ อ้าปากค้าง เดี๋ยวเหอะ ผัวแกมาฉันจะฟ้อง” โบนิตาหมายถึงพี่ไกด์
“ไอ้ส้ม ฉันเปล่าคิดแบบนั้นสักหน่อย แต่ฉันเหมือนกับเคยเจอเขา”
“อื้อฮือ... คนสมัยนี้หน้าโหลจะตายไป ร้านหมอศัลยกรรมเต็มเมือง จะมีทุกมุมอะมั้ง”
“เขาหล่อจริง ๆ นะแก ไม่ลองอ่อยดู”
“ยี้...” ทำเสียงแบบรังเกียจ
“หึ... ฉันเชื่อยายแก ไม่ต้องสงสัย ยายส้มได้อยู่เป็นโสดจนตายแน่ ๆ”
เอมมาลินทำเสียง
“เฮ้ย... อย่าพูดแบบนี้ดิ ไม่เอา ของฉันมี ฉันก็อยากลองใช้ดูสักครั้ง”
เอมมาลินหัวเราะ
“โธ่... ไม่ใช้ก็ไม่เป็นไรมั้ง”
“แล้วแกเห็นไหมว่าเขาเดินไปทางไหน” โบนิตาถามเพื่อน
“ฮั่นแน่... เขาหล่อเนอะ โน่นไง” เธอชี้ให้เพื่อนดู
โบนิตาหันไปยิ้มให้กับเขา แล้วยักคอให้ ทำหน้าตาแบบว่า ฉันสวย กำลังทำท่าอ่อย ๆ เขาอยู่
ผู้ชายคนนั้นส่งยิ้มมาให้ แต่จริง ๆ เขากำลังหัวเราะในพฤติกรรมของเธอต่างหาก
‘หน้าตาก็ดีอยู่หรอก แต่ทั้งเฉิ่ม ๆ เชย ๆ เพื่อนยังดูสวยกว่า เอ...ผู้หญิงคนนั้นเหมือนแฟนพี่ไกด์เลยว่ะ’
เขานึกพลางหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาเปิดดูอินสตาแกรมของไกด์ลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง
‘โป๊ะเชะ...ว่าแล้วทำไมคุ้น แต่ว่าเพิ่งกลับมาวันนี้ มาโผล่อยู่ที่นี่เลยหรือ แล้วยายเพื่อนนั่น…’
เขารีบกดส่งข้อความไปหาพี่ชาย
(ผมเจอคู่หมั้นพี่ที่ผับของผม)
(อ๋อ... ฉันแนะนำให้ไปเที่ยวที่นั่นเองแหละ กำลังจะไปรับอยู่ด้วย)
(พี่จะมาหรือครับ)
(ก็เอมเขาบอกว่าจะพาเพื่อนเที่ยวผับ ฉันว่าเที่ยวที่นี่ปลอดภัยที่สุด แกจะได้เป็นหูเป็นตาให้ฉันด้วยไง)
(ไม่มีใครมาเกาะแกะกับแฟนพี่หรอกครับ เห็นนั่งเอาหัวพิงกันกับเพื่อนสนิทมั้ง นึกว่าเป็นคู่เลสเบี้ยน)
(ปากแกนี่มันก็ยังร้ายเหมือนเดิมนะ เพื่อนสนิทสมัยมัธยมของเอม เดี๋ยวเจอกัน)
(ครับผม)
หิรัญเดินไปที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์
“นี่บัตรเครดิตของโต๊ะไหน ทำไมไม่คืนลูกค้าไป”
“อุ๊ยตายละ ขอโทษค่ะคุณกาย ลูกค้าคงทำร่วงเอาไว้น่ะค่ะ เมื่อกี้หนูคืนไปแล้วนะคะ” หน้าตารู้สึกผิด เพราะดวงตากลมโตของเขาที่จ้องมองเหมือนว่าเธอทำความผิด
“แล้วของโต๊ะไหนจำได้ไหม”
“เอ่อ... ของพี่ผู้ชายกลุ่มนั้นค่ะ” พนักงานสาวชี้ให้เขาดูที่โต๊ะเป้าหมาย
“วันหลังต้องดูดี ๆ แล้วตรงนี้ทำไมปล่อยให้รกแบบนี้ รู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ชอบ”
“ค่ะ ทราบค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” เธอรีบหาผ้ามาเช็ดโต๊ะ แล้วเริ่มเก็บของที่รกรุงรัง
เจ้านายหนุ่มเดินเอาบัตรเครดิตไปคืนให้กับเจ้าของบัตร
ตอนที่เขาหันหลังกลับเขาต้องหยุดฝีเท้ายืนฟัง
“มึงดูยายเฉิ่มนั่นดิ น่าฟัดเหมือนกันนะ นมตูม ๆ เชียว”
ชายหนุ่มที่อยู่ในกลุ่มพากันหัวเราะ
“กูก็มองอยู่เหมือนกัน แม่งเอ๊ยคิดเหมือนกันเลย พามาขัดสีฉวีวรรณนะ กูว่า เอามัน”
“ไอ้เชี่ย ถ้าจะเอามัน เสื้อผ้าไม่เกี่ยวดีกว่าไหม”
หิรัญไม่ชอบเลยที่พวกผู้ชายพวกนี้พูดแบบนี้ ชายหนุ่มหันมองไปยังโต๊ะที่พวกนี้เอ่ยถึง เขารู้สึกหัวเสีย ผู้หญิงที่เอ่ยถึงก็คือเพื่อนของเอมมาลินคู่หมั้นของพี่ชาย
เอมมาลินกับโบนิตากำลังคุยกันอย่างออกรส และกำลังพูดถึงผู้ชายในกลุ่มนี้อยู่
“แกว่าคนไหนหล่ออะส้ม”
“เสื้อสีฟ้า” เธอบอกเพื่อนพลางส่งสายตาหวานหยดย้อยมาทางหนุ่ม ๆ
“ดูสิ แม่งส่งซิกว่ะ สงสัยชอบ เห็นติ๋ม ๆ นะมึง อาจจะเซ็กซ์ดีก็ได้”
“กูก็ว่า สมัยนี้ผู้หญิงทำงานออฟฟิศเก็บกดจะตาย ในเว็บฯ ยังบอกผู้หญิงแบบนี้เซ็กซ์จัด”
“กูจอง”
“เชี่ย ใครดีใครได้สิวะ”
“มาเป่ายิงฉุบใครแพ้ถอย”
“เป่ายิงฉุบ” กลุ่มนั้นส่งเสียงหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
หิรัญหน้าเครียด ฟังคำพูดแบบนี้แล้วขัดหูพิกล แต่ยังไม่ทันทำอะไร ก็มีชายคนหนึ่งในกลุ่มที่เป่ายิงฉุบชนะเดินเข้าไปหาทั้งสองสาว
“สวัสดีครับ ผมชอบคุณ” ผู้ชายคนนั้นพูดตรง ๆ
ทั้งเอมมาลินและโบนิตาสบตากัน นึกขำ แต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้
“ขอเบอร์โทร. คุณได้ไหมครับ หรือว่าวันนี้คุณมายังไง ขากลับบ้านผมขออาสาไปส่งได้ไหมครับ” เขาจู่โจม
โบนิตายิ้มให้ ตอนนี้สองสาวคงจะกรึ่ม ๆ กันเต็มที่แล้ว เพราะไม่ใช่ขาดื่ม ใบหน้าออกแดงระเรื่อกันทั้งคู่
“ส้ม โบนิตาค่ะ”
“ไวท์ สันชัยครับ นี่นามบัตรของผม” เขาหยิบนามบัตรออกมาจากกระเป๋า
โบนิตารับมันมาถือ ก่อนจะอ่าน ทั้งชื่อและตำแหน่ง วิศวกรอยู่ที่รถไฟฟ้าแห่งหนึ่ง
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ นี่เพื่อนฉัน”
“เอมมี่ค่ะ” เอมมาลินยื่นมือไปจับตามธรรมเนียมฝรั่ง
“ผมชอบเพื่อนของคุณเอมมี่นะครับ พวกคุณพอจะเชื่อเรื่องรักแรกพบอะไรแบบนี้ไหมครับ”
ทั้งสองสาวยิ้ม และหัวเราะในความขี้เล่นของเขา
“จะรังเกียจไหมถ้าวันนี้คุณเอมมี่ต้องกลับคนเดียว แต่ผมจะขออาสาไปส่งคุณส้มที่บ้าน”
“ส้มอยู่คอนโดฯ ค่ะ” โบนิตาบอก
“ผมก็อยู่คอนโดฯ เหมือนกันครับ ผมเป็นคนเชียงใหม่ มาทำงานที่นี่”
“จริงหรือคะ เชียงใหม่น่าอยู่จะตาย”
“ใช่ ๆ อยากไปเที่ยวจัง”
“มารักกับผมสิครับ ได้ไปเที่ยวเชียงใหม่บ่อย ๆ แน่”
โบนิตาหัวเราะ
“คุณเป็นคนน่ารักอัธยาศัยดีแบบนี้ตลอดหรือคะ”
“ครับผม เอ่อ... เดี๋ยวผมขอกลับไปดื่มกับเพื่อน ๆ อีกนิดนะครับ แต่อย่าลืม คืนนี้คุณส้มต้องกลับกับผม” เขาทิ้งทวน โปรยรอยยิ้มแบบหนุ่มหล่อหว่านเสน่ห์ให้กับโบนิตาสุดกำลัง
พอเขาเดินพ้นไป
“ขำว่ะแก” โบนิตาพูดขึ้นมาและหัวเราะ
“เฮ้ย แต่เขาก็ดูเหมือนจริงว่ะ คนไทยเดี๋ยวนี้เขาจู่โจมกันแบบนี้แล้วเหรอ”
“ยายเอมแกหันไปมองรอบ ๆ ดิ ในนี้มีแต่ผู้ชาย แล้วแกดูดิมีผู้หญิงมากี่โต๊ะ”
เอมมาลินหันไปมองรอบ ๆ ก็จริงอย่างที่โบนิตาบอก ในนี้แทบจะไม่มีผู้หญิงเลย
“เอ๊ะ... ผับของพวกเกย์เหรอ”
“หื้อ... คิดไปได้ ไม่ใช่หรอก ผู้หญิงมีน้อย ผู้ชายมีมาก สงสัยตาถั่วมาบอกว่าปิ๊งฉัน แทนที่จะเป็นแก”
“ก็เมื่อกี้แกไปส่งตาหวานให้เขาทำไม”