การที่เราแอบชอบใครสักคนมันคือเรื่องที่ดีในชีวิตใช่ไหมแต่ฉันกลับไม่
ฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่แอบชอบรุ่นพี่ต่างคณะ ฉันเฝ้ามองและแอบมองเขามาตลอดแต่ฉันไม่เคยสารภาพออกไปสักทีเพียงเพราะฉันไม่กล้าฉันจึงไม่มีโอกาสได้บอกเขา
“อีโมจิ มึงเลิกอ่านนิยายแล้วเลิกร้องไห้สักที” เสียงของแพรพรรณดังขึ้น แพรพรรณหรือแพรเพื่อนสนิทของฉันเอง
“ก็เนื้อเรื่องมันเหมือนกู” ฉันพูดขึ้นเพราะนิยายที่ฉันอ่านมันตรงกับฉันไปหมด
“เหมือนที่ไหนนางเอกเรื่องนี้เขาเรียบร้อย ไม่เหมือนมึงกล้าไปหมดทุกอย่างเหมือนม้าดีดกะโหลกตลอดเวลา” แพรพูดขึ้นต่ออีกครั้งส่วนฉันทำได้เพียงปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้ววางมันไว้ข้างๆ ขืนอ่านต่อมาหวังได้น้ำตาไหลมากกว่านี้แน่
“เหมือนกันตรงที่กูก็แอบชอบพี่เขาไงละ”
ใช่! ฉันแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่งเขาเป็นคนหล่อ หน้าตาดี หล่อราวกับเป็นลูกของเทพเจ้า ใบหน้าของเขาถ้าบอกว่าเทพเจ้าปั้นให้ฉันก็เชื่อ
“อีโม มึงเอาแต่แอบชอบไปแบบนี้ก็ไม่ได้ไหม ถ้าอยากได้มาเป็นแฟนก็ไปบอกชอบเขาซะ” น้ำขิงพูดขึ้นทันทีซึ่งน้ำขิงก็คือเพื่อนอีกคนของฉัน
“จะไปบอกได้ไงกูไม่กล้าหรอก” พรางนึกไปถึงตอนที่ฉันบอกชอบรุ่นพี่คนนั้น ดูท่ายังไงมันก็ไม่สมหวัง
“กล้าทุกเรื่องยกเว้นเรื่องนี้”
“ระวังเถ๊อะระวังหมาจะคาบไปแดก”
“แล้วกูทำอะไรได้ละ จะให้ไปบอกพี่เขาเลยก็ยังไงอยู่” แค่เห็นหน้าพี่เขาฉันก็เขินจนจะแทรกตัวมุดลงใต้พื้นดิน ให้เจอจังๆ มีหวังเขินตายกันพอดี
“พี่พายุคะ พี่พายุ พี่พายุคะ” เสียงของแพรตะโกนขึ้น ทำฉันหันมองซ้ายขวาหาคนที่แพรกำลังเรียก
คนที่ฉันชอบเขาชื่อพายุเป็นรุ่นพี่ที่เรียนคณะวิศวะ ฉันชอบเขาตั้งแต่วันแรกที่เจอแต่เหมือนเขาจะลืมฉันไปทันที
“กรี๊ดดดดดด” ฉันร้องขึ้นเพราะตอนนี้ฉันล้มหน้าคะมำไปกับพื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ขับรถประสาอะไรวะเนี่ย” ฉันแผดเสียงให้ดังขึ้นเพื่อหวังให้คนในรถได้ยิน
คนภายในรถเปิดประตูลงมาเดินตรงมาทางฉัน ใบหน้าที่ถูกบดบังด้วยแว่นกันแดด ทรงผมที่ถูกเซตเป็นอย่างดี จมูกเป็นสันได้ที่ดูก็รู้ว่ามันของจริงไม่ได้ผ่านมีดหมอ ใบหน้าอันหล่อเหลาดั่งเทพเจ้าปั้นให้ ให้ตายเถอะ โคตรพ่อโคตรแม่หล่อ เขามันลูกรักเทพเจ้า พ่อจ๋าแม่จ๋า โมอยากได้คนนี้เป็นแฟน
“โทษ” คนที่ลงจากรถยืนตรงหน้าฉันพูดขึ้นทันที
“พูดแค่นี้ฉันจะหายเจ็บไหมคะ” ฉันบ่นขึ้นต่อ
ทำไงได้ก็มันเจ็บอีกทั้งคนที่ทำฉันเป็นแบบนี้ยังไม่มีท่าทีทุกข์ร้อนอะไร
“ขับรถอะไรของนายวะ นี่มันในมหาลัยนะไม่ใช่สนามแข่งรถถึงได้ขับเร็วขนาดนี้” ฉันพูดขึ้นต่ออีกครั้งมันอดโมโหที่จะไม่พูดไม่ได้ ฉันขอด่าหน่อยเหอะถึงหน้าตาเขาจะหล่อแค่ไหนก็เถอะ
“ขับปกติ”
“ไอ้บ้านี่ทำผิดแล้วไม่รู้ตัวอีก”
“ยืนดูอยู่ได้ พยุงฉันขึ้นที” ฉันพูดขึ้นอีกครั้งเพราะคนตรงหน้าฉันยืนดูฉันเฉยๆ ไม่มีทีท่าจะช่วยเลยแม้แต่น้อย
“อะ...โอ้ยยย” ฉันร้องขึ้นเมื่อเขาเข้ามาพยุง ไม่ได้จะสำออยอะไรนะ แต่มันเจ็บอะเจ็บข้อเท้าโคตรๆ
“แค่เลือดออกไม่ได้กระดูกหัก” เขาพูดขึ้นด้วยท่าทางหงุดหงิดดูก็รู้ว่าเขาไม่ได้เต็มใจช่วยฉัน
“ฉันเจ็บ”
“สำออย” พูดจบก็อุ้มตัวฉันขึ้นในท่าเจ้าสาวจากนั้นก็เดินตรงเข้าในคณะฉัน
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
เสียงหัวใจฉันเต้นดังทะลุออกมานอกตัว ผู้ชายคนนี้ทำหัวใจฉันเต้นผิดจังหวะไปหมดเพียงแค่อยู่ในอ้อมกอดเขาทำไมฉันรู้สึกอุ่นใจจัง
ฉันเจอกับเขาด้วยอุบัติเหตุ
แต่การที่ฉันชอบเขาฉันตั้งใจ
“อีโม อีโม อีโมจิ” เสียงแพรกับน้ำขิงเรียกฉันให้หลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเอง
“พอดีเพื่อนหนูมีเรื่องอยากบอกพี่ค่ะ” แพรพูดขึ้นทันทีพร้อมกับดันตัวฉันให้เผชิญหน้ากับเขา
“เอ่อ…คือ” แน่นอนว่าตอนนี้ฉันแทบพูดออกมาไม่ออกเพราะโดนดันออกมาให้เจอหน้าพี่เขาจังๆ อย่างไม่รู้ตัว
“มีอะไร”
“พี่พายุคะหนูชอบพี่” ฉันกลั้นใจพูดในสิ่งที่ฉันอัดอั้นในใจมานานออกไปพร้อมกับหลับตาปี๋เพื่อฟังคำตอบ ไม่รู้ตอนนี้เอาความกล้ามาจากไหนถึงกล้าพูดคำคำนี้ไป
“ฉันไม่ได้ชอบเธอ” เหมือนตอนนี้ฉันโดนค้อนทุบหน้าเลยอะ
“ไม่เป็นไรค่ะตอนนี้ไม่ชอบหนูก็ไม่เป็นไร” เห็นไหมบอกไปฉันก็มีแต่จะผิดหวัง ความกล้าความปากดีที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ทำฉันผิดหวัง
“งั้นขอตัว”
“ตอนนี้ไม่ชอบไม่เป็นไร แต่ต่อไปรับรองพี่ต้องชอบหนู”
“อย่าคิดไปเอง”
“พี่รอดูเลยค่ะ ว่าหนูทำได้แน่นอนพี่พายุ”