บทที่10 รักกำลัง..มา

2507 Words
บทที่ 10 รักกำลัง ...มา “คงไม่ต้องชะลอหรอกค่ะ คุณศิวะวิศวกรของเราคนนี้ เก่ง กำลังชี้แจ้งกับทางเขตอยู่ ใช่ไหม? ค่ะคุณศิวะ” “ครับ” พิริยะยิ้มก่อนกล่าว “นักธุรกิจรุ่นใหม่นี้เก่งจริงๆ ฮ่าๆๆๆ แต่อย่าประมาทนะครับ ดีไม่ดีทางเขตเขาไม่ชะลอ เขาสั่งระงับการก่อสร้างแล้วจะยุ้งไปกันใหญ่นะครับ” “ถ้าไม่ถูกระเบียบก็ทุบทิ้งทำใหม่ก็ได้ครับ และผมก็ประมาณการดูแล้วว่า การทุบทำใหม่ก็ใช้เงินร้อยกว่าล้าน มันแค่เศษตังส์เท่านั้นเองครับคณพิริยะ” คำพูดสวนขึ้นของศิวะทำให้เจ้าของธุรกิจคอนโดพันล้านหน้าแดงด้วยความโกธร... “ได้..ได้..เอาละ ถ้ามั่นใจก็ดีแล้ว เออ..ตอนนี้ผมมีธุระ ยังไงผมก็ฝากความคิดถึงพ่อของหนูพิมพ์หน่อยนะ เห็นว่าไปรักษาตัวตั้งเมืองนอกเมืองนา ผมรู้ก็เลยเป็นห่วง.” “ขอบคุณค่ะ..” หมอสาวกล่าวขอบคุณ แม้รู้ว่ามันคือคำกระทบกระทั่ง “ผมไปก่อนละ มีธรุะด่วนนะครับ..” ศิวะและพิมพิชญาไม่กล่าวลา แต่ทั้งคู่มองตามนักธุรกิจเจ้าเล่ห์..ไปจนลับสายตา “เมื่อกี๋นายพูดฉันชอบนะ” “คนเก่งก็อย่างนี่แหละครับ” “เออเรื่องนั้นยอมรับว่านายเก่ง แต่..สำหรับอีกเรื่องฝากไว้ก่อน” “ไม่ต้องฝากหรอกครับ..อยากดมตอนไหนก็บอกได้ เดียวจัดให้” ขณะที่หญิงสาวพยายามจะต่อคำ เธอก็ต้องรีบรับโทรศัพท์ที่เรียกเข้า “มีอะไรหมอดา ..ได้สิ..ได้...ว่ามา” หมอวณิดาเพื่อนรักของพิมพิชญาโทรมาเล่าเรื่องของศิวะ ที่รู้มาจากธีรดล ทำให้หญิงสาวต้องเงียบฟังอย่างเดียวเพราะกลัวว่าคนอยู่ด้วยจะรู้ ................................................................... โครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมของบริษัทโมเดอร์โฮมการ์เด้นจำกัด ถูกสร้างตั้งตะง่านโชว์ความก้าวหน้าของโครงการ ที่ตอนนี้ก่อสร้างไปแล้วหลายสิบชั้น จนมันได้แสดงความมั่นใจให้แก่ผู้วางเงินจับจองไว้ได้เป็นอย่างดี ขณะภายในสำนักงานชั่วคราวโครงการฯ ทีมงานก่อสร้างกำลังร่วมประชุมกันอยู่อย่างเข้มข้น “งานก่อสร้างเดือนนี้ต่ำกว่าแผนไปประมาณสามเปอร์เซ็นต์ ..เราคงต้องเร่งงานส่วนของผู้รับเหมาช่วงให้ช่วยเร่งงานขึ้นไปอีกหน่อยนะสมจิตร” “ครับโปรเจค” พิมพิชญามองดูชายหนุ่มผู้นำการประชุม ที่แสดงออกถึงความตั้งใจจริงในการทำงานเพื่อธุรกิจของครอบครัวของเธอ และ จากสิ่งที่ปณิดาเล่าเรื่องราวของศิวะให้เธอได้รับรู้ มันยิ่งทำให้หญิงสาวเข้าใจศิวะมากขึ้น จนในตอนนี้ พิมพิฃญารู้ว่าความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อวิศวกรหนุ่มคนนี้ มันเริ่มบวกมากกว่าลบแล้วอย่างแน่นอน ศิวะสรุปวาระการประชุมต่างๆ จนจบทุกวาระแล้ว จึงหันหน้ามาทางพิมพิชญา ก่อนจะกล่าวสรุปให้โฟร์แมนหกถึงเจ็ดคนรวมทั้งวิศวกรในสาขาวิชาช่างต่างๆ ของโครงการอีกสี่ห้าคน ในองค์ประชุมเพื่อจะสรุป “วันนี้ตามที่ทราบกันดีว่า ตัวแทนของท่านประธานบริษัทมานั่งประชุมด้วย และการอนุมัติทั้งวัสดุ และ จ่าค่าแรงรายวันรายเดือน และค่ารับเหมาช่วงต่างๆ ท่านเป็นผู้อนุมัติ เราจึงขอให้ทุกฝ่ายตรวจรับงานผู้รับเหมาช่วง และการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ทำอย่าง โปร่งใส อย่าให้ท่านต้องสละเวลาอันมีค่ามาประชุมในที่เหม็นๆ สกปรกอย่างอ๊อพฟิตเราอีก” “โปรเจคโครงการก็พูดเกินไปค่ะ ดิฉันไม่ได้มาจับผิดอะไรนะคะ และก็มั่นใจในพนักงานทุกคน ว่า...ทุกคนทำงานให้บริษัทอย่างเต็มความสามารถ และ ที่ฉันมาในวันนี้ก็น่าจะเป็นการมาประเมินตัวโปรเจคโครงการคนใหม่เท่านั้นเอง..” “ไม่ต้องห่วงครับ ลูกพี่ศิวะสุดยอดครับ” “ลูกพี่ไปที่ไหนเราไปที่นั่นขอให้สั่งเรามาครับ” เมื่อพิมพิชญาพูดเช่นนั้นเหล่าโฟร์แมนต่างๆ ..ก็ช่วยกันการันตรีผู้บังคับชาของพวกเขาออกมาอย่างไม่ขาด “เอาละๆ พอได้แล้วเรื่องนี้ ตอนนี้ผมอยากให้พวกเราที่ยังสงสัยอะไรก็ให้ถามมา เราจะได้ปิดประชุมกัน” ศิวะรีบตัดบท เพราะรู้ว่าที่คุณหมอสาวพูด มันไม่ใช่สิ่งที่เธอตั้งใจจะทำ แต่เธอจะกวนประสาทของเขาต่างหาก และการที่ลูกน้องพูดยกยอต่างๆ นานา มันทำให้ชายหนุ่มชักจะเขิน “ทราบว่าประธานเรียนหมอใช่ไหมครับ” หนึ่งในที่ประชุมตั้งคำถาม เพราะหลังจากนี้ก็คงไม่มีเรื่องหนักๆ เกี่ยวกับงานแล้ว แต่คงจะเหลือการพูดคุยกันสบายๆ คลายเครียดชะมากกว่า “ใช่ค่ะ” “ผมใฝ่ฝันว่าอยากมีแฟนเป็นคุณหมอ ที่สวยๆ แบบประธานนี่แหละครับ” “ไอ้โก้...มึงถลึงเกิ้น” พิมพิชญายิ้มเพราะบรรยากาศดิบเถื่อนของงานก่อสร้างเธอรู้สึกรับได้ ขณะศิวะพูดมั่ง “พวกนายไม่รู้เหรอ? ใครที่ได้แฟนเป็นแพทย์เป็นหมอนั่นถือว่าซวย” หน้าสวยของหมอสาวบูดบึ้งจากคำพูดของศิวะอีกครั้ง “ทำไมถึงเป็นยังงั้นละครับลูกพี่...” “อ้าววกเราไม่รู้เหรอ พวกหมอเขาอนามัยจัดขนาดไหน รู้ไหม?" "อนามัย..อนามัยแบบไหนครับลูกพี่" ศิวะยิ้มเมื่อมีคนถามก่อนกล่าวเสียงเซ็งๆ " อื่อ..ยังงี้ไงเช่น เวลาเราอยากจะจูบปากแฟนหมอ เธอจะว่ายังงี้ (ทำเสียงสูงล้อเลียนเสียงผู้หญิง) เธอจะจูบฉันใช่ไหม? ...ไปแปรงฟันเดียวนี้..ไม่งั้นไม่ต้องจูบ....” “เออ...ที่ลูกพี่ว่ามามีเหตุผล” “นั่นมันเรื่องเล็ก..แต่ถ้าเราจะนอนกับเธอ..นะเยอะกว่านี้อีก” “ยังไง? ครับลูกพี่ศิวะ” เสียงโฟร์แมนถามต่อทำให้ห้องประชุมเงียบกริบ เมื่อทุกคนในที่ประชุมต่างพากันตั้งใจฟังศิวะอธิบาย “เธอก็จะว่ายังงี้ (ทำเสียงสูงล้อเลียนเสียงผู้หญิง) จะนอนกับฉันใช่ไห๊ม..ไปอาบน้ำเดียวนี้เลยนะ งั้นไม่ต้องมาแตะตัวฉัน....และพอเราอาบน้ำเสร็จหวังจะนอนกับเธอ เธอก็ยังไม่ให้นอนด้วยนะ? เพราะเธอจะเอาแอลกอฮอล์มาล้างน้องชายของเรา เพราะกลัวว่ามันจะสกปรกไม่คู่ควรกับของของ เธอ” “ห้าๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะดังทั่วห้องประชุม ขณะที่พิมพิชญาทำได้เพียงนั่งยิ้มอย่างใจเย็นเพราะเธอคิดว่าครั้งนี้เธอต้องยอมเพราะมันเป็นถิ่นของศิวะ “แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดรู้ไหม? เพราะใครได้แฟนเป็นหมอมันอาจทำให้เซ็กส์เราต้องตายด้าน” แต่ศิวะยังมีเรื่องอธิบายต่อ “เอ้ย..แบบไหนลูกพี่?” “อื่ม..ก็เวลาเราจะใช้ปากกับเธอนะสิ (ออรัสเซ็ก) เธอจะห้ามไม่ให้ทำโดยเด็ดขาด (ทำเสียงสูงล้อเลียนเสียงผู้หญิง) โอ้ย ...ทำแบบนั้นไม่ได้นะมันสกปรก...แล้วเธอก็ให้พวกเราเสียบอย่างเดียว” “ห้าๆๆๆ จริงๆ ครับลูกพี่ ผมเอาอีนิดเด็กพาณิชย์ของผมแบบเดิมดีแล้ว...ทำได้ทุกท่า..ไม่เอาแล้วแฟนมงแฟนหมอ....ห้าๆๆๆ” “เอาละ.เอาละ.ใครมีปัญหาอะไรจะถามอีกไหม? “ “มีครับโปรเจค” “เออฉันขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะ...มีอะไรก็ประชุมกันไปนะคะ” พิมพิชญาลุกไปเข้าห้องน้ำ ในขณะคำถามที่ไม่มีสาระสำคัญท้ายประชุมก็ยังดำเนินการต่อ “เอาละหมดแล้วละนะที่สงสัย..เออแล้วอย่าลืมนะสมจิตร และโก้ทีพวกนายต้องเตรียมตัวเดินทางไปเกาะกะลาเพื่อเปิดไซค์งานใหม่ที่นั่น” “ครับ..ผม” ขณะนั้นหมอสาวที่ไปห้องเดินเข้ามาในห้องประชุม ทำให้เธอรู้ว่าใกล้จะปิดประชุมกันแล้ว เธอจึงเดินเข้าไปใกล้ศิวะแล้วเอามือไปแตะที่จมูกของชายหนุ่มก่อนจะยิ้มตอนนั่งลง... ........................................................................ “คุณเอาอะไรเหม็นๆ มาแตะจมูกผมนี่คุณหมอ” ศิวะใบหน้าเครียดกล่าวว่าพิมพิชญาในทันทีเมื่อทั้งคู่ขึ้นมานั่งอยู่บนรถ ที่ชายหนุ่มบังคับให้รถมันเคลื่อนออกจากไซค์งาน หลังประชุมเสร็จ “เหม็นเหรอ? ..นี่ๆๆๆ” หมัดเล็กรั่วไปที่หัวไหล่ของชายหนุ่มแบบไม่ยั้ง “..นี่ๆๆๆ ...ทีเอาของตัวเอง มาให้ฉันดมตอนกินข้าวฉันยังไม่เห็นบ่น นี่ๆๆๆ” สาวหมัดสั่งไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แต่ศิวะกับยิ้มเพราะหมัดของเธอเบาวิว์ อีกทั้งตลกกับสิ่งที่หญิงสาวเป็น “คุณพิมพิชญาครับตอนเที่ยงนะผมล้างมือสะอาดแล้ว ผมเอามือที่ล้างแล้ว ไปล้อคุณเล่น..” “อ้าวเหรอ?” “แต่คุณสิ...กลิ่นหึ่งเลย ผมอดทนแทบแย่ อยากจะเช็ด..อยากจะพูดอะไรก็ไม่ได้ เพราะลูกน้องอยู่เต็มห้องประชุม และถ้าพวกเขารู้ว่า ประธานประชุมเอา...เอามือจับไอ้นั่นมาป้ายจมูกผม..ใครรู.ผมอายเขาตาย...” “นายล้างแต่ฉันไม่ได้ล้างสักนิด แบบนี้ก็ดีแล้ว..และสมน้ำหน้าอยากแกล้งกันดีนัก” “ไม่ได้ล้างจริงๆ เหรอ...โอ้โห้คุณ ช่างกล้าจับตรงนั้นมาให้คนอื่นดม...ยี้” ศิวะทำหน้าตารับไม่ได้ ขณะพิมพิชญายิ้ม ก่อนจะยื่นมือไปที่หน้าชายหนุ่ม “เอาอีกไหมล่ะ...ฉันยังไม่ได้ล้างเลยนะนี่...หอม...” “ยัยหมอ..สัปดน..” “ไอ้วิศวะลามก...” ขณะนั้นเสียงไลน์เข้าโทรศัพท์พิมพิชญาเธอจึงเอามาเปิดดู จึงรู้ว่ามันคือคำสั่งจากอาจารย์หมอ ก่อนที่หญิงสาวจะพิมพ์ตอบ.... ..ค่ะอาจารย์.. “เออ..ผมมีธุระนิดหน่อย เดียวผมแวะแป๊บนะครับ” “ได้ค่ะ” มันเป็นการพูดกันปกติแต่ทำให้ทั้งคู่รู้ว่ามันกำลังเกิดความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันเป็นครั้งแรก ...................................... “ได้ค่ะ” เป็นการพูดกันปกติครั้งแรก ทำให้ทั้งคู่รู้ว่ากำลังเกิดความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันเป็นครั้งแรก ........................................................ นายตำรวจยกมือวันทยหัตถ์ ขณะที่ศิวะและพิมพิชญายกมือไหว้เมื่อทั้งหมดพบกันในห้องของร้อยเวรหนุ่มภายในสถานีตำรวจย่านเกิดเหตุโครงหลังคาเหล็กถล่ม จนทำให้พ่อของศิวะต้องเสียชีวิต “เชิญนั่งครับ...พอดีเรามีข่าวคืบหน้าคดีของพ่อคุณศิวะจึงให้มาพบนะครับ” “แล้วมันเป็นยังไงบ้างครับ” ชายหนุ่มแสดงความอยากรู้ออกมาชัด ขณะนายร้อยตำรวจหนุ่มส่งรูปให้เขาดู “จากภาพถ่ายเห็นชัดว่ามีคนมาแอบใช้แก๊สตัดชิ้นส่วนสำคัญของโครงหลังคาที่เตรียมยกเอาไว้ และ คนที่ทำก็รู้ว่าพ่อของคุณจะต้องไปอยู่ในตำแหน่งนั้นตอนเครนยกโครงหลังคาขึ้นมาประกอบ” “หมวดหมายความว่า เรื่องนี้คือการฆาตกรรมใช่ไหม? ครับ” ใบหน้าของพิมพิชญาตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าศิวะผู้ตั้งคำถาม “ใช่แน่นอนครับ เพราะหลักฐานมันชี้ชัดได้เป็นอย่างดีว่า รอยแอบตัดโครงเหล็กเอาไว้น และเมื่อเครนยกมันขึ้นติดตั้งพ่อของคุณต้องมาสั่งการและดูแลความเรียบร้อยอยู่ตรงบริเวณนั้น สุดท้ายโครงหลังคาเหล็กที่ยกไปติดตั้งมันก็พังไปยังตำแหน่งที่พ่อคุณยืนพอดี..” “โธ่..พ่อ ใครกันนะที่ทำแบบนี้..” ชายหนุ่มหน้าสลดเพราะรู้แน่ชัดว่าการตายของพ่อไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุอย่างแน่นอนแล้ว และพิมพิชญาก็ทำได้เพียงใช้มือเล็กไปบีบเบาที่แขนของชายหนุ่มเพื่อเป็นกำลังใจ “ประเด็นมีไม่มากหรอกครับ เช่นว่า เราต้องสืบหาคนที่จงเกียดจงชั่งพ่อคุณ หรือคนที่หวังเอาเงินประกันชีวิตพ่อคุณอะไรประมาณนี้แหละครับ.. ดังนั้นถ้าพ่อคุณทำประกันชีวิตเอาไว้และผู้ที่ได้สิทธิ์รับกรมธรรม์ เขาผู้นั้นคือหนึ่งในผู้ต้องสงสัยครับ” .......................................................................................... ศิวะนั่งนิ่งขณะขับรถไปใช้ความคิดไปอยู่นาน ก่อนที่พิมพิชญาจะทำลายความเงียบ “คงไม่สายเกินไปนะค่ะ ที่จะบอกว่าเสียใจด้วย เรื่องพ่อของคุณ” “ขอบคุณครับ...” เสียงขอบคุณนิ่ม ขณะปลายเสียงเป็นคำสุภาพ ทำให้บรรยากาศและความรู้สึกของหญิงสาวชื่นมืนอย่างบอกไม่ถูก “พ่อทำประกันเอาไว้ ถึงแม้วงเงินจะไม่มากนัก แต่ผมคือคนรับกรมธรรม์” “คุณไม่ได้ทำก็อย่าไปคิดอะไรมาก และเราควรสืบหาผู้ทำ เราจะได้รู้สาเหตุว่าเหตุอะไรทำให้เขาต้องทำอย่างนั้น” พิมพิชญาใช่คำว่าเรา...ทำให้ชายหนุ่มหันไปมองหน้าสวยก่อนที่เขาจะหลบตาคมที่จ้องอยู่ก่อน “ผม..ขอแวะอีกที่นะครับ” เสียงชายหนุ่มคล้ายคนเขินอายขณะเสียงหญิงสาวตอบเสียงหวานจับใจ “ได้ค่ะ” รถเก๋งของสองหนุ่มสาว วิ่งเข้าไปจอดหน้าบ้านชั้นเดียวทื่อยู่ภายในหมู่บ้านจัดสรรชื่อดังก่อนที่ศิวะจะลงจากรถพร้อมกล่าว “คุณไม่ต้องลงก็ได้...ผมไปแป๊บเดียว” “ค่ะ” ชายหนุ่มยังเดินไม่ถึงตัวบ้านดี ก็มีหญิงสาว ที่พิมพิชญามองดูก็รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก วิ่งเข้ามากอดศิวะในขณะที่เขาก็กอดกลับไปเช่นกัน และภาพนั้นทำให้หญิงสาวที่รออยู่ในรถ หยิบเอาโทรศัพท์มือถีอออกมาเชิร์ทกรูเกิ้ลเรื่องที่อาจารย์หมอสั่งมาทางไลท์ เพราะจิตใต้สำนึกของหญิงสาวไม่ชอบภาพที่เห็นเมื่อครู่เลย “พี่ศิวะ ต้องมาหาแพรอีกนะ...พี่มาแต่ละครั้งก็มาแป๊บเดียว” นานหลายนาที่ก็มีเสียงหญิงสาวเล็ดเข้าไปในรถ เพราะศิวะเปิดประตูรถออก ก่อนจะขึ้นไปนั่ง ทำให้ผู้เดินมาส่งมองเห็นพิมพิชญานั่งรออยู่ในรถ “อ๋อนี่พี่พิมพิชญา นี่น้องแพรครับคุณพิมพ์” “สวัสดีค่ะ” พิมพิชญาวางโทรศัพท์มือถือที่กำลังเล่น แล้วหันไปกล่าวทักเมื่อศิวะแนะนำ แต่หญิงสาวชื่อแพรทำหน้าบึงตึงและไม่รับคำทัก “เอาละพี่กลับก่อนนะแพร วันหลังค่อยเจอกันนะ” ศิวะเคลื่อนรถออกไปจากบริเวณนั่นทันที่ เมื่อกล่าวลาเสร็จ “แฟนสวยนะ ทำไมไม่แนะนำละว่าเราเป็นพี่น้องกัน เดียวเธอเข้าใจผิดแย่...” “ก็ผมไม่อยากเป็นพี่เป็นน้องกับคุณนี่...” คำนี้พิมพิชญาส่ายหัวไปมา เพราะคิดว่าชายหนุ่มกำลังจะเปิดศึกกับเธออีกครั้ง “ไม่อยากเป็นก็ไม่อยากเป็น...ใครสน” “ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่ผมอยากเป็นมากกว่านั้น” ศิวะพูดขณะขับรถมองไปข้างหน้านิ่ง โดยไม่สนว่าหญิงสาวที่นั่งข้างจะตีความหมายคำพูดของเขาว่าอย่างไรเพราะคำว่า” อยากจะเป็นมากกว่าเป็นพี่เป็นน้อง” นั่นหมายความว่าอะไร แต่ว่าคำพูดนี้ มันทำให้พิมพิชญานั่งนิ่งเพราะไม่รู้ว่าเธอจะหาคำใดมาสนทนาต่อดี ..................................................... ความรักใกล้จะมาแล้ว...ตามต่อนะครับ ...กระซิบแผ่ว...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD