บทที่ 10 รักกำลัง ...มา
“คงไม่ต้องชะลอหรอกค่ะ คุณศิวะวิศวกรของเราคนนี้ เก่ง กำลังชี้แจ้งกับทางเขตอยู่ ใช่ไหม? ค่ะคุณศิวะ”
“ครับ”
พิริยะยิ้มก่อนกล่าว
“นักธุรกิจรุ่นใหม่นี้เก่งจริงๆ ฮ่าๆๆๆ แต่อย่าประมาทนะครับ ดีไม่ดีทางเขตเขาไม่ชะลอ เขาสั่งระงับการก่อสร้างแล้วจะยุ้งไปกันใหญ่นะครับ”
“ถ้าไม่ถูกระเบียบก็ทุบทิ้งทำใหม่ก็ได้ครับ และผมก็ประมาณการดูแล้วว่า การทุบทำใหม่ก็ใช้เงินร้อยกว่าล้าน มันแค่เศษตังส์เท่านั้นเองครับคณพิริยะ”
คำพูดสวนขึ้นของศิวะทำให้เจ้าของธุรกิจคอนโดพันล้านหน้าแดงด้วยความโกธร...
“ได้..ได้..เอาละ ถ้ามั่นใจก็ดีแล้ว เออ..ตอนนี้ผมมีธุระ ยังไงผมก็ฝากความคิดถึงพ่อของหนูพิมพ์หน่อยนะ เห็นว่าไปรักษาตัวตั้งเมืองนอกเมืองนา ผมรู้ก็เลยเป็นห่วง.”
“ขอบคุณค่ะ..”
หมอสาวกล่าวขอบคุณ แม้รู้ว่ามันคือคำกระทบกระทั่ง
“ผมไปก่อนละ มีธรุะด่วนนะครับ..”
ศิวะและพิมพิชญาไม่กล่าวลา แต่ทั้งคู่มองตามนักธุรกิจเจ้าเล่ห์..ไปจนลับสายตา
“เมื่อกี๋นายพูดฉันชอบนะ”
“คนเก่งก็อย่างนี่แหละครับ”
“เออเรื่องนั้นยอมรับว่านายเก่ง แต่..สำหรับอีกเรื่องฝากไว้ก่อน”
“ไม่ต้องฝากหรอกครับ..อยากดมตอนไหนก็บอกได้ เดียวจัดให้”
ขณะที่หญิงสาวพยายามจะต่อคำ เธอก็ต้องรีบรับโทรศัพท์ที่เรียกเข้า
“มีอะไรหมอดา ..ได้สิ..ได้...ว่ามา”
หมอวณิดาเพื่อนรักของพิมพิชญาโทรมาเล่าเรื่องของศิวะ ที่รู้มาจากธีรดล ทำให้หญิงสาวต้องเงียบฟังอย่างเดียวเพราะกลัวว่าคนอยู่ด้วยจะรู้
...................................................................
โครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมของบริษัทโมเดอร์โฮมการ์เด้นจำกัด ถูกสร้างตั้งตะง่านโชว์ความก้าวหน้าของโครงการ ที่ตอนนี้ก่อสร้างไปแล้วหลายสิบชั้น จนมันได้แสดงความมั่นใจให้แก่ผู้วางเงินจับจองไว้ได้เป็นอย่างดี ขณะภายในสำนักงานชั่วคราวโครงการฯ ทีมงานก่อสร้างกำลังร่วมประชุมกันอยู่อย่างเข้มข้น
“งานก่อสร้างเดือนนี้ต่ำกว่าแผนไปประมาณสามเปอร์เซ็นต์ ..เราคงต้องเร่งงานส่วนของผู้รับเหมาช่วงให้ช่วยเร่งงานขึ้นไปอีกหน่อยนะสมจิตร”
“ครับโปรเจค”
พิมพิชญามองดูชายหนุ่มผู้นำการประชุม ที่แสดงออกถึงความตั้งใจจริงในการทำงานเพื่อธุรกิจของครอบครัวของเธอ และ จากสิ่งที่ปณิดาเล่าเรื่องราวของศิวะให้เธอได้รับรู้ มันยิ่งทำให้หญิงสาวเข้าใจศิวะมากขึ้น จนในตอนนี้ พิมพิฃญารู้ว่าความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อวิศวกรหนุ่มคนนี้ มันเริ่มบวกมากกว่าลบแล้วอย่างแน่นอน
ศิวะสรุปวาระการประชุมต่างๆ จนจบทุกวาระแล้ว จึงหันหน้ามาทางพิมพิชญา ก่อนจะกล่าวสรุปให้โฟร์แมนหกถึงเจ็ดคนรวมทั้งวิศวกรในสาขาวิชาช่างต่างๆ ของโครงการอีกสี่ห้าคน ในองค์ประชุมเพื่อจะสรุป
“วันนี้ตามที่ทราบกันดีว่า ตัวแทนของท่านประธานบริษัทมานั่งประชุมด้วย และการอนุมัติทั้งวัสดุ และ จ่าค่าแรงรายวันรายเดือน และค่ารับเหมาช่วงต่างๆ ท่านเป็นผู้อนุมัติ เราจึงขอให้ทุกฝ่ายตรวจรับงานผู้รับเหมาช่วง และการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ทำอย่าง โปร่งใส อย่าให้ท่านต้องสละเวลาอันมีค่ามาประชุมในที่เหม็นๆ สกปรกอย่างอ๊อพฟิตเราอีก”
“โปรเจคโครงการก็พูดเกินไปค่ะ ดิฉันไม่ได้มาจับผิดอะไรนะคะ และก็มั่นใจในพนักงานทุกคน ว่า...ทุกคนทำงานให้บริษัทอย่างเต็มความสามารถ และ ที่ฉันมาในวันนี้ก็น่าจะเป็นการมาประเมินตัวโปรเจคโครงการคนใหม่เท่านั้นเอง..”
“ไม่ต้องห่วงครับ ลูกพี่ศิวะสุดยอดครับ”
“ลูกพี่ไปที่ไหนเราไปที่นั่นขอให้สั่งเรามาครับ”
เมื่อพิมพิชญาพูดเช่นนั้นเหล่าโฟร์แมนต่างๆ ..ก็ช่วยกันการันตรีผู้บังคับชาของพวกเขาออกมาอย่างไม่ขาด
“เอาละๆ พอได้แล้วเรื่องนี้ ตอนนี้ผมอยากให้พวกเราที่ยังสงสัยอะไรก็ให้ถามมา เราจะได้ปิดประชุมกัน”
ศิวะรีบตัดบท เพราะรู้ว่าที่คุณหมอสาวพูด มันไม่ใช่สิ่งที่เธอตั้งใจจะทำ แต่เธอจะกวนประสาทของเขาต่างหาก และการที่ลูกน้องพูดยกยอต่างๆ นานา มันทำให้ชายหนุ่มชักจะเขิน
“ทราบว่าประธานเรียนหมอใช่ไหมครับ”
หนึ่งในที่ประชุมตั้งคำถาม เพราะหลังจากนี้ก็คงไม่มีเรื่องหนักๆ เกี่ยวกับงานแล้ว แต่คงจะเหลือการพูดคุยกันสบายๆ คลายเครียดชะมากกว่า
“ใช่ค่ะ”
“ผมใฝ่ฝันว่าอยากมีแฟนเป็นคุณหมอ ที่สวยๆ แบบประธานนี่แหละครับ”
“ไอ้โก้...มึงถลึงเกิ้น”
พิมพิชญายิ้มเพราะบรรยากาศดิบเถื่อนของงานก่อสร้างเธอรู้สึกรับได้ ขณะศิวะพูดมั่ง
“พวกนายไม่รู้เหรอ? ใครที่ได้แฟนเป็นแพทย์เป็นหมอนั่นถือว่าซวย”
หน้าสวยของหมอสาวบูดบึ้งจากคำพูดของศิวะอีกครั้ง
“ทำไมถึงเป็นยังงั้นละครับลูกพี่...”
“อ้าววกเราไม่รู้เหรอ พวกหมอเขาอนามัยจัดขนาดไหน รู้ไหม?"
"อนามัย..อนามัยแบบไหนครับลูกพี่"
ศิวะยิ้มเมื่อมีคนถามก่อนกล่าวเสียงเซ็งๆ
" อื่อ..ยังงี้ไงเช่น เวลาเราอยากจะจูบปากแฟนหมอ เธอจะว่ายังงี้ (ทำเสียงสูงล้อเลียนเสียงผู้หญิง) เธอจะจูบฉันใช่ไหม? ...ไปแปรงฟันเดียวนี้..ไม่งั้นไม่ต้องจูบ....”
“เออ...ที่ลูกพี่ว่ามามีเหตุผล”
“นั่นมันเรื่องเล็ก..แต่ถ้าเราจะนอนกับเธอ..นะเยอะกว่านี้อีก”
“ยังไง? ครับลูกพี่ศิวะ”
เสียงโฟร์แมนถามต่อทำให้ห้องประชุมเงียบกริบ เมื่อทุกคนในที่ประชุมต่างพากันตั้งใจฟังศิวะอธิบาย
“เธอก็จะว่ายังงี้ (ทำเสียงสูงล้อเลียนเสียงผู้หญิง) จะนอนกับฉันใช่ไห๊ม..ไปอาบน้ำเดียวนี้เลยนะ งั้นไม่ต้องมาแตะตัวฉัน....และพอเราอาบน้ำเสร็จหวังจะนอนกับเธอ เธอก็ยังไม่ให้นอนด้วยนะ? เพราะเธอจะเอาแอลกอฮอล์มาล้างน้องชายของเรา เพราะกลัวว่ามันจะสกปรกไม่คู่ควรกับของของ เธอ”
“ห้าๆๆๆๆ”
เสียงหัวเราะดังทั่วห้องประชุม ขณะที่พิมพิชญาทำได้เพียงนั่งยิ้มอย่างใจเย็นเพราะเธอคิดว่าครั้งนี้เธอต้องยอมเพราะมันเป็นถิ่นของศิวะ
“แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดรู้ไหม? เพราะใครได้แฟนเป็นหมอมันอาจทำให้เซ็กส์เราต้องตายด้าน”
แต่ศิวะยังมีเรื่องอธิบายต่อ
“เอ้ย..แบบไหนลูกพี่?”
“อื่ม..ก็เวลาเราจะใช้ปากกับเธอนะสิ (ออรัสเซ็ก) เธอจะห้ามไม่ให้ทำโดยเด็ดขาด (ทำเสียงสูงล้อเลียนเสียงผู้หญิง) โอ้ย ...ทำแบบนั้นไม่ได้นะมันสกปรก...แล้วเธอก็ให้พวกเราเสียบอย่างเดียว”
“ห้าๆๆๆ จริงๆ ครับลูกพี่ ผมเอาอีนิดเด็กพาณิชย์ของผมแบบเดิมดีแล้ว...ทำได้ทุกท่า..ไม่เอาแล้วแฟนมงแฟนหมอ....ห้าๆๆๆ”
“เอาละ.เอาละ.ใครมีปัญหาอะไรจะถามอีกไหม? “
“มีครับโปรเจค”
“เออฉันขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะ...มีอะไรก็ประชุมกันไปนะคะ”
พิมพิชญาลุกไปเข้าห้องน้ำ ในขณะคำถามที่ไม่มีสาระสำคัญท้ายประชุมก็ยังดำเนินการต่อ
“เอาละหมดแล้วละนะที่สงสัย..เออแล้วอย่าลืมนะสมจิตร และโก้ทีพวกนายต้องเตรียมตัวเดินทางไปเกาะกะลาเพื่อเปิดไซค์งานใหม่ที่นั่น”
“ครับ..ผม”
ขณะนั้นหมอสาวที่ไปห้องเดินเข้ามาในห้องประชุม ทำให้เธอรู้ว่าใกล้จะปิดประชุมกันแล้ว เธอจึงเดินเข้าไปใกล้ศิวะแล้วเอามือไปแตะที่จมูกของชายหนุ่มก่อนจะยิ้มตอนนั่งลง...
........................................................................
“คุณเอาอะไรเหม็นๆ มาแตะจมูกผมนี่คุณหมอ”
ศิวะใบหน้าเครียดกล่าวว่าพิมพิชญาในทันทีเมื่อทั้งคู่ขึ้นมานั่งอยู่บนรถ ที่ชายหนุ่มบังคับให้รถมันเคลื่อนออกจากไซค์งาน หลังประชุมเสร็จ
“เหม็นเหรอ? ..นี่ๆๆๆ”
หมัดเล็กรั่วไปที่หัวไหล่ของชายหนุ่มแบบไม่ยั้ง
“..นี่ๆๆๆ ...ทีเอาของตัวเอง มาให้ฉันดมตอนกินข้าวฉันยังไม่เห็นบ่น นี่ๆๆๆ”
สาวหมัดสั่งไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แต่ศิวะกับยิ้มเพราะหมัดของเธอเบาวิว์ อีกทั้งตลกกับสิ่งที่หญิงสาวเป็น
“คุณพิมพิชญาครับตอนเที่ยงนะผมล้างมือสะอาดแล้ว ผมเอามือที่ล้างแล้ว ไปล้อคุณเล่น..”
“อ้าวเหรอ?”
“แต่คุณสิ...กลิ่นหึ่งเลย ผมอดทนแทบแย่ อยากจะเช็ด..อยากจะพูดอะไรก็ไม่ได้ เพราะลูกน้องอยู่เต็มห้องประชุม และถ้าพวกเขารู้ว่า ประธานประชุมเอา...เอามือจับไอ้นั่นมาป้ายจมูกผม..ใครรู.ผมอายเขาตาย...”
“นายล้างแต่ฉันไม่ได้ล้างสักนิด แบบนี้ก็ดีแล้ว..และสมน้ำหน้าอยากแกล้งกันดีนัก”
“ไม่ได้ล้างจริงๆ เหรอ...โอ้โห้คุณ ช่างกล้าจับตรงนั้นมาให้คนอื่นดม...ยี้”
ศิวะทำหน้าตารับไม่ได้ ขณะพิมพิชญายิ้ม ก่อนจะยื่นมือไปที่หน้าชายหนุ่ม
“เอาอีกไหมล่ะ...ฉันยังไม่ได้ล้างเลยนะนี่...หอม...”
“ยัยหมอ..สัปดน..”
“ไอ้วิศวะลามก...”
ขณะนั้นเสียงไลน์เข้าโทรศัพท์พิมพิชญาเธอจึงเอามาเปิดดู จึงรู้ว่ามันคือคำสั่งจากอาจารย์หมอ ก่อนที่หญิงสาวจะพิมพ์ตอบ....
..ค่ะอาจารย์..
“เออ..ผมมีธุระนิดหน่อย เดียวผมแวะแป๊บนะครับ”
“ได้ค่ะ”
มันเป็นการพูดกันปกติแต่ทำให้ทั้งคู่รู้ว่ามันกำลังเกิดความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันเป็นครั้งแรก
......................................
“ได้ค่ะ”
เป็นการพูดกันปกติครั้งแรก ทำให้ทั้งคู่รู้ว่ากำลังเกิดความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันเป็นครั้งแรก
........................................................
นายตำรวจยกมือวันทยหัตถ์ ขณะที่ศิวะและพิมพิชญายกมือไหว้เมื่อทั้งหมดพบกันในห้องของร้อยเวรหนุ่มภายในสถานีตำรวจย่านเกิดเหตุโครงหลังคาเหล็กถล่ม จนทำให้พ่อของศิวะต้องเสียชีวิต
“เชิญนั่งครับ...พอดีเรามีข่าวคืบหน้าคดีของพ่อคุณศิวะจึงให้มาพบนะครับ”
“แล้วมันเป็นยังไงบ้างครับ”
ชายหนุ่มแสดงความอยากรู้ออกมาชัด ขณะนายร้อยตำรวจหนุ่มส่งรูปให้เขาดู
“จากภาพถ่ายเห็นชัดว่ามีคนมาแอบใช้แก๊สตัดชิ้นส่วนสำคัญของโครงหลังคาที่เตรียมยกเอาไว้ และ คนที่ทำก็รู้ว่าพ่อของคุณจะต้องไปอยู่ในตำแหน่งนั้นตอนเครนยกโครงหลังคาขึ้นมาประกอบ”
“หมวดหมายความว่า เรื่องนี้คือการฆาตกรรมใช่ไหม? ครับ”
ใบหน้าของพิมพิชญาตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าศิวะผู้ตั้งคำถาม
“ใช่แน่นอนครับ เพราะหลักฐานมันชี้ชัดได้เป็นอย่างดีว่า รอยแอบตัดโครงเหล็กเอาไว้น และเมื่อเครนยกมันขึ้นติดตั้งพ่อของคุณต้องมาสั่งการและดูแลความเรียบร้อยอยู่ตรงบริเวณนั้น สุดท้ายโครงหลังคาเหล็กที่ยกไปติดตั้งมันก็พังไปยังตำแหน่งที่พ่อคุณยืนพอดี..”
“โธ่..พ่อ ใครกันนะที่ทำแบบนี้..”
ชายหนุ่มหน้าสลดเพราะรู้แน่ชัดว่าการตายของพ่อไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุอย่างแน่นอนแล้ว และพิมพิชญาก็ทำได้เพียงใช้มือเล็กไปบีบเบาที่แขนของชายหนุ่มเพื่อเป็นกำลังใจ
“ประเด็นมีไม่มากหรอกครับ เช่นว่า เราต้องสืบหาคนที่จงเกียดจงชั่งพ่อคุณ หรือคนที่หวังเอาเงินประกันชีวิตพ่อคุณอะไรประมาณนี้แหละครับ.. ดังนั้นถ้าพ่อคุณทำประกันชีวิตเอาไว้และผู้ที่ได้สิทธิ์รับกรมธรรม์ เขาผู้นั้นคือหนึ่งในผู้ต้องสงสัยครับ”
..........................................................................................
ศิวะนั่งนิ่งขณะขับรถไปใช้ความคิดไปอยู่นาน ก่อนที่พิมพิชญาจะทำลายความเงียบ
“คงไม่สายเกินไปนะค่ะ ที่จะบอกว่าเสียใจด้วย เรื่องพ่อของคุณ”
“ขอบคุณครับ...”
เสียงขอบคุณนิ่ม ขณะปลายเสียงเป็นคำสุภาพ ทำให้บรรยากาศและความรู้สึกของหญิงสาวชื่นมืนอย่างบอกไม่ถูก
“พ่อทำประกันเอาไว้ ถึงแม้วงเงินจะไม่มากนัก แต่ผมคือคนรับกรมธรรม์”
“คุณไม่ได้ทำก็อย่าไปคิดอะไรมาก และเราควรสืบหาผู้ทำ เราจะได้รู้สาเหตุว่าเหตุอะไรทำให้เขาต้องทำอย่างนั้น”
พิมพิชญาใช่คำว่าเรา...ทำให้ชายหนุ่มหันไปมองหน้าสวยก่อนที่เขาจะหลบตาคมที่จ้องอยู่ก่อน
“ผม..ขอแวะอีกที่นะครับ”
เสียงชายหนุ่มคล้ายคนเขินอายขณะเสียงหญิงสาวตอบเสียงหวานจับใจ
“ได้ค่ะ”
รถเก๋งของสองหนุ่มสาว วิ่งเข้าไปจอดหน้าบ้านชั้นเดียวทื่อยู่ภายในหมู่บ้านจัดสรรชื่อดังก่อนที่ศิวะจะลงจากรถพร้อมกล่าว
“คุณไม่ต้องลงก็ได้...ผมไปแป๊บเดียว”
“ค่ะ”
ชายหนุ่มยังเดินไม่ถึงตัวบ้านดี ก็มีหญิงสาว ที่พิมพิชญามองดูก็รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก วิ่งเข้ามากอดศิวะในขณะที่เขาก็กอดกลับไปเช่นกัน และภาพนั้นทำให้หญิงสาวที่รออยู่ในรถ หยิบเอาโทรศัพท์มือถีอออกมาเชิร์ทกรูเกิ้ลเรื่องที่อาจารย์หมอสั่งมาทางไลท์ เพราะจิตใต้สำนึกของหญิงสาวไม่ชอบภาพที่เห็นเมื่อครู่เลย
“พี่ศิวะ ต้องมาหาแพรอีกนะ...พี่มาแต่ละครั้งก็มาแป๊บเดียว”
นานหลายนาที่ก็มีเสียงหญิงสาวเล็ดเข้าไปในรถ เพราะศิวะเปิดประตูรถออก ก่อนจะขึ้นไปนั่ง ทำให้ผู้เดินมาส่งมองเห็นพิมพิชญานั่งรออยู่ในรถ
“อ๋อนี่พี่พิมพิชญา นี่น้องแพรครับคุณพิมพ์”
“สวัสดีค่ะ”
พิมพิชญาวางโทรศัพท์มือถือที่กำลังเล่น แล้วหันไปกล่าวทักเมื่อศิวะแนะนำ แต่หญิงสาวชื่อแพรทำหน้าบึงตึงและไม่รับคำทัก
“เอาละพี่กลับก่อนนะแพร วันหลังค่อยเจอกันนะ”
ศิวะเคลื่อนรถออกไปจากบริเวณนั่นทันที่ เมื่อกล่าวลาเสร็จ
“แฟนสวยนะ ทำไมไม่แนะนำละว่าเราเป็นพี่น้องกัน เดียวเธอเข้าใจผิดแย่...”
“ก็ผมไม่อยากเป็นพี่เป็นน้องกับคุณนี่...”
คำนี้พิมพิชญาส่ายหัวไปมา เพราะคิดว่าชายหนุ่มกำลังจะเปิดศึกกับเธออีกครั้ง
“ไม่อยากเป็นก็ไม่อยากเป็น...ใครสน”
“ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่ผมอยากเป็นมากกว่านั้น”
ศิวะพูดขณะขับรถมองไปข้างหน้านิ่ง โดยไม่สนว่าหญิงสาวที่นั่งข้างจะตีความหมายคำพูดของเขาว่าอย่างไรเพราะคำว่า” อยากจะเป็นมากกว่าเป็นพี่เป็นน้อง” นั่นหมายความว่าอะไร แต่ว่าคำพูดนี้ มันทำให้พิมพิชญานั่งนิ่งเพราะไม่รู้ว่าเธอจะหาคำใดมาสนทนาต่อดี
.....................................................
ความรักใกล้จะมาแล้ว...ตามต่อนะครับ
...กระซิบแผ่ว...