บทที่12 คน..เลว

2876 Words
ศิวะถือกุญแจมาตเตอร์คีส์ที่เอาจากแม่บ้านเดินมาเปิดประตูห้องพิมพิชญา ก่อนที่จะเดินเอาโทรศัพท์มือถือของเจ้าของห้องไปวางไว้บนโต๊ะทำงานในห้อง ชายหนุ่มจึงหันหลังเพื่อจะเดินกลับ แต่สายตาของศิวะมองไปเห็นอะไรบางอย่าง? และสิ่งนั้นมันทำให้ชายหนุ่มจ้องมองมันอยู่นานก่อนจะกล่าวเสียงขม “ผู้หญิงสาระเลว” .................................................... พิมพิชญากลับมาถึงบ้าน ก็เร่งเดินไปยังห้องของเธอ แต่หญิงสาวไปถึงเธอกับไม่เห็นโทรศัพท์ที่ศิวะบอกว่าจะเอามันมาไว้ให้ที่ห้อง หญิงสาวจึงหยุดคิดนิดหนึ่งก่อนจะตัดสินใจเดินไป เพื่อจะขอรับโทรศัพท์คืน เพราะเธอมีเรื่องจำเป็นต้องใช้มัน ..ก๊อกๆๆๆ.. “คุณศิวะ พิมพ์มาขอมือถือคืนค่ะ” “ไม่ต้องเคาะก็ได้มั่ง ครั้งก่อนก็เห็นเข้ามาเลย...ไม่เห็นจะเกรงใจ” เสียงดังออกมาจากห้องศิวะ ที่พิมพิชญามายืนเรียก ทำให้หญิงสาวดันประตูเปิดเข้าไปเพราะมันไม่ได้ล๊อก “ครั้งก่อนพิมพ์ขอโทษนะคะ” พิมพิชญากล่าวเมื่อพบศิวะยืนอยู่กลางห้อง ก่อนที่จะบอกสิ่งที่เธอประสงค์ “เออพอดีพิมพ์ไปที่ห้องพิมพ์มาแล้ว ไม่เห็นมือถือ..แต่...เอ๊ะ..คุณ..” พิมพิชญาที่กำลังอธิบายว่าเธอมาเพื่ออะไร แต่หญิงสาวเห็นศิวะกำลังใช้มือเขี่ยหน้าจอโทรศัพท์ที่เธอจำได้ว่ามันเป็นของเธอ “นั่นมันมือถือของพิมพ์ไม่ใช่เหรอคะ? ...” “ใช่...” หญิงสาวรู้สึกฉุนอย่างแรงเพราะมือถือที่มีข้อมูลในนั้น มันคือความเป็นส่วนตัวที่ทุกคนต้องหวง แต่ตอนนี้มันกำลังมีคนดูมันอยู่ “คุมมีมารยาทหรือเปล่า...ทำไมเล่นโทรศัพท์ของคนอื่น...” “ทำไม? ...กลัวคนอื่นจะเห็นสิ่งเลวๆ ที่คุณทำเอาไว้เหรอ? ...คุณหมอคนสวย” หญิงสาวรู้ว่าชายที่เธอรู้จักก่อนหน้านี้...หายไปไหนแล้วไม่รู้ “คุณทำดีก็ทำได้...แต่ทำไมชอบทำแบบนี้คุณศิวะ...เอามา เอามือถือฉันคืนมาเดียวนี้...” “ผมทำดีกับคนดี...และทำเลวกับคนที่สารเลวอย่างคุณไง พิมพิชญา? ...และถ้าอยากได้มันนักก็เข้ามาเอาสิ” ศิวะพูดจบหญิงสาวก็เดินตรงเข้าไปเพื่อที่จะแย่งเอามือถือมาจากมือของศิวะ ด้วยความโกธร.. แต่เขาหลบมันจึงทำให้หญิงสาวตกเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม... “อุย...ปล่อยฉัน...นะ” “ได้...จัดให้...” ศิวะกล่าวเสียงห้วนก่อนที่หญิงสาวจะถูแรงเหวี่ยงจนทำให้ร่างบางเชถล่าล้มลงบนพื้นห้องอย่างแรง... “โอ๊ย...” หญิงสาวรู้สึกเจ็บส่วนที่กระแทรกพื้น และถ้าเธอถือปืนมาด้วยเธอคงไม่ปล่อยชายผู้ทำร้ายเธอเอาไว้แน่ แต่ครั้งนี้หญิงสาวทำได้เพียงพูดยินยอม “ได้...อยากได้ก็เอาไป...ฉันไม่เอาก็ได้...” พิมพิชญาค่อยๆ ลุกขึ้นเพราะความเจ็บ โดยหญิงสาวคิดจะเดินไปยังประตูทางออก แต่ชายผู้หวังจะข่มเหงรีบเดินไปกดล็อคประตู ก่อนจะจับแขนของเธอลากกลับเข้ามากลางห้อง แล้วเหวี่ยงหมอสาวขึ้นไปบนเตียง “โอ๊ย..” เสียงร้องด้วยความเจ็บดังออกมาจากปากของหญิงสาวอีกครั้ง “..นายๆ เลวมาก.. ฉัน..ฉัน..ไปทำอะไรให้คุณ? .คุณ..คุณ...ถึง..ถึง...” น้ำตาของหญิงสาวเริ่มไหลออกมานองแก้ม.. แต่น้ำตานั่นมันไม่ใช่เพราะความเจ็บ แต่มันเป็นความอัดอั้นใจจากการถูกรังแก แบบที่เธอไม่มีทางที่จะสู้ “ได้...แล้วจะรู้ว่าเธอนั้นมันร่านขนาดไหน” คำว่าร่านทำให้พิมพิชญาจ้องหน้าศิวะเขม็งขณะรอฟังเขากล่าวต่อ “ดู..ว่านี่มัน...มัน..คือเธอใช่ไหม? ” ศิวะเอามือถือของเขา ที่เปิดไฟร์ภาพใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่งที่เอามือปิดปากเอาไว้ ไปให้พิมพิชญาดู และภาพนั้นมันทำให้หมอสาวรู้ในทันทีว่า..มันคือภาพของอภิญาน้องสาวของเธอ “นี่เธอ..ใช่ไหม?” ชายหนุ่มเอามือจับผมของหญิงสาวนั่งอยู่พื้นเตียง แล้วดึงให้เงยหน้าขึ้น เพื่อจะให้เธอมองดูภาพบนโทรศัพท์มือถือของเขาให้ชัดๆ ก่อนที่ย้ำถาม “เธอ..ใช่ไหม?” “นั่น..นั่น..ไม่ใช่ฉัน...” ศิวะดึงผมพิมพิชญารั้งขึ้นอีก จนทำให้หญิงสาวรู้สึกเจ็บแป๊บ ก่อนชายหนุ่มจะขยับหน้าเข้าไปตะครอกใส่หน้าของเธอ “สารเลว...ภาพนี้มันถ่ายในห้องของเธอชัดๆ ดูรูปที่ติดอยู่ที่ผนัง และนาฬิกาในรูปนี้สิ...มันเป็นสถานที่เดียวกันกับผนังห้องของเธอแบบไม่มีผิด แล้วยังจะมาโกหกอีก...นังผู้หญิงสารเลว” พิมพิชญาเจ็บตัวไม่เท่าไหร่ แต่คำด่าที่ทำให้เจ็บใจนี้สิมันทำให้เธอปวดร้าวกว่า จนตอนนี้หญิงสาวต้องร้องไห้ออกมาพร้อมกล่าวโต้ “อือ..ทำไหม...เป็นรูปฉันแล้วทำไม...คนเลว...อือๆ” จากความรุนแรงที่หญิงสาวถูกกระทำในขณะนี้ แม้จะเป็นตายร้ายดียังไง พิมพิชญาก็จะไม่ปริปากบอกว่า ภาพนั้นคือน้องสาวของเธออย่างเด็ดขาด เพราะสัตว์ป่าในคราบมนุษย์อย่างศิวะ คงจะไม่ยอมปล่อยน้องสาวเธอไปแน่ถ้าเขารู้ว่าภาพนั้นเป็นเธอ “ยอมรับแล้วใช่ไหม? ...” “ใช่..แล้ว..จะทำไม?” “ได้..งั้นผมจะขอถามคุณเป็นคำถามสุดท้าย..พิมพิชญา? .. “ ชายหนุ่มกล่าวเสียงเรียบ แต่มันดูน่ากลัวยิ่งในสายตาของหญิงสาว “..........” “คุณขอโทษสิครับพิมพิชญา แล้วผมจะไม่คิดโทษหรือโกธรคุณอีก..” พิมพิชญาจ้องหน้าศิวะ เพราะเธอไม่รู้ว่าเธอหรือน้องสาวผิดเรื่องอะไรถึงต้องขอโทษ “ฉันขอโทษไม่ได้...เพราะฉันไม่รู้ว่าฉันไปทำอะไรให้คุณเจ็บแค้น..” หญิงสาวน้ำตานองหน้า กล่าวในสิ่งที่เธอไม่รู้จริงๆ “คุณก็รู้? ว่าน้องชายผม...ต้องฆ่าตัวตายก็เพราะคุณ...แต่..แต่..เรื่องนั่นมันก็ไม่เป็นไร? เพราะว่าน้องชายของผม เขาอ่อนแอเกินไปสำหรับโลกใบนี้ แต่คุณก็น่าจะรู้สึกผิดบ้าง และควรบอกผมมาว่า..คุณเสียใจกับเรื่องนี้...แต่คุณกับ..เห็นผม โง่..โง่..โง่..โง่.....” ศิวะตะครอกเสียงใส่หน้าพิมพิชญาสุดเสียง...ก่อนที่เธอจะเห็นน้ำตาของลูกผู้ชายอย่างศิวะไหลออกมาจากสองตา “คุณศิวะ...คุณเห็นแค่รูปที่ฉันไม่รู้ว่าคุณเอามาจากไหน? แต่คุณก็ปักใจเชื่อ แล้วว่าน้องชายคุณตายเพราะฉัน ฉันขอบอกตรงๆ นะ..ว่าฉันไม่เคยรู้จักน้องชายของคุณด้วยซ้ำ” สิ้นเสียงของหญิงสาว ศิวะที่ยืนนิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาจนเต็มสองแก้มค่อยๆ หันหน้ากลับมากล่าวกับหญิงสาวที่ผวังกับอารมณ์ของชายหนุ่มในตอนนี้ “นี่ไงครับ...คุณชอบโกหก..” ศิวะกล่าวเบาขณะจ้องหน้าพิมพิชญาด้วยสายตาที่เฉยชาก่อนที่จะตะเบ่งเสียงออกมาสุดเสียง.. “.เพราะคุณคือนังผู้หญิแพศยาไง...” ศิวะตะโกนด่าพิมพิชญา แล้วฟาดมือไปยังใบหน้าของหญิงสาวสุดแรง.. ..เพี้ย.. พิมพิชญาหน้าสะบัด และชาไปทั้งแก้มด้านถูกตบ... ก่อนที่มือใหญ่จะจิกผมของเธอดึงขึ้น...เพื่อให้มองจอมือถือของพิมพิชญาเอง ที่ตอนนี้ศิวะเอามันมาจ่อไว้ที่หน้าของเธอ... “ดู..ดู...พิมพิชญา..” ศิวะกล่าวเสียงเบาแต่หญิงสาวเสียวไปถึงสันหลัง “คุณเป็นต้นเหตุทำให้น้องผมตาย นั้นมันก็เป็นเรื่องของเวรกรรม ผมก็ยังพออภัยให้คุณได้..พิมพิชญา แต่..แต่..คุณชอบหลอก ชอบปั่นหัวผม เพราะนั่นเพราะว่าคุณเห็น..ว่าผมโง่มาก...ใช่ไหม?” “อือๆ ....” พิมพิชญาร้องไห้น้ำตานองหน้าเพราะทั้งเจ็บตัว เจ็บใจ โดยไม่รู้ว่าเธอผิดอะไร ก่อนที่สายตาจะชำเลื่องอ่านชื่อที่ปรากฏอยู่บนจอโทรศัพท์ ที่หญิงสาวจำได้ว่าเธอเองเป็นคนเชิร์ทเข้าไปในกรูเกิ้ล แล้วทิ้งค้างข้อความคำค้นว่า “วัชระ กำจรกิจ”เอาไว้ “คุณไม่รู้จักน้องผม..แล้ว แล้ว..โทรศัพท์ของคุณมันมีชื่อน้องชายผมได้ยังไง? นังผู้หญิงอัปรีย์..นังผู้หญิงร้อยเล่ห์” คำด่าของชายหนุ่ม..พิมพิชญาเจ็บลึกจนเกินคำบรรยาย แต่ตอนนี้หญิงสาวก็รู้แล้วว่าทำไมชายหนุ่มถึงได้โมโหมากมายนัก.. อีกทั้งตอนนี้พิมพิชญารู้แล้วว่า ผู้หญิงที่ทำให้น้องชายศิวะต้องฆ่าตัวตายก็คือ...แบม หญิงสาวที่เข้ามาร่วมบำบัดจิตโครงการงานวิจัยของเธอ เพราะชื่อน้องชายของศิวะ อาจารย์หมอคือผู้ส่งมาให้เธอ เพื่อให้เธอค้นหาข้อมูลแฟนที่ฆ่าตัวตายของแบม...เมื่อรู้เช่นนั้นพิมพิชญาจึงจะพยายามอธิบาย “มัน..มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด...ฉัน...ฉัน..รู้แล้ว..ว่า...โอ๊ย” หญิงสาวพยายามอธิบายแต่ชายหนุ่มคิดว่ามันเป็นเพียงคำแก้ตัว เขาจึงกระชาก ร่างพิมพิชญาลงมาจากเตียงทั้งที่หญิงสาวพูดยังไม่ทันจบ...ก่อนที่เขาจะเหวี่ยงร่างของเธอจากเตียงสูงลงไปกระแทกกับพื้นแข็งกลางห้อง.. “โอ๊ย..” “ไม่ต้องมาโกหกผมอีก...และ..คุณจะไปไหนก็ไป...ผมไม่ต้องการฟังคำโกหกของคนเลวๆ เยี่ยงคุณ..อีกแล้ว...” “คุณ...คุณมัน..เป็นคนไม่มีสติ ..รังแกแต่คนอ่อนแอกว่า...มีปัญญาแค่หากินกับผู้หญิง ไอ้..ไอ้...ผู้ชายขายตัว..” พิมพิชญาโมโหจนลืมตัว จึงด่าออกไปทุกๆ คำที่คิดได้ “...............” . สิ้นคำด่าหญิงสาวก็ต้องตาเหลือกโพลง เพราะชายที่ยังสุมไปด้วยความเคียดแค้น และชิงชังตรงหน้า กำลังยืนเกร็งร่างใหญ่ ขณะลมหายใจเข้าออกแบบถี่ยิบ ในขณะดวงตาจ้องเล็งมายังร่างของเธอเขม็ง “...........” และที่เลวร้ายที่สุด...หญิงสาวรู้ว่าเธอได้พลั้งปากด่าทอ ถึงสิ่งที่เธอรู้ว่า..ผู้ชายคนนี้เกียดนักเกียดหนาถ้ามีใครมาด่าเขาว่า...ไอ้ผู้ชายขายตัว... “คุณ..ว่าอะไรนะพิมพิชญา...” เสียงเรียบของศิวะทำให้หญิงสาวถึงกับนั่งนิ่งตัวสั่น “ฉัน...ฉัน..ขอ..โทษ...” ไม่ทันแล้วสำหรับคำขอโทษ เพราะร่างใหญ่กระโจนเข้าไปบดจูบปากหญิงสาวที่นั่งอยู่บนพื้น โดยเขาไม่สนว่าหญิงสาวจะพยายามดิ้นรนเพื่อหนีให้พ้นเอื้อมมืออสูรอย่างเขาอย่างไร เพราะสหพละกำลังทั้งหมดของผู้ชายในตัวของศิวะ ได้ถูกใช้กระทำเพียง เพื่อจะข่มเหงหญิงสาวผู้อ่อนแอกว่าอย่างพิมพิชญาเท่านั้น ในตอนนี้... “อย่า..คะอย่า....อย่า..” กระดุมเสื้อของหญิงสาว กระเด็นกระจัดกระจายไปคนละทิศ ด้วยมือใหญ่ที่ดึงกระชากเสื้อของหญิงสาวอย่างสุดแรง ก่อนที่ยกทรงสีเนื้อมันจะขาดติดมือผู้หมายจะข่มเหงตามไปอีกตัว จนในตอนนี้เต้าสวยมันต้องไร้อาภรณ์ปกปิด เมื่อมันหลุดออกมาโชว์เด่นต่อหน้าชายใจอสูร “....หยุด...อย่าทำพิมพ์..อือๆ” พิมพิชญาทำได้แค่ร้องไห้ออกมาพร้อมอ้อนวอนเพื่อขอความกรุณา ขณะร่างใหญ่พยายามขึ้นไปนอนทาบทับบนตัวของเธอ “อย่าทำพิมพ์..อือ.อือ..” เสียงเล็กพยายามพูดแต่มันช่างไร้ผล เพราะ ตอนนี้ปากซาตานกำลังดูดดื่มปลายปทุมของหญิงสาวอย่างรุนแรง แบบ ไร้ซึ่งจิตใจของความปรานี “หยุด...พิมพ์เจ็บ...อือๆ .” มือใหญ่บีบคั้นเต้าอวบเต็มแรง จนพิมพิชญาเจ็บแทบจะขาดใจ ทำให้เธอพยายามขยับตัวหนี แต่หญิงสาวก็ต้องจำเร่งหนีบสองขาให้มันติดกันเอาไว้ เพราะมีมือล้วงเข้าไปยังใต้กระโปรง แล้วจับกางเกงในตัวจิ๋วของเธอดึงรัง จนมันต้องขาดติดมือชายใจทรามออกมาอีกตัว “อย่าค่ะ..คุณศิวะ..อย่าทำพิมพ์...เลย..นะ..นะ..คะ..อือๆ ..” ชายผู้บ้าคลั่งไม่ยอมหยุดตามคำวอนที่มีเพียงเสียงแห่งความหวาดกลัว เพราะร่างใหญ่รูดถอดกางเกงของเขาลงไปคาไว้ที่ขา ก่อนที่จะใช้สองมือออกแรงเต็มกำลัง เพื่อที่จะแยกขาที่หนีบติดกันเอาไว้ชิดของพิมพิชญาให้มันห่างออกจากกัน ก่อนอสูรกายจะพาร่างแกร่งเข้าไปนอนแทรกกระหว่างสองขาเมือแรงต้านแพ้พ่าย “คุณศิวะ ..อือๆ กรุณา...พิมพ์..เถอะค่ะ...อย่า..อย่า..ทำอะไรพิมพ์เลย.อือๆ ..” หญิงสาวเค้นคำพูดใดก็ช่าง ที่มันจะทำให้เธอได้รับการปลอดปล่อย แต่ไม่รู้ว่าสัตว์ป่าหรืออสูรตนใดไม่ทราบได้..ที่มันมาสิงสู่ร่างวิศวะกรหนุ่ม เพราะ ว่าตอนนี้เขาไม่ได้ยินเสียงอ้อนวอนที่น่าเวทนา ของหญิงสาวที่พยายามจะขยับหนีอยู่ใต้ร่างใหญ่แม้เพียงนิด “อย่าค่ะ...อย่า...โอ๊ย” ความเจ็บปวดสุดใจ เมื่อเยื่อบางฉีกขาด เมื่อความรู้สึกที่คับแน่นมันลามมาถึงหู จนอื้ออึง ขณะร่างมนุษย์จิตใจอสูรนอนนิ่งทับ เมื่อเริ่มรู้สึกได้ถึงสิ่งที่ตนกระทำ .... “.................” พิมพิชญานอนนิ่งน้ำตาไหลพราก เพราะหญิงสาวทำอะไรไม่ได้อีกแล้วนอกจากนอนนิ่งแล้วร้องไห้ออกมาเต็มความรู้สึก “..อือ...” “พิมพ์...คุณ...” “อือ..อือ..” เสียงสะอื้นไม่เคยจางจากหญิงสาว ขณะที่ร่างเล็กค่อยๆ พลิกกายหนี จากชายที่ยอมผ่อนปน ก่อนมือเล็กจะพยายามรวบเสื้อที่ไร้กระดุมให้คลุมปกทรวงอกที่แสนหวง แล้วพยายามตะกายตัวให้ห่างจากชายผู้ไร้ซึงความปรานีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้.. ก่อนร่างเล็กจะลุกขึ้นเพื่อหนีจากนรกขุมนี้ “พิมพ์...” ร่างเล็กเซขณะยืน จนชายผู้เพ่งมองด้วยจิตสำนึก เรียกชื่อหญิงสาวแล้วขยับหมายจะเข้าพยุง แต่ชายเลวกับถูกดันอกเอาไว้ “ไม่ต้องคะ...พิมพ์ไม่เป็นไร…” เลือดแดงสดไหลลงมาตามขาอ่อน เมื่อหญิงสาวลุกยืนเต็มตัว และนั้นประจักษ์ว่าเธอคือสาวบริสุทธิ์ และ สิ่งนั้นมันยิ่งทำให้จิตใต้สำนึกของศิวะพุ่งขึ้นสูง แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่มองดูหญิงสาวที่ถูกเขากระทำ ค่อยๆ พาร่างที่บอกซ้ำค่อยๆ ก้าวออกจากอเวจีสำหรับเธอไป “พิมพ์...แค่คุณขอโทษ...ผมคงไม่เลวขนาดนี้...” ศิวะใจสลายเพราะรู้ว่าเขามีความรู้สึกลึกๆ อย่างไรกับหญิงสาวที่ชื่อพิมพิชญา.. ……………………………………………………… .เช้าวันทำงานที่พนักงาน และผู้คนและผู้เกี่ยวข้องในอาคารขนาดใหญ่พากันเดินอย่างขวักไขว่ ขณะที่.พิมพิชญาเร่งเดินผ่านประตูเข้าไปในสถาบันงานวิจัยแห่งนี้ด้วยความรีบเร่ง “นั่นหน้าแกไปโดนอะไรมาวะ...พิมพ์” วณิดาใบหน้าแสดงออกเพียงความโมโห ในขณะที่ใช้มือลูบแก้มที่แดงเป็นปื้นของเพื่อนรัก ผู้ที่พึ่งมาถึง “ไม่มีอะไรหรอก...ดา” พิมพิชญาก้มหน้าตอนตอบ ทำให้วณิดารู้แน่ชัดว่า เพื่อนเธอถูกข่มเหงมา ก่อนจะมีเสียงโทรศัพท์เรียกเข้า จนทำให้พิมพิชญายกมันขึ้นเช็กว่าใครโทรมา แต่เธอก็ไม่คิดจะรับ “เป็นมันใช่ไหม? เอาโทรศัพท์มานี่พิมพ์” ผู้ที่โกธรแค้นแทนเพื่อนแย่งเอาโทรศัพท์เจ้าปัญหามากดรับ “มีอะไรว่ามา...” “พิมพ์ครับ...ที่ผมทำ..ผมขอโทษ” “เอ๊ะ...นั้นพี่ศิวะหรือเปล่าคะ” วณิดาจำเสียงศิวะได้ ขณะที่พิมพิชญารีบแย่งโทรศัพท์มาจากมือเพื่อนแล้วกดสายทิ้ง “เอ้ย...พี่ศิวะทำไมทำแกขนาดนี้วะ? ...ถ้าเรื่องนี้ไม่เครีย์ ฉันไม่ยอมนะแก...” ผู้ถูกคะยั่นคะย่อเอามือไปสัมผัสหน้าจอโทรศัพท์ แล้วเอาจอยกให้เพื่อนของเธอดูชื่อที่ปรากฏอยู่บนนั้น “ชื่อคนนี้คือน้องชายของคุณศิวะที่ฆ่าตัวตาย” วณิดาทำหน้าสงสัยเมื่อพิมพิชญาพูดถึงน้องชายที่ฆ่าตัวตายของศิวะก่อนจะอ่านชื่อบนจอมือถือ “อืม..วัชระ กำจรกิจ...เอ๊ะ...นี้มันก็คือชื่อแฟนของแบมที่ฆ่าตัวตายไปเมื่อสองปีก่อนนี่...เออ..และ..นั่นมันก็แสดงว่า...” ...................................................... “ใช่ไอ้เวร น้องมึงฆ่าตัวตายเพราะผู้หญิงที่ชื่ออรัญญา ที่มีชื่อเล่นว่าแบม...ไม่ใช่พิมพิชญา” “แล้วทำไหม? พิมพ์เธอไม่อธิบาย...” ธีรดลส่วยหัว ก่อนจะด่าเพื่อนด้วยสายตาเคือง “เธออธิบายสิแต่มึงเลวไงเพื่อน... หมอดาบอกกูว่าหมอพิมพ์จะอธิบายให้มึงเข้าใจ แต่มึงก็...ตบเอา..ตบเอา..” ศิวะย้อนคิดถึงสิ่งที่เขากะทำต่อพิมพิชญา ที่มันเป็นอะไรที่ช่างเลวร้าย จนทำให้ชายหนุ่มรู้สึกใจหาย และยิ่งธีรดลผู้ที่วณิดาวานให้มาบอกความจริงว่า...พิมพิชญาเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยในสิ่งที่เขากล่าวหา เพราะว่าทุกอย่าง มันคือเรื่องที่ศิวะคิดไปเอง และก็เออไปเอง แล้วเขาก็ได้พิภาคษา พร้อมกับลงทัณฑ์พิมพิชญา ด้วยบทลงโทษที่แสนโหดเหี้ยมและสิ่งนั้นมันยิ่งทำให้ศิวะ รู้ว่าเขานั้นเลวขนาดไหน.. ..............ตามต่อนะครับ................ ไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพิมพิชญากับศิวะจะจบลงอย่างไร แต่ไรท์ก็ขอบอกว่าเรื่องราวต่างๆนั่น มันเพิ่งจะเริ่มต้นและความเข้มข้นของเรื่องราวข้างหน้า มันรอให้รี๊ดเดอร์ตามมาสัมผัสอยู่ครับ ...กระซิบแผ่ว..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD