ศิวะถือกุญแจมาตเตอร์คีส์ที่เอาจากแม่บ้านเดินมาเปิดประตูห้องพิมพิชญา ก่อนที่จะเดินเอาโทรศัพท์มือถือของเจ้าของห้องไปวางไว้บนโต๊ะทำงานในห้อง
ชายหนุ่มจึงหันหลังเพื่อจะเดินกลับ แต่สายตาของศิวะมองไปเห็นอะไรบางอย่าง? และสิ่งนั้นมันทำให้ชายหนุ่มจ้องมองมันอยู่นานก่อนจะกล่าวเสียงขม
“ผู้หญิงสาระเลว”
....................................................
พิมพิชญากลับมาถึงบ้าน ก็เร่งเดินไปยังห้องของเธอ แต่หญิงสาวไปถึงเธอกับไม่เห็นโทรศัพท์ที่ศิวะบอกว่าจะเอามันมาไว้ให้ที่ห้อง หญิงสาวจึงหยุดคิดนิดหนึ่งก่อนจะตัดสินใจเดินไป เพื่อจะขอรับโทรศัพท์คืน เพราะเธอมีเรื่องจำเป็นต้องใช้มัน
..ก๊อกๆๆๆ..
“คุณศิวะ พิมพ์มาขอมือถือคืนค่ะ”
“ไม่ต้องเคาะก็ได้มั่ง ครั้งก่อนก็เห็นเข้ามาเลย...ไม่เห็นจะเกรงใจ”
เสียงดังออกมาจากห้องศิวะ ที่พิมพิชญามายืนเรียก ทำให้หญิงสาวดันประตูเปิดเข้าไปเพราะมันไม่ได้ล๊อก
“ครั้งก่อนพิมพ์ขอโทษนะคะ”
พิมพิชญากล่าวเมื่อพบศิวะยืนอยู่กลางห้อง ก่อนที่จะบอกสิ่งที่เธอประสงค์
“เออพอดีพิมพ์ไปที่ห้องพิมพ์มาแล้ว ไม่เห็นมือถือ..แต่...เอ๊ะ..คุณ..”
พิมพิชญาที่กำลังอธิบายว่าเธอมาเพื่ออะไร แต่หญิงสาวเห็นศิวะกำลังใช้มือเขี่ยหน้าจอโทรศัพท์ที่เธอจำได้ว่ามันเป็นของเธอ
“นั่นมันมือถือของพิมพ์ไม่ใช่เหรอคะ? ...”
“ใช่...”
หญิงสาวรู้สึกฉุนอย่างแรงเพราะมือถือที่มีข้อมูลในนั้น มันคือความเป็นส่วนตัวที่ทุกคนต้องหวง แต่ตอนนี้มันกำลังมีคนดูมันอยู่
“คุมมีมารยาทหรือเปล่า...ทำไมเล่นโทรศัพท์ของคนอื่น...”
“ทำไม? ...กลัวคนอื่นจะเห็นสิ่งเลวๆ ที่คุณทำเอาไว้เหรอ? ...คุณหมอคนสวย”
หญิงสาวรู้ว่าชายที่เธอรู้จักก่อนหน้านี้...หายไปไหนแล้วไม่รู้
“คุณทำดีก็ทำได้...แต่ทำไมชอบทำแบบนี้คุณศิวะ...เอามา เอามือถือฉันคืนมาเดียวนี้...”
“ผมทำดีกับคนดี...และทำเลวกับคนที่สารเลวอย่างคุณไง พิมพิชญา? ...และถ้าอยากได้มันนักก็เข้ามาเอาสิ”
ศิวะพูดจบหญิงสาวก็เดินตรงเข้าไปเพื่อที่จะแย่งเอามือถือมาจากมือของศิวะ ด้วยความโกธร.. แต่เขาหลบมันจึงทำให้หญิงสาวตกเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม...
“อุย...ปล่อยฉัน...นะ”
“ได้...จัดให้...”
ศิวะกล่าวเสียงห้วนก่อนที่หญิงสาวจะถูแรงเหวี่ยงจนทำให้ร่างบางเชถล่าล้มลงบนพื้นห้องอย่างแรง...
“โอ๊ย...”
หญิงสาวรู้สึกเจ็บส่วนที่กระแทรกพื้น และถ้าเธอถือปืนมาด้วยเธอคงไม่ปล่อยชายผู้ทำร้ายเธอเอาไว้แน่ แต่ครั้งนี้หญิงสาวทำได้เพียงพูดยินยอม
“ได้...อยากได้ก็เอาไป...ฉันไม่เอาก็ได้...”
พิมพิชญาค่อยๆ ลุกขึ้นเพราะความเจ็บ โดยหญิงสาวคิดจะเดินไปยังประตูทางออก แต่ชายผู้หวังจะข่มเหงรีบเดินไปกดล็อคประตู ก่อนจะจับแขนของเธอลากกลับเข้ามากลางห้อง แล้วเหวี่ยงหมอสาวขึ้นไปบนเตียง
“โอ๊ย..”
เสียงร้องด้วยความเจ็บดังออกมาจากปากของหญิงสาวอีกครั้ง
“..นายๆ เลวมาก.. ฉัน..ฉัน..ไปทำอะไรให้คุณ? .คุณ..คุณ...ถึง..ถึง...”
น้ำตาของหญิงสาวเริ่มไหลออกมานองแก้ม.. แต่น้ำตานั่นมันไม่ใช่เพราะความเจ็บ แต่มันเป็นความอัดอั้นใจจากการถูกรังแก แบบที่เธอไม่มีทางที่จะสู้
“ได้...แล้วจะรู้ว่าเธอนั้นมันร่านขนาดไหน”
คำว่าร่านทำให้พิมพิชญาจ้องหน้าศิวะเขม็งขณะรอฟังเขากล่าวต่อ
“ดู..ว่านี่มัน...มัน..คือเธอใช่ไหม? ”
ศิวะเอามือถือของเขา ที่เปิดไฟร์ภาพใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่งที่เอามือปิดปากเอาไว้ ไปให้พิมพิชญาดู และภาพนั้นมันทำให้หมอสาวรู้ในทันทีว่า..มันคือภาพของอภิญาน้องสาวของเธอ
“นี่เธอ..ใช่ไหม?”
ชายหนุ่มเอามือจับผมของหญิงสาวนั่งอยู่พื้นเตียง แล้วดึงให้เงยหน้าขึ้น เพื่อจะให้เธอมองดูภาพบนโทรศัพท์มือถือของเขาให้ชัดๆ ก่อนที่ย้ำถาม
“เธอ..ใช่ไหม?”
“นั่น..นั่น..ไม่ใช่ฉัน...”
ศิวะดึงผมพิมพิชญารั้งขึ้นอีก จนทำให้หญิงสาวรู้สึกเจ็บแป๊บ ก่อนชายหนุ่มจะขยับหน้าเข้าไปตะครอกใส่หน้าของเธอ
“สารเลว...ภาพนี้มันถ่ายในห้องของเธอชัดๆ ดูรูปที่ติดอยู่ที่ผนัง และนาฬิกาในรูปนี้สิ...มันเป็นสถานที่เดียวกันกับผนังห้องของเธอแบบไม่มีผิด แล้วยังจะมาโกหกอีก...นังผู้หญิงสารเลว”
พิมพิชญาเจ็บตัวไม่เท่าไหร่ แต่คำด่าที่ทำให้เจ็บใจนี้สิมันทำให้เธอปวดร้าวกว่า จนตอนนี้หญิงสาวต้องร้องไห้ออกมาพร้อมกล่าวโต้
“อือ..ทำไหม...เป็นรูปฉันแล้วทำไม...คนเลว...อือๆ”
จากความรุนแรงที่หญิงสาวถูกกระทำในขณะนี้ แม้จะเป็นตายร้ายดียังไง พิมพิชญาก็จะไม่ปริปากบอกว่า ภาพนั้นคือน้องสาวของเธออย่างเด็ดขาด เพราะสัตว์ป่าในคราบมนุษย์อย่างศิวะ คงจะไม่ยอมปล่อยน้องสาวเธอไปแน่ถ้าเขารู้ว่าภาพนั้นเป็นเธอ
“ยอมรับแล้วใช่ไหม? ...”
“ใช่..แล้ว..จะทำไม?”
“ได้..งั้นผมจะขอถามคุณเป็นคำถามสุดท้าย..พิมพิชญา? .. “
ชายหนุ่มกล่าวเสียงเรียบ แต่มันดูน่ากลัวยิ่งในสายตาของหญิงสาว
“..........”
“คุณขอโทษสิครับพิมพิชญา แล้วผมจะไม่คิดโทษหรือโกธรคุณอีก..”
พิมพิชญาจ้องหน้าศิวะ เพราะเธอไม่รู้ว่าเธอหรือน้องสาวผิดเรื่องอะไรถึงต้องขอโทษ
“ฉันขอโทษไม่ได้...เพราะฉันไม่รู้ว่าฉันไปทำอะไรให้คุณเจ็บแค้น..”
หญิงสาวน้ำตานองหน้า กล่าวในสิ่งที่เธอไม่รู้จริงๆ
“คุณก็รู้? ว่าน้องชายผม...ต้องฆ่าตัวตายก็เพราะคุณ...แต่..แต่..เรื่องนั่นมันก็ไม่เป็นไร? เพราะว่าน้องชายของผม เขาอ่อนแอเกินไปสำหรับโลกใบนี้ แต่คุณก็น่าจะรู้สึกผิดบ้าง และควรบอกผมมาว่า..คุณเสียใจกับเรื่องนี้...แต่คุณกับ..เห็นผม โง่..โง่..โง่..โง่.....”
ศิวะตะครอกเสียงใส่หน้าพิมพิชญาสุดเสียง...ก่อนที่เธอจะเห็นน้ำตาของลูกผู้ชายอย่างศิวะไหลออกมาจากสองตา
“คุณศิวะ...คุณเห็นแค่รูปที่ฉันไม่รู้ว่าคุณเอามาจากไหน? แต่คุณก็ปักใจเชื่อ แล้วว่าน้องชายคุณตายเพราะฉัน ฉันขอบอกตรงๆ นะ..ว่าฉันไม่เคยรู้จักน้องชายของคุณด้วยซ้ำ”
สิ้นเสียงของหญิงสาว ศิวะที่ยืนนิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาจนเต็มสองแก้มค่อยๆ หันหน้ากลับมากล่าวกับหญิงสาวที่ผวังกับอารมณ์ของชายหนุ่มในตอนนี้
“นี่ไงครับ...คุณชอบโกหก..”
ศิวะกล่าวเบาขณะจ้องหน้าพิมพิชญาด้วยสายตาที่เฉยชาก่อนที่จะตะเบ่งเสียงออกมาสุดเสียง..
“.เพราะคุณคือนังผู้หญิแพศยาไง...”
ศิวะตะโกนด่าพิมพิชญา แล้วฟาดมือไปยังใบหน้าของหญิงสาวสุดแรง..
..เพี้ย..
พิมพิชญาหน้าสะบัด และชาไปทั้งแก้มด้านถูกตบ... ก่อนที่มือใหญ่จะจิกผมของเธอดึงขึ้น...เพื่อให้มองจอมือถือของพิมพิชญาเอง ที่ตอนนี้ศิวะเอามันมาจ่อไว้ที่หน้าของเธอ...
“ดู..ดู...พิมพิชญา..”
ศิวะกล่าวเสียงเบาแต่หญิงสาวเสียวไปถึงสันหลัง
“คุณเป็นต้นเหตุทำให้น้องผมตาย นั้นมันก็เป็นเรื่องของเวรกรรม ผมก็ยังพออภัยให้คุณได้..พิมพิชญา แต่..แต่..คุณชอบหลอก ชอบปั่นหัวผม เพราะนั่นเพราะว่าคุณเห็น..ว่าผมโง่มาก...ใช่ไหม?”
“อือๆ ....”
พิมพิชญาร้องไห้น้ำตานองหน้าเพราะทั้งเจ็บตัว เจ็บใจ โดยไม่รู้ว่าเธอผิดอะไร ก่อนที่สายตาจะชำเลื่องอ่านชื่อที่ปรากฏอยู่บนจอโทรศัพท์ ที่หญิงสาวจำได้ว่าเธอเองเป็นคนเชิร์ทเข้าไปในกรูเกิ้ล แล้วทิ้งค้างข้อความคำค้นว่า “วัชระ กำจรกิจ”เอาไว้
“คุณไม่รู้จักน้องผม..แล้ว แล้ว..โทรศัพท์ของคุณมันมีชื่อน้องชายผมได้ยังไง? นังผู้หญิงอัปรีย์..นังผู้หญิงร้อยเล่ห์”
คำด่าของชายหนุ่ม..พิมพิชญาเจ็บลึกจนเกินคำบรรยาย แต่ตอนนี้หญิงสาวก็รู้แล้วว่าทำไมชายหนุ่มถึงได้โมโหมากมายนัก.. อีกทั้งตอนนี้พิมพิชญารู้แล้วว่า ผู้หญิงที่ทำให้น้องชายศิวะต้องฆ่าตัวตายก็คือ...แบม หญิงสาวที่เข้ามาร่วมบำบัดจิตโครงการงานวิจัยของเธอ เพราะชื่อน้องชายของศิวะ อาจารย์หมอคือผู้ส่งมาให้เธอ เพื่อให้เธอค้นหาข้อมูลแฟนที่ฆ่าตัวตายของแบม...เมื่อรู้เช่นนั้นพิมพิชญาจึงจะพยายามอธิบาย
“มัน..มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด...ฉัน...ฉัน..รู้แล้ว..ว่า...โอ๊ย”
หญิงสาวพยายามอธิบายแต่ชายหนุ่มคิดว่ามันเป็นเพียงคำแก้ตัว เขาจึงกระชาก ร่างพิมพิชญาลงมาจากเตียงทั้งที่หญิงสาวพูดยังไม่ทันจบ...ก่อนที่เขาจะเหวี่ยงร่างของเธอจากเตียงสูงลงไปกระแทกกับพื้นแข็งกลางห้อง..
“โอ๊ย..”
“ไม่ต้องมาโกหกผมอีก...และ..คุณจะไปไหนก็ไป...ผมไม่ต้องการฟังคำโกหกของคนเลวๆ เยี่ยงคุณ..อีกแล้ว...”
“คุณ...คุณมัน..เป็นคนไม่มีสติ ..รังแกแต่คนอ่อนแอกว่า...มีปัญญาแค่หากินกับผู้หญิง ไอ้..ไอ้...ผู้ชายขายตัว..”
พิมพิชญาโมโหจนลืมตัว จึงด่าออกไปทุกๆ คำที่คิดได้
“...............” .
สิ้นคำด่าหญิงสาวก็ต้องตาเหลือกโพลง เพราะชายที่ยังสุมไปด้วยความเคียดแค้น และชิงชังตรงหน้า กำลังยืนเกร็งร่างใหญ่ ขณะลมหายใจเข้าออกแบบถี่ยิบ ในขณะดวงตาจ้องเล็งมายังร่างของเธอเขม็ง
“...........”
และที่เลวร้ายที่สุด...หญิงสาวรู้ว่าเธอได้พลั้งปากด่าทอ ถึงสิ่งที่เธอรู้ว่า..ผู้ชายคนนี้เกียดนักเกียดหนาถ้ามีใครมาด่าเขาว่า...ไอ้ผู้ชายขายตัว...
“คุณ..ว่าอะไรนะพิมพิชญา...”
เสียงเรียบของศิวะทำให้หญิงสาวถึงกับนั่งนิ่งตัวสั่น
“ฉัน...ฉัน..ขอ..โทษ...”
ไม่ทันแล้วสำหรับคำขอโทษ เพราะร่างใหญ่กระโจนเข้าไปบดจูบปากหญิงสาวที่นั่งอยู่บนพื้น โดยเขาไม่สนว่าหญิงสาวจะพยายามดิ้นรนเพื่อหนีให้พ้นเอื้อมมืออสูรอย่างเขาอย่างไร เพราะสหพละกำลังทั้งหมดของผู้ชายในตัวของศิวะ ได้ถูกใช้กระทำเพียง เพื่อจะข่มเหงหญิงสาวผู้อ่อนแอกว่าอย่างพิมพิชญาเท่านั้น ในตอนนี้...
“อย่า..คะอย่า....อย่า..”
กระดุมเสื้อของหญิงสาว กระเด็นกระจัดกระจายไปคนละทิศ ด้วยมือใหญ่ที่ดึงกระชากเสื้อของหญิงสาวอย่างสุดแรง ก่อนที่ยกทรงสีเนื้อมันจะขาดติดมือผู้หมายจะข่มเหงตามไปอีกตัว จนในตอนนี้เต้าสวยมันต้องไร้อาภรณ์ปกปิด เมื่อมันหลุดออกมาโชว์เด่นต่อหน้าชายใจอสูร
“....หยุด...อย่าทำพิมพ์..อือๆ”
พิมพิชญาทำได้แค่ร้องไห้ออกมาพร้อมอ้อนวอนเพื่อขอความกรุณา ขณะร่างใหญ่พยายามขึ้นไปนอนทาบทับบนตัวของเธอ
“อย่าทำพิมพ์..อือ.อือ..”
เสียงเล็กพยายามพูดแต่มันช่างไร้ผล เพราะ ตอนนี้ปากซาตานกำลังดูดดื่มปลายปทุมของหญิงสาวอย่างรุนแรง แบบ ไร้ซึ่งจิตใจของความปรานี
“หยุด...พิมพ์เจ็บ...อือๆ .”
มือใหญ่บีบคั้นเต้าอวบเต็มแรง จนพิมพิชญาเจ็บแทบจะขาดใจ ทำให้เธอพยายามขยับตัวหนี แต่หญิงสาวก็ต้องจำเร่งหนีบสองขาให้มันติดกันเอาไว้ เพราะมีมือล้วงเข้าไปยังใต้กระโปรง แล้วจับกางเกงในตัวจิ๋วของเธอดึงรัง จนมันต้องขาดติดมือชายใจทรามออกมาอีกตัว
“อย่าค่ะ..คุณศิวะ..อย่าทำพิมพ์...เลย..นะ..นะ..คะ..อือๆ ..”
ชายผู้บ้าคลั่งไม่ยอมหยุดตามคำวอนที่มีเพียงเสียงแห่งความหวาดกลัว เพราะร่างใหญ่รูดถอดกางเกงของเขาลงไปคาไว้ที่ขา ก่อนที่จะใช้สองมือออกแรงเต็มกำลัง เพื่อที่จะแยกขาที่หนีบติดกันเอาไว้ชิดของพิมพิชญาให้มันห่างออกจากกัน ก่อนอสูรกายจะพาร่างแกร่งเข้าไปนอนแทรกกระหว่างสองขาเมือแรงต้านแพ้พ่าย
“คุณศิวะ ..อือๆ กรุณา...พิมพ์..เถอะค่ะ...อย่า..อย่า..ทำอะไรพิมพ์เลย.อือๆ ..”
หญิงสาวเค้นคำพูดใดก็ช่าง ที่มันจะทำให้เธอได้รับการปลอดปล่อย แต่ไม่รู้ว่าสัตว์ป่าหรืออสูรตนใดไม่ทราบได้..ที่มันมาสิงสู่ร่างวิศวะกรหนุ่ม เพราะ ว่าตอนนี้เขาไม่ได้ยินเสียงอ้อนวอนที่น่าเวทนา ของหญิงสาวที่พยายามจะขยับหนีอยู่ใต้ร่างใหญ่แม้เพียงนิด
“อย่าค่ะ...อย่า...โอ๊ย”
ความเจ็บปวดสุดใจ เมื่อเยื่อบางฉีกขาด เมื่อความรู้สึกที่คับแน่นมันลามมาถึงหู จนอื้ออึง ขณะร่างมนุษย์จิตใจอสูรนอนนิ่งทับ เมื่อเริ่มรู้สึกได้ถึงสิ่งที่ตนกระทำ ....
“.................”
พิมพิชญานอนนิ่งน้ำตาไหลพราก เพราะหญิงสาวทำอะไรไม่ได้อีกแล้วนอกจากนอนนิ่งแล้วร้องไห้ออกมาเต็มความรู้สึก
“..อือ...”
“พิมพ์...คุณ...”
“อือ..อือ..”
เสียงสะอื้นไม่เคยจางจากหญิงสาว ขณะที่ร่างเล็กค่อยๆ พลิกกายหนี จากชายที่ยอมผ่อนปน ก่อนมือเล็กจะพยายามรวบเสื้อที่ไร้กระดุมให้คลุมปกทรวงอกที่แสนหวง แล้วพยายามตะกายตัวให้ห่างจากชายผู้ไร้ซึงความปรานีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้.. ก่อนร่างเล็กจะลุกขึ้นเพื่อหนีจากนรกขุมนี้
“พิมพ์...”
ร่างเล็กเซขณะยืน จนชายผู้เพ่งมองด้วยจิตสำนึก เรียกชื่อหญิงสาวแล้วขยับหมายจะเข้าพยุง แต่ชายเลวกับถูกดันอกเอาไว้
“ไม่ต้องคะ...พิมพ์ไม่เป็นไร…”
เลือดแดงสดไหลลงมาตามขาอ่อน เมื่อหญิงสาวลุกยืนเต็มตัว และนั้นประจักษ์ว่าเธอคือสาวบริสุทธิ์ และ สิ่งนั้นมันยิ่งทำให้จิตใต้สำนึกของศิวะพุ่งขึ้นสูง แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่มองดูหญิงสาวที่ถูกเขากระทำ ค่อยๆ พาร่างที่บอกซ้ำค่อยๆ ก้าวออกจากอเวจีสำหรับเธอไป
“พิมพ์...แค่คุณขอโทษ...ผมคงไม่เลวขนาดนี้...”
ศิวะใจสลายเพราะรู้ว่าเขามีความรู้สึกลึกๆ อย่างไรกับหญิงสาวที่ชื่อพิมพิชญา..
………………………………………………………
.เช้าวันทำงานที่พนักงาน และผู้คนและผู้เกี่ยวข้องในอาคารขนาดใหญ่พากันเดินอย่างขวักไขว่ ขณะที่.พิมพิชญาเร่งเดินผ่านประตูเข้าไปในสถาบันงานวิจัยแห่งนี้ด้วยความรีบเร่ง
“นั่นหน้าแกไปโดนอะไรมาวะ...พิมพ์”
วณิดาใบหน้าแสดงออกเพียงความโมโห ในขณะที่ใช้มือลูบแก้มที่แดงเป็นปื้นของเพื่อนรัก ผู้ที่พึ่งมาถึง
“ไม่มีอะไรหรอก...ดา”
พิมพิชญาก้มหน้าตอนตอบ ทำให้วณิดารู้แน่ชัดว่า เพื่อนเธอถูกข่มเหงมา ก่อนจะมีเสียงโทรศัพท์เรียกเข้า จนทำให้พิมพิชญายกมันขึ้นเช็กว่าใครโทรมา แต่เธอก็ไม่คิดจะรับ
“เป็นมันใช่ไหม? เอาโทรศัพท์มานี่พิมพ์”
ผู้ที่โกธรแค้นแทนเพื่อนแย่งเอาโทรศัพท์เจ้าปัญหามากดรับ
“มีอะไรว่ามา...”
“พิมพ์ครับ...ที่ผมทำ..ผมขอโทษ”
“เอ๊ะ...นั้นพี่ศิวะหรือเปล่าคะ”
วณิดาจำเสียงศิวะได้ ขณะที่พิมพิชญารีบแย่งโทรศัพท์มาจากมือเพื่อนแล้วกดสายทิ้ง
“เอ้ย...พี่ศิวะทำไมทำแกขนาดนี้วะ? ...ถ้าเรื่องนี้ไม่เครีย์ ฉันไม่ยอมนะแก...”
ผู้ถูกคะยั่นคะย่อเอามือไปสัมผัสหน้าจอโทรศัพท์ แล้วเอาจอยกให้เพื่อนของเธอดูชื่อที่ปรากฏอยู่บนนั้น
“ชื่อคนนี้คือน้องชายของคุณศิวะที่ฆ่าตัวตาย”
วณิดาทำหน้าสงสัยเมื่อพิมพิชญาพูดถึงน้องชายที่ฆ่าตัวตายของศิวะก่อนจะอ่านชื่อบนจอมือถือ
“อืม..วัชระ กำจรกิจ...เอ๊ะ...นี้มันก็คือชื่อแฟนของแบมที่ฆ่าตัวตายไปเมื่อสองปีก่อนนี่...เออ..และ..นั่นมันก็แสดงว่า...”
......................................................
“ใช่ไอ้เวร น้องมึงฆ่าตัวตายเพราะผู้หญิงที่ชื่ออรัญญา ที่มีชื่อเล่นว่าแบม...ไม่ใช่พิมพิชญา”
“แล้วทำไหม? พิมพ์เธอไม่อธิบาย...”
ธีรดลส่วยหัว ก่อนจะด่าเพื่อนด้วยสายตาเคือง
“เธออธิบายสิแต่มึงเลวไงเพื่อน... หมอดาบอกกูว่าหมอพิมพ์จะอธิบายให้มึงเข้าใจ แต่มึงก็...ตบเอา..ตบเอา..”
ศิวะย้อนคิดถึงสิ่งที่เขากะทำต่อพิมพิชญา ที่มันเป็นอะไรที่ช่างเลวร้าย จนทำให้ชายหนุ่มรู้สึกใจหาย และยิ่งธีรดลผู้ที่วณิดาวานให้มาบอกความจริงว่า...พิมพิชญาเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยในสิ่งที่เขากล่าวหา เพราะว่าทุกอย่าง มันคือเรื่องที่ศิวะคิดไปเอง และก็เออไปเอง แล้วเขาก็ได้พิภาคษา พร้อมกับลงทัณฑ์พิมพิชญา ด้วยบทลงโทษที่แสนโหดเหี้ยมและสิ่งนั้นมันยิ่งทำให้ศิวะ รู้ว่าเขานั้นเลวขนาดไหน..
..............ตามต่อนะครับ................
ไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพิมพิชญากับศิวะจะจบลงอย่างไร แต่ไรท์ก็ขอบอกว่าเรื่องราวต่างๆนั่น มันเพิ่งจะเริ่มต้นและความเข้มข้นของเรื่องราวข้างหน้า มันรอให้รี๊ดเดอร์ตามมาสัมผัสอยู่ครับ
...กระซิบแผ่ว..