‘งานฉลองมงคลสมรสของบุตรสาวคนเล็กของตระกูลเฉลิมวานิชย์และบุตรชายคนเดียวของตระกูลยิ่งมงคลผู้นำเข้ารถซุปเปอร์คาร์รายใหญ่ของประเทศไทย ทั้งสองตระกูลต่างเป็นนักธุรกิจที่พวกเรารู้จักกันดีเสมอมา งานเลี้ยงรับรองจัดขึ้นอย่างโอ่อ่าสมฐานะเจ้าสัวทั้งสอง ณ โรงแรม Grand Avenue Sathorn กิจการตระกูลเฉลิมวานิชย์ แขกผู้มีเกียรติประกอบไปด้วยบุคคลผู้มีชื่อเสียงจากวงการต่างๆ ทั้งการเมือง ธุรกิจ วงการบันเทิง เป็นต้น.....’
ศลีนาโทรมาแจ้งข่าวมงคลด้วยความตื่นเต้นดีใจที่น้องสาวกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ ศรุตานึกย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ในงานเลี้ยงฉลองแต่งงานของตัวเอง เหตุการณ์ที่เธอโยนดอกไม้เจ้าสาวข้ามหลังไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วว่าช่อดอกไม้เจ้าสาวมีพลังทำนายล่วงหน้า
“พี่เอื้อมว่าจริงมั้ยอ่ะ กวางไม่อยากจะเชื่อเลย”
“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะ แต่เอาเถอะลีน่ายืนยันมั่นเหมาะว่า พอลลี่ไม่ได้ท้องนะ ฮ่าๆๆ”
อืมมมมมม
เสียงเรียกร้องความสนใจเมื่อพ่อกับแม่ละสายตาจากเขา อเล็กซ์ตัวน้อยวัยขวบครึ่ง กำลังอยู่ในวัยตั้งไข่หัดเดินเตาะแตะ เขายืนเกาะรั้วกั้นด้วยมือน้อย ๆ น้ำลายยืดเล็กน้อย เบิกตาโพล่งมองอย่างสงสัย เอื้อมพัฒน์ยืนยันไม่จ้างพี่เลี้ยงเด็กเพราะต้องการใช้เวลาที่มีกับลูกชายอย่างเต็มที่
“อะไรลูก ป๊ากับมาม้าคุยกันแปบเดียวเองนะ มาๆ ป๊าอุ้มๆ”
เอื้อมพัฒน์สื่อสารกับอเล็กซ์ด้วยภาษาไทยสลับกับภาษาอังกฤษเป็นประจำและเด็กน้อยเข้าใจในสิ่งที่พ่อพูดทุกอย่าง
“กวางสอนให้เรียก ป๊า ม้า ง่าย ๆ ก็ยังไม่พูดเลย กวางละกลุ้มใจ ลูกญาติอายุเท่าอเล็กซ์เริ่มพูดเอ๊าะแอ๊ะแล้วนะ”
“เอาน่า ถ้าลองอเล็กซ์เริ่มพูดเมื่อไหร่ ลูกจะพูดได้สองภาษาเลยนะกวาง ล้ำหน้าเลยแหละ”
สุดสัปดาห์ครอบครัวประทานชัยเดินทางไปกรุงเทพ เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนสนิท ค่ำวันนั้นเอื้อมพัฒน์ในชุดสูทสีดำเข้ารูป เซ็ตผมตามสไตส์ รองเท้าหนังราคาแพง ยังดูดีเสมอไม่เปลี่ยนแปลง กับศรุตาภรรยาสาวแต่งหน้าสวยเข้ากับบุคลิก ม้วนปลายผมเป็นลอนคลื่น ชุดเดรสยาวสีชมพูรองเท้าส้นสูง ส่วนอเล็กซ์น้อยช่างน่ารักเหมาะเจาะในชุดทักซิโด้สำหรับรุ่นจิ๋ว ทั้งสามกำลังจะได้ออกงานเป็นทางการร่วมกันครั้งแรก
“เฮียเอื้อม กวาง....อเล็กซ์มาด้วยหรอ มา ๆ ขอพอลลี่อุ้มหน่อยนะ”
เจ้าสาวแสนสวยออกอาการกริ๊ดกร๊าดตื่นเต้นเมื่อเจอหน้าหลานชายแสนรัก เด็กน้อยรู้งานอย่างไม่ต้องชี้นำเขายิ้มกว้างเห็นฟันหน้าซี่เล็ก ๆ หันมองกล้อง เสร็จแล้วก็หัวเราะคิกคักชอบใจตบมือตลอดเวลา อเล็กซ์เป็นเด็กที่ยิ้มเก่ง อารมณ์ดีเหลือเชื่อ ไม่มีความตื่นกลัวคนแปลกหน้าเลย เอื้อมพัฒน์แสนจะภูมิใจในตัวลูกชายจริงๆ
ก๊าววววววววว คิกคิกคิก
พ่อเสือน้อยร้องตอบหมายถึงชอบใจ เหล่าญาติเริ่มเข้ามารุมอย่างไม่ขาดสายรวมทั้งช่างภาพก็อดใจไม่ขอเก็บภาพไม่ได้เสียด้วย
“โย่วววว ว่าไง เสือน้อยวันนี้หล่อมาเชียว โตขึ้นเยอะเลย เอายากระตุ้นให้กินหรอเฮีย” โทนี่กล่าวทักทายพลางอุ้มหลานชายเล่น คุณอาโฮปและคุณป้าศลีนาก็มาร่วมด้วย
“เป็นไงบ้าง สบายดีนะกวาง” ศลีนาสาวหล่อในชุดสูทเข้ารูปเสริมให้ดูโดดเด่นไม่แพ้เอื้อมพัฒน์
“สบายดีค่ะพี่ลีน่า พี่เอื้อมกวางไปห้องน้ำแป๊บนะ เดี๋ยวมา”
“เฮียจะมีน้องอีกคนให้อเล็กซ์มั้ย” โทนี่ถามขึ้นระหว่างอุ้มหลาน
“อยากมีนะเว้ย แต่เมียบอกขอพักท้อง ขอเลี้ยงอเล็กซ์ก่อน”
“แล้วเลิกฮาร์ดคอร์หรือยังล่ะแก” เพื่อนสนิทสาวหล่อถาม
“ไม่เลิกหรอกแค่ลดลงบ้าง ไม่งั้นก็เสียเอกลักษณ์สิ ยี่ห้อเอื้อมพัฒน์ฮาร์ดคอร์เชียวนะ”
“ไม่กลัวลูกจะฮาร์ดคอร์ตามหรือไง ฮ่าๆๆ” โฮปออกปากแซว
“มันเป็นกรรมพันธุ์ไปแล้วมั้ง ไอ้โฮป กรรมพันธุ์ฮาร์ดคอร์และหล่อมากไง”
“แหม มั่นหน้ามั่นโหนกเหมือนเดิมนะ เฮียเอื้อมฮาร์ดคอร์” ทุกคนในวงสนทนาระเบิดหัวเราะพร้อมกัน
ลูกชายตัวน้อยไล่มองพ่อและญาติ เจ้าตัวเล็กในวัยเรียนรู้ กำลังจดจำสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะเสียงแหลมดังแทรกขึ้นมา ตบมือตอบรับเบาๆ
“ฮาดดดดดดด คออออออออ”
ทุกคนหยุดพูดทันที เมื่ออเล็กซ์เหมือนพยายามสื่อสารบางอย่างร่วมด้วย เจ้าตัวน้อยอ้าปากกว้างเปล่งเสียง
“ฮาดดดดด......คออออออออ” เอื้อมพัฒน์แทบหยุดหายใจ ลูกชายที่ดูเหมือนจะพูดช้ากว่าเกณฑ์ เริ่มพูดได้แล้วและคำนั้นดันเป็นคำว่า ‘ฮาร์ดคอร์!’ ทั้งที่พยายามสอนให้เรียก ‘ป๊า’ ‘มาม้า’ มานาน
เสือน้อยยังพูดซ้ำอีกหลายรอบ จนคุณอาคุณป้าอยู่ในอาการอ้ำอึ้งตกตะลึง
“แย่แล้ว!”
“แย่ยังไงล่ะเฮีย”
“พ่อมันน่ะไม่อะไรหรอกแต่แม่มันน่ะสิ ยิ่งบ่นว่ากลุ้มใจที่ลูกยังไม่พูด พอพูดเท่านั้นแหละฮาร์ดคอร์มาเต็มเลย”
“ฮาดดดดดดดด.....คอออออออ”
“อ้าว หวัดดีนะทุกคน แทร่าเพิ่งเสร็จงานน่ะ เจอกวางที่หน้างานพอดีเลยเข้ามาพร้อมกัน”
เอื้อมพัฒน์อุ้มลูกชายยืนหน้าตื่น ศลีนาฉีกยิ้มแห้งทักทายพอเป็นพิธี ส่วนโทนี่กับโฮปปลีกตัวออกมาที่นั่งหลบมุม ทุกคนในที่แห่งนี้ต่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบในพัฒนาการข้ามขั้นของหลานชาย
“อเล็กซ์ ขออาแทร่าหอมสักทีซิ” เจอสาวสวยปานนางฟ้ามาโปรดเช่นนี้ อเล็กซ์น้อยรีบละตัวจากอ้อมกอดของเอื้อมพัฒน์และกระโจนเข้าหาคุณอาธาราวีร์คนงามทันที
“ฮาดดดดด....คอออออออออ คิกคิกคิก” เด็กน้อยเปล่งคำพูดที่ไม่รู้ความหมายอย่างมีความสุขจนคุณอาคนสวยแปลกใจ
“ลูกพูดแล้วหรอพี่เอื้อม ไหน ๆ พูดใหม่ซิลูก พูดให้มาม้าฟังหน่อย”
“อ๋อ…พี่ว่าลูกท่าจะง่วงแล้ว เมื่อกี้คอพับคออ่อนเลย”
“ฮาดดดดดด.....คออออออออ”
“อะไรนะอเล็กซ์ พูดคำว่าอะไรนะลูก” เขายังคงพูดซ้ำไปซ้ำมาอย่างเริงร่า แต่ศรุตาแทบลมจับ
“พี่เอื้อม! เป็นงี้ได้ไง ทำไมลูกพูดฮาร์ดคอร์ได้ ทำไมไม่เรียกป๊า มาม้าล่ะลูก หยุดพูดเถอะลูกแม่ ฉายแววแต่เล็กเลยเหรอ”
“ฮาดดดดดดด.....คออออออ เอิ๊กๆๆ คิคิคิคิ”
เด็กชายพลพยัคฆ์ ประทานชัย หรือพ่อเสือน้อยอเล็กซ์พูดได้คำแรก ‘ฮาร์ดคอร์’
หลายปีต่อมา
“ป๊า! ตื่นได้แล้ว ตื่นได้แล้ว วันนี้จะไปสวนน้ำ อเล็กซ์กำลังจะได้ไปสวนน้ำ” เด็กชายตัวน้อยในวัย 4 ขวบครึ่งกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ พยายามปลุกเอื้อมพัฒน์ที่ยังนอนไม่ตื่นนอน
“ตื่นได้แล้ว ไปช้า เดี๋ยวเขาไม่ให้เราเข้าไป”
“อเล็กซ์ลูก เขาเปิดตลอดเวลานะ เรานัดกับมาม้าไว้ตั้ง 10 โมง นี่กี่โมงล่ะ...ตีห้าครึ่ง! กลับไปนอนก่อนเถอะ นอนกับป๊าดีกว่า”
“ไม่นอน! อเล็กซ์จะไปดูการ์ตูนรอนะป๊า”
เมื่อถึงเวลาออกจากบ้าน เสือน้อยอเล็กซ์คาดห่วงยางเป่าลมไว้กับเอวเดินห้าวปากกว้าง สะลืมสะลือขึ้นรถ ใช้เวลาไม่นานที่เบาะหลังกับแอร์เย็นฉ่ำเขาก็หลับตลอดทาง
“นั่นเอื้อมกับอเล็กซ์มาแล้ว” คุณยายของหลานชายชี้นิ้วมา รถสีดำคันเดิมจอด เอื้อมพัฒน์เปิดประตูหลังประคองร่างเล็กร่างหนึ่งอุ้มขึ้นบ่า มืออีกข้างถือกระเป๋าใบใหญ่และห่วงยาง ศรุตาอดขำไม่ได้ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ พ่อบ้านใจกล้า(รอยสักพร้อย)กับเสือน้อยจอมซ่า
“ทำไมลูกหลับคอพับคออ่อนอย่างงั้นล่ะ” ภรรยารับช่วงอุ้มลูกชายแทน
“ก็คึกไงล่ะ วิ่งมาปลุกพี่ตั้งแต่ตีห้าครึ่งแล้วก็ไม่ยอมนอนต่อ มาหลับตอนจะเที่ยวประจำ”
“เข้ากันเลยดีกว่า”
เช้าวันนี้ศรุตาต้องพ่อกับแม่มาตรวจร่างกายประจำปี ทั้งครอบครัวจึงใช้โอกาสมาพักผ่อนที่สวนน้ำเปิดใหม่แห่งแรกในเชียงใหม่
“อเล็กซ์ตื่นได้แล้ว ถึงสวนน้ำแล้วนะ”
งืมๆๆ
“ไม่ตื่นหรอ ป๊าพากลับบ้านเลยนะ”
“ตื่นแล้ว ๆ ไม่กลับๆ สวนน้ำอยู่ไหน เย่! สไลเดอร์ ๆ ห่วงยางอยู่ไหน” คุณตาคุณยายขอรับหน้าที่เปลี่ยนชุดว่ายน้ำให้หลานชายแทนเพราะลูกสาวของพวกท่านมีบอกอย่างต้องพูดคุยกับสามี
“พี่เอื้อม หมู่นี้ที่กวางบ่นว่า ไม่ค่อยสบาย เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวใช่มั้ย”
“อืม ใช่จ้ะ” เอื้อมพัฒน์กำลังป้ายครีมกันแดดบนร่างกาย
“วันนี้ไปโรงพยาบาล กวางก็เลยไปปรึกษาคุณหมอนิดหน่อยเลยรู้ว่า....” ภรรยาสาวรู้สึกไม่ค่อยสบาย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหารมามาพักหนึ่งแล้ว ชายหนุ่มหันมามองหน้าด้วยความกังวล
“หมอว่าไง”
ศรุตาทำตาโตเป็นประกาย ยิ้มเม้มปาก ลูบวนบนหน้าท้องตัวเอง มืออีกข้างยกขึ้นแล้วชูนิ้วสองนิ้วโบกกลางอากาศ
“สอง! คนที่สอง ตอนนี้สองเดือนแล้วนะ”
“ว่าไงนะ...” สามีพูดเสียงดังตกตะลึง อ้าปากค้าง
“จริงหรอกวาง ลูกคนที่สอง น้องของอเล็กซ์ใช่มั้ย”
เขาดีใจกระโดดโลดเต้นออกนอกหน้า คว้าร่างภรรยาสาวมากอดจนตัวลอย ในที่สุดเอื้อมพัฒน์กำลังกลายเป็นคุณพ่อลูกสองในอีกไม่ช้า เสร็จภารกิจเสกกุมารเข้าท้องไปอีกราย
“น้องเหรอ! อเล็กซ์กำลังจะมีน้อง น้องอยู่ไหนล่ะครับมาม้า”
“อยู่ในท้องมาม้าไงคะ รอก่อนนะไม่มีนานเดี๋ยวจะได้เจอกันแล้ว”
“ในท้องเหรอ แล้วน้องมุดเข้าไปอยู่ในท้องได้ไงล่ะครับ...”
คำถามชวนผู้ใหญ่อ้ำอึ้งที่มาจากเด็กชายวัย 4 ขวบครึ่ง เอื้อมพัฒน์พูดรีบดึงความสนใจชวนดูอะไรไปเรื่อย แต่ก็แอบภูมิใจที่มีลูกชายฉลาดเพียงนี้
“อเล็กซ์สไลเดอร์น่าเล่นมากเลย ไปเล่นกับป๊านะ....”
8 เดือนต่อมา
ทารกน้องเพศหญิงก็อยู่อ้อมกอดของเอื้อมพัฒน์และศรุตา โดยมีคุณตาคุณยายกับพี่ชายวัย 5 ขวบคอยดูแลไม่ห่างเหิน ลูกชายคนโตปีนขึ้นเตียงมองดูเด็กน้อยตัวเล็กที่ลืมตาบ๊องแบ๊วให้ทุกคน เขายิ้มกว้างยื่นนิ้วน้อย ๆ จับแก้มนุ่ม ๆ ของน้องสาวเล่นพลางหัวเราะชอบใจไม่หยุด
“น้องมือเล็กจัง”
“ตอนอเล็กซ์เกิด อเล็กซ์ก็มือเล็กเหมือนน้องแหละลูก” คุณยายช่วยตอบคำถาม
“กวางของตั้งชื่อนะ ตอนอเล็กซ์พี่เอื้อมเป็นคนตั้งให้ งั้นเอาชื่อกวางกับชื่อคุณย่าของลูกแล้วกัน”
มณีพัฒน์กับศรุตา
กลายเป็น 'มณีรตา ประทานชัย หรือ 'มิกิ' น้องสาวของ 'พลพยัคฆ์' สองพี่น้องอายุห่างกัน 5 ปี
เสือน้อยอเล็กซ์กับกวางน้อยมิกิ
ทายาทหมื่นล้านรุ่นที่สามของประทานชัย กรุ๊ป