‘พันโท สัญลักษณ์ ธรรมรักษ์วงษ์’ แถบป้ายชื่อเด่นชัดบนรั้วบ้านหลังหนึ่ง
เจ้าของบ้านคือนายทหารเกษียณอายุราชการแล้ว เขายืนผิวปากเป็นเพลง ถือสายยางรดน้ำต้นไม้สบายใจเฉิบ ระหว่างรอเปิดประตูให้ลูกสาวสุดที่รักคนเดียว หลังจากนั้นไม่นานรถยนต์ญี่ปุ่นสีขาวเคลื่อนมาจอดหน้ารั้ว
“ไอ้หวาน! ลูกพ่อ” สัญลักษณ์แทบกระโดดกอดลูกสาว ตามด้วยหอมแก้มซ้าย หอมแก้มขวา หอมหน้าผากอย่างเอ็นดู
“พ่อใจเย็น ว้าย ๆ อายเขา ๆ หนูยี่สิบสี่แล้วนะพ่อ” ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ
พ่อของเธอขยุ้มแก้มยุ้ยเล่นเป็นของแถมอีก
“แหมๆ อายทำไม อายใครบ้านก็อยู่ท้ายซอย พ่อรักของพ่อนี่นา เข้าบ้านก่อนดีกว่า แม่อยู่ในครัวกำลังจะทำกับข้าวนะ” เขาช่วยลูกสาวยกกระเป๋าเข้าบ้าน
พ่อแม่ทุกคนก็เห็นลูกเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ ลักษณ์นาราเป็นลูกสาวคนเดียวและของเขากับภรรยา
“มีอะไรให้หวานช่วยมั้ยแม่” เธอชะโงกถาม
“ไม่มีหรอก หวานไปนั่งเล่นกับพ่อเถอะ แม่ทำคนเดียวคล่องตัวกว่า หวานเข้ามาทีไรยุ่งอีรุงตุงนัง ตลอด”
“จ๊ะ ก็ได้!” ลักษณ์นาราค้อนขวักแล้วจากไป
“จะกลับมานอนบ้านกี่วันล่ะ” สัญลักษณ์สางเรือนผมให้ลูกสาวถามไถ่สารทุกข์สุกดิบไปพลาง
“ก็จนกว่าจะต้องไปเริ่มงานแหละพ่อ บินไฟท์แรกอาทิตย์สิ้นเดือน เดี๋ยวหวานจะไปนอนที่คอนโด เดินทางไปสนามบินสะดวกดี”
“อยู่คนเดียวดูแลตัวเองดี ๆ นะ สมัยนี้คนรู้หน้าไม่รู้ใจเยอะแยะไป พ่อกับแม่ล่ะอดห่วงไม่ได้จริงหวานเอ๊ย”
“หวานดูแลตัวเองได้จ๊ะ ไม่ต้องห่วง อดีตแอร์สายการบินแขกสวยและถึกทุกคนนะพ่อ” ลักษณ์นารากระหยิ่มยิ้มอย่างภูมิอกภูมิใจ “งานบนฟ้าเดินทางรอบโลก ชีวิตดี๊ดีอย่างใครเข้าว่า หวานรักงานนี้นะพ่อ ถึงจะงานหนักหน่อยก็เถอะ”
“ถ้าหวานมีความสุขพ่อกับแม่ก็หายห่วง จริงสิแล้วเจ้านายใหม่เขาเป็นยังบ้างล่ะลูก”
“อ๋อ! คุณลีน่า ตระกูลเฉลิมวานิชย์เจ้าของเครือโรงแรมแกรนด์ อเวนิวไงพ่อ แกใจดีมากเลยนะเดี๋ยวแกจะบินกับเพื่อนสนิทกับหลานชายแกด้วย”
“ไปอยู่กับเขา ก็ทำตัวดี ๆ ตั้งใจทำงานนะหวาน เขาจะได้เมตตาเอ็นดูเรา”
“งั้นเดี๋ยวไปลงนะหน้าทองก่อนนะ ฮ่าๆๆๆ เล่นคุณไสย”
“อ่ะ เสร็จแล้ว ฝีมือพ่อยังไม่ตกนะ สวยมั้ย”
“พ่อคะ หวานเรียนจบคอนแวนต์นานแล้วนะ นี่คือสถาน...แห่งบ้านทรายทองที่ฉันปองมาสู่....”
จากผมยาวสลายเมื่อครู่กลายเป็นเปียสองข้างแบบพจมานไปแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาสัญลักษณ์ก็รับหน้าที่ทำผมสารพัดเปียให้ลูกสาวมาตลอดตั้งแต่เข้าเรียนประถมจนถึงมัธยมปลาย
มื้อเย็นท่ามกลางรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข อยู่ที่ไหนก็ไม่สบายใจเท่าอยู่บ้านเกิด อยู่กับใครล่ะ...จะอบอุ่นเท่าอยู่กับครอบครัว แล้วความรักที่ไหนจะยิ่งใหญ่เท่ารักจากพ่อแม่
“วันนี้ไปประชุมที่ไหนล่ะครับป๊า”
“ไปภูเก็ตขึ้นเครื่องบินไปพร้อมลีน่า” เอื้อมพัฒน์และบุตรชายพูดคุยเรื่องงานเบื้องต้นระหว่างโดยสารรถมินิแวนประจำตำแหน่ง
เวลาเดียวกัน ลักษณ์นาราในเครื่องแบบบริษัทยาวเสมอเข่าโดดเด่นด้วยผ้าพันคอสีสันสะดุดตารอบคอระหงส์ รวบผมเป็นมวย แต่งหน้าสวยเนี๊ยบ ทาลิปสติกสีแดงบนเรียวปากกระจับ ใบหน้าแจ่มใสพร้อมทำงาน ขณะนี้กำลังสาระวนจัดเตรียมอาหารว่าง เครื่องดื่มต่าง ๆ พร้อมเสิร์ฟที่ท้ายเครื่อง
“สวัสดีครับ ป้าลีน่า” พลพยัคฆ์ยกมือไหว้แล้วตรงปรี่เข้าไปกอดออดอ้อน
“ว่าไงไอ้แสบของป้า พาหลานมาดูงานหรอเอื้อม”
“ใช่ ช่วงเรียนรู้งาน หัวหมุนน่าดู”
“ดีเลย ใกล้ได้เวลาแล้วล่ะ ขึ้นเครื่องเลยดีกว่า”
เฉลิมวานิชย์กับประทานชัยสองตระกูลนี้สนิทกันตั้งแต่รุ่นปู่ย่า เอื้อมพัฒน์กับศลีนาเกือบถูกจับแต่งงานกันด้วยซ้ำ
หลังเครื่องบินทะยานสู่อากาศจนได้ระดับ พนักงานต้อนรับคนใหม่จะรู้หรือไม่ว่า ผู้โดยสารหนุ่มพิลึก ๆ ที่สื่อสารภาษาที่ฟังไม่เข้าใจ ขอให้ช่วยหั่นสเต็กเพราะอ้างว่ามือเจ็บอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแล้ว ชายร่างสูงสองคนนั่งหันหลังให้ท้ายเครื่อง เอื้อมพัฒน์และศลีนาคุยปรึกษาหารือหัวข้อประชุม พลพยัคฆ์ใจจดจ่ออยู่กับเอกสารปึกใหญ่ เมื่อลักษณ์นาราเริ่มเสิร์ฟของว่างและเครื่องดื่ม
“มาพอดีเลย น้ำหวาน นี้คุณเอื้อมพัฒน์ ประทานชัย CEO ประทานชัยกรุ๊ป แล้วลูกชายชื่อคุณพลพยัคฆ์...”
“สวัสดีค่ะคุณเอื้อมพัฒน์ สวัสดีค่ะ...คุณพลพยัคฆ์”
“อ้าว! เพิ่งเห็น สวัสดีครับ น้ำหวานเหรอ น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับอเล็กซ์ใช่มั้ยลีน่า” เอื้อมพัฒน์ยิ้มอย่างเอ็นดู
“น่าจะใช่นะ เมื่อกี้ตอนแกจะขึ้นเครื่อง ฉันเห็นน้ำหวานวุ่น ๆ อยู่ท้ายเครื่อง เลยไม่ทันให้ออกมาแนะนำตัวก่อนไง ฉันบอกน้ำหวานว่าไม่ต้องพิธีรีตองมากมาย ไฟท์นี้กันเองแกกับฉันก็เพื่อนกัน”
“นาร่า...” ชายหนุ่มขยับปากเบา ๆ พลางเชยคางขึ้นมองหญิงสาวผ่านแว่นกันแดด สาวสวยโลกตะลึงคนนั้น เขาจำได้ไม่มีวันลืมเลือน แม้จะพลาดการติดต่อไปก็ตาม
ทว่าตอนนี้เธออยู่ตรงหน้าแล้ว
ลักษณ์นาราตกอยู่ในอาการงงงันเมื่อผู้โดยสารคนนั้นกลับกลายมาเป็นหลานชายของเจ้านายไปได้ ผู้ชายที่ถูกจัดให้เป็นทายาทธุรกิจพันล้านอันดับ 1 ‘พลพยัคฆ์ ประทานชัย’
โลกกลมหรือพรหมลิขิตกันล่ะ
“สวัสดีครับ สบายดีมั้ย Good morning How are you? ***, ***?”
พลพยัคฆ์ยิ้มหว่านเสน่ห์ชวนหลงใหล ยักคิ้วข้างเดียว ใบหน้าขี้เล่น
“ชื่อน้ำหวานใช่มั้ย หน้าหวานเหมือนชื่อเลยนะครับ สวยขนาดนี้มีแฟนหรือยัง”
ชายหนุ่มกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเองด้วยภาษาจีนสำเนียงกวางตุ้งลื่นไฟแลบเลยทีเดียว ลักษณ์นาราได้แต่ยิ้มหน้าแป้นแล้นค้างเติ่งจนเหงือกแทบแห้ง
เก๋าเจ้ง! เป็นคำเดียวที่นึกออกจนอยากจะอุทานดัง ๆ แล้วโบกถาดสแตนเลสใส่สักที อาจตกงานได้เลยทีเดียวเพราะพ่อของเป้าหมายและเจ้านายอาวุโสนั่งอยู่เบื้องหน้า ก็ได้แค่คิด
“น้ำหวานขอตัวนะคะ”
หญิงสาวรีบจ้ำอ้าวไปท้ายเครื่องทันที พลพยัคฆ์กลั้นหัวเราะ แอบเหล่ลอดใต้เลนส์ฉาบปรอทเทาตามหลัง ภารกิจงมเข็มในมหาสมุทรสำเร็จลุล่วงโดยบังเอิญแท้ ต่อไปหากต้องงมเข็มในแม่น้ำอะเมซอนกับฝูงปลาปิรันย่าไล่งับก็ยอม
‘ชื่อน้ำหวานเหรอ หน้าหวานสมชื่อนะแต่ชื่อนาร่าเพราะกว่า ความประทับใจสั่นไหวที่สิบริกเตอร์เลยสิ’
โชคชะตาช่างเล่นตลกมาตกหลุมอากาศอีกรอบ แถมไม่วายมาแกล้งกันอีกแล้ว
‘จะคุยดี ๆ ก็ไม่คุยนะ คนบ้า แต่วันนี้ใส่สูทหล่อชะมัดยาด สำเนาถูกต้องทั้งพ่อทั้งลูก ไม่ ๆ ยัยน้ำหวานหยุด เขาแกล้งเธอนะยะ ถือดียังไงมาแกล้งเรา..ฮึม! โกรธระดับสิบ’
ทายาทหนุ่มยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปตัวเองเล่นไปพลางระหว่างรอประชุม เขาจัดการรายงานชีวิตแสนเหงาบน instragam พร้อมกับแคปชั่นออดอ้อนสุดอ่อย แฝงความเหงาเศร้าสร้อย
‘#วันนี้เจอนางฟ้าด้วย’
หน้าจอโลกออนไลน์บนฝ่ามือเรียวงามและหัวใจของลักษณ์นาราสั่นไหวแกว่งไกวทันที พลพยัคฆ์กำลังหมายถึงเธออยู่แน่ ๆ ด้วยรูปถ่ายก้มหน้าท้าวคาง ส่งสายตาหวานละมุนผู้ชายอะไรช่างมีเสน่ห์ออดอ้อนพลังทำลายล้างสูงถึงเพียงนี้ หล่อนอมยิ้มแก้มจะแตกลำพังระหว่างนั่งรอเจ้านายที่สนามบิน
ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านี้เลย แม้ว่าจะติดตามไปแล้วเถอะ
ไม่ได้คิดจริงๆ นะ
ถึงกระนั้น...พลพยัคฆ์รู้ทัน ร่างอวตารชัวร์ป๊าบ ใครสักคนตามดูเขาอยู่
อยากดูขนาดนี้จะให้ดูบ่อย ๆ จนกว่าจะอยากมาดูของจริงระยะประชิดเลย
‘ความสูงประมาณ 160 ปลายๆ เกือบ 170 สัดส่วน 34 25 36 น้ำหนักไม่น่าจะเกิน 55 กิโล จับอุ้มพาดบ่าทำโทษเวลาดื้อได้แน่ ๆ ผิวขาวเหลือง รูปร่างกระชับได้สัดส่วน ตาโตสองชั้น จมูกโด่งสวย ปากแดงเรียวทรงกระจับ หน้ารูปหัวใจ มีแก้มกำลังดีน่าจับหอมสักฟอด ฟันธงของแท้ทั้งร่าง ไม่ศัลย์แน่นอน’
จิ้มลิ้ม คาวาอิ คิเรเนะ มากเลย
ช่วงขากลับบนพื้นที่แคบ ๆ ชนิดที่ว่าจะกระโดดกอดกันเลยยังได้ คนโดนแกล้งและคนชอบแกล้งได้แต่เหลือบมองเฉียดกันไปเฉียดมา เจตนาหยั่งเชิงชัดเจนไม่มีใครยอมเริ่มก่อนทั้งสิ้น ลักษณ์นาราก้มเก็บจานและแก้วเปล่าบนโต๊ะพยายามไม่หันไปสบตาเป้าหมาย แต่เป้าหมายกลับท้าวคางจับตามองทุกการเคลื่อนไหวของเธออย่างเพลิดเพลิน
จนกระทั่งล้อสนามบินแตะพื้นรันเวย์สนามบินดอนเมืองอีกครั้ง ลักษณ์นารายิ้มหวานปากสั่นยกมือไหว้อำลาผู้โดยสารทั้งสองของเธอ
“ไว้เจอกันใหม่นะครับ นางฟ้า” พลพยัคฆ์ไม่วายทิ้งท้ายด้วยภาษาที่งงงันเช่นเคย
สายตาเฉียบคมของเอื้อมพัฒน์แฝงด้วยความกังวลบางอย่าง คนเป็นพ่อมีหรือจะไม่เข้าใจในสถานการณ์ บุตรชายจงใจหรือเผลอลืมคำสัญญาในอดีตไป
“น้ำหวานจ๊ะ บินรอบหน้าโทรสั่งอาหารขึ้นเครื่องที่ร้านนี้เลยนะ” ศลีนายื่นโบชัวร์ใบหนึ่งที่ระบุเบอร์ติดต่อไว้
พลพยัคฆ์แอบเขียนเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวอีกเบอร์ทับเอาไว้
‘ครั้งก่อนให้ไว้กลับไม่ยอมโทร. แต่ครั้งนี้ต้องโทรมาแน่ ๆ’