“ชะ... ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที นิสากำลังโดนลักพาตัว” หวานแก้วซึ่งเป็นเพื่อนของนิสาร้องตะโกนโหวกเหวกเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักของเธอถูกไอ้โม่งที่ไหนไม่รู้ลักพาตัวไป กำลังจะหายเขาไปในป่าลึก
เสียงร้องนั้นทำให้จอมไพรที่วิ่งตามเมียรักมาทันตรงเข้าต่อสู้กับเสือสิงห์ในทันที
“มึงคิดจะทำอะไรเมียกู”
“มึงถอยไปถ้ายังไม่อยากตาย” ประโยคของสิงห์ดุดัน สู้ไม่ถอย
“มึงนั่นแหละ ปล่อยเมียกูมา ไม่อย่างนั้นกูไม่ปล่อยมึงเอาไว้แน่” จอมไพรมองอย่างดุดันไม่ต่างกัน ก่อนที่เขาจะเข้าต่อสู้และเป็นจังหวะให้นิสาสลัดตัวหลุดออกมาจากสิงห์และพวกได้
หวานแก้วรีบเข้ามาหาเพื่อนรัก เอ่ยถามอย่างห่วงใย
“สาเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่เป็นอะไรจ้ะ ขอบใจแก้วมากนะ ถ้าไม่ได้แก้วตะโกนจนพี่จอมได้ยิน สาคงแย่” นิสาเอ่ยขอบอกขอบใจเพื่อนรัก
“ไม่เป็นไรจ้ะ เรารีบไปตามคนมาช่วยเถอะ”
หวานแก้วรีบเอ่ยบอกเพื่อนรัก ไม่นานคนในหมู่บ้านก็มาช่วยจัดการกับสิงห์และลูกน้อง ทำให้เสือสิงห์ต้องพาพวกล่าถอยกลับไป
“สาเป็นยังไงบ้าง” จอมไพรเอ่ยถามเมียรักเมื่อเขาสามารถขับไล่พวกเสือสิงห์และลูกน้องไปได้
“ไม่เป็นอะไรจ้ะพี่ โชคดีที่พี่มาช่วยฉันเอาไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นฉันคงแย่” นิสาโผเข้ากอดผัวรักด้วยความดีใจ
“พวกเราคงต้องวางเวรยามให้แน่นหนาไม่เช่นนั้นไอ้เสือสิงห์มันอาจจะกลับมาฉุดใครในหมู่บ้านอีก พ่อมันก็เลว ฆ่าคนตายแล้วหนีเข้าป่าไปเป็นโจร”
ชาวบ้านปรึกษาหาเรือกัน ก่อนที่จะแบ่งหน้าที่ให้ชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านเฝ้าเวรยามอย่างแน่นหนา
“พี่จอมเป็นยังไงบ้างจ๊ะ เจ็บมากไหม” นิสาเอ่ยถามสามี ในขณะที่ทำแผลให้เขา
“พี่ไม่เป็นอะไรหรอกจ้ะ แต่ถ้าสาเป็นอะไรไป พี่จะฆ่าได้เสือสิงห์ซะ”
“เสือสิงห์กับสาเคยหมั้นกันแต่เด็ก หรือเขาจะมาทวงสัญญา”
“สัญญาพวกนั้นเป็นโมฆะไปแล้วตั้งแต่ที่พ่อของเสือสิงห์ฆ่าคนตายและพาเสือสิงห์หนีเข้าป่าไป อย่าคิดมากเลย อยู่กับพี่ พี่จะไม่ยอมให้ใครมาทำอันตรายสาได้อย่างแน่นอน”
“สารักพี่จอมนะคะ หัวเด็ดตีนขาดเช่นไร ก็จะไม่ยอมเป็นเมียของใครอีก ถ้าสาโดนจับตัวไปและหนีเอาตัวรอดกลับมาไม่ได้ ต้องโดนพวกมันย่ำยี สาก็จะขอตาย ไม่ขอทนให้ใครมาทำร้ายได้อีก”
“อย่าพูดแบบนั้นสิจ๊ะ พี่รักสา พี่จะไม่ยอมให้สาเป็นอะไรเด็ดขาด” เขาแตะปากของเธอเบาๆ ก่อนที่จะจุมพิตริมฝีปากของเธอ ก่อนจะทวีความดูดดื่มขึ้นเรื่อย ๆ
เธอลูบไล้แผงอกกว้างของเขาอย่างเร้าอารมณ์ ให้เขาอุ้มเธอขึ้นแนบอกพาเข้าไปยังห้องนอน
จอมไพรบรรจงวางร่างน้อยของเมียรักลงบนเตียงนอนกว้าง เขาจุมพิตเล้าโลมเธออย่างเสน่หา
“มีลูกให้พี่สักคนสองคนนะคนดี” เขากระซิบบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เธอก็พยักหน้าอย่างเอียงอาย เขาขอลูกกับเธอบ่อยๆ เธอเองก็อยากมีลูกกับเขาเหมือนกัน
จอมไพรขยับเข้าหาเมียรักโอบกอดเธอเอาไว้คล้ายจะปลอบประโลมให้เธอหายจากอาการขวัญเสีย
เธอตอบรับการจุมพิตของเขาและการปลอบประโลมของเขาด้วยการเบียดกายเข้าหา ค่ำคืนนี้เธอจะตกเป็นของเขาอีกครั้งอย่างอบอุ่นอ่อนหวาน
ความหวาดกลัวหวาดหวั่นที่เกิดขึ้นในหัวใจได้จางหายไปเมื่อเขาเข้ามาเคียงข้างและปกป้องดูแลเธออย่างกล้าหาญ
ความเป็นชายของเขาเสียดสีเข้ามาในร่องสวาทของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า เธอได้ยินเสียงฉ่ำแฉะของน้ำรักสอดประสานเขาหากันตามครรลองของเพลงกามารมณ์
เธอปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัสและการปลอบประโลมของเขา
ริมฝีปากของเขาจุมพิตหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน
เขาซับน้ำตาให้เธอ คอยกระซิบบอกว่าเขานั้นจะไม่ทิ้งเธอไปไหนไกลอีก จะให้เธออยู่ในสายตาของเขาเสมอ
ร่างกายแข็งแรงและร้อนผ่าวของเขาบดเบียดเข้าหาเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นจอมไพรก็ไม่เคยละสายตาจากภรรยาสาว หากเขาต้องเข้าป่าไปหาของป่า เขาก็จะพาภรรยาสาวไปฝากไว้กับบิดามารดาของเธอไม่ให้เธอต้องอยู่คนเดียวอีก
การคัดเลือกนายบ้านเพื่อให้มารับตำแหน่งผู้นำหมู่บ้านได้เริ่มขึ้นและไม่ผิดคาดเลยเมื่อจอมไพรนั้นได้รับการคัดเลือกเป็นนายบ้านอย่างที่ทุกคนคาดหวังเอาไว้
งานเลี้ยงเฉลิมฉลองตำแหน่งใหม่ถูกจัดขึ้นในค่ำคืนหนึ่งหลังจากการคัดเลือกผู้นำหมู่บ้านคนใหม่
ในหมู่บ้านนั้นได้วางกำลังอย่างแน่นหนาและข่าวคราวของเสือสิงห์ก็หายเงียบไป ซึ่งหลายคนคิดว่าเสือสิงห์นั้นไม่กล้ากลับเข้ามาในหมู่บ้านอีกแล้ว
งานเลี้ยงเฉลิมฉลองการรับตำแหน่งนายบ้านของจอมไพรมีงานกินเลี้ยงกลางแจ้งของหมู่บ้านและงานเต้นรำของหนุ่มสาวอย่างสนุกสนานมีเหล้ายาปลาปิ้งมากมาย
ทั้งหมดไม่รู้เลยว่ามีสายตาอีกหลายคู่จับจ้องงานเลี้ยงนั้นอยู่อย่างหมายมาด
จอมไพรและนิสาได้เป็นนายบ้านและภรรยาของนายบ้านซึ่งเป็นผู้นำของหมู่บ้าน มาลัยดอกไม้จากชาวบ้านในหมู่บ้านได้ถูกสวมให้คนทั้งสองด้วยความยินดี
ในค่ำคืนนั้นยังมีข่าวดีอีกเรื่องหนึ่งเพราะนิสาได้ตั้งครรภ์ลูกคนแรก
จอมไพรจึงประกาศให้ทุกคนได้รับรู้และแสดงความยินดีกับเขา จอมไพรยิ้มหน้าบานขณะที่นิสาก็ยิ้มอย่างมีความสุขที่เธอกับเขามีทายาทสมความปรารถนา
จอมไพรช้อนร่างของภรรยาอุ้มขึ้นสู่อ้อมแขนด้วยรอยยิ้มเขามีความสุขเต็มเปี่ยมไปด้วยหัวใจ
ชายหนุ่มจุมพิตเธอบอกรักเธอ ลูบไล้หน้าท้องของเธอเบา ๆ อย่างสนิทเสน่หาและรักใคร่ปานจะกลืนกิน
“พี่ขอบใจสามากนะ ที่มีทายาทตัวน้อย ๆ ให้พี่ได้ชื่นใจ” เขาจุมพิตหน้าท้องของเธอ ก่อนจะจุมพิตไปทั่วสรรพางค์กาย
เธอลูบไล้แผงอกกว้างของเขา บดเบียดเสียดสีเย้าเหมือนที่เคยทำ
แม้จะตั้งครรภ์แต่เธอก็ไม่ลืมหน้าที่ของภรรยาที่จะปรนนิบัติสามี จอมไพรจุมพิตเธอตั้งแต่เรียวขาอันหอมกรุ่นขึ้นมาจนถึงช่วงบน
ผิวเนียนละเอียดของเธอทำให้เขาจุมพิตไม่ว่างเว้นแม้แต่ตารางนิ้วเดียว
เขาสัมผัสกับกลีบผกากรองแสงสวยมือหนาไล้สะโพกของเธอและลูบไล้ขึ้นไปยังสาวทรวงอกอวบอิ่ม
เขาช้อนร่างของเธอขึ้นมาบนเรือนร่างของเขาเพื่อให้สอดแทรกประสานกายเข้าหากัน
ทำให้คนท้องได้โยกคลอนอย่างมีความสุขบนร่างแข็งแรงและเพื่อไม่ให้กดทับหน้าท้องจนเกินไป
นิสาโยกกายอย่างเร่าร้อน ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับบทรักที่เกิดขึ้น เธอแหงนใบหน้าขึ้นด้านบน ด้วยความเสียวซ่าน
เขาบรรจงบดเบียดเข้าหาเพื่อนำพาเมียรักไปสู่ความสุขที่แสนอบอุ่น
ลำนำพิศวาสของเขาและเธอได้เดินทางไปสู่ดินแดนแห่งความฝันอันแสนหวาน
เขาโอบกอดเธอและลูกน้อยด้วยความสุขใจ กระซิบบอกเธอว่าเขานั้นรักเธอสุดหัวใจ
“พี่รักสานะครับ”
“สาก็รักพี่ค่ะ”
“พี่รักลูกมากด้วย รักที่สุดครับคนดี”
“สาก็รักลูกค่ะ ลูกที่เกิดมาจากความรักของเราสองคน” ทั้งสองต่างบอกรักซึ่งกันและกัน
เวลาวารีไม่เคยรอใคร สิ่งที่เขากับเธอต้องทำ และต้องทำในทุกๆ วัน คือดูแลกันให้ดีที่สุด บอกรักกันให้บ่อยเท่าที่จะทำได้ เพราะหากต้องตายจากกันไปแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะทำแบบนั้นได้อีก
ดูแลเอาใจใส่กันให้มาก เพราะหากไม่มีโอกาสแล้ว เราจะมานั่งดูแลกันและกันอีกไม่ได้แล้ว
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการใส่ใจความรู้สึกของกันและกันให้มากที่สุด เพราะการทำให้อีกฝ่ายเสียใจ เมื่อเกิดความเสียใจไปแล้ว มันเรียกคืนกลับมาไม่ได้อีก
และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ความรักของเขาและเธอจะยังคงอยู่เสมอ ตราบชั่วนิรันดร์ ตราบใดที่เขาและเธอใส่ใจกันและกันเสมอเช่นนี้
…จบ...