“ถึงจะเป็นครั้งแรกของมึง แต่กูไม่รับผิดชอบหรอกนะ อย่าคิดจะมาเรียกร้อง มึงไม่มีสิทธิ์นั้น” หลังจากที่มะนาวมันทำฉันอย่างสาสมใจมัน นาวก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบเอาเสื้อแขนยาวมาโยนใส่ตัวฉันที่นอนท่อนบนเปลือยเปล่า
“...” ใช่ มันคือครั้งแรกของฉัน เพราะฉันคิดว่าตัวฉันเองไม่ใช่คนสวยมากมาย และไม่ได้น่ารักจนผู้ชายให้ความสนใจ
ฉันเป็นผู้หญิงหน้านิ่ง ไม่ค่อยพูดกับคนที่เพิ่งรู้จัก ไม่ชอบตีสนิทกับใคร การมีแฟนแต่ละทีจึงเป็นเรื่องยาก และด้วยความที่คิดว่าตัวเองไม่สวย ฉันจึงไม่คิดจะยอมเป็นของผู้ชายคนไหนง่าย ๆ
ฉันมีแฟนก็จริง แต่ไม่ได้จริงจัง ติดไปทางมีไปเรื่อย ๆ ซะมากกว่า
“แล้วถ้าอยากจะบอกเพื่อนหรือบอกไอ้ต่อก็บอกเลยนะ คนอื่นจะได้รู้ว่ามึงอดอยากถึงขั้นใช้ผู้ชายคนเดียวกับเพื่อนสนิทของมึง” นาวสวมกางเกงบ็อกเซอร์แล้วคว้าแก้วเหล้าขึ้นดื่ม จากนั้นแกะบุหรี่ซองใหม่ขึ้นมาจุดสูบอัดเข้าปอดและพ่นควันมาทางฉัน
“...” ฉันลุกขึ้นจากเตียงอย่างเชื่องช้า ปวดร้าวไปทั้งตัว ฉันปาดน้ำตาที่ไหลไม่หยุดหย่อน นาวมองมาที่ฉันแล้วบิดยิ้ม โคลงหัวไปมาก่อนจะเปิดประตูห้องนอนออกจากห้องไป
ฉันปาดน้ำตาอีกครั้งและพยุงตัวเองเข้าห้องน้ำ ล้างคราบคาวความสกปรกออกจากตัว
ฉันขยะแขยงร่างกายของตัวเองที่สุด แต่ร้องไห้ให้น้ำตาเปลี่ยนเป็นเลือดก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับได้
ฉันไม่น่ามาหามันเลย น่าจะปล่อยผ่านคำขอของเพื่อน
ฉันตั้งสติ เช็ดน้ำตาเดินออกมาจากห้องน้ำ
ตุบ!
กล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ถูกโยนมาที่หน้าอกฉัน ยาคุมฉุกเฉินไง ฉันรู้จักเพราะเคยเข้าร้านขายยาแล้วซื้อให้ขวัญบ่อยครั้ง
“เลิกทำตัวเป็นนางเอกเอ็มวีแล้วแดกซะ กูไม่อยากมีลูกกับมึง” นาวบอกและเดินไปนั่งที่เตียง หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม “แล้วอย่าคิดว่ากูเป็นผัวมึงนะ แค่เอากันเล่น ๆ สนุก ๆ” ฉันกำกล่องยาคุมแน่น ไม่โต้ตอบ และไม่คิดจะพูดกับคนคนนี้อีก
ฉันจัดสภาพตัวเองให้มันดูเรียบร้อยมากที่สุด แม้มันจะไม่เหลือความเรียบร้อยเลยก็ตาม ฉันเดินมาหยิบกระเป๋าที่ตกอยู่พื้น และหันหลังจะเดินออกจากห้อง
พรึบ
เสื้อคลุมถูกโยนมาใส่หัวฉัน
“อ้อ แล้วเดี๋ยวถ้าของขาดจะใช้บริการใหม่นะ มึงจะไม่ยอมก็ได้ แต่อาจจะเป็นนางเอกดังที่หน้าเว็บโป๊ เพราะหุ่นของมึงก็...” ฉันหันกลับไปมองหน้านาวด้วยสายตาที่มีแต่ความโกรธเคือง จากนั้นก็โยนเสื้อแขนยาวที่นาวมันโยนมาใส่หัวฉันกลับคืนให้มัน และฉันก็รีบเปิดประตูออกจากห้องของนาว
ตอนนี้เป็นเวลา สองทุ่มกว่า ๆ แถวบ้านของฉันเวลา 2 ทุ่มจะปิดบ้านนอนกันหมด จะมีก็พวกวัยรุ่นที่ขี่รถเล่นจับกลุ่มแว้นกันตามประสาวัยรุ่นเด็กน้อย 15 16 ปี
มอเตอร์ไซค์รับจ้างก็กลับบ้านกันหมดแล้ว ฉันคงต้องเดินเข้าบ้านนั่นแหละ ระยะทางก็ไกลอยู่นะ
แล้วถ้ากลับไปถึงบ้านก็ไม่รู้ว่าจะโดนพ่อแม่ถามไหม แล้วถ้าถามจะตอบว่าอะไรล่ะ
สภาพของฉันในตอนนี้ใคร ๆ ก็ดูออก
“เฮ้ย ไอ้หอม” มอเตอร์ไซค์ที่ขี่สวนไปวกรถกลับมาจอดดักหน้าฉัน
“พี่แคล” เธอคือพี่แคล เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่าของฉัน
“ใครทำมึงอะ ทำไมเป็นงี้” พี่แคลตั้งขาตั้งรถและลงมาจับตัวของฉันหมุนไปมาเชิงสำรวจร่างกาย
“หอมไม่อยากพูดถึงอะพี่” ฉันมองพี่แคลด้วยสายตาที่เจ็บปวดใจ นึกถึงแล้วฉันก็รังเกียจตัวเอง
“แล้วยังไงอะ มึงกลับบ้านไปสภาพนี้พ่อแม่มึงได้ซักถามตายห่า” ใช่ พ่อแม่ของฉันโหดมาก และค่อนข้างหัวโบราณ แต่ในความหัวโบราณก็พร้อมจะเข้าใจวัยรุ่นเช่นเดียวกัน แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่นะ แม้ว่าจะเข้าใจวัยรุ่น แต่สภาพของฉันในตอนนี้ไม่พ้นพ่อแม่ซักจนได้มาเอาเรื่องไอ้คนที่มันทำระยำกับฉัน
“ไปค้างกับพี่ได้มั้ยอะ หอมไม่รู้จะไปไหน ไม่อยากให้พ่อแม่รู้เรื่องด้วย เพราะไม่มีใครรับผิดชอบอยู่แล้ว”
“ได้ดิ แต่ไอ้ไฟมันอยู่บ้านนะ” ไฟ หรือ โคมไฟคือแฟนเก่าของฉันตอนเรียนโรงเรียนเดียวกัน เป็นฝาแฝดของพี่แคล
ความรักวัยเด็กจบลง เพราะพี่โคมไฟแอบไปเอากับเพื่อนต่างโรงเรียน เราสองคนจึงจบไม่สวย ฉันเคยถามเหตุผลว่าทำแบบนี้กับฉันได้ไง ไหนว่ารักกัน
และคำตอบที่ได้มาก็คือ ‘วัยรุ่นอะหอม หอมไม่ให้ แต่คนอื่นให้ พี่ก็เอาดิ’
ค่ะ มันคือเหตุผลของเขา ทุกคนล้วนมีเหตุผลให้การกระทำของตัวเองเสมอ และแน่นอนว่าเราจบกัน เพราะเพื่อนต่างโรงเรียนคนนั้นก็อ้างตัวว่าเป็นแฟนที่มากกว่าคำว่าแฟน แล้วฉันจะสู้อะไรได้
“คงดีกว่าพ่อแม่รู้อะพี่แคล” คงเป็นการพบเจอพี่โคมไฟอีกครั้ง หลังจากที่เราไม่ได้พบเจอกันเลยตั้งแต่ที่เลิกรากัน
ฉันคิดว่าในตอนนี้การเจอพี่โคมไฟย่อมดีกว่าการเจอพ่อแม่ของฉันแน่นอน
“งั้นขึ้นรถ เดี๋ยวพี่แวะไปส่งที่บ้านก่อน พอดีพี่มีนัดสำคัญ อาจจะกลับดึกหน่อย มึงอยู่ได้ใช่มั้ย นอนห้องพี่”
“ตอนนี้คงดีกว่ากลับบ้านของหอมแหละพี่” ฉันขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ของพี่แคล พี่แคลขี่ด้วยความเร็วที่คงที่
พี่แคลเป็นผู้หญิงก็จริง แต่จิตใจของเธอเป็นผู้ชาย ภาษาชาวบ้านก็เรียกว่าทอม ถ้าคนไม่สนิทมองผิวเผินก็จะแยกพี่แคลกับพี่โคมไฟไม่ค่อยออก เพราะทั้งคู่ความสูงห่างกันแค่ 5 ซม.
“อะนี่กุญแจห้อง มึงเข้าห้องพี่ไปแล้วก็อาบน้ำ เอาเสื้อผ้าของพี่มาใส่เลย นอนพัก เดี๋ยวพี่กลับมาพร้อมข้าวกล่อง แต่ถ้ามึงหิวมากก็มีมาม่าในตู้กับข้าวอะ เอามาต้มกินรองท้องไปก่อน พี่ต้องรีบไปเกินเวลานัดมาหลายนาทีแล้ว” พี่แคลจอดรถที่หน้าบ้านของเธอ ซึ่งฉันเคยมาเที่ยวเล่นบ่อยมาก เมื่อนานมาแล้ว
“จ้ะ ขอบคุณนะพี่”
“เออ ๆ ไปละ” เมื่อพี่แคลขี่รถออกไป ฉันจึงเปิดประตูรั้วเข้ามา
พี่แคลกับพี่โคมไฟอยู่กันสองคน เมื่อก่อนทั้งสองอาศัยอยู่กับยาย แต่เมื่อปีก่อนยายท่านเสียเพราะโรคประจำตัว จึงเหลือแค่สองคนพี่น้อง
ฉันปิดรั้วบ้านและเปิดประตูหน้าบ้าน เข้ามาในบ้าน ตรงไปยังห้องของพี่แคล ที่ไว้เนื้อเชื่อใจเพราะว่าเราอยู่โรงเรียนเดียวกันมา ใช้ชีวิตคลุกคลีกันมามาก มีอะไรช่วยเหลือกันตลอด
เข้ามาในห้องพี่แคลแล้วฉันก็โทรหาแม่ บอกแม่ว่าค้างหอเพื่อนเพราะมีโพรเจกต์ต้องทำ แม่บ่นนิดหน่อยตามประสาที่บอกช้าและแม่ก็บอกให้ดูแลตัวเองให้ดี
ฉันจึงบอกไปว่าไม่ต้องห่วง เพื่อนไว้ใจได้ ทั้งที่ความจริงเพื่อนนั่นแหละตัวร้าย
ต่อจากนั้นฉันก็ทำตามที่พี่แคลสั่งไว้ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดูสภาพเหมือนคนขึ้นมาบ้าง
แกร๊ก!!!
และระหว่างที่ฉันกำลังจะก้าวขาออกจากห้องน้ำ ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับเสียงประตูห้องของพี่แคลเปิดออก ไอ้ธุระสำคัญที่ว่าคงจะเสร็จเร็วแหละมั้ง
“ทำไมมาเร็วจังพี่แคล หอมเพิ่งจะอาบ...น้ำ พี่โคม” คนที่เปิดเข้ามาไม่ใช่เจ้าของห้องน่ะสิ แล้วยังดีที่ฉันใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว ที่จะแปลกหน่อยก็ไม่ได้ใส่เสื้อในกางเกงใน และที่หัวถูกคลุมด้วยผ้าขนหนู เพราะเพิ่งจะสระผม สระเพราะนึกขึ้นมาได้ว่านาวดมผมฉัน ฉันรังเกียจจึงล้างออก
“ทำไมมาอยู่ห้องแคล คบกับมันเหรอ?” คือคำถามแรกในรอบ 4 ปีที่เจอกันอีกครั้ง
“เปล่า”
“พี่จะเข้าเอาสายชาร์จน่ะ ไม่รู้ว่ามีคนอยู่”
“อื้ม หอมไม่รู้นะว่าอยู่ที่ไหน” มันดูเกร็งไปหมดยังไงก็ไม่รู้ ทั้งที่เป็นแค่แฟนตอนเด็กเอง
“พี่เจอแล้ว” พี่โคมไฟบอกพร้อมตรงมาทางฉัน ฉันก็ยืนห่อตัวนิ่ง ๆ น่ะสิ พี่โคมไฟเดินมาหยิบสายชาร์จที่แขวนไว้ตรงหน้าห้องน้ำ ห่างกับที่ฉันยืนแค่นิดเดียว “ไม่สบายอีกแล้วใช่มั้ย” เขาก้มลงมาถามฉันที่ตัวเล็กกว่า
“เปล่า”
“เปล่าได้ไง ปากกับแก้มของหอมมันแดงผิดปกติ และไอความร้อนจากร่างกายก็ชัดเจนขนาดนี้ พี่จำได้ว่าอาการแบบนี้ของหอมคือกำลังไม่สบาย”
“อย่ามาจับ” ฉันปัดมือที่แตะหน้าผากออก
เมื่อครั้งยังคบกัน เขาชอบสังเกตฉันทุกอย่าง เขาทำเหมือนรักฉันมาก แต่แล้วเราก็เลิกกันอยู่ดี
“ขอโทษ ลืมไปว่าเราเลิกกันแล้ว” ก็เจ็บดี เจ็บมากเลยล่ะ
การเจอแฟนเก่า ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ถ้ากลับมาเจอกันอีกครั้งความทรงจำเก่า ๆ มักจะหวนย้อนกลับมา
ไม่ว่าช่วงเวลาที่ดี หรือช่วงที่เลิกรากันไป ตราบใดที่ไม่ความจำเสื่อม สมองของเราก็จะจดจำอยู่แบบนี้เสมอ