เวลาผ่านไปอีกพักใหญ่ก็ได้ยินเสียงแหบแห้งของผู้ใหญ่ทั้งสองคนที่เดินเข้าประตูมา คุณยายสมรกอดแขนผู้เป็นสามีหน้าตายิ้มแย้มก่อนจะหุบยิ้มฉับตาแทบถล่นออกมานอกเบ้าเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
"ต๊าย! เก็บปืนเดี๋ยวนี้นะ!! ตาแอลทำไมให้คนเอาปืนไปจ่อน้องแบบนั้นห๊ะ! เดี๋ยวปืนลั่นโป้งป้างใส่น้องขึ้นมาจะทำยังไง!" เธอเอ็ดหลานชายเสียงดัง แอลเลียตถอนหายใจเพราะเขาคิดอยู่แล้วว่าถ้าคุณยายเห็นจะต้องมีอาการแบบนี้
"ไม่ลั่นหรอกครับยาย ยกเว้นจะมีคนกวนจนลูกน้องผมกดยิงเอง อันนั้นผมก็ไม่รับรอง...ว่าจะมีคนนอนไส้แตกตายแถวนี้รึเปล่า" เขามองคนตัวเล็กที่เบิกตากว้างมองเขาอย่างหวาดหวั่น เธอลุกขึ้นวิ่งชายผ้าถุงปลิวไปกอดแขนคุณตาพร้อมทำหน้าเหมือนคนใกล้ตายเต็มทีทั้งทีเขาแค่พูดขู่กลายๆ เท่านั้น แอลเลียตมองคนที่น้ำตาคลอด้วยสายตาเอือมระอา
เหล่าลูกน้องเมื่อเห็นผู้ใหญ่ทั้งสองก็รีบเก็บอาวุธร้ายทันที ถึงอย่างไรนายน้อยของพวกเขาก็เคารพคุณตาคุณยายของเขามาก บุคคลที่นายน้อยรักรองลงมาจากนายท่านกับนายหญิงก็เห็นจะเป็นชายหญิงสูงอายุสองคนนี้แหละ
และไม่แน่อาจจะมีเพิ่มมาอีกคนเร็วๆ นี้....
คำสร้อยแบะปากเริ่มบีบน้ำตาเพราะเธอกลัวไอ้คนบ้าอำนาจนี่แทบฉี่ราด ดีนะที่เธอยังกลั้นมันไว้ได้ คนทั้งคนเอาปืนจ่อมาเป็นสิบยังนั่งยิ้มอยู่ได้ก็ไม่เรียกว่าคนปกติแล้ว!
"คุณตาขา คุณยายขา พี่แอลเลียตเขาโมโหน่ากลัวมากเลยค่ะ พี่เขาขู่จะยิงคำสร้อยทิ้งตั้งหลายรอบ อึก...ถ้าคุณตาคุณยายามาช้ากว่านี้คำสร้อยคงเหลือแต่ร่างไรวิญญาณไปแล้ว ฮือ...พี่เขาน่ากลัวเหลือเกินค่ะ อึก...."
"โอ๋...ขวัญมานะนะลูกนะ ไม่ร้องนะลูกเดี๋ยวไม่น่ารักนะ" ทศพลลูบหัวปลอบหลานสาวที่น้ำตาคลอกลั้นสะอื้นจนปลายจมูกแดงก่ำจนน่าสงสาร
"น่ารักตายล่ะ ยัยเด็กขี้ฟ้อง..."
"พี่เขาว่าคำสร้อยอีกแล้ว คำสร้อยกลัว อึก..." คำสร้อยซบหน้าลงกับแขนผู้ใหญ่สูงวัยเสียงสั่นเครือ แถมยังสะอื้นผสมนิดๆ แต่ถ้าทั้งคู่จะสังเกตสักนิดคงจะได้เห็นว่าเธอแอบแลบลิ้นใส่อีกคนอย่างร้ายกาจ แอลเลียตชี้นิ้วอย่างคาดโทษกับการแสดงละครของคนตรงหน้า
ยัยเด็กนี่มันร้าย....
"เอาล่ะๆ พอกันทั้งสองคน มานี่มาคำสร้อย มานั่งคุยกันก่อนลูก" หญิงสาวยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งปอยๆแล้วเดินตามผู้ใหญ่ทั้งสองไปนั่ง เธอเลือกที่จะนั่งฝั่งตรงข้ามกับเขาเพราะกลัวจะหนีไม่ทันถ้าเกิดเธอไปกระตุกต่อมโมโหของเขาเข้าอีก
"ตาจะเริ่มแล้วนะ...." เป็นทศพลที่เอ่ยขึ้นพลางกวาดสายตามองไปที่ชายชุดดำหลายสิบคนที่ยืนจังก้าโอบล้อมพวกเขาเอาไว้ ก่อนจะเหลือบตามองหลายชาย แอลเลียตยกมือส่งสัญญาญให้คนเหล่านั่นออกไป ซึ่งลูกน้องเขาก็ก้มหัวเดินออกไปเงียบๆ
ตอนนี้ก็เหลือแต่เขาภรรยาและหลานทั้งสองคนเพียงเท่านั้น
"คำสร้อยนี่แอลเลียตหลานตากับยาย แอลเลียตเป็นลูกชายของลูกสาวคนโตของตากับยายนะ ส่วนตาแอลนี่คำสร้อย ตากับยายรับน้องมาเป็นหลานบุญธรรมและก็มีศักดิ์เป็นน้องแกด้วย" ทศพลแนะนำทั้งสองให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ แอลเลียตไม่ตอบรับใดๆ ทั้งสิ้น เขาทำเพียงปรายสายตามองหญิงสาวตรงหน้าเท่านั้น ก่อนจะเบือนหน้าหนีเหมือนไม่อยากจะทำความรู้จักหลานสาวของผู้เป็นตากับยายนัก ส่วนหญิงสาวเองก็ไม่ต่างกับเขานัก ต่างคนต่างหันไปคนละทางจนผู้ใหญ่ทั้งสองคนส่ายหน้า
"ไหว้ทำความรู้จักพี่เขาสิคำสร้อย ถึงยังไงพี่เขาก็อายุเยอะกว่าหนูนะ" คุณยายสมรกล่าวเตือน เพราะดูก็รู้ว่าเด็กสองคนนี้ไม่ถูกซะตากันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ แต่ถึงยังไงทั้งสองก็ต้องรู้จักกันไว้ เผื่อภายภาคหน้าจะได้ช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน
"สวัสดีค่ะ...พี่แอลเลียต.." เธอยกมือไหว้เขา พร้อมฉีกยิ้มจนแป้งเหลืองๆ ที่แปะไว้แตกหลุดหลุ่ยร่วงเป็นแผ่นๆ
ในใจเธอไม่อยากจะญาติดีกับเขาหรอก แต่ถึงยังไงก็ต้องเคารพเขา เพราะเขาเขาอายุมากกว่าและเป็นหลานสายเลือดเดียวกันกับผู้มีพระคุณของเธอด้วย
"กอง..."
"ตาแอล...น้องไหว้..." คุณยายสมรเอ่ยเตือนเมื่อรู้ว่าหลานชายจะพูดอะไร
"อืม สวัสดี!" แอลเลียตถอนหายใจ แล้วพยักหน้ารับอย่างขอไปที
อืมสวัสดี ชิ! ทำมาเป็นปั้นหน้านิ่ง หล่อตายล่ะ!
คำสร้อยลอบแบะปากใส่คนที่พูดสวัสดีตอบเธอเสียงแข็ง คิดว่สเธออยากรู้จักนักรึไงถ้าไม่ใช่เพราะคุณตาคุณยายนะคนอย่างเขาจ้างเป็นล้านเธอก็ไม่เฉียดเข้าใกล้หรอก
อาการลอบแบะปากของคนตัวเล็กไม่อาจรอดพ้นสายตาคมได้ ก่อนที่ใครจะคาดคิดร่างสูงใหญ่ของเขาก็ผุดลุกขึ้นเดินเพียงสองก้าวก็เข้าประชิดตัวยัยตัวแสบ มือหนายื่นดึงแขนเรียวเล็กให้เธอลุกขึ้นยืนประชันหน้าแล้วยกยิ้ม
"...!?.."
หญิงสาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจและก่อนที่จะทันได้สะบัดตัวออกคนตัวสูงก็ก้มกดจูบลงบนหน้าผากเธอหนักๆและกระซิบข้างหูเสียงเข้มชวนขนลุก
ฟอดดดด...
"แล้วเจอกันนะ คำสร้อย..."
"..........."
ทุกอย่างเหมือนถูกหยุดเวลาเอาไว้ ทุกคนได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดี ทศพลและสมรหันมองหน้ากันสายตาแปลกๆ ก่อนที่พวกเขาจะได้ยินเสียงล้มดังตึงตามมา เมื่อหลานสาวตัวเล็กของพวกเขาหงายหลังเป็นลมล้มลงไปซะแล้ว
ตึก!!!
"คำสร้อย!!"