บทนำ

1766 Words
เรื่องที่เขาเจออยู่มันเป็นเรื่องบ้า! บ้ามาก บ้าที่สุดที่เขาเคยเจอมาเลย บ้าจนอยากจะต่อว่าคนต้นเรื่องที่ไปเสนอหน้าบอกให้เลขาฯ ส่วนตัวของเขาที่หายหัวหายหน้าไปเป็นปีกลับมาทำงาน อะไรไม่ว่า ‘เธอ’ ยังหอบเอาลูกมาทำงานด้วยอีกต่างหาก เขาจะด่าใครนอกเหนือจากพ่อตัวเองได้บ้าง ให้ตายเถอะ! ‘สมุทร’ กรรมการบริหารบริษัทโลจิสติกส์แห่งหนึ่งของประเทศไทยวัยสามสิบห้าหัวเสียเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้จากปากของพนักงานฝ่ายบุคคลว่า ‘แสนรัก’ อดีตเลขาฯ ส่วนตัวของเขากลับมาทำงานแล้ว เพราะตั้งแต่ที่เธอลาออกไปโดยที่เขาไม่รู้เรื่อง เขาก็ไม่สามารถหาเลขาฯ ที่ถูกใจมาทำงานด้วยได้เลย มีคนใหม่เข้ามาก็เป็นอันต้องขอลาออกก่อนครบกำหนดการทดลองงานอยู่ร่ำไป นั่นเพราะทนความเจ้ากี้เจ้าการและเนี้ยบไปทุกกระเบียดนิ้ว รวมถึงความขี้หงุดหงิดของสมุทรไม่ไหว และการที่เขาเป็นอย่างนี้ก็ทำให้ส่งกระทบกับหน้าที่การงานของเขาโดยตรง จนบิดาต้องยื่นมือเข้ามายุ่ง ซึ่งการที่แสนรักกลับมามันทำให้สมุทรปฏิเสธไม่ให้เธอมาทำงานไม่ได้เพราะมันเป็นคำสั่งของบิดาเขาซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท เขาอยากได้เลขาฯ ส่วนตัวมาคอยช่วยงานก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะอยากให้ ‘คนที่มีอดีตด้วย’ กลับมาเสียหน่อย! ใช่ เขากับแสนรัก ‘เคยเป็น’ อะไรที่มากกว่าเจ้านายและเลขาฯ ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน ชนิดที่เรียกได้ว่าสมุทรหลงใหลเธอหัวปักหัวปำเลยล่ะ กระนั้นก็ไม่เคยได้ปริปากบอกหญิงสาวก่อน เพราะจู่ๆ เธอก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งความเศร้าไว้ให้เขาได้เลียแผลใจเพียงลำพัง เขาทำอะไรผิด แสนรักถึงมาหนีหายไปอย่างไม่มีเหตุผล!? หายไปไม่ว่า ยังจะกลับมาในวันที่แผลของเขาเกือบจะปิดสนิทแล้วอีก ตอนนี้มันปริแตกและมีเลือดไหลซึมออกมาแล้ว คิดจะสร้างแผลใจให้เขาอีกนานสักเท่าไรกัน!? กระนั้นก็ว่าอะไรแสนรักไม่ได้เพราะตัวการของเรื่องนี้คือบิดาของเขาซึ่งเป็นประธานบริษัท สมุทรไม่รู้ว่าบิดาคิดจะเล่นสนุกอะไร ที่รู้ๆ คือเขาไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่แสนรักมีเด็กน้อยวัยขวบนิดๆ ตามติดมาด้วย พร้อมกับแนะนำตัวกับเขาว่า ‘นี่แสนหวาน ลูกสาวของรักเองค่ะ’ ถึงเด็กน้อยคนนั้นจะน่าตาน่ารักจิ้มลิ้มแค่ไหน ก็ไม่ได้ทำให้สมุทรอารมณ์ดีขึ้นได้เลย บริษัทเขามีนโยบายอนุญาตให้พนักงานหอบลูกเล็กเด็กแดงมาเลี้ยงที่ทำงานได้ตั้งแต่เมื่อไร!? จะเมื่อไรล่ะ ก็ตั้งแต่ที่บิดาของเขาออกปากนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นแสนรักคงไม่กลับมาหรอก สมุทรจึงไม่กล้าปริปากว่าอะไร นอกเสียจากชักสีหน้าสีตาไม่พอใจใส่หญิงสาวก็เท่านั้น เขาขุ่นเคืองเธอ ตั้งใจจะไม่พูดด้วยเมื่อนึกถึงวันเก่าๆ ที่เคยมีร่วมกัน แต่ไอ้เรื่องวันเก่าๆ นั้นก็เป็นสมุทรเองที่เป็นคนเริ่ม เขายอมรับก็ได้ว่าเขาต้องตาต้องใจแม่เลขาฯ สาวสวยคนนี้เป็นอย่างมาก ถึงเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงประเภทขาวสวยหมวยเอ็กซ์ แต่ดวงหน้าสะสวยคมคายตามฉบับสาวไทย ผิวสีน้ำผึ้ง และทรวดทรงองค์เอวโค้งมนก็สะดุดตาเขาเสียเหลือเกิน สะดุดตามากขึ้นไปอีกเมื่อรับรู้ว่าหญิงสาวเป็นคนทำงานเก่งมาก รู้ใจเขาไปหมดทุกเรื่อง อีกทั้งยังจัดการเรื่องต่างๆ ได้ดี จนชีวิตการทำงานของสมุทรง่ายขึ้นไม่น้อย รวมถึงนิสัยเรียบง่ายที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ นับว่าเขาชื่นชมเธอทั้งรูปร่างหน้าตาและความสามารถเลยล่ะ และมันก็ทำให้ชายหนุ่มได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ลึกซึ้งขึ้นในวันนั้น วันนั้นสมุทรและแสนรักต้องไปร่วมงานเลี้ยงของบริษัทคู่ค้าและต้องกลับดึก เขาดื่มเข้าไปค่อนข้างมาก แต่ไม่ถึงกับเมาหรอก ทว่าก็แสร้งเมาเพื่อให้แสนรักได้ขับรถเขามาส่งที่บ้าน เมื่อถึงตอนที่แสนรักจะกลับ สมุทรก็รั้งเธอเอาไว้ ‘ผมเมา เดินไม่ไหว รักช่วยพยุงผมไปส่งข้างในบ้านได้ไหม’ บ้านหลังนี้เป็นบ้านเดี่ยวในหมู่บ้านจัดสรรที่สมุทรซื้อเอาไว้พักอาศัยตามลำพัง ไม่มีแม่บ้านหรือใครอยู่ข้างใน เรื่องนี้แสนรักรู้ดี เธอจึงตอบรับตามหน้าที่ ‘ได้ค่ะ คุณสมุทรเอาแขนพาดไหล่รักนะคะ เดี๋ยวรักช่วยพยุง’ แล้วเธอก็ตกหลุมพรางที่เขาขุดไว้เมื่อมาส่งเขาถึงโซฟาในห้องนั่งเล่น ‘ผมยังไม่อยากให้รักกลับ’ ‘คะ?’ ‘คืนนี้รักอยู่กับผมได้ไหม’ แสนรักไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเมาหรือเปล่า สมุทรถึงได้พูดกับเธอแบบนี้ เพราะโดยปกติแล้ว เขาไม่เคยเชิญชวนหรือพูดจาในเชิงชู้สาวเลย แสนรักจึงดึงมือออกจากการเกาะกุมเบาๆ ‘คุณสมุทรเมามากแล้ว นอนเถอะนะคะ เดี๋ยวรักจะได้กลับ’ กระนั้นสมุทรก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากเธอ จับไว้มั่นกว่าเดิมเสียอีก มิหนำซ้ำยังย้ำคำ ‘ผมรู้ตัวว่าผมไม่ได้เมา ผมอยากให้รักอยู่กับผมที่นี่...คืนนี้’ ‘คุณสมุทร...’ ‘ผมพูดจริงๆ’ ในตอนนี้สายตาของเขาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าต้องการคนตรงหน้ามากแค่ไหน แสนรักก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้เธอตอบตกลงที่จะอยู่กับเขา ขณะที่สมุทรรู้ดีว่าเพราะเหตุผลอะไร เพราะเขาตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้เข้าเต็มเปาอย่างไรล่ะ ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันอีกหลายต่อหลายครั้ง ที่บ้านของเขาบ้าง ที่คอนโดฯ ของแสนรักบ้าง โดยที่ทั้งคู่ไม่เคยปริปากหรือให้คำนิยามความสัมพันธ์นี้เลยว่ามันคือออะไรแม้ว่าสมุทรจะทั้งรักทั้งหลงใหลหญิงสาวคนนี้มากมายก็ตาม ร้ายกว่านั้น สมุทรเองก็ไม่มีโอกาสได้บอกออกไปด้วย เพราะถือทิฐิว่าตนเป็นเจ้านาย เกรงว่าจะเสียหน้าถ้าหากว่ามีใจให้กับพนักงานในบริษัทของตัวเอง จึงได้แต่ว่าจ้างสาวสวยคนอื่นๆ มาควงเพื่อล่อลวงให้แสนรักหึงหวงและเป็นฝ่ายสารภาพความรู้สึกกับเขาก่อนแทน เป็นแผนการที่โง่เง่าและตื้นเขินเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากแสนรักเองก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรแล้ว ยังทำเสมือนว่าการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเจ้านายตัวเองนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่โวยวายเมื่อเห็นว่าเขาควงหญิงอื่นด้วยซ้ำ พอเธอแสดงอาการอย่างนี้ สมุทรก็ยิ่งปอดแหกมากขึ้นไปใหญ่ กระทั่งแสนรักหายตัวไปนั่นแหละ เขาถึงได้ตระหนักว่า...ดีแล้วที่ไม่บอก ไม่อย่างนั้นเสียหน้าตายเลย! เสียหน้าไม่เท่าไร สมุทรไม่เป็นอันกินอันนอนอยู่หลายเดือน ไปตามหาแสนรักก็ไม่พบว่าอยู่ที่เดิมแล้ว ย้ายไปที่ไหนก็ไม่มีใครรู้ เธอไม่ทิ้งข้อมูลไว้ให้ใครเลย กลับมาอีกครั้งตอนที่เขาเกือบจะทำใจได้แล้ว เป็นอย่างนี้จะไม่ให้ขุ่นเคืองได้อย่างไร! แต่อะไรก็ไม่ชวนให้ขุ่นเคืองเท่ากับการที่แม่เลขาฯ ตัวดีของเขาบังอาจมาขอร้อง...ไม่สิ ออกคำสั่งต่างหาก ‘รักฝากหวานไว้ครู่หนึ่งได้ไหมคะคุณสมุทร รักต้องออกไปพบลูกค้าน่ะค่ะ ไปไม่นาน เดี๋ยวก็กลับ’ หญิงสาวว่าอย่างไร้ทางเลือก นอกจากเจ้านายที่ขึ้นสายตรงกับเธอแล้ว เธอก็ไม่รู้จะพึ่งพาใครได้อีก สมุทรก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นบ้าอะไรถึงได้พยักหน้าตอบรับคำเธอเสียอย่างนั้น จนท้ายที่สุด เขาก็ต้องมานั่งจ้องหน้าจิ้มลิ้มของหนูน้อยจ้ำม่ำคนหนึ่งอย่างที่เห็น เด็กคนนี้มีชื่อว่าแสนหวาน... ชื่อน่ารักน่าชังเหมือนคนเป็นแม่ แต่ทว่าหน้าตาของ แสนหวานนั้นกลับ...ไม่เหมือนมารดาแม้เพียงเสี้ยว! สมุทรอาจจะคิดว่าเด็กน้อยคนนี้อาจจะหน้าตาเหมือนพ่อซึ่งเป็นชายอื่นก็ได้ถ้าหากว่าเขาไม่เผลอไปคิดว่าแสนหวานหน้าตาเหมือนตัวเองอย่างกับแกะเสียก่อน ไม่ว่าจะสีผิวที่ขาวนวลเหมือนมีเชื้อจีนแบบเขา คิ้วที่เรียงตัวสวย ดวงตากลมโตแต่หรี่เล็กลงยามยิ้ม จมูกโด่งรั้นและริมฝีปากบาง พร้อมกับลักยิ้มเต็มสองข้างเมื่อหัวเราะ มันถอดแบบเขาออกมาทุกกระเบียดนิ้วเลยนี่นา!? สมุทรถึงกับต้องโทรไปขอให้มารดาของตนส่งรูปถ่ายตัวเองสมัยยังเป็นเด็กมาดูเปรียบเทียบ แล้วเขาก็พบว่า...แสนหวานหน้าตาเหมือนเขาตอนเด็กๆ จริงๆ เหมือนเสียจนเขาเที่ยวถ่ายรูปแสนหวานส่งไปถามใครต่อใครในครอบครัวว่าเหมือนเขาหรือเปล่า แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบหรอก ดูเหมือนครอบครัวของเขาจะไม่สนใจเรื่องนี้ มีแต่สมุทรเท่านั้นที่สนใจ เหมือนเขาขนาดนี้ หรือว่าแสนหวานจะ... คิดแล้วก็ลูบปลายคางตัวเองไปมา ดวงตาจับจ้องไปยัง เด็กน้อยเบื้องหน้าที่นั่งเล่นอยู่บนโซฟาตัวเดียวกับเขา ความรู้สึกผูกพันก่อตัวขึ้นในใจเขาอย่างประหลาด ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้ แต่เขาก็ไม่คิดที่จะหาคำตอบ นอกเสียจากออกปาก “หนูหวานเป็นลูกของพ่อขาหรือเปล่าคะ...” แสนหวานมองหน้าหล่อเหลาสะอาดสะอ้านแล้วก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากเป็นการใหญ่ ไม่รู้หรอกว่านั่นเป็นคำตอบว่า ‘ใช่’ หรือเปล่า แต่สมุทรก็ใจชื้นขึ้นมาพร้อมกับอุ้มเด็กน้อยมานั่งตัก ก่อนจะหมายมั่นปั้นมือเป็นการใหญ่ ถ้าแสนหวานตอบว่าใช่จริงๆ งั้นเขาก็ต้องเป็นพ่อของ เด็กน้อยแน่ๆ ใครจะว่าเขาหน้าด้านหน้าทนก็เถอะ แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่าเด็กคนนี้เป็นลูกเขา เป็นลูกของผู้ชายอย่างเขาแน่นอน!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD